กุมภาพันธ์ 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
22 กุมภาพันธ์ 2555

:: ปัจฉิมนิเทศที่เทคนิคเชียงใหม่ ::





:: ปัจฉิมนิเทศที่เทคนิคเชียงใหม่ ::



ณ วิทยาลัยเทคนิค เชียงใหม่
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555



โดย : กะว่าก๋า





















ขณะนี้เราเรียนอยู่ในรั้วการศึกษา
แต่เราไม่ได้เชื่อมโยงตัวเรากับโลกภายนอกเลย
เคยรู้ไหมว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไร
โลกจริงๆไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่าวัยรุ่นดาราแต่งตัวยังไง
แต่เป็นเรื่องของ “วิธีคิด”
ว่าเวลาที่เราเจอคนแบบนี้เราจะรับมืออย่างไร
และ “วิธีคิด” สำคัญกับทุกเรื่อง
เช่น ถ้าเรามีคนรักเราจะดูแลคนรักของเราอย่างไร
ไม่ใช่ความรักแบบหวานแหววที่เดินจูงมือกันในโรงเรียน
แต่เป็นความรักแบบชีวิตจริงที่เป็นชีวิตคู่
“วิธีคิด” จะทำให้เรารู้ว่าเราจะดูแลคนรักของเราอย่างไร


โลกของการทำงานจริงกับโลกของการเรียนนั้นแตกต่างกัน
เราจะไม่มีครูมาคอยจ้ำจี้จำไชอีกแล้ว
ว่าเธอต้องส่งงาน
ถ้าไม่ส่งงาน เธอจะไม่จบ

บางสำนักงานถ้าน้องไปทำแล้วงานไม่ผ่านสักสามครั้ง
ผู้จัดการหรือเจ้าของจะเรียกน้องมานั่งที่โต๊ะ
ยื่นซองขาวแล้วก็บอกว่า.... “ออกไป”


ที่ร้านของพี่...ในการรับพนักงานเข้ามาทำงาน
จะมีคำว่า “ทดลองงานสามเดือน” เขียนไว้ในใบสมัครงาน
แล้วก็มีคนที่ไม่ผ่านงาน….

ตอนนี้น้องๆอาจจะคิดว่าทำไมเรียนหนักจัง
มีโปรเจ็คเยอะแยะมากมายจนทำไม่ทัน

แต่เวลาคุณจบออกไปแล้วทำงานในสำนักงาน
คุณไม่มีสิทธิ์บ่น...
ถ้าเจ้านายสั่งงานชิ้นนี้แล้วบอกว่า “ขอก่อนห้าโมงเย็น”
ก็ต้องส่งงานก่อนห้าโมงเย็น
เพราะถ้าน้องทำไม่ได้
ก็จะมีคนอื่นที่ทำได้ แล้วเขาจะเข้ามาทำงานแทนที่เรา

นี่คือความแตกต่างของโลกการทำงานกับโลกของการเรียน












เรามักจะพูดว่าในยุคนี้
ต้องเจ๋ง ต้องดัง ต้องเด่น ต้องมีคนเข้ามาเป็นกระแสเยอะๆ
ถึงจะเรียกว่าดัง พอดังแล้วจะรวย

แต่จริงๆแล้วเรามีหน้าที่เดียว
คือ รับผิดชอบกับสิ่งที่เราทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง














ชีวิตไม่ได้จบแค่การเป็นสถาปนิก
บางคนอาจจะเลี้ยงปลากัด บางคนชอบชนกว่าง
เคยถามและคิดไหมครับ
ว่าเราชอบการชนกว่าง แต่เรารู้จักกว่างอย่างดีที่สุดแล้วหรือยัง
เราจะสอนมันให้เป็นกว่างที่เก่งที่สุดได้อย่างไร

ถ้าวันนี้เราชอบมอเตอร์ไซด์
แทนที่เราจะคิดว่าเราจะชอบอย่างเดียว
ขอเงินพ่อแม่ซื้อมอเตอร์ไซด์มาขี่
เราเคยคิดไหมว่าเราจะโมดิฟายน์
ให้มันเป็นมอเตอร์ไซด์ที่ดีที่สุดด้วยเงินที่น้อยที่สุดได้อย่างไร

หรือถ้าใครชอบดาราเกากลี เคยถามตัวเองไหมครับ
ว่าเราจะทำอย่างไรให้รู้ลึก รู้จริงที่สุดแบบแฟนพันธุ์แท้

ถ้าเราทำแบบนี้กับทุกสิ่งไปเรื่อยๆหลายๆปี
วันหนึ่งสิ่งนี้จะย้อนกลับมาที่เรา
และทำให้คนยอมรับในสิ่งที่เรารู้














ในการทำงานจริง
นอกจากความฉลาด ยังต้องมีความรอบรู้
มีความอดทน มีความขยัน
และสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่มีสอนในวิทยาลัย

ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย....

อย่างวิชาความขยันก็ไม่มีสอน
บางคนอาจารย์สั่งงานปุ๊บ กลับบ้านเย็นนั้นนั่งทำงานทันที
บางคนทิ้งไว้อาทิตย์หนึ่งถึงค่อยเริ่มลงมือ
บางคนทิ้งไว้จนจบเทอมก็ยังไม่ได้ทำ

คนที่มีความพร้อมและมีโอกาสที่จะเรียนต่อ
ก็ควรเรียนต่อ
แต่คนที่ไม่มีโอกาสที่จะเรียนต่อ
ขออย่าได้น้อยใจต่อโชคชะตาชีวิต
อย่าไปยึดติดว่าคนจบปริญญาตรีจะเก่งกว่าคนที่จบ ปวส.
หรือคนจบปริญญาโท จบปริญญาเอก
จะเก่งกว่าคนที่จบปริญญาตรี

การศึกษาแค่ทำให้เรารู้อะไรมากกว่าคนอื่น
แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะรู้ในทุกสิ่ง ฉลาดในทุกเรื่อง

พี่จบปริญญาตรีลาดกระบัง แต่ตอนที่จะซ่อมบ้าน
เดินสำรวจดู ยังคิดว่าต้องใช้ทีมงานช่างหลายคนพอสมควร
และคงต้องใช้เวลาในการซ่อมบ้านนานหลายวัน

แต่พอเรียกสล่า (ช่างท้องถิ่น) ที่รู้จักกันมาดูงาน
สล่าคนนี้ไม่ได้เรียนหนังสือ
แต่ทำงานก่อสร้างจริงมาตั้งแต่หนุ่มๆ

เขามากันแค่สองคน
ทำงานสามวันก็ซ่อมบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว

นี่คือคำว่า “ความรู้” กับ “ความเชี่ยวชาญ”

ประสบการณ์และความช่ำชอง
เราสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์การทำงานจริงนั่นเอง













หลายคนๆไม่ได้ศึกษาต่อ...ไม่เป็นไร
แต่ขอให้รู้จริงในสิ่งที่เราทำ

ถ้าจบออกไปแล้วไม่ได้ไปเขียนแบบในสำนักงานสถาปนิก
ต้องไปสับไก่ช่วยพ่อแม่เพื่อขายข้าวมันไก่
ก็จงสับไก่อย่างถ่องแท้
ต้องรู้ว่าแล่ชิ้นละ 3 เซ็นฯถึงจะอร่อย
ถ้าไก่ขนาดใหญ่ 4 เซ็นฯจะไม่อร่อย
ต้องมีปฏิภาณที่จะจดจำได้ว่า
ลูกค้าคนนี้มากินบ่อยๆ เขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

นี่เป็นวิธีคิดของมืออาชีพ

มืออาชีพคือคนที่รู้ในสิ่งที่ตัวเองทำอย่างดีที่สุด
ถ้าเราใส่ใจทุกรายละเอียดและเต็มที่กับมัน
จนเรารู้ว่ามันเป็นอย่างนี้ๆๆๆ เพราะอะไร
และเมื่อเกิดปัญหาเราจะแก้ไขนั้นอย่างไร

ถ้าทำได้แบบนี้ในทุกๆเรื่องที่เราทำ
นั่นเราก็ใกล้เคียงกับคำว่ามืออาชีพแล้ว














ในขณะที่น้องๆกำลังจะจบและไปทำงานในชีวิตจริง
และพี่คิดว่าจะเล่าอะไรให้น้องๆฟังดี

วันก่อนพี่อ่านนิทานเรื่องหนึ่งให้ลูกฟัง
เป็นนิทานเรื่อง “แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์”

ปรากฏว่าลูกชายพี่อึ้งไปครึ่งวัน
นั่งจึ๋งไม่พูดจากับพ่อและแม่เลย
นั่งเหม่อแบบครุ่นคิด

ลูกชายพี่อายุสามขวบกับเจ็ดเดือน

อยู่ๆลูกก็ถามพี่ว่า


“ทำไมคนที่ทำไม่ดี ถึงได้ดีล่ะป่ะป๊า”

นี่คือเนื้อหานิทานครับ

(เปิดหนังสือนิทานแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ที่เตรียมมา
นั่งอ่านให้นักศึกษาฟัง)


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีหญิงม่ายคนหนึ่งอาศัยอยู่กับลูกชายชื่อแจ๊ค
ทั้งสองคนมีฐานะยากจนมาก

วันหนึ่งวัวที่เลี้ยงอยู่ไม่ให้นมอีกแล้ว
แม่จึงบอกให้แจ๊คเอาวัวไปขายที่ตลาด
ระหว่างทางแจ๊คเจอชายชราคนหนึ่งเข้ามาบอกว่า

“แลกวัวของเจ้ากับถั่ววิเศษของข้ามั้ย ?”

