กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
24 กรกฏาคม 2550

เพื่อความอยู่รอด




นั่งคุยกับตัวเอง : เพื่อความอยู่รอด
เขียนโดย : สิงโตหมอบ
24 กรกฏาคม 2550



เราจะอยู่รอดอย่างไรในยุคปัจจุบัน ?

ความสุขสำหรับใครบางคน อาจเป็นการเติมกิเลศของตนให้เต็ม
ยิ่งเสาะแสวงหาได้มากเท่าไหร่ ยิ่งมีความสุข
ยิ่งครอบครองได้มากกว่าคนอื่นยิ่งเปี่ยมสุข

แต่ใครบางคนเลือกปลดและปล่อยวางความอยากของตนเองไปทีละนิดทีละน้อย

อะไรคือความสมดุลของสิ่งที่เราต้องการกันแน่ ?


...............................


โลกยุคใหม่คือการแข่งขันกันด้วยความเร็ว
โลกที่เคลื่อนตัวและหมุนเหวี่ยงด้วยแรงขับเคลื่อนมหาศาล
เพียงแค่กระพริบตา
เราอาจโดนทิ้งไม่เห็นฝุ่น

บางทฤษฎีขีดเส้นใต้ด้วยหมึกเส้นโตๆว่า

“ผู้ชนะ คือ ผู้กำหนดเกม”

ผู้แพ้คือผู้ตาม ผู้ตกอยู่ภายใต้การครอบงำอย่างสิ้นเชิง


...................................


ข้อมูลที่ทะลักทะเล็ดถั่งท้น
ก้อนข้อมูลมหึมาที่ไหลบ่าท่วมทับสมองอันเล็กกระจิดริดร่อยของเรา
สมองน้อยๆจะทานทนและแยกแยะผิดถูกดีชั่วได้ไหวหรือไม่
เราต้องแสวงหาข้อมูลอีกมากมายเท่าใด
เราต้องเรียนรู้อะไรจากข้อมูลมากมายเหล่านั้น
แล้วเราจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร

นี่ยังไม่ทันเข้าสู่การแข่งขัน
เราอาจพ่ายแพ้ตั้งแต่วิธีคิด


...............................


เรายอมรับหรือเปล่า
กับการเป็นผู้ตามที่ดี
เรายอมรับความจริงบ้างไหมว่าเราเป็นสังคมแบบ ME TOO
เธอทำอะไร ฉันทำด้วย … ใครทำอะไร นิยมอะไร
ฉันเห็น ฉันเฮด้วย อย่าถามว่าเพราะอะไร ฉันไม่รู้
ฉันแค่เห็นเธอทำ ฉันแค่เห็นเธอคิด ฉันก็เดินตาม

แต่เรากำลังต้องการสังคมแบบ HOW TO
สังคมที่คิดว่า จะต้องทำอย่างไรให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ?
คิด ... ค้น ... แล้วต้องแสวงหาคำตอบให้ได้ว่า
สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
และจะนำไปสู่สิ่งใด ?
พัฒนาต่อยอดขึ้นไปได้ไหม ?
ถ้าไม่ใช่วิธีนี้ ต้องใช้วิธีไหน ?
ต้องทำอย่างไร ?

................................


เราจะอยู่รอดอย่างไรในยุคที่โลกหมุนเหวี่ยงตัวเองอย่างรวดเร็ว
เดินให้ช้าลง แต่ไม่ปฏิเสธการดำรงอยู่กับสังคมโลก
เดินให้ทันโลก เพื่ออยู่อย่างเท่าเทียมกับสังคมโลก
หรือเดินแซงความเร็วของโลก เพื่อไปรออยู่ ณ จุดนั้น
จุดที่เรียกว่า ความก้าวหน้าและการพัฒนา

ที่ผ่านมาธรรมชาติเป็นผู้กำหนดความเปลี่ยนแปลง
สัตว์ต้องวิวัฒนาการตัวเองเพื่ออยู่รอดให้ได้กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

ผมไม่รู้อีกร้อยปีข้างหน้า....
มนุษย์เราจำเป็นต้องมีสมองที่เล็กลงหรือเปล่า
จะได้คิดน้อยๆ ทำลายโลกน้อยลง
เพราะยิ่งมนุษย์ฉลาดมากเท่าไหร่ โลกก็ถูกทำลายมากเท่านั้น

มีเท้าใหญ่ น้ำหนักมากๆ จะได้เดินช้าลง

มีมือเล็กที่เล็กลง จะได้กอบโกยน้อยลง

มีปากที่เล็กลง จะได้ตำหนิด่าทอกันน้อยลง

มีหูที่ใหญ่โตจะได้ฟังกันมากขึ้น


นอกจากนักวิทยาศาสตร์ที่คอยแต่คิดว่าทำยังไงอายุจะยืนขึ้น
ผมหวังว่าจะมีนักวิทยาศาสตร์สักคนที่คิดค้นวิธีการ
ที่จะทำให้มนุษย์เบียดเบียนและเห็นแก่ตัวกันน้อยลง
เท่านี้โลกก็คงน่าอยู่ขึ้นอีกเป็นกอง







Create Date : 24 กรกฎาคม 2550
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 7:18:48 น. 9 comments
Counter : 1578 Pageviews.  

 
ตอนนี้โตจ่อยค่ะ มีสังคมโตจ่อย......บ่ค่ะ


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:24:35 น.  

