:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 229 ::
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 229 ::โจทย์ --- สนามรบผู้คิดโจทย์ --- toor36
:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ::เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า
บ้านเมืองยามสงบ อาจเกิดกลียุค บ้านเมืองในยามกลียุค ย่อมถึงความสงบในที่สุด เมื่อใดสถานการณ์วุ่นวายสับสน จะก่อเกิดวีรบุรุษ ตำนานผู้กล้าล้วนได้มาด้วยการแย่งชิงความเป็นใหญ่ แต่ใครเล่าจะรู้ถึงปณิธานแห่งดินฟ้า ว่าใครจะยืนหยัดเป็นคนสุดท้าย เพื่อปักธงแห่งชัยชนะไว้บนยอดเขาแห่งความยิ่งใหญ่ .................................................
“เจ้าจากที่นี่ไปนานนัก เหตุใดใยหวนคืนกลับมาอีกเล่าไป่จิงเหวิน”
ไคหมิงต้าซือนักบวชคิ้วเคราขาวโพลนกล่าวขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบแห่งอารามหมื่นลี้ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาคุนลุ้น หิมะกรูกราวลงมามิขาดสาย นักรบแกว่นกล้าที่นั่งอยู่เบื้องหน้าขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสันนูน
“ท่านอาจารย์ย่อมรู้ดีว่าข้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลใด ?”
“เพราะเหตุที่เจ้าพ่ายแพ้ในสมรภูมิผาดับพยัคฆ์นั่นน่ะรึ จึงทำให้เจ้าต้องดั้นด้นกลับมาที่นี่”
“ใช่แล้วขอรับท่านอาจารย์ ข้าไม่อาจไม่ละอายใจได้ในความพ่ายแพ้ครั้งนี้”
อาจารย์เฒ่านั่งเงียบไปชั่วครู่ ยกมือขึ้นจิบชาร้อน ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งไปจนลับตา
“ข้าเคยสอนเจ้าไว้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว หากคิดทำสงคราม จงกระทำต่อเมื่อรู้วิธีกุมชัยชนะแล้วเท่านั้น แต่เจ้าหาได้เชื่อฟังข้าไม่ !”
ไป่จิงเหวินก้มหน้าลงต่ำ มองพื้นกระดานด้วยความละอายใจ
“การศึกสงครามทั้งปวงล้วนตั้งอยู่บนฐานของการหลอกลวง ข้าหาได้รู้ทันไม่”
อาจารย์เฒ่าถอนใจเบา ๆ
“สงคราม หมายถึง ความเป็นความตายของประเทศ เป็นต้นตอแห่งการสร้างทุกข์ให้กับคนในประเทศนั้น นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะชัยชนะหาได้เป็นสิ่งสำคัญไม่ หากมันต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน”
“ในฐานะแม่ทัพใหญ่ ข้ามิอาจเลี่ยงชะตากรรมแห่งการเข่นฆ่าได้”
“เจ้าเลือกได้ ไป่จิงเหวิน แต่เจ้าไม่เลือกทางนั้น”
“ท่านอาจารย์จะให้ข้าทำเช่นไร หากข้าไม่จับดาบเพื่อฆ่าคน ชะตากรรมของบ้านเมืองจะเป็นเยี่ยงไร”
“รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ยังมิอาจนับว่าเป็นยอดขุนศึก สยบข้าศึกได้โดยไม่ต้องรบ นี่ต่างหาก คือ ยอดขุนพล และดีที่สุด คือ ชัยชนะที่ได้มาโดยไม่ต้องก่อสงคราม”
“ศัตรูถือมีดมาจ่อคอหอย ท่านอาจารย์จะให้ข้ายืนรอรับความตายอย่างนั้นหรือ”
ไป่จิ่งเหวินแย้งคำสอนอาจารย์ของเขา
“อภัย --- เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย”