แจ๊คจึงแลกวัวกับถั่วไม่กี่เมล็ดกลับมาบ้าน
เมื่อแม่รู้เข้าก็โมโหมาก คิดว่าแจ๊คถูกหลอก
เลยปาถั่วทิ้งที่ข้างหน้าต่าง
แล้วลงโทษโดยไม่ให้แจ๊คกินข้าวเย็นในวันนั้น


ตื่นเช้าขึ้นมา...ต้นถั่ววิเศษกลับงอกขึ้นไปบนท้องฟ้า
แจ๊คปีนขึ้นไปจนเจอกับปราสาทหลังใหญ่
ที่นั่นแจ๊คพบกับหญิงร่างยักษ์คนหนึ่ง
แจ๊คเลยไปขอข้าวกิน นางก็ให้
แล้วบอกแจ๊คว่าสามีของนางเป็นยักษ์ที่ดุร้าย
และชอบกินมนุษย์มาก แจ๊คเลยหลบอยู่ใกล้ๆ
พอยักษ์กลับมาบ้านกินข้าว และหลับไป
แจ๊คก็ขโมยเหรียญทองของยักษ์ ปีนกลับลงมาที่บ้าน
แล้วใช้ชีวิตกับแม่อย่างมีความสุข

ไม่นานนักเมื่อเหรียญทองหมดลง
แจ็คก็ปีนขึ้นไปข้างบนนั้นอีก
ไปขอข้าวจากเมียของยักษ์มากินอีกครั้ง
คราวนี้แจ๊คขโมยไก่ที่ไข่เป็นทองคำของยักษ์ลงมา


และต่อมาแจ๊คก็ปีนต้นถั่วขึ้นไปเพื่อไปขโมยพิณพูดได้ของยักษ์อีก
คราวนี้พิณพูดขึ้นมาว่า “ขโมย ขโมย”
ยักษ์เลยตื่นขึ้นมา แล้ววิ่งตามแจ๊คไปด้วยความโกรธ

แจ๊ครีบปีนลงมาจากต้นถั่ว ตะโกนบอกให้แม่เอาขวานมา
จากนั้นก็ฟันฉับลงไปที่ต้นสองครั้งจนต้นถั่วขาดสะบั้น
แล้วยักษ์ก็ตกลงมาตาย

นับจากนั้นเป็นต้นมาแจ๊คและแม่ก็กลายเป็นเศรษฐี
ด้วยไก่ที่ไข่เป็นทองคำและการเดินสายแสดงพิณพูดได้จนร่ำรวย

ทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมา....




ปกติพี่อ่านนิทานให้ลูกฟังบ่อยมาก
ปกติคืนหนึ่ง 4-5 เล่ม
อ่านเยอะสุด 15 เล่มรวด
แล้วทำไมวันนี้นิทานเล่มนี้เล่มเดียวทำให้ลูกดูเครียดจังเลย



พี่กำลังบอกว่านิทานเรื่องนี้กำลังสอนอะไรบางอย่างกับเรา
ได้สังเกตไหมครับว่าทำไมคนที่เป็นคนขี้ขโมยถึงได้ดี
ทำไมคนที่ไม่กตัญญูรู้คุณคนถึงได้ดี
ทั้งๆที่เมียยักษ์เอาข้าวให้แจ๊คกินถึงสองครั้ง
แต่เขากลับไม่สำนึกบุญคุณ
ฆ่ายักษ์โดยไม่นึกถึงความถูกต้องใดใดเลย



ลองมองข้ามความเป็นนิทานไป
เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิต
ทุกวันนี้เราให้ความสำคัญกับเรื่องของ “มูลค่า”
มากกว่าเรื่องของ “คุณค่า”


เราให้ความสนใจแต่ว่าคนไหนรวย
ถ้าใครรวยเราก็เชื่อไปแล้วว่าเขาเจ๋ง เก่ง
ยิ่งรวยแล้วดัง...สุดยอด

วิธีคิดแบบนี้อันตรายมากนะครับ


เด็กที่จบใหม่เวลาสมัครงาน
มักจะถามว่า “ที่นี่จะให้เงินเดือนเท่าไหร่”

ซึ่งคำถามแบบนี้มักจบด้วยการไม่ได้งานทำ

ในขณะที่อีกคนตอบว่า

“ ผมอยากรู้ว่าที่นี่จะให้ผมทำงานอะไร
ได้อย่างเต็มความสามารถของผมบ้าง”


ถ้าคุณเป็นเจ้านายรับสมัครงาน
คุณจะเลือกคนไหนเข้าทำงาน...



นี่เป็นคำตอบในเรื่องของ “มูลค่า” กับ “คุณค่า”



เหมือนกับแจ๊คในนิทานเล่มนี้
แจ๊คยากจน แจ๊คลำบาก แจ๊คไม่มีโอกาส
แต่พอแจ๊คมีโอกาส
แจ๊คกลับเลือกที่จะใช้โอกาสนั้นไปในทางที่ไม่ถูกต้อง

แจ๊คเป็นขโมย ไม่รู้จักบุญคุณ เป็นคนอกตัญญู
แถมยังมีทัศนคติที่พอมองยักษ์ก็แขวนป้ายคนเลวไว้ให้ทันที
คิดเองเออเองว่าถ้าเป็นยักษ์ก็ต้องดุร้ายและสมควรถูกฆ่า

แจ๊คไม่สนใจด้วยซ้ำว่ายักษ์ได้เหรียญทองคำ
ได้ไก่ที่ไข่เป็นทองคำ ได้พิณวิเศษมาได้ยังไง
ยักษ์อาจได้สิ่งเหล่านั้นมาจากการทำงานหนัก
และเป็นงานที่สุจริตก็ได้


แจ๊คไม่สนใจความถูกต้อง เพราะแจ๊คคิดเพียงแค่ว่า
ฉันต้องรวย พอรวยแล้วจะสบาย
พอสบายแล้วจะมีความสุข



หลายครั้งที่เรามองดูบางคนที่รวย
แล้วเราคิดว่าเขาต้องมีความสุขมาก



ล่าสุดทุกคนคงได้อ่านข่าว
ที่มีชายคนหนึ่งเอาเงินล้านสามของพ่อมาฉีกทิ้ง
เพราะรู้สึกว่าพ่อรักลูกไม่เท่ากัน


อีกกรณีหนึ่งชายคนหนึ่งยิงตัวเองตาย
เพราะน้อยใจที่แม่แบ่งมรดกไม่เท่ากัน
เขาได้น้อยที่สุด....ได้แค่สองร้อยล้าน
เลยยิงตัวตาย....



ถ้าวันนี้เรามีสองร้อยล้านเราจะฆ่าตัวตายมั้ย
มีสองร้อยบาทยังต้องสู้ชีวิตเลยครับ

เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อครับ
ว่ามีเงินเยอะๆแล้วจะมีความสุข
จนในที่สุดมันทำให้เราไปแสวงหาเงินมาแบบผิดวิธี












สิ่งที่อยากฝากไว้
คือ ในการเริ่มต้นทำงาน
สิ่งที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของเงินเดือน
ไม่ใช่เรื่องของการประสบความสำเร็จเร็วๆ

แต่เป็นเรื่องของการเอาจริงเอาจัง
เป็นเรื่องของความมุ่งมั่นและการพิสูจน์ตัวเอง

ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้เราเป็นคนที่มี “คุณค่า”
แล้วถ้าน้องๆไปทำงานที่ไหนก็ตาม
แล้วทำงานอย่างคนที่มี “คุณค่า”

เมื่อทำงานอย่างมี “คุณค่า” ไปเรื่อยๆ
ถึงวันหนึ่งคนที่มี “คุณค่า” มากๆ
ก็จะออกไปสร้าง “มูลค่า” มากมายได้ด้วยตัวของเขาเอง











มีคนถามพี่ตลอดว่าบ้ารึเปล่าที่ตื่นมาอัพบล็อกตี 5 ทุกวัน
พี่ตอบไปว่าคำว่า บ้า เสพติด กับคำว่า วินัย
ความหมายมันใกล้กัน

“วินัย” ไม่ใช่การบังคับ ไม่มีใครมาสั่งให้เราต้องทำ
วินัยคือสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าเมื่อถึงเวลาแล้วต้องทำ
ทุ่มเทกับสิ่งที่เราต้องทำ

แต่ถ้าเราหาข้ออ้างให้กับตัวเอง
พักเหนื่อยแป๊บเดียวเดี๋ยวทำต่อ

ถ้าเราตัดเวลาสามชั่วโมงที่ไปทำสิ่งอื่น
เราก็ได้เวลาสามชั่วโมงในการทำงานกลับมา


ถ้าเราตัดเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ไปทำสิ่งไร้สาระ
เราจะได้เวลามีค่าหนึ่งชั่วโมงเพื่อกลับมาทำสิ่งที่เราต้องทำ

วันนี้เราทำแบบนั้นแล้วหรือยัง
ได้ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิตแล้วหรือยัง












{พิธีกรถามนักศึกษาว่ามีใครสงสัยอะไร
จะถามอะไรไหมครับ
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ....}


...ก่อนมาพูด อาจารย์คุณบอกพี่ว่า
นักศึกษาที่นี่ไม่ถามอะไรหรอก

เรามีวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่ผมว่าเราต้องเปลี่ยน
ก็คือการที่เราไม่กล้าถาม

ผมสอนลูกเสมอว่า “อย่าหยุดถาม”
เพราะเมื่อไหร่ที่คุณถาม
แสดงว่าคุณ “ไม่รู้”

ถ้าคุณ “ไม่รู้” แต่คุณถาม
คุณจะ “รู้”

แต่ถ้า “ไม่รู้” แล้ว “เงียบ”
คุณจะ “ไม่รู้” อะไรเลย...














