:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่จิน ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่จิน ::
อยากหื้อคุณก๋า แยกคำสองคำนี้ หื้อกำเตอะ "อริยะ" "อัจฉริยะ" จะแนวทางไหนก่อได้เจ้า ปี้ปอจะเข้าใจ๋อยู่ผ่อง แต่อยาก ได้มุมมองของคุณก๋าเจ้า
(อยากให้คุณก๋าแยกคำสองคำนี้ อริยะ กับ อัจฉริยะ จะแนวทางใดก็ได้ พี่พอจะเข้าใจอยู่บ้าง แต่อยากได้มุมมองของคุณก๋าค่ะ)
คำถามโดย : JinnyTent วันที่ : 6 พฤษภาคม 2553 เวลา : 14:23:30 น.
อริยะ อริย, อริยะ ความหมาย
[อะริยะ] น. ในพระพุทธศาสนา เรียกบุคคลผู้บรรลุธรรมวิเศษมีโสดาปัตติมรรคเป็นต้น ว่า พระอริยะ หรือ พระอริยบุคคล.
ว. เป็นของพระอริยะ, เป็นชาติอริยะ ; เจริญ , เด่น, ประเสริฐ.
อัจฉริยะ อัจฉริย, อัจฉริยะ ความหมาย
[อัดฉะริยะ] ว. วิเศษน่าอัศจรรย์ , มีความรู้ความสามารถเกินกว่าระดับปรกติมาก. (ป.; ส. อาศฺจรฺย).
ที่มา - พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
สวัสดีครับพี่จิน
คนเก่ง กับ คนมีปัญญา ในความหมายของผม มีความหมายที่แตกต่างกัน
คนเก่ง คนฉลาด คือ คนที่เป็นอัจฉริยะ อาจกล่าวได้ว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ สามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้รวดเร็วและชำนาญกว่าคนทั่วไป
เช่น สามารถตีกอล์ฟได้เก่งระดับโลก เหมือน ไทเกอร์ วู๊ด แต่ก่อนที่เราจะด่วนตัดสินว่า ความเก่งกาจสามารถระดับโลกหรือเหนือมนุษย์ นั้นมีมาได้อย่างไร ผมอยากให้เราลองมองย้อนดูอัจฉริยะของโลกเหล่านั้น ทุกคนผ่านการฝึกฝนอย่างหนักนะครับ ไม่มีอัจฉริยะคนใดที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์โดยไม่ต้องลงทุนลงแรง
ไทเกอร์ วู๊ด นั้นซ้อมกอล์ฟวันหนึ่งเกิน 8 ชั่วโมงตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 10 ขวบ
เดวิด เบคแฮม ฝึกซ้อมยิงลูกโทษวันหนึ่งเป็นร้อยเป็นพันลูก ทำต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลาหลายสิบปี เบคแฮมไปถึงสนามซ้อมก่อนนักเตะคนอื่นในทีม และกลับบ้านเป็นคนสุดท้ายเสมอ เขาซ้อมหนักกว่าคนอื่นไม่รู้กี่เท่า กว่าจะกลายเป็นสุดยอดนักฟุตบอลผู้สังหารลูกฟรีคิกได้เด็ดขาดคนหนึ่งของโลก
นักดนตรี จิตรกร นักกีฬาของโลกไม่ว่าคนใดสาขาใด ล้วนแล้วแต่ต้องฝึกซ้อมและลงทุนกับตัวเองมากกว่าคนธรรมดาจะคาดคิดเสมอ
อริยะในความหมายของผมจึงไม่ใช่คนวิเศษผู้เหาะเหินเดินอากาศได้ ไม่ใช่คนที่มีตาทิพย์ หรือหยั่งรู้ความเป็นไปในอดีตหรืออนาคต ไม่ใช่คนที่หายตัว ดำดิน หรือแปลงร่างได้
อริยะในความหมายของผม คือ คนที่มี “ปัญญา” ปัญญาที่ไม่ได้แปลว่า “ความรู้” คนที่รู้เยอะ รู้มากไม่ใช่คนที่รู้จริงเสมอไป
โลกนี้มีความรู้มากมายนานัปการ องค์ความรู้มากมายที่เราไม่มีวันเรียนรู้ได้เจนจบภายในอายุขัยสั้นๆของมนุษย์ โลกและจักรวาลมีการวิวัฒน์พัฒนาต่อเนื่องมากี่ร้อยกี่แสนล้านปีมาแล้ว มนุษย์ที่มีอายุขัยสั้นๆคนหนึ่ง จะไปรู้เรื่องราวต่างๆจนครบถ้วนกระบวนความได้อย่างไร
เราอาจสันนิฐานและคาดเดาไปต่างๆนานาว่า โลกเมื่อล้านปีก่อนเป็นอย่างไร หรือโลกในอีก 1 พันปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ไม่มีใครอยู่และรู้ได้เลยว่าการคาดเดาของเราเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่ ? อย่างไร ?