“อภัยให้กับศัตรูอย่างนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้แน่นอน !!!” อาจารย์เฒ่าจ้องมองลึกลงไปในแววตาของแม่ทัพหนุ่ม สายลมหนาวพัดวู่หวิวไม่หยุดหย่อน เสียงลมปะทะยอดสนบนยอดเขา ก่อเกิดเสียงดังอื้ออึงประหลาด ยากจะบอกได้ว่าเป็น เสียงอันไพเราะหรือน่าหวาดหวั่นใจ
“สิบปีที่แล้ว ตอนที่เจ้าหักด่านในวัด เพื่ออยากลงเขาไปเป็นนักรบ เจ้ากล้าฝืนกฎของวัด ฆ่าศิษย์น้องของตนไปสามคน ทำร้ายศิษย์พี่จนสูญเสียวรยุทธ์ไปอีกสองคน ข้าเฝ้าติดตามข่าวของเจ้าโดยตลอด ใครจะไปคาดคิดว่าความทะเยอทะยานของพระหนุ่มคนหนึ่ง จะทำให้เขาเดินทางไกลไปสู่เส้นทางของจอมทัพผู้เกรียงไกรได้ขนาดนี้ --- ไป่จิงเหวิน เจ้ามิใช่ศิษย์ของข้าอีกต่อไป เจ้าเป็นเพียงผู้กระหายในลาภยศสรรเสริญ และมิได้ต้องการคำแนะนำใดจากข้า เจ้าแค่ต้องการเพียงบางสิ่งบางอย่างที่ข้าครอบครองอยู่ เพื่อจะได้กลับลงเขาไปเข่นฆ่าผู้คนต่อไป”
“เช่นนั้นแล้วข้าคงมิต้องอ้อมค้อมอีกแล้ว ข้าอยากได้คัมภีร์มังกรพยัคฆ์บูรพา และพิชัยสงครามต้าซ่งของท่านอาจารย์ มีแต่คนกล่าวไว้ว่าหากใครได้ครอบครองสองสิ่งนี้ ย่อมมิอาจมีผู้ใดเทียบเทียมและต้านทานได้”
อาจารย์เฒ่าหัวเราะเบา ๆ ราวกับล่วงรู้ความคิดทุกอย่างของแม่ทัพหนุ่ม
“เจ้าย่อมรู้ดีว่ามิได้มีสิ่งนี้อยู่ภายในวัด”
“ท่านอาจารย์มิควรโป้ปดข้า เมื่อข้าร้องขออย่างสุภาพ มิเช่นนั้นข้าก็มิอาจไว้ไมตรี”
เสียงของไป่จิงเหวินดังขึ้นอย่างก้าวร้าว มือขวาของเขาเกาะกุมด้ามมีดไว้แน่น นักบวชเฒ่ายังรักษาความเยือกเย็นไว้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
“เจ้ารู้ไหมว่ามีเคล็ดลับสองข้อที่ข้ายังมิได้สอนเจ้า เหตุเพราะเจ้าเตลิดหนีลงเขาไปเสียก่อน”
ประโยคนี้ของไคหมิงต้าซือทำให้ไป่จิงเหวินคลายมือออกจากด้ามมีดโดยมิทันรู้ตัว
“เคล็ดลับใดหรือท่านอาจารย์ โปรดสอนสั่งศิษย์เขลาผู้นี้ด้วย”
อาจารย์เฒ่ายิ้มละไม ในขณะที่หิมะยังคงโปรยปรายลงมามิหยุดหย่อน ใบไม้แห้งที่เหลือติดก้านกิ่งอยู่น้อยนิดนั้น ค่อย ๆ ขยับใบไหวลู่ไปตามแรงลม
พลันใบไม้แห้งใบหนึ่งหลุดขั้วปลิวร่วงหล่นลงมาช้า ๆ ตะเกียบในมือของอาจารย์เฒ่าถูกระชับแน่นราวกับแท่งเหล็กแหลมคม ตะเกียบไม้ไผ่กลายเป็นอาวุธสุดแสนอันตราย เมื่อถูกซัดผ่านด้วยกำลังภายในอันลึกล้ำของสุดยอดวิทยายุทธ์ ตะเกียบปักทะลุคอของไป่จิงเหวินโดยเขาแทบไม่ทันได้รู้สึกตัว ร่างกระตุกเพียงเล็กน้อยในท่านั่งคุกเข่าเช่นเดิม แต่เขามิอาจเปล่งเสียงใดใดได้อีก เลือดข้นสีแดงเข้มค่อย ๆ ทะลักไหลออกมาจากมุมปาก อาจารย์เฒ่าเฝ้ามองดูอดีตศิษย์รักด้วยความสลดสังเวชใจ
“สิ่งที่ข้ามิได้สอนเจ้า --- หนึ่ง ... ในสนามรบ พึงอย่าประมาทแม้เพียงพริบตา ความเร็วคือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำการรบ และแน่นอน --- เจ้าประมาท สอง ... ข้ารับรู้ถึงกลิ่นไอสังหารในตัวเจ้านับตั้งแต่เจ้าเหยียบย่างมาที่นี่ เจ้าโลภและไม่รู้จักพอ มีอำนาจมากเพียงใดยิ่งอยากได้มันมากขึ้นเท่านั้น เจ้าพร้อมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายโดยไม่สนใจถูกผิด ข้าจำต้องสังหารเจ้า เพื่อมิให้ก่อการทำเข็ญต่อผู้คนบนแผ่นดินได้อีก”