{พิธีกรถามว่ามีอะไรจะฝากให้นักศึกษาหรือเปล่า}



ผมขออวยพรให้ทุกคนโชคดี
คือคำว่า “ขออวยพรให้ทุกคนโชคดี” ของผม
ก็ยังอยากย้ำกลับไปว่า


“โชคดี” มันอยู่ที่ตัวเรา


ไม่มีเทวดาองค์ไหนมากำหนดให้เราประสบความสำเร็จได้


วันนี้เราเดินออกจากวิทยาลัย
แล้วไปกราบหลวงพ่อ
ขอร้องให้ท่านช่วยให้เราเรียนจบ
ยังไงก็ไม่จบนะครับ
เพราะหลวงพ่อท่านเขียนโปรเจ็คไม่เป็น เขียนแบบไม่เป็น
(นักศึกษาฮาครืน)
เพราะฉะนั้น...เราต้องลงมือทำ

ฝากไว้ตรงนี้ล่ะครับ










Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2555 5:16:05 น. 98 comments
Counter : 3041 Pageviews.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์ หนูแวะมาเจิมก่อนนะคะ วันพูกหนูมาหาใหม่


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:5:46:21 น.  

 
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ เปิ้นอ่านจบก็ไม่ได้คิดอะไร
เพราะคิดว่านี่คือนิทาน
แต่เมื่อเห็นความคิดของหมิงหมิงเปิ้นอึ้งเลย
สามขวบรู้จักแยกแยะแล้ว
พี่ก๋าสอนลูกได้ดีจังค่ะ


โดย: fonrin วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:03:44 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะน้องก๋า

จำได้ว่าปีที่แล้วก็ได้อ่านเรื่องราวปัจฉิมนิเทศ...ของน้องก๋า
และยังได้ให้ลูกชายคนโตเข้ามาอ่าน...
และบล้อกนี้ก็คงจะต้องแนะนำให้เข้ามาอ่านอีกเช่นกัน
น้องก๋า ถ่ายทอดประสบการณ์ ให้แง่คิดมุมมองที่ดีเยี่ยมเลยค่ะ
โหวตนะคะ กะว่าก๋า Diarist ดู Blog


โดย: jamaica วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:22:34 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณก๋า ในยามเช้าครับ

การมาปัจฉิมนิเทศที่เทคนิคเชียงใหม่
แค่ดูโจทย์ครั้งแรกก็ดูว่าจะเป็นอะไรยากๆ ที่จะสื่อเรื่องราวให้น้องๆ นักศึกษาได้เก็บ รวบรวม ความคิด ข้อเสนอแนะของคุณก๋า
เพื่อนำไปใช้กับชีวิตก้าวต่อไปของน้องๆ นักศึกษา
อ่านจบแล้วก็ได้แต่หวังว่าเรื่องแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ จะติดอยู่ในความทรงจำ บ้างนะครับ


โดย: ถปรร วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:24:21 น.  

 
ทุกวันนี้เราให้ความสำคัญกับเรื่องของ “มูลค่า”
มากกว่าเรื่องของ “คุณค่า”

....เป๊ะเลย
โลกเรากำลังหันทิศทางไปทุนนิยมเต็มตัว
เลยปลูกฝังวิธีคิดอบบนี้
อ่านแล้วได้แง่คิดสุดยอดมาก
ถ้าผมเป็นเป็นนักศึกษาที่ฟังวันนั้นคงปลื้มเลย

คงต้องถามว่า
เอาแรงที่ไหน ตื่นมาอัพบล็อกตี 5 ทุกวัน
555 ขนาดผมup 2สัปดาห์ครั้ง ยังไม่ไหวเล้ย
อิอิ บล๊อคหน้า งานตรวจคุณภาพเข้าที่ทำงาน สงสัยจะดองนานกว่าเก่าอีก


โดย: REX-REX วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:42:26 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องก๋า ....อ่านแล้วนึกถึงสมัยยังเป็นักเรียนอยู่เลย เวลาอาจารย์จะจบการสอนมักจะมีคำถามเสมอว่ามีใครไม่เข้าใจหรือจะถามอะไรไหม แล้วส่วนใหญ่จะเงียบ สุดท้ายอาจารย์ก็คงคิดว่าทุกคนเข้าใจแน่ๆเลย แต่จริงไม่อาจรู้ได้ว่าเข้าใจกันจริงๆรึเปล่า แต่เป็นแบบนี้ประจำเลยนะครับอิอิ


โดย: phaclam วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:45:56 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้องก๋า..

เห็นมั้ย.. บอกแล้ว.. ว่าหล่อ..เหมือนเดิม..


โดย: poongie วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:6:57:57 น.  

 
สวัสดียามเช้าจ๊ะหมิง หมิงemo


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:03:30 น.  

 
น้องๆตั้งใจฟังคุณลุงก๋า เอ้ย พี่ก๋า ดีจังเลยนะคะ
ประสบการณ์มาจากตัวเราและคนรอบข้างนี่เอง


โดย: kwan_3023 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:09:32 น.  

 


วิธีคิด .. สำคัญที่สุดเลยนะคะ
หมิงหมิงมีวิธีคิดที่เป็นของตัวเองแล้ว
เราผู้ใหญ่เฝ้ามองกันต่อไปนะคะ


อ่านวันนี้ อิ่มเลยค่ะ
เชื่อว่าน้องๆได้อะไรดีๆกลับไปเยอะเลยนะคะ


เรื่องพี่ก๋าอัพบล็อกตอนตี 5 ..
วันไหนถ้าไม่เห็น วันนั้นจะรู้สึกแปลกๆไปเลยค่ะ
เรื่องของวินัย .. ดี.ก็อยากทำให้ได้อย่างพี่ก๋าบ้าง
เพราะมันทำให้สามารถจัดระบบชีวิตในแต่ละวันได้ดีขึ้นแน่ๆ
แต่ยากจังค่ะ







โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:10:53 น.  

 

ปัจฉิมนิเทศที่เทคนิคเชียงใหม่

ดีมากเลยค่ะ พี่ส่งไปให้หลานๆอ่านก้น

คำแนะนำทมีคุณค่าสำหรับทุกคน ถ้าใครทำตามจะประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิต


newyorknurse




โดย: newyorknurse วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:37:52 น.  

 


มารับค่ะ .. เล่าเรื่องไว้แล้ว
เรื่องเล่าไม่นาน
แต่ประดิษฐ์บล็อกนานค่ะ 55+


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:7:53:41 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ

ฟี่อึ้งกับคำถามหมิงหมิงค่ะพี่
อึ้งแล้วก็ทึ่ง เพราะวัยของเด็ก 3 ขวบ
สามารถเกิดคำถามที่เกี่ยวกับความดีความชั่วได้นี่
น่าปลื้มใจค่ะ ว่าแต่ที่ฟี่อยากรู้ต่อคือ พี่ก๋าตอบหมิงหมิงว่ายังไง


โดย: Paulo วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:08:32 น.  

 
พี่ก๋าสุดยอดเลยค่ะ เป็นสาวๆคิดว่าคงได้ใช้แน่ๆสำหรับการเริ่มต้นการเรียน


โดย: sawkitty วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:10:43 น.  

 
ถ้าน้องๆ ฟังแล้วคิดตาม คงได้อะไรเยอะเลยค่ะ

หวังว่าคงจุดประกายให้น้องๆ ได้เยอะนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:15:51 น.  

 
ชอบบล็อกนี้มากค่ะ คุณก๋า
โชคดีสำหรับน้องๆที่มีคุณก๋ามาจุดประกายบางอย่าง สำหรับคนที่จุดได้...
ชอบมาก... ตอนหมิงหมิงจ๋อยหลังจากฟังแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์...
เพราะนั่นแสดงว่า สิ่งที่คุณก๋าและมาดามปลูกฝังไว้ให้หมิงหมิงกำลังแสดงผล...

เวลาพี่อ่านนิทานของแอนเดอร์สันทีไร พี่จะรู้สึกว่ามันหดหู่เกินกว่าจะเป็นนิทานสำหรับเด็ก
ไม่ว่าจะเป็น เด็กขายไม้ขีดไฟ หรือลิตเติ้ลเมอร์เมด

นิทานมีผลสำหรับเด็กมากนะคะ
แต่ที่มีผลมากกว่าคือเวลาอบอุ่นระหว่างที่พ่อแม่เล่านิทาน


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:16:56 น.  

 
สงสัยค่ะ.. ทำไมต้อง 38 like

อิอิ.. ขี้สงสัย


โดย: poongie IP: 192.168.200.55, 125.26.126.11 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:25:36 น.  

 


ความตรงไปตรงมาของเด็กรุ่นใหม่ๆ
เราต้องชะงักฟังเลยค่ะ
มันอยู่ที่ .. วิธีคิดจริงๆ

อย่างพ่อแม่ของน้อง
เค้าก็ออกแนว .. เฝ้าระวังแบบเงียบๆค่ะ
แต่ดี.ว่า มันเป็นความใส่ใจด้วย

แล้วมานึกๆ ดูแล้วยังไงก็เหนื่อยค่ะ
อย่างครอบครัวนี้ อาจจะเหนื่อยน้อยในระยะยาว
เพราะว่าใช้วิธีเหนื่อยทุกวัน วันละพอประมาณ
(แต่อะไรมันก็ไม่แน่)
แต่ครอบครัวไหนที่ไม่ยอมเหนื่อยตั้งแต่แรก
ระยะยาวจะเหนื่อยมาก .. ^^

กลุ่มน้องๆที่แวดล้อมตอนนี้หลายสิบคนค่ะ
แต่ละคนต่างๆกันไป ..ไว้เก็บเรื่องมาเล่าเรื่อยๆค่ะ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:26:39 น.  

 
ฮาครืนด้วยคน..

อูเทอร์มีคำถามคับ...

อะไรคือการชนกว่างอ่ะ


โดย: uter วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:50:24 น.  

 
สวัสดีครับพี่ครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:59:34 น.  

 
อ่านแล้ว....เยี่ยมครับคุณก๋า

สวัสดียามเช้าครับ


โดย: panwat วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:01:57 น.  

 
พี่ก็ชอบนิทานแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์...

ก็อยากจะปีนต้นถั่วเหมือนกัน...55555


โดย: Calla Lily วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:03:48 น.  