อริยะ จึงเป็นคนที่รู้ในการเกิดของตน รู้ในการดับของตน รู้การเกิดขึ้นและดับไปของอารมณ์ ความรู้สึกและตัวตนของตัวเองอย่างถ่องแท้ รู้แจ้งในการเกิดสุขและทุกข์ จนในที่สุดทั้งสุขและทุกข์ก็ไม่สามารถทำร้ายทำลายตัวตนของเขาได้
อัจฉริยะมากมายที่ต้องจบชีวิตตัวเองลงแบบโศกนาฏกรรม บ้างฆ่าตัวตาย บ้างล้มเหลวในชีวิตคู่ บางคนมีเงินทองมากมาย มีชื่อเสียงกึกก้องโลก แต่สุดท้ายความตายของเขาไม่ต่างอะไรกับฝุ่นผงไร้ค่าในจักรวาลนี้....
แต่อริยะชนอยู่เหนือโลกธรรม 8 เหล่านั้น เขาเป็นอิสระทั้งจากการเกิด การตาย มีชีวิตอย่างกล้าหาญและเปี่ยมสุข อยู่เหนือการกัดเซาะจากกิเลส จากชื่อเสียงลวงตา จากเงินทอง จากสุข ทุกข์ หรือการครอบครองและพลัดพรากใดใด.....
เราอาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาบนโลกนี้เพื่อเป็น “อัจฉริยะ” เหมือนกันทุกคน อัจฉริยะอาจสร้างได้ อาจเป็นได้ แต่อัจฉริยะก็ไม่ได้ยั่งยืน ไม่คงทน และเสื่อมไปตามกาลเวลา
แต่อริยะนั้น...เราเป็นได้โดยไม่ต้องสร้าง ไม่ต้องออกตามหา เพราะ “ปัญญา” นี้อยู่ในตัวเราตลอดเวลา ขอเพียงเรารู้ตัว..ขอเพียงเรารู้สึกตัว รู้และค้นพบปัญญาที่มีอยู่แล้วในตัวเรา นำมันออกมาใช้อย่างเต็มศักยภาพ
พระอาทิตย์นั้นส่องแสงเต็มเปี่ยมอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเพิ่มเติมความสว่างใดใด แต่ที่แสงสว่างมันหม่นมัวเพราะมันถูกเมฆบดบัง
ทางที่เราต้องทำ คือ นำเมฆหมอกนี้ออกไป ไม่ใช่การเพิ่มแสงสว่าง....
มีหนทางมากมายเพื่อจะเดินไปสู่เส้นทางแห่งอริยะ... มีครูบาอาจารย์มากมายที่ได้เดินล่วงหน้าไปแล้ว และทิ้งลายแทงไว้ให้....
อย่าได้กลัวที่จะทดสอบศักยภาพของตัวเอง อย่าได้ขลาดที่จะตั้งมั่นในการเป็นอริยะ
พระอรหันต์ก็มาจากคนสามัญ และคนสามัญอย่างเราไม่มีเหตุผลใดที่จะเป็นอรหันต์ไม่ได้
พุทธะอยู่ในตัวเรา อยู่ในใจเรา อยู่ที่เรารู้ตัวหรือไม่ ? จะรู้อย่างไร ? และเมื่อไหร่เท่านั้นเอง.
Create Date : 04 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 5:12:13 น. |
|
135 comments
|
Counter : 1181 Pageviews. |
|
|
|
ไม่ได้แวะมานาน สบายดีนะคะ ^^