เจิมๆๆ
ใช่ค่ะ เด็กๆ
นอกจากไม่ดู TV แล้ว
(คือไม่ดูจาก ทีวี ที่ตั้งอยู่ในบ้าน)

ก็ไม่อ่านหนังสือเล่มๆด้วย
ผู้ใหญ่เช่นกัน ไม่อ่าน นสพ แล้ว
ดูข่าวจาก tv ช่องต่างๆ ที่รายงานข่าวเร็วกว่า
ตื่นเต้นกว่า

น่าเสียดายที่อะไรๆ ในโลกเปลี่ยนไป
ตามกระแสโลก

หมวดหนังสือนะคุณก๋า

เราว่าต่อไป หนังสือจะกลายเป็นของหายาก โลกเปลี่ยนไปไวมากจริงๆ ค่ะ

เราเองนี่ปีที่ผ่านมาบ้านน้ำท่วม ทำหนังสือเสียหายไปหลายลังเลย เสียดายเหมือนกัน แต่ก็...นะคะ ทำใจ

เราก็ยังชอบการอ่านจากเล่มมากกว่าค่ะ และการซื้อหนังสือก็ยังคงเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตหละ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีตอนเช้าค่ะ น้องก๋า
ใจหายเหมือนกันนะคะ เหมือนเพื่อนสนิทเราจากไปไกล

ถึงสั่งซื้อหนังสือทางอินเตอร์เน็ตได้ .. แต่ไม่ได้อารมณ์เหมือนไปยืนเลือกอ่านที่ร้านหนังสือ ...

หนังสือบางเล่มซื้อมาเพราะคำนิยม ที่เก๋จังเลย ..
โลกเราเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ นะคะ

ทักทายยามเช้าครับ คุณก๋า
ยุคpaperless ดิจิทัลเข้ามาแทนกระดาษ
หน่วยงานที่ทำอยู่ อีกไม่นานก็จะเลิกระบบการใช้กระดาษครับ
วันก่อนพาญาติไปรพ.อำเภอ จะมีมุมหนังสือพิมพ์ ไม่มีใครหยิบอ่านเลยครับ เกือบทุกคนเล่นโทรศัพท์
ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์คนเดียวจริงๆ
ร้านค้าหนังสือคงปิดตัวลงเรื่อยๆครับ
อนาคตเรา ข่าวสารต่างๆคงต้องพึ่งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์

ทุกวันนี้เวลาเห็นใครปิดกิจการจะใจหายมากค่ะ
อย่างหนังสือนี่เดี๋ยวนี้แทบไม่มีใครอ่านเลย
หันไปทางอื่นกันหมด ขนาดหนังสือสำนักใหญ่ๆยังอยู่ไม่ได้
พากันปิดตัวกันเป็นแถว
ก็ต้องยอมรับว่ายุคสมัยและความนิยมเปลี่ยนไปจริงๆ

ขอบคุณโหวตค่ะ

กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
มายกมือเป็นหนึ่งในคนชอบหนังสือกระดาษนะคุณก๋า

ร้านหนังสือและหลายกิจการที่จะทยอยปิดตัว
เป็นเพียงมุมมองเดียว แต่ผลตามมาคือหลายๆคน
กำลังจะตกงาน ไม่มีงานให้ทำ ถูกแย่งงานจาก
ความเจริญของเทคโนโลยีและ AI

เราคงต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวให้ทันค่ะ
โชคดีที่ยังพอเรียนรู้ไปได้ โชคดีที่หลานหมิงยังเด็กมาก
เลือกเรียนให้ถูกสาขา ถูกทิศทางนะครับ

น่าใจหายทุกครั้งที่ทราบข่าวการปิดตัวของหนังสือพิมพ์
การอ่านช่วยให้จินตนาการสมบูรณ์
ยังคิดถึงช่วงเวลานั้นที่ต้องซื้อนิตยสารรายสัปดาห์อ่านทุกเช้าวันเสาร์ครับ

นอกจากเห็นร้านหนังสือปิดตัวลงแล้ว
นิตยสารก็ปิดตัวลงจนน่าตกใจแต่วงการหนังสือนิยาย
ฉบับแข่งขันกันสูงนะครับ แม้ว่าราคาหนังสือจะแพง
ขึ้นเยอะเลยถ้าเทียบกับสองสามปีที่ผ่านมา