 


เอามาฝากค่ะพี่ก๋า

//www.youtube.com/watch?v=IS_DjOICYpU&feature=youtu.be


เป็นของวันแรกที่ีออกอากาศ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:04:13 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า โห...เยี่ยมๆๆๆๆๆ คุณก๋าพูดได้เยี่ยมยอดมากเลยค่ะ แบบนี้สิ ถึงจะพูดได้ตรงประเด็นเพราะเด็ก ปวช. ปวส.ที่ปัจฉิมนิเทศนั่นหมายความว่าเค้าจะต้องรู้ตัวแล้วว่าเค้าจะต้องออกไปต่อสู้กับชีวิตใหม่ไม่ใช่เรียนไปวันๆๆอีกแล้ว กิ่งชอบสำนวนคุณก๋ามากมาย อยากให้มาพูดที่วิทยาลัยบ้างจังเลย แต่กิ่งไม่ได้เป็นฝ่ายจัดหาเลย

เมื่อก่อนนี้กิ่งเคยทำเกี่ยวกับการหางานให้นักศึกษา กิ่งจะเชิญหน่วยงานเข้ามาพูดและคัดเลือกนักศึกษาที่อยากทำงานด้วยโดยให้สมัครและสอบคัดเลือกไปเลย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ทำตรงนี้แล้ว เสียดายมากเลย ถ้าได้ทำตรงนี้กิ่งคงเชิญคุณก๋ามาเป็นวิทยากรแน่ๆเลยค่ะ

เอาไว้จะลองสอบถามงบประมาณและตัวผู้จัดดูนะคะ ถ้ายังไงอาจจะเชิญคุณก๋าไปเที่ยวลำปางสักวันค่ะ

เสียดายจังวันนี้กิ่งโหวตไปหมดแล้ว ไว้มาโหวตให้ใหม่เน้อ

สุขสดชื่นวันนี้นะคะ




More Flowers Comments


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:24:49 น.  

 


ดี.เอาเม้นท์พี่ก๋าไปแปะที่บล็อกน้องด้วยค่ะ
เสร็จภาระกิจ คงได้เข้ามาอ่าน
แต่น่าจะนานทีเดียว


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:27:04 น.  

 
ปรัชญาชีวิตทั้งนั้นเลยนะค่ะ
แวะมาเป็นแฟนคลับอีกคนค่ะ


โดย: PrettyNatty วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:42:54 น.  

 
สุดยอดเลยค่ะพี่ก๋า วันนี้เลิฟๆเนื้อหาในบล็อคพี่ก๋าที่สุดเลยค่ะ น้องๆ ที่เรียนใกล้จะจบควรได้ฟังอะไรแบบนี้เยอะๆ อ่ะ เพราะชีวิตในวัยเรียนกับวัยทำงานมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจริงๆ แล้วธงชัยของสองสิ่งนี้ก็คนละเรื่องกันเลย ตอนเรียนหลายๆ คนรับธงที่เรียกว่า "หน้าที่เรียน" มาจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว พ่อแม่ ประมาณว่าต้องเรียนให้จบตามที่ควรจะเป็น ไม่มีฝัน ไม่มีเป้าหมายในชีวิตที่แน่นอน เรียนๆ เล่นๆกันไป
แต่พอถึงวัยทำงาน ทุกอย่างจะไม่ใช่แบบนั้นเลย ไม่มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชกับเขาอีกแล้ว ทำงานได้ก็ทำ ไม่ได้ก็ออกไป ที่สำคัญต้องหาธงสำหรับตัวเอง ค้นหาเป้าหมายในชีวิตของตัวเองให้เจอ วันนี้ยกใจดวงแรกให้พี่ก๋าไปเลย(ถ้าให้ได้ห้าดวงวันนี้จะยกให้หมดเลยนะเนี๊ยะ คริๆ)


โดย: คมไผ่ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:9:52:40 น.  

 
ครบครัน
เนื้อหาสาระและความฮาตบท้าย
ชอบบล็อกนี้มาก
เด้วเอาไปแชร์ในเฟสด้วยค่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:00:38 น.  

 
Good Morning Ka Khun Ga

เด๋ว สะดวก จะกลับมาอ่านค่าemo


โดย: โสมรัศมี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:18:28 น.  

 
ขอบคุณที่ชี้แน่ะเรื่อง ศรี-สีครับ
วันนี้อากาศที่เมืองกรุงเทพฯ ดีจังครับไม่ร้อนไม่หนาว


โดย: peeradol33189 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:35:08 น.  

 
น้องก๋า ...
พี่แอบมาส่งข่าวนะคะ
ประกาศผลแล้วค่ะ ลูกชายคนเล็กพี่สอบติดทั้งสองที่เลย
ของมัธยมสาธิตทั้งสองที่นะคะ
ติดทั้งกิ๊ฟเต็ด (Gifted)และ ของ EP ค่ะ
พี่ดีใจที่สุดเลยค่ะ


โดย: jamaica วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:37:01 น.  

 
คุณก๋าพูดดีจังค่ะ ชอบจัง
ตอนจบนั่นก็เก๋สุดๆเลย


โดย: SevenDaffodils IP: 68.50.164.97 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:00:53 น.  

 
ดีจ้ะน้องก๋าคนขยัน พี่ว่าพักนี้ก๋าแลดูโทรม ๆ ไปนิดนะ หน้าเซียว ๆ จัง สงสัยงานเยอะ นอนน้อยแล้วก็ป่วยบ่อย ยังงัยก็ดูแลตัวเองด้วยจ้า

วันนี้เขียนยาวจัง พี่เลยต้องอ่านทีละท่อน แต่คุยที่ค้างไว้ก่อนดีกว่าเนอะ เดี๋ยวลืมอีก เรื่องเลี้ยงลูก พอก๋าพูดขึ้นมาทำให้พี่คิดถึงคำว่า before กะ after

ก่อนทำศัลยกรรม กะ หลังทำ ศัลยกรรม หน้าตาผิดไปจากเดิมเยอะเลย

คล้าย ๆ กันนะ ก่อนจะมีหลานให้เลี้ยง กับ หลังจากที่ต้องเลี้ยงหลาน

ความคิด ความอ่าน ความรู้สึก เหมือนถูกขัดสีฉวีวรรณ ซะเอี่ยมอ่องไปเลยทีเดียว

จากที่เราได้แต่จินตนาการ แต่เมื่อลงมือปฎิบัติจริงแตกต่างกันสุดขั้ว ถึงแม้จะมีบางส่วนคล้าย ๆ กับที่เราจินตนาการไว้ก็เถอะนะ

แต่ก่อนหน่ะ พี่คิดแบบตาชั่งเอียงข้างเดียว คิดแบบสุดโต่ง ถ้าไม่ขาวไปเลย ก็ดำไปเลย ถ้าไม่ถูก ก็ผิด แต่เดี๋ยวนี้พี่เริ่มเปิดใจมากขึ้น หลังจากที่ใช้แต่สายตามานาน มองทุกอย่างที่มันเป็นจริงและเกิดขึ้น เข้าใจทุกอย่างที่มันเป็นไปตามธรรมชาติของวิถีชีวิตและสังคมแต่ละคน ที่สำคัญเราสามารถเป็นเบรคห้ามมือ ห้ามล้อให้คนอื่นได้ด้วย

พูดงี้อาจจะงง ขอยืมคำพูดจากเจ้าของเบนซ์ทองหล่อหน่อยละกัน เค้าบอกว่า คนเราใช้ชีวิตแบบเหยียบคันเร่งลูกเดียว พุ่งตรงไปข้างหน้า จนลืมแตะเบรค พอเจอเหตุการณ์อะไรหน่อยก็เหมือนจะเป็นจะตายเสียให้ได้

เค้าว่า ธรรมะ เสมือน เบรค คอยช่วยผ่อน ความเร็วและแรง

ส่วนตัวพี่ที่ว่าเหมือนเบรคมือประจำบ้าน เพราะเวลาที่พ่อหรือแม่เบรคแตก ก็มีพี่คอยเป็นตัวช่วยอย่างไรหล่ะ ^^ เอ๋แล้วถ้าพี่เบรคแตก ใครจะช่วยหว่า 555 (อ้ะนึกออกแล้วก็ให้น้องก๋าช่วยงัย แจ่มไปเลย)


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:05:04 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
อ่านเนื้อหาเรื่องราวกับสิ่งที่พูดให้น้องๆในวันปัจฉิมนิเทศ
เยี่ยมมากเลยค่ะ ไม่ใช่แค่น้องๆที่กำลังจะจบได้รับแง่คิด
หรือข้อคิดที่ดีๆนี้ไป คนที่เข้ามาอ่านที่บล๊อกก็ได้ไปด้วย
ขอขอบคุณมากค่ะที่เขียนไว้ให้อ่านเป็นบันทึกประวัติความทรงจำ
ยังม้ประโยชน์ต่อสาธารณชน ได้ถ่ายทอดให้แง่คิดมุมมองไว้เป็นประสบการณ์นำไปปรับใช้ได้ดีมากทีเดียวค่ะ
โหวต Diarist blog คร้า !


โดย: tui/Laksi วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:06:47 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 1 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

==========================


มาแปะหัวใจ๋ หื้อหมิงหมิงครับ..

ไม่รู้ต้องถามเนอะ.. จะได้รู้ แต้ๆตวย..

แต่สมัยก่อน บ่อค่อยกล้าถามครูในห้อง ต้องไปถามเอาตางนอก ..แฮะๆ..

แต่ก็ยังดี .. ยังถามผ่องเนอะ..อิอิ..


โดย: Nongpurch วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:08:50 น.  