 
วันก่อนอ่านที่ไหนหนอ จำไม่ได้ ว่ามีหนังสือมากมายบอกวิธีทำโน่นทำนี่ แต่หาเล่มที่สอนให้เข้าใจตัวเองและเรียนรู้อยู่กับตัวเอง ได้ไม่มากเลย บางทีถ้าคนเรามองข้างในตัวเองมากขึ้น ปรากฏการณ์ me too อาจน้อยลงก็ได้ค่ะ อาจลืมไปว่าคนเราไม่มีใคร me too ได้เหมือนใคร




โดย: อั๊งอังอา วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:04:26 น.  

 
เป็นคำถามที่มักชอบถามสาวโสด ใช่..
ถ้าไม่โสด ก็ถามว่าเมื่อไรมีลูก เมื่อไรจะเลิก (อ้าว.. ก็บางคนจะทำตลก แต่น่า.... มากกว่า เคยเจอค่ะ อยาก....คนนั้นแทนคนถูกถาม)


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:06:02 น.  

 
สมอง ไม่ได้ใหญ่ขึ้น หรือเล็กลง
แต่หัวใจแห่งความรัก ความเป็นผู้ให้ มีน้อยลง

สังคม ก้าวไปข้างหน้า เพราะความกลัวกัดกินในจิตใจ
ความกลัวที่จะถูกทำลาย จึงต้องทำร้ายสิ่งรอบตัว
เมื่อการปาลูกบอล ไปถูกกำแพง มีการกระดอนกลับ
หากแต่เร็วหรือช้า แรงหรือเบา นั้นคือผลที่ตามมา

สังคมก้าวหน้า หัวใจถอยหลัง คือสิ่งที่เป็นในปัจจุบัน

สังคมค่อย ค่อยก้าว หัวใจก้าวตาม คือสิ่งที่เป็นในอดีต

ทำอย่างไร หัวใจจะก้าว ให้ยาว กว่า ก้าวของสังคม
สงบจะได้เกิด


โดย: sysee วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:16:42 น.  

 
ลืมบอกไปว่า ทำไมพักนี้เวปคุณก๋าเข้าได้ช้ามากเลย
เป็นที่เครื่องเปิ้ลเองหรือเปล่านี่

อ่า คราวนี้หายง่วงขึ้นมาอีกนี๊ดส์นึงค่ะ

ปลใฝกถามทั่น ผบทบด้วยนะคะว่าเล่นโยคะแล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

พันระยาเล่นโยคะ...
แล้วคุณก๋าไม่เล่น...โย ครับ..บ้างหรือ



โดย: Piterek วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:38:06 น.  

 
เคยอ่านนานมากแล้ว ต้องกลับไปค้นหาหนังสือซะก่อน หนังสือดีมากนะคะ จำได้ หน้าปกสีเทาๆ มีรูปกุญแจ


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:13:43 น.  

 
บล็อกนี้เขียนได้โดนใจ อย่างแรง!!!
เป็นคำถามที่น่าคิดค่ะ

จะมีนักวิทยาศาสตร์สักคนที่คิดค้นวิธีการ
ที่จะทำให้มนุษย์เบียดเบียนและเห็นแก่ตัวกันน้อยลง

นักวิทยาศาสตร์คงคิดเรื่องดีๆแบบนี้ได้หละค่ะ
เพราะมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้านักวิทยาศาสตร์จะรู้จักชีวิตมากกว่านี้
วิธีการที่ทำให้มนุษย์เบียดเบียนกันน้อยลง เห็นแก่ตัวน้อยลง
มันไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรที่สลับซับซ้อยเลย
และไมต้องคิดค้นกันให้ยากเย็นด้วย
ไม่ต้องหาสมการอะไร ไม่ต้องใช้สูตรทางเคมี ไม่ต้องแยกอะตอม แยกสะสาร
เครื่องมือง่ายๆและพื้นๆมากมีอยู่ในจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคน
ไม่เว้นแม้แต่ในตัวนักวิทยาศาสตร์เอง สิ่งนั้นก็คือ"คุณธรรม"
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ปรารถนาดีต่อกันและไม่โลภมากจนต้องเบียดเบียนใคร
มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอามันออกมาใช้หรือเปล่า
มีเครื่องมือแค่นี้ ก็คงพอมั้งคะที่จะทำให้คนเลิกเบียดเบียนกันได้


โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:34:51 น.  

 
อ่านแล้วชอบจังค่ะคุณก๋า
ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามา แต่เข้ามาทีไรสุขใจกับบทความทุกที
แต่ว่าถ้าคนเรา....

มีเท้าใหญ่ น้ำหนักมากๆ จะได้เดินช้าลง
มีมือเล็กที่เล็กลง จะได้กอบโกยน้อยลง
มีปากที่เล็กลง จะได้ตำหนิด่าทอกันน้อยลง
มีหูที่ใหญ่โตจะได้ฟังกันมากขึ้น

.... มันจะดูแปลกๆไหมค่ะ เหมือนว่าไม่ใช่มนุษย์อ่าค่ะ
เอ... แล้วเหมือนไรนะเนี่ย

มีความสุขมากๆจ้า...


โดย: fonrin วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:21:54 น.  

 
ผมหวังว่าจะมีนักวิทยาศาสตร์สักคนที่คิดค้นวิธีการ
ที่จะทำให้มนุษย์เบียดเบียนและเห็นแก่ตัวกันน้อยลง
เท่านี้โลกก็คงน่าอยู่ขึ้นอีกเป็นกอง

emo

Hen Duay 1000% kha!!!


โดย: CSULB@FineArt วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:58:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]