ไป่จิงเหวินนั่งคอพับคออ่อนไร้เรี่ยวแรงจะต้านต่อ ลมหายใจของเขาเริ่มขาดห้วง และแผ่วเบา ก่อนเงียบสงบลงในที่สุด
ไคหมิงต้าซือลุกขึ้นยืนช้า ๆ ค่อย ๆ เดินผ่านไป่จิงเหวินไป หิมะยังคงตกลงมามิขาดสาย เหมือนดั่งความมักใหญ่ใฝ่สูงของคนที่ไม่มีวันแห้งเหือด ต้องแลกอีกกี่ชีวิต ต้องแลกอีกกี่ความตาย สงครามจึงจะสิ้นสุด ต้องแลกอีกกี่ความสูญเสีย สนามรบจึงจะกลายเป็นทุ่งดอกไม้ คัมภีร์มังกรพยัคฆ์บูรพาและพิชัยสงครามต้าซ่ง ยังคงเป็นปริศนาลึกลับดำมืดถึงการมีอยู่ ยังมีอยู่ หรือถูกทำลายจนสิ้นสูญไปแล้ว ? ไม่มีใครรู้ความจริงในข้อนี้ นอกจากอาจารย์ไคหมิงต้าซือเพียงผู้เดียว !
Create Date : 02 มิถุนายน 2562 |
Last Update : 12 สิงหาคม 2562 22:29:30 น. |
|
24 comments
|
Counter : 3994 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเริงฤดีนะ, คุณnewyorknurse, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณTui Laksi, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtuk-tuk@korat, คุณmultiple, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณruennara, คุณmcayenne94, คุณชีริว, คุณThe Kop Civil, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณเรียวรุ้ง, คุณSweet_pills, คุณhaiku, คุณSai Eeuu, คุณสองแผ่นดิน, คุณNoppamas Bee, คุณธนูคือลุงแอ็ด |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:7:48:21 น. |
|
|
|
โดย: poongie วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:9:39:29 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:9:58:23 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:11:28:08 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:19:15:36 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:21:32:21 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:21:33:58 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:21:37:02 น. |
|
|
|
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:23:09:03 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 2 มิถุนายน 2562 เวลา:23:34:21 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 3 มิถุนายน 2562 เวลา:0:01:13 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 4 มิถุนายน 2562 เวลา:14:08:36 น. |
|
|
|
| |
นึกถึงหิมะกำลังโปรย อาจารย์นั่งลูบเคราขาว แล้วก็นึกถึง
บ้านเมืองของเรา กำลังแย่ง มีการวางสนุก กั๊ก รุก แบะท่า
รอเขาสมสู่
อีกฝ่ายวางแผนไว้แต่ต้นให้ อีกฝ่ายเดินตามร่องที่ขุดไว้ด้วยความ
จำใจ... ยามใบไม้เริ่มปลิดปลิว คงจะต้องหยิบตะเกียบซัดแทง
ทะลุม่านบังตา ให้มันร่วง..
แหะ ๆ กลัวมันอย่างเดียว ล้มกระดานก่อนนะเซ่ะ