 
ปญฺญาย ติตฺตํ ปุริสํ ตณฺหา น กุรุเต วสํ
คนที่อิ่มด้วยปัญญา ตัณหาเอาไว้ในอำนาจไม่ได้

ใช้สติและปัญญาในการแก้ไขทุกปัญหา ตลอดไป...นะคะ



คุณก๋า...คะ

พี่ว่า คุณก๋าลาออกจากงานที่บ้านเหอะ
ไปเป็นอาจารย์สอนเด็ก สอนวัยสะรุ่นดีกว่า
เท่าที่อ่านมา คุณก๋าพูดได้ดีกว่าอาจารย์โดยอาชีพเสียอีก
จิตวิญญาณของความเป็นครูเต็มเปี่ยม พูดด้วยใจจริง ๆ

แต่ก็นะ...
ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นครูโดยอาชีพ เราก็สมารถทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้
อย่างที่คุณก๋าทำอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ดีมาก...ค่ะ
คิดว่า เด็ก ๆ จะต้องได้รับอะไรไปบ้าง ไม่มากก็น้อยแหละนะ

ยุคใด สมัยใด เด็กไทยเปลี่ยนแปลงน้อยมากในเรื่องให้ตั้งคำถาม
เรื่องที่จะให้ถามโน่นนี่ ที่เป็นประโยชน์น่ะ ไม่ค่อยจะกล้าทำกันหรอก
แต่ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระ ล่ะก็เก่งขนาด
อันนี้รวมทั้งตัวพี่สมัยเป็นเด็ก ๆ ด้วย...555

พูดไปพูดมา ก็ต้องบ่นเรื่องระบบการศึกษา (อีกแระ)
บ่นมาตั้งแต่สาวยันแก่ และก็คงต้องบ่นต่อไปจนกว่าจะตาย..อิ อิ

เมื่อวานเหลนน้อย โทรศัพท์มาหา
พี่ถามว่ามีธุระอะไรกับยาย ถึงได้ให้แม่โทรมา
เค้าว่า น้องมายด์ธุระไม่เป็นหรอกค่ะ
น้องมายด์จะบอกคุณยายว่า พรุ่งนี้น้องมายด์จะไปโรงเรียนแล้วเจ้าค่ะ

คุยกันอยู่สักพัก แม่เธอมาคุยต่อ
ปรากฏว่า แค่จะไปมอบตัว คุณเธอก็ตื่นเต้นเสียจนออกหน้า
แม่เธอก็กังวลว่าลูกสาวตัวน้อยจะไม่ยอมใส่ชุดนักเรียน
เพราะมันเป็นสีแดง สีที่เจ้าตัวน้อยไม่ชอบเอามาก ๆ

พี่ก็เลยออกไอเดียล่วงหน้าไปว่า
ถ้าเธอไม่ยอมใส่ ก็จับแก้ผ้าไปโรงเรียนล่ะกัน
พอถึงโรงเรียน เห็นคนอื่น ๆ เค้าใส่กัน เดี๋ยวก็ใส่เองแหละ..555

วัน-เวลา ผ่านไปเร็วมาก...นะคะ
เผลอแป๊บเดียว เจ้าสัวอ้ายจะ ๔ ขวบแล้ว
ส่วนเจ้าน้องมายด์ก็จะ ๓ ขวบ จะเข้าโรงเรียนกะเขาแล้ว

ส่องกระจกดูหน้าตัวเองแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า..
เออ...เวลามันผ่านไปเร็วจริง ๆ (ว่ะ)....



โดย: พรหมญาณี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:13:28 น.  

 
สวัสดึค่ะน้องก๋า
เป็นปัจจิมนิเทศน์ ที่มีประโยชน์มากค่ะ...

น้องหมิงๆ จะเติบโตเป็นคนที่มีคุณธรรมและคุณภาพ
แน่นอนค่ะ


โดย: พี่นิด ชีวิตมีลีลา IP: 203.156.186.248 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:15:06 น.  

 
สวัสดีค่ะ

เขาเลือกวิทยากรที่มาให้ปัจฉิมนิเทศไม่ผิดหวังเลย

ได้เนื้อหาสาระปลูกฝังคุณธรรมได้ดีมาก เยี่ยมจริงๆ

คุณพ่อคนดี คนเก่ง โหวตให้เลยนะคะ


โดย: พรไม้หอม วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:15:25 น.  

 
มองเผินๆ เหมือนคุณก๋ากำลังว่าความเลยค่ะ ท่านผู้พิพากษาวีระกิจ ...

ร้้วของการทำงาน ต่างจากรั้วโรงเรียนมากๆค่ะ
เวลาเรียน เราเลือกวิชาที่ชอบเรียนได้ แต่กับการทำงาน หลายครั้งเราเลือกงานไม่ได้ นอกเสียจากจะเป็นนายตัวเอง



โดย: Love At First Click วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:24:01 น.  

 
วันนี้เราเดินออกจากวิทยาลัย
แล้วไปกราบหลวงพ่อ
ขอร้องให้ท่านช่วยให้เราเรียนจบ
ยังไงก็ไม่จบนะครับ
เพราะหลวงพ่อท่านเขียนโปรเจ็คไม่เป็น เขียนแบบไม่เป็น
.
.
.
ชอบอะค่ะ


โดย: bee_บี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:24:45 น.  

 
หมิงหมิงเก่งมากเลยนะคะ สมแล้วที่มีครูดีแบบพี่ก๋าและมาดามค่ะ


โดย: bee_บี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:25:28 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณครูวีระกิจ

มาดคุณครูเลยนะคะ เตรียมความพร้อมก่อนสอนเป็นอย่างดี อุปกรณ์การสอนก็มี
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ นิทานเด็กๆแต่สามารถนำไปปรับใช้กับวัยรุ่นก็ได้ นี่คือครูมืออาชีพแต่เอทำไมไม่ยอมเป็นครู

ก่อนจบยังสอดแทรกธรรมะแท้ๆให้เด็กพิจารณาได้อีก หลายบทบาทจริงๆ หมื่นตา

นับถือค่ะ


โดย: พี่หมู IP: 125.27.15.217 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:31:48 น.  

 
หวัดดีเ้จ้าอ้ายก๋า

คนที่เอาแต่เงียบ ก็จะบ่อได้อะยังแต้เจ้า
ต่างกับคนที่เอาแต่ ถาม

ยิ่งถามนัก ก็ยิ่งรู้นักเหมือนกัน
ที่ยิ่งอ่านนัก ก็ยิ่งรู้นักเต่าอั้น

ละอ่อนต้องเรียนรู้ที่เอาความรู้มาโดย บ่อได้
ไปหวังแค่ วุฒิบัตร !!


เห็นอ้ายก๋าไปทุกปีเลยอี้ ละอ่อน ก็หลับทุกปีก่อเจ้า

555








โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:34:32 น.  

 

อีกบทบาทนึง ลืมไป. คุณครูแนะแนว


โดย: พี่หมู IP: 125.27.15.217 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:35:26 น.  

 
สวัสดีคะ เข้ามา กรี๊ดดดด ท่านประธานในพิธีก่อน
สักประเดี๋ยวจะกลับมาอ่านเรื่องราวโดยละเอียด
ตอนนี้ขอพี่ไปทะเลาะ[ตบตี] กับนายต่อก่อนนะคะ
ไม่รู้เป็นไร คนอื่นว่างเดินไปเดินมาไม่รู้จักจิกกัดใช้งาน
จิกๆๆๆ กัด ๆ ใช้แต่พี่นี่หล่ะ เหอๆ


โดย: บ่งบ๊ง วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:39:24 น.  

 

 






สวัสดีวันพุธค่ะ คุณก๋าและหลานหมิงหมิง เพิ่งกลับจากไปเจาะเลือดและ x-ray มา พรุ่งนี้ต้องไปนอนรับคีโมอีกแล้ว คิดถึงเสมอนะค่ะ


โดย: KeRiDa วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:50:31 น.  

 
พี่ก๋าสวัสดีค่ะ

น้องอุ๊ไม่มีความคิดเห็นใดๆค่ะ

เพราะพี่ก๋าตอบไว้ทุกอย่างแล้วค่ะ

ทุกอย่างที่พี่ก๋าว่ามาคือความจริงทั้งสิ้นค่ะ

โชคดีเป็นของเรา อยู่ที่เราจะทำค่ะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:01:05 น.  

 
ต้องขอยืมบางประโยคจากคำพูดพี่ก๋าไปเล่าให้น้องๆฟังบ้างแล้วค่ะ ปลายเดือนนี้ภาก็ได้รับเชิญให้ไปพูดให้น้องๆที่ม.ราชภัฎภูเก็ตฟังเหมือนกัน อาจารย์ให้หัวข้อมาแล้ว เกี่ยวกับว่าทำอย่างไรให้ได้งาน เห็นหัวข้อแล้วก็คิดคำตอบได้เลย แต่จะขยายความให้ครบหนึ่งชั่วโมงยังไงนี่สิคะพี่ก๋า
ปวดหมองค่ะ


โดย: coji IP: 223.207.196.7 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:04:27 น.  

 
สวัสดีครับพี่หมู


งานพูดให้นักศึกษาฟัง
เป็นโจทย์ที่ผมหนักใจเสมอนะครับ 555

เพราะผมเองเรียนมาไม่เหมือนนักศึกษาทั่วไปครับ

ทะเลาะกับอาจารย์มาโดยตลอดครับ 555
เพราะฉะนั้นผมไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเพื่อนๆในรุ่นสักเท่าไหร่

ส่วนใหญ่เราถูกสอนว่าเชื่ออาจารย์
เรียนไปให้จบ แล้วก็รับปริญญา

แต่ผมหวังมากกว่านั้น

เลยเรียกร้องสูงมากจากการศึกษา....


เล่าไว้อีกรอบก็ได้ครับ

สมัยที่ผมเรียนจบแล้วทำงานที่ร้าน
วันหนึ่งน้องสาวเล่าว่าจะมีฤาษีมาเป็นวิทยากรที่ มช.
ผมสนใจเลยใส่ชุดนักศึกษาไปแอบนั่งฟังด้วย
วิทยากรพูดได้น่าสนใจมากครับ
ท้ายชั่วโมงผมเลยถามๆๆๆๆ

นักศึกษาในห้องก็เริ่มกระสับกระส่าย ไม่ถาม
แล้วก็คงหิวข้าวกัน 555

ผมก็ถามต่อ
จนครูบอกว่าปิดชั้นเรียนก่อน
แล้วค่อยลงมาคุยกัน
ผมก็เดินไปถามไปคุยกับท่านอยู่พักใหญ่

ท่านมองหน้าผมแล้วพูดว่า

"ผมว่าคุณไม่ใช่นักศึกษาหรอก"

"ทำไมล่ะครับอาจารย์" ผมถาม

"คุณถามมากเกินไป" 555


ผมอยากเห็นนักศึกษาถาม
ถามมากๆ ถามจนชนิดที่ว่าครูตอบไมไ่ด้น่ะครับ

อยากได้บรรยากาศอย่างนั้น
มากกว่าการนั่งฟังเงียบๆ
โดยไม่ถามหรือเสนอความคิดเห็นอะไร






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:37:37 น.  

 
มาแล้วค่ะศิษย์พี่

ใช้เวลาช่วงพักแวะเข้ามาอ่าน


โดย: minporee วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:44:28 น.  

 
เป็นข้อคิดที่ดีมากๆเลยนะครับ
อิอิ ผมบางทีเวลาทำอะไรไม่เก่งมักจะหาข้ออ้างตลอดเลย อ่านเรื่องนี้ก็เตือนใจตัวเองได้ดีเลยครับ

จะว่าไปเด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่ค่อยอดทนเท่าไหร่ ถ้าทำงานนอกเหนือจากงานตำแหน่ง หรือหัวหน้าให้งานมากกว่าปกติโดยที่เงินเดือนเท่าเดิม ก็จะรู้สึกว่าบริษัทเอาเปรียบ หัวหน้าไม่ดี แล้วก็ย้ายงานกันไป หาที่ๆได้เงินเดือนมากกว่าเร็วๆ


การแยกเรื่องคุณค่า กับ มูลค่า

จะเก็บเรื่องนี้ไว้สอนน้องๆ ในบริษัทบ้างครับ



โดย: กลิ่นดอย วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:48:20 น.  

 
^
^
ข้างบนนั่นมันเด้งไปเอง ยังเม้นท์ไม่เสร็จเลย

คอมมีปัญหานิดหน่อยค่ะ

อ่ะนะเม้นท์ต่ออีกนิด
.
.
เป็นคำปัจฉิมที่น่าประทับใจมากจริง ๆ เลยค่ะ (แล้วอาจารย์ที่นั่งฟังด้วยเค้ามีคำถามอะไรกับศิษย์พี่บ้างรึป่าวค่ะ)

วันนี้อากาศที่บ้านนอกร้อนสุด ๆ เลยค่ะ


โดย: minporee วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:52:41 น.  

 
555

สงสัยคงเป็นกระแสน่ะค่ะ

เหมือนเครป (แผ่นๆ มีไส้) สมัยหนึ่งที่ฮิตกันไปทั่วเหมือนกัน


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:53:09 น.  

 

ปรบมือดังๆ ให้วิทยากรค่าาา


โดย: พี่ฟ้า... (kuvasu ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:55:14 น.  

 

คุณก๋า...คะ

ถ้ายัยตัวเล็กร้องไห้ล่ะก้อ...เป็นเรื่องเชียวแหละ
เพราะหล่อนไม่ร้องไห้อย่างเดียว
หล่อนจะคร่ำครวญหวนไห้ พร่ำพรรณาไปด้วยอ่ะ...จิ

เคยเห็นน้องมายด์ร้องไห้ครั้งหนึ่ง
ร้องไป คร่ำครวญถึงความรันทดในชีวิตไปด้วย
กว่าเธอจะครวญจบ ใช้เวลานานพอสมควรทีเดียว

น่าสงสารพ่อแม่หล่อน...จัง...

ป.ล. พวกเดียวกับลูกสาวของพี่
ยัยคนนั้น ตอนเด็ก ๆ ร้องไห้ที พร่ำจนผลอยหลับไปเลย
ที่ผลอยหลับน่ะ ตัวพี่..นะคะ ไม่ใช่คนพร่ำ...555



โดย: พรหมญาณี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:00:18 น.  

 
มีคนไม่จบด้วยเหรอคะ เฮ้อ เหนื่อยแทนเลยอะงับ


โดย: bee_บี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:16:00 น.  

 

มาเป็นเด็กนักเรียนนั่งฟังปัจฉิมนิเทศด้วยจ้ะ

ทำอะไรก็แล้วแต่ อดทน ตั้งใจทำให้จริงๆ จังๆ

พี่ก็หวังว่าจะมีคนแบบนั้นมากขึ้น เผื่อสังคมจะได้เปลี่ยน...

นึกถึงสำนวนนี้เนาะ มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่...มันก็ยังมีอยู่ทั่วนะคุณก๋า





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:24:24 น.  

 
แล้วก็ดีแล้วงับที่พี่ก๋าเอามา post เตือนสติb_bee ได้เยอะเลยค่ะ


โดย: bee_บี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:24:38 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยค่ะพี่
เดี๋ยวจะลองจัดลำดับดูค่ะ


โดย: coji IP: 119.42.81.134 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:37:35 น.  

 
แวะมาทักทายตอนบ่ายๆค่ะุคุณก๋า
มาปัจฉิมนิเทศด้วยคนค่ะ ได้อะไรไปเยอะเลยค่ะ
ไม่มีคำถามเช่นกัน เพราะว่าไม่รู้จะถามอะไรดี
ในนั้นมีคำตอบที่อยากถามหมดแล้ว..


โดย: phunsud วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:40:02 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า มาดาม และน้องหมิงหมิง กะเข้ามาบล็อกแป๊ปแล้วจะรีบไปเข้ามาบล็อกคุณก๋าแล้วประทับใจมากวันนี้ โดยเฉพาะแนวคิดของนิทานที่เล็กไม่เคยเอามาวิเคราะห์แบบนี้มาก่อน เยี่ยมมากค่ะ กับเนื้อหาที่คุณก๋าพูดมาทั้งหมด มีความรู้และประโยชน์มากมาย ไปก่อนนะคะ อยากพูดอีกเยอะแต่โดนคุณแฟนเร่งแล้วจะรีบออกไปธุระคะ ไปก่อนนะคะ
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog


โดย: หญิงแก่น วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:42:03 น.  

 
สวัสดียามบ่ายครับคุณก๋า

ตอนนี้ลูกชายยังงงๆอยู่ครับ เทคนิคก็อยากเรียน อยากเป็นช่าง ม. 4-5-6 ก็อยากสอบเข้าดู ทำเอาพ่อปวดเฮด ไม่รู้จะไปทางไหนแน่ลูกผม

แต่สายสามัญคงจะเรียนหนักไปหน่อย เขาไม่ค่อยอ่านตำรานะ ผมเลยอยากให้ลูกมุ่งไปทางวิชาชีพมากกว่า อยากต่อปริญญาตรีก็ค่อยว่ากันภายหลัง


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:59:25 น.  

 
อ่านจบแล้ว ได้อะไรเยอะเลยค่ะ
ไปทำงานก่อนนะคะ



แอมอร



โดย: peeamp วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:51:44 น.  

 
อ่านจบทุกคำเลยครับน้องก๋า ^^

ปลื้มใจกับคำสอนทุกๆคำครับ

เมื่อก่อนคนหาคุณค่าให้กับตัวเองได้ไม่ยาก

แต่สมัยนี้ต้องสอนมากกว่าเดิม

เหมือนว่าความอดทน ความเข้มแข็ง มันหายไปๆ

จนเราต้องทบทวนให้ฟังว่านี่คืออะไรๆ

ผมเองก็เหนื่อยตอนสอนน้องๆที่มาฝึกงาน

รวมทั้งน้องๆที่ห้องที่ทำงานกันแบบรักสบาย

ขอไปที โดยไม่คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

อ่านข้อความน้องก๋าแล้วก็สบายใจที่มีคนสอน

และคิดอธิบายคำสอนได้อย่างแจ่มแจ้งนะครับ

จะขอไปให้น้องๆที่มาฝึกงานได้อ่านด้วยครับ ^^

แอบโหวตให้นะครับ อิอิ







โดย: วนารักษ์ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:11:03 น.  

 
ชอบจัง รีบมาอ่าน เด๋วต้องมาเก็บรายละเอียดอีกรอบ

เห็นนักศึกษาแล้ว หน้านิ่งดีค่ะ ^^

สรุปว่า..
เด็กฮาตอนสรุปนะค่ะ พี่ก๋า


โดย: Gunpung วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:17:31 น.  

 
มาอ่านคะ หมิง หมิง คงงง
ทำไม ขโมยถึออยู่อย่างร่ำรวยในที่สุด
ค่ายัีกษ์คายด้วยนะเออ



โดย: ปันฝัน วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:28:57 น.  

 
555 แล้วนักศึกษา ไม่ถามเหรอครับ ว่า บล๊อก ของ
พวกเราคืออะไร

ผมว่าดีนะครับ นักศึกษาจะได้รู้ถึงโลกภายนอก

บางทีเด็กจบมา ใหม่ เข้าทำงาน พอคุยไปคุยมาเห็น
ว่างานที่มอบให้ทำ ไม่อยากจะทำ อยากจะเป็นผู้
บริหาร แต่ไม่รู้เป้าขององค์กรที่ทำ ทำเพื่ออะไร

เพราะถูกอบรม ให้เชื่อมั่นต่อวิชาชีพ ต่อวิชาที่เรียน
มาว่า เหนือกว่าคนอื่น..... คงต้องหาทางให้เขา
เข้าใจโลกภายนอกต่อไปครับคุณก๋า

ดีครับที่คุณก๋ามีโอกาศได้เล่าประสพการณ์ให้น้อง ๆ
เขาฟัง.


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:18:55 น.  

 


กาแฟ...ยามบ่ายสักแก้ว ด้วยกันไหมจ๊ะ

*~*~*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*




เดือนแห่งความรัก คนโสดก็ยังโสดต่อไป เพราะครูภาษาไทย สอนแต่

สระอิ,สระอา, สระอุ, สระอู แต่ไม่ยอมสอนให้เรา .. "สละโสด"


..HappY BrightDaY..



โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:34:48 น.  

 
ตามมาดูว่า มีใครนั่งหลับป่ะ
จะเอาไม้ไปตีค่า
5555555555555555


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:50:02 น.  

 
เรื่องวันนี้ซอบแต๊ะ ๆ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:18:25 น.  

 
บางคนจบใด้เกียตินิยมอันดับหนึ่ง
แต่ต๋อนมายะก๋านแล้วบ่าผ่านโป
ปล.กูเกิ้ลจ่วยปี้สองก๋านบ้านลูกหมั่นขนาด
เพราะตี้แม่เฮียนมามันลงหม้อไปแล้ว
ก๋านบ้าน ก๋านรำวงนอก วงใน คือจะใด
5555 จำบ่าใด้แล้ว กูเกิ้ลจ่วยใด้ 555

emo


โดย: BongKet วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:57:29 น.  

 
หวัดดียามเย็นครับ

น้องก๋าทำได้ดีมากครับ
ถ้าสิ่งที่พูดวันนั้นสามารถปรับเปลี่ยนทัศนะให้ดีขึ้นได้
ผมว่าน้องก๋าได้บุญมหาศาล

พี่ดิ่งรู้สึกว่าเด็กๆสมัยนี้สอนยากกว่าเก่ามาก
คงเป็นเพราะเขาเป็นตัวของตัวเองและเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป
วินัยหย่อนยานและไม่มีสมาธิ

บ่นตามประสาครูแกร่ๆ...แต่ไม่ล้าสมัยนะ 5555+
ผมให้รุ่นพี่เค้ามาแนะนำน้อง...รู้สึกพูดภาษาเดียวกันดีกว่าครู



โดย: Dingtech วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:10:15 น.  

 
กลับมาแว้วว หลังจากเขียนทิ้งค้างไว้ตั้งแต่เที่ยง นี่ก็พึ่งจะว่าง เลยต้องเริ่มต้นอ่านใหม่

อ่านไปก็ได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก มาถึงตรงที่ว่า บางคนได้รับการบ้านมาก็ทำทันที บางคนทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ บางคนทิ้งไว้จนหมดเทอม ที่บ้านเนี่ยเห็นอยู่บ่อย พี่ได้งานมาก็ทำทันที ส่วนน้องชายนั้นไซร้ จะทำต่อเมื่อถึงวันกำหนดส่ง

แล้วพอเข้าวัยทำงาน พี่ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ และน้องชายก็ยังคงเดิมมิเปลี่ยนแปลง

เรื่องความชำนาญในงาน อย่างสล่า ที่ก๋าว่าไว้นั่นหล่ะ ช่างปูน ช่างไม้ ช่างปั้น ที่ไม่ได้รับการศึกษาตามระบบการศึกษาในโรงเรียน แต่ได้รับการส่งต่อจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น มักจะเก่ง เพราะลงมือปฎิบัติมาแล้วเป็นร้อยครั้ง พันครั้ง ความผิดพลาดย่อมมีน้อยหรือไม่มีเลย

อย่างน้องก๋า น่าจะชำนาญการดูลักษณะหนัง ที่จะทำกระเป๋า มากกว่าพี่อย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน พี่ก็คงชำนาญการซื้อปลามากกว่า ก๋า อย่างแน่นอน

แหมวันนี้ได้ฟังนิทานก่อนนอนซะด้วย แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ฟังก็บ่อยแต่ไม่เคยคิดลึกซึ้งขนาดนั้นเลย นั่นซิเนอะแจ็คทำผิดนิแต่กลับได้ดีมีสุข - -"


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:52:34 น.  

 
พี่ก๋าตื่นตีห้ามาอัพบล็อก โอว แม่เจ้า หนูตื่นเจ็ดโมงไปเรียนยังลุกไม่ค่อยขึ้นเลย

เรื่องขอหลวงพ่อให้เรียบจบพีก็ชอบพูดแบบนี้ แบบเดียวกันเลย

เรื่องงานหนูยังไม่อยากคิดเลย หนูไม่ชอบทำงานบริษัท ไม่ชอบกฎ ระเบียบ ไม่ชอบต้องทำอะไรที่ฝืนใจ หรือพูดง่ายๆไม่ชอบทำงานอะ


โดย: น้องผิง วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:01:34 น.  

 
ได้เข้ามาฟังพี่ก๋าเลคเชอร์ หนนี้จัดหนักเลยนะครับ ยาวจุใจ
ที่ทำงานผมสั่งวันนี้ ให้ส่งเมื่อวานครับ แทบต้องนั่งไทม์แมชชีนกลับไปทำมาส่งกันเลยทีเดียว
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์เป็นนิทานที่แย่จริงๆ ยักษ์แค่เกิดเป็นยักษ์ก็ผิดตลอดอะ ไม่ว่าจะรามเกียรติ์ พระอภัยมณี เทพนิยายกรีก นิยายกริม นิยายเดนส์ ทั้งหลาย
น้องหมิงเก่งจังครับ ตัวแค่นี้แยกผิดชอบชั่วดีได้เด็ดขาดมาก ^^


โดย: ชีริว วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:07:51 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์ เข้ามาฟังเลคเชอร์ค่ะรับรองได้อย่างหนึ่งว่าถ้าได้มาเป็นอาจารย์ที่นี่จะต้องได้ค้นหาคำตอบให้เด็กทุกวันเลยค่ะ เพราะเด็กที่นี่จะมีแต่ถามๆๆๆค่ะดีเหมือนกันนะคะ ทำให้ชั่วโมงการเรียนมันสนุกขึ้นและบางทีเราก็ได้อะไรใหม่ ๆ จากการถามนี่แหละค่ะ

ปรบมือดังๆให้กับพี่ก๋าในชั่วโมงนี้ค่ะ เยี่ยมไปเลย

ปล.หมิงๆน่ารักจัง ตัวแค่นี้รู้จักผิดถูกแล้ว ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นแน่นอนค่ะพี่ก๋า


โดย: thainurse@norway วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:21:40 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ...หายไปนานเลย...งานยุ่ง ชีวิตยุ่ง ขนาดวันนี้ลาพักผ่อนยังไม่มีโอกาสเข้าเนท...เพิ่งจะว่างแต่ก็คงได้แป๊บนึงล่ะค่ะ...

พี่อิจฉาน้องๆ ทุกคนที่ได้คำสอนดีๆ ของคุณกะว่าก๋า แต่ก็น่าเสียดายถ้าเด็กบางคนฟังบ้างไม่ฟังบ้างแต่เท่าที่ดูจากรูป ได้เห็นน้องๆ ทุกคนตั้งอกตั้งใจฟัง เท่าที่อ่านจากเนื้อหาแล้ว ทุกประโยคเร้าใจน่าสนใจเหมือนขุดสิ่งที่อยู่ลึกๆ ในจิตใจของมนุษย์ออกมาแฉให้หมดเปลือกแบบเถียงไม่ออกเพราะทุกคำพูดมันคือความจริงที่มาบอกกล่าวให้น้องๆ ได้คิดตามและเก็บไปคิดว่าหลังจากนี้จะเลือกทางเดินของตนเองอย่างไร

ที่สำคัญอึ้งกับการแปลนิทานแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ที่เคยอ่านมาตั้งแต่เด็กๆ อ่านกี่เที่ยวได้แค่มนุษย์เราเก่งเนอะฆ่ายักษ์ได้เท่านั้นเอง ลืมหาเหตุผลของเนื้อหาวันนี้คิดตาม..เออ..เนอะแจ๊คเลวได้ใจ คิดตามน้องหมิง่ หมิงคนเก่งเหมือนคุณพ่อที่อายุแค่นี้รู้จักคิดตาม ผู้ใหญ่อย่างพี่เลยอายน้องหมิง หมิง...555555....

พักนี้พี่เหนื่อยกับงาน กับวงจรชีวิตตัวเอง..ตอนนี้คิดอยากจะลาออกจากงาน..แต่ก็เสียดายเวลาเสียดายเงินที่กำลังไปได้สวย..กลัวการตัดสินใจแบบกลัวอนาคต ทำงานต่อเหนื่อยกับการเดินทางไปทำงานที่อาจมีผลทำให้เกิดปัญหากับคนภายหลัง ส่วนงาน กับ คน เป็นอันดับรอง เพราะสองอย่างหลังพี่บริหารมันได้ มันอยู่ที่เราไม่ได้อยู่ที่ใคร (บ่นอีกแว๊ววววว...555555...) ฝันดีทุกคืนนะคะ รูปน้องหมิงๆ ทำให้พี่ยิ้มได้ทุกรูปค่ะ...555555...



โดย: deeplove วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:26:14 น.  

 
โอ มาหาได้ก่อนหกทุ่ม
พักนี้เน็ทไม่ค่อยดีค่ะคุณก๋า
พี่นาถเลยนอนอ่านหนังสือเพลินค่ะ


พูดเก่งจัง พูดได้ครอบคลุมไปหมด
แล้วอาจารย์แนะแนวเขาจะทำไงล่ะทีนี้...



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:38:58 น.  

 
วันนี้เข้ามามืดอีกแล้ว แถมอ่านยังไม่จบ ด้วยว่าดูแล้วยาวมาก
แถมเป็นอะไรที่อ่านแล้วรู้สึกดี แต่เวลาจำกัด เลยขอแปะไว้ก่อน
พร้อมแปะหัวใจให้ด้วย เพราะชอบที่น้องก๋าพูดจัง
จะหาเวลามาอ่านวันหลังเด้อ...


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:20:40 น.  

 
เจ๋งอ่ะคุณก๋า
ถ้านักศึกษาเค้าฟังแล้วคิดตามเค้าจะได้อะไรดีดีจากที่คุณพูดเยอะเลยค่ะ
แต่แจ๊กผู้ฆ่ายักษ์เนี่ยเกือบจะลืมไปแล้วน่ะค่ะเนี่ย
ว่าเรื่องเป็นยังไง ดีใจที่ได้อ่านอีกครั้ง


โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:18:06 น.  

 
ความจริงพี่มองเห็นความเป็นตัวตนของคุณกะว่าก๋ามาตั้งแต่เข้ามาอ่านที่บล๊อกนี้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว แต่ก็นั่นล่ะเห็นจากตัวอักษรและกิจกรรม ไม่ได้เห็นอะไรลึกซึ้ง..แต่เมื่อคุณกะว่าก๋าเปิดประเด็นนี้ขึ้นมาจาก คม. ที่บล๊อกพี่ๆ เห็นด้วยค่ะว่าอาชีพการทำหนังสือกับการรับบรรยายเป็นนักพูด รับรองว่าคุณทำได้ดีและมั่นคงแน่นอน พูดได้คำเดียวว่าเหมาะกับคุณมากๆ ค่ะ...

แหะๆๆ ว่าจะรีบเข้ารีบออก แต่ยังออกไม่ได้เพราะต้องหาอะไรบางอย่างจากในนี้ จนโดนแม่เตือนแล้วเตือนอีกให้ทานข้าวซะที..55555...สงสัยคงพักใหญ่ล่ะค่ะ..ฝันดีนะคะ



โดย: deeplove วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:21:35 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 3 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
...
ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีดีนะคะ พี่ก๋า
...
มาส่งเข้านอนนะคะ ฝันดีค่ะ พี่


โดย: Nissan_n วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:23:27 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 3 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
-------------------------
คุณก๋าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิไปแล้วอิอิอิ


โดย: poepum วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:38:04 น.  

 
วันนี้ เรื่องของพี่ก๋า ถูกใจb_bee มากเลย ถึงหัวใจจะใหญ่แล้ว ก็ยังอยากเพิ่มให้อีกงับ


โดย: bee_บี วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:50:52 น.  

 
พี่สนับสนุนและเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
......

ในการเริ่มต้นทำงาน
สิ่งที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของเงินเดือน
ไม่ใช่เรื่องของการประสบความสำเร็จเร็วๆ

แต่เป็นเรื่องของการเอาจริงเอาจัง
เป็นเรื่องของความมุ่งมั่นและการพิสูจน์ตัวเอง

ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้เราเป็นคนที่มี “คุณค่า”
แล้วถ้าน้องๆไปทำงานที่ไหนก็ตาม
แล้วทำงานอย่างคนที่มี “คุณค่า”

เมื่อทำงานอย่างมี “คุณค่า” ไปเรื่อยๆ
ถึงวันหนึ่งคนที่มี “คุณค่า” มากๆ
ก็จะออกไปสร้าง “มูลค่า” มากมายได้ด้วยตัวของเขาเอง
.........

สิงนี้เป็นสิ่งที่พบมาด้วยตัวเอง กับการสร้างคุณค่าของตัวเราเอง อย่ากลัวที่จะเรียนรู้และทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้ลงมือทำและเรียนรู้จากการปฏิบัติจนชำนาญ

ตอนนี้คุณก๋าต้องไปพูดทุกปีแล้วใช่มั้ยค่ะ เป็นสิ่งที่ดีที่จะได้สอนให้น้องๆ มีแนวคิด ดีๆ ก่อนจบการศึกษาไปเจอชีวิตจริงค่ะ


โดย: Maew-Tua-Lek วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:57:36 น.  

 
เจนได้ตามไปอ่านบล็อกเก่าๆของเจน ที่คุณกะว่าก๋าได้ไปcommentไว้ทุกอัน

(จริงๆทุกอันเป็นกระทู้ที่ลงไว้ในห้องชานเรือนมาก่อน)

อยากบอกว่าเจนได้แนวความคิดดีๆหลายอย่าง รวมทั้งคำที่ให้แง่คิดในด้านที่ไม่เคยมองมาก่อนเป็นอย่างมาก

ถ้าเจนจะเขียนบทความอะไรแล้วจะขอยืมไปใช้บ้างพอจะเป็นไปได้ไหมคะ

ส่วนบทความที่แล้วของคุณกะว่าก๋า เจนได้นำเอาไปลงไว้ใน

//www.pantip.com/cafe/family/topic/N11740230/N11740230.html

เรียบร้อยแล้วคะ



โดย: JanE & IK วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:11:41 น.  

 
เพื่อนดอยดูจะเข้าใจว่ามีหน้าที่อะไรในครอบครัว
มีสิทธิ มีเสียงได้เท่าใด ดูเหมือนจะไม่ทุกข์มากนะครับ

พื้นฐานครอบครัวที่ต่างกัน ใช้บรรทัดฐานของตัวเองไปตัดสินไม่ได้จริงๆเลย อย่างครอบครัวดอยสิทธิการตัดสินใจอยู่ที่เจ้าตัว สุขทุกข์ให้ตัวเองเลือกเอง

ในขณะที่เพื่อนสิทธิการตัดสินใจอยู่ที่พ่อแม่

เพื่อนผมแม้จะหัวอ่อนแต่ปรับตัวเข้ากับคนได้เก่ง แม้จะถูกเลือกให้แต่โอกาสใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็คงมีสูงนะครับ





โดย: กลิ่นดอย วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:16:44 น.  

 
เยี่ยมมากคับ
มูลค่า กับ คุณค่า ....สังคมไทยยังให้ลำดับความสำคัญของคำแรกมากกว่าคำหลัง....จึงเป็นเหตุให้เยาวชนสับสน
และจะถ่ายทอดความสับสนไปยังคนรุ่นหลังอีก


โดย: biocellulose วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:25:13 น.  

 


คื น นี้ ฝั น ดี น ะ ค ะ



ส่งเข้านอนค่ะคุณก๋า


โดย: PhueJa วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:26:26 น.  

 
emoฝันดีค่ะพี่กำ

รังเรข(-เรก)ว.มีลวดลาย,งดงาม
หมายถึงมีลวดลายงามจนไม่อาจเชื่อว่ามือวาดมาค่ะพี่กำ


โดย: ญามี่ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:28:59 น.  

 
เรื่องแปะหัวจาย อ๋อ จ๊ะ ๆ

อาศัยเพื่อนสมาชิกมาบอกถึงได้รู้เนอะ

อย่างนั้นพี่บอกมั่ง ว่าพี่มาแปะที่นี่ทุกวันเลยละก๊าบ


โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:23:26 น.  

 
เด็กไทยส่วนใหญ่ไปแบบนี้จริงๆนะคะ พอจบประโยคที่ว่า สงสัยอะไรไม๊ มีอะไรจะถามไม๊ มีแต่ความเงียบเข้าครอบงำ
สมัยเด็กๆนุ่นก็เป็นค่ะ กลัวถามคำถามจะเปิ่นบ้าง กลัวโดนเพื่อนแซวบ้าง ไม่อยากเป็นจุดเด่นบ้าง กลายเป็นว่าไม่รู้อะไรเลยจริงๆนะคะ


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:26:26 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ กะว่าก๋า เรียบร้อยแล้วนะคะ
คุณเหลือ อีก 1 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

.
.
แปะหั้ยพี่ก๋าอีกคับ..ฝันดีนะค่ะพี่ก๋า^^


โดย: mastana วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:32:58 น.  

 
อ่านแล้วอึ้งๆ ครับ

แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง เรื่องหลายๆ เรื่องวิธีคิด แนวคิดต่างๆ มันหาซื้อไม่ได้ และไม่มีสอนในห้องเรียนคำว่ามีอาชีพกับมือสมัครเล่น มันต่างกันจริงๆ ครับ สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากการเรียนจบ มันไม่มช่เราสิ้นสุด แต่หมายถึงเราได้เริ่มสิ่งใหม่

ทุกครั้งเมื่ออะไรบางอย่างสิ้นสุด นั่นหมายถึงสิ่งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น ไม่มีคำว่าสิ้นสุด ทุกอย่างมีแต่การเริ่มต้น ไม่ต่างจากได้แชมป์โลกถือว่าสิ้นสุดหรือไม่ ไม่ใช่ มันต้องรักษาแชมป์ หรือสละแชมป์ก็ว่ากันไป

เรื่องรับคนเข้าทำงานพูดยากครับ เจอมาเยอะไม่อยากจะพูด ไว้มีโอกาสค่อยเขียนบ่นในบล็อกตัวเองดีที่สุดครับ ไม่อยากทำให้บล็อกนี้สกปรกจากคำด่า

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:0:24:38 น.  

 
แวะมาราตรีสวัสดิ์ครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิง หมิง





โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:1:55:47 น.  

 
ถ้าเราสามารถเปลี่ยน มูลค่า เป็น คุณค่า ในบ้านเราได้คงดีไม่น้อยเลยค่ะ

อยากให้นักศึกษาได้เอาไปใช้
ไม่้สำคัญหรอกว่า จะจบมาด้วยเกรดอะไร
แต่สำคัญว่า จะทำอย่างไรเมื่อจบไปแล้วต่างหาก

๐๐

เรื่องราวของชายคนนั้น เค้าชอบเดินทาง
แต่ภรรยาไม่ชอบหรอกค่ะ

ใช่แล้วเดินทางคนเดียวก็คงเหงา
แต่คนเราก็คงต้องหาทางออกให้กับตัวเองนะคะ (อันนี้เอ้คิดเอง)


โดย: ostojska วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:2:03:34 น.  

 
โหวตโลด ชอบๆๆ
วันนี้นี้ใครมาส่งป่ะ อิๆๆๆ ^^


โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ (โจนบ้ากับป้าแก่ๆ ) วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:3:28:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]