ส่วนหนึ่งที่ผมว่าร้านหนังสือปิดตัว มีผลมาจากที่สนพ.
รวมกลุ่มจัดงานสัญจรหนังสือไปแต่ละจังหวัดในห้างต่างๆ จากที่แต่ก่อนมีเฉพาะงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่กทม.กับงานบุ๊คแฟร์ในมหา'ลัยบางแห่งเท่านั้น รวมไปถึงโปรลดราคาถ้าสั่งซื้อจากทาง
เวปโดยตรง ซึ่งลดเยอะกว่าร้านในหนังสือในห้าง
หรือร้านหนังสือใหญ่ๆประจำจังหวัด ซึ่งผมคิดว่ามัน
มีผลต่อยอดขายในร้านแน่นอนครับ
ที่ผมหวั่นใจก็คืออนาคตกลัวร้านหนังสือปิดตัวจน
มีแต่การสั่งซื้อหนังสือทางออนไลน์

ซึ่งผมไม่ชอบเลยแม้จะลดมากแค่ไหนเพราะชอบเดิน
ดูเลือกซื้อ ดูสันปก ดูการใส่กาว ดูสภาพเล่ม เช็คหน้าหนังสือทุกครั้งเวลาผมซื้อเป็นคุณค่าทางจิตใจนะครับ

ผมเองไม่ชอบอ่านe-book เนื่องด้วยต้องการถนอมสายตาด้วยส่วนหนึ่งแต่ที่สำคัญคือยังไงก็ไม่เหมือนกับหนังสือที่สัมผัสด้วยมือแตะต้องได้

การเน้นขายหนังสือล๊อตใหญ่ที่ผมสังเกตจากการไปใช้บริการตามห่องสมุดต่างๆ มีห้องสมุดของเทศบาลอำเภอหนึ่งที่ผมใช้บริการอยู่ ทำการปรับปรุงห้องสมุดทั้งหมด ผมถามบรรณนารักใช้งบประมาณหนึ่งล้าน พอเสร็จแล้วผมไปใช้บริการ ส่วนใหญ่มีแต่หนังสือเด็กและหนังสือที่ขายไม่ออกไม่ครบถูกแทรกเข้ามาเยอะเลยครัย เพราะบรรณารักษ์ไม่ได้ไปซื้อเองทางเอเยนต์ติดต่อจนท.ฝ่ายการเงินโดยตรง ตรงนี้เป็นอะไรที่รู้สึกแย่ต่อการกระทำของสนพ.ซึ่งก็เป็นมานานแล้วครับทั้งห้องสมุดของรัฐถ้าบรรณารักษ์ไม่ซื้อแต่ผ่านเอเยนต์ก็จะได้หนังสือออกใหม่คละกับหนังสือที่ไม่ครบชุดครับ

ตอนนี้ร้านหนังสือเช่าที่ผมเคยใช้บริการมาตลอดสิบกว่าปีก็ปิดตัวไปแล้ว เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในตัวเมือง สิ่งที่เห็นมาในช่วงหลายปีจากแต่ก่อนคือ ทุกครั้งเวลาเข้าไปใช้บริการจะมีคนไปเช่าเยอะพอสมควร แต่ช่วงหลังๆแทบจะนับคนได้เลยครับ ลดลงแบยฮวบฮาบ (ร้านนี้ถ้านิยายก็ตกอยู่เล่มละ10-12 บาท/วัน)จริงๆตอนนี้ก็เหลือร้านหนังสือเช่าไม่กี่ร้านครับ แต่ค่าเช่าค่อนข้างแพงมาก ถ้านิยายก็ราคาเล่มละ15-25 บาทต่อวัน ทำให้การอ่านลดลงมากครับ ผมเลือกซื้อแต่นิยายที่อยากอ่านแล้วเก็บไว้จริงๆ เรื่องไหนที่อยากอ่านแต่ไม่อยากเก็บถ้าไม่มีที่ห้องสมุดหรือร้านเช่าผมก็ตัดใจไม่อ่าน ปีหนึ่งๆกลายเป็นว่าไม่เคยอ่านหนังสือถึง 30 เรื่องเลยครับ

ปีนี้ภูลมโลสวยมากจริงๆค่ะพี่ หลายๆคนเอ่ยปากว่าน่าจะสวยสุดในรอบหลายปีเลย รู้สึกว่าไปแล้วคุ้มจริงๆค่ะทริปนี้
ทักทายยยามสายค่ะพี่ก๋า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tangkay Dharma Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Review Food Blog ดู Blog
permanent-love Topical Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Food Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
กาปอมซ่า Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog

เดี๋ยวพี่อุ้มจะมาเพิ่มหนังสือให้น้องก๋า
อีกสักเล่มสองเล่มจ้า

สวัสดีค่ะคุณกะว่าก๋า

ยังไงก็ยังชอบอ่านหนังสือค่ะ
แบตไม่หมด
เปิดตอนไหนก็ได้
ชั้นหนังสือที่บ้านยังมีหนังสือเล่มโปรดอยู่
ไม่ทิ้งไม่ขาย แต่บริจาคให้ห้องสมุดโรงเรียนไปแล้วค่ะ

สวัสดีอีกรอบค่ะคุณก๋า

จริงๆ นะคะ ปรับตัวไม่ได้ก็ตายกันไป

แต่อีกหลายสิบปีข้างหน้า หนังสือจะกลายเป็นของมีค่าอย่างหนึ่งค่ะ เราว่างั้นนะ

เหมือนน้องต่อจริงๆ นะคะ ต้องลองอ่านดู อ่านแล้วแบบ...น้องต๊อ น้องต่อ 555 ไม่รู้ว่าเรารู้สึกไปเองหรือเปล่าค่ะ

กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog

บุ๊งว่า หนังสือมีเสน่ห์ในตัวเอง
E book สร้างมาเพื่อความสะดวก
ส่วนตัวชอบอ่านหนังสือ ที่จับต้องได้มากกว่าค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
Sai Eeuu Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
มารู้ตัวอีกที ทุกอย่างเริ่มกลายเป็นอดีตหมดแล้ว เฮ้อ..

เสียดายเหมือนกันครับร้านปิดไปเยอะเลย

ผมได้ลองนั่งอ่านหนังสือบนทางรถไฟ ระหว่างทางไปต่างจังหวัดชอบบรรยากาศจริง ๆ ครับ

เห็นคุณก๋าอู้ถึงร้านหนังสือแว่นแก้วบ่อย
เพราะปาหมิง ๆ ไป และกะฮู้จากคุณก๋าเนี่ยว่า
แว่นแก้วจะปิดตัว แล้วต่อมากะหันคุณก๋าโพสต์เฟช
ว่าแว่นแก้วปิดตัวแล้ว

ใจหายยยย ขนาดเจ้า

นี่ขนาดยังบะเกยไปเดินฮ้านหนังสือแว่นแก้วสักครั้งหนา
เพราะเซนเฟสใกล้เจ้า บะมีเวลาไปตางปุ้นบ่อยนัก

ปี้ไปสุริวงค์บ่อยมาก รู้จักพนักงานแทบทุกคน
แทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่ 3 ที่ไปเดิน
(บ้านตัวเอง กะแค่ที่ซุกหัวนอน ดึกเข้า-เจ๊าออกมาอยู่ฮ้าน 55)
ถ้าสุริวงค์ปิดไป ท่าจะช็อกเป็นเดือน ๆ 55

ร้านดวงกมล กะปรับเปลี่ยนไปตลอด
ปี้ไปบะบ่อย แต่เห็นจุดด้อยเขาอยู่เรื่องพนักงานบริการ
บะค่อยมีความรู้สึกนักเขียน เรื่องหนังสือ และอัธยาศัยต่อลูกค้า
แต่กะอย่างว่า จะใด กะอยากหื้อเขาอยู่คู่เจียงใหม่เมิน ๆ

เวลาไปโรบินสัน ชอบแวะร้านนายอินทร์มากกว่า B2S เจ้า
แต่ถ้าไปโลตัส บิ๊กซี นี่ แวะ SE-ED บุ๊ค ตลอด
บะได้ซื้อ บะได้ตั้งใจซื้อ กะขอหื้อได้อัพเดทหนังสือ 55

ละกะเป็นอย่างที่คุณก๋าว่า
ร้านหนังสือเริ่มขายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่บะเกี่ยวกับหนังสือ
เออ ถ้าเป็นดินสอ กระเป๋าผ้ายังปอว่า
หันแผวยา ครีมซะปะแห๋ม ที่นายอินทร์เยอะเลย 55

นี่ สุริวงค์กะมีของกินเป็นถุง
ตะก่อนมีร้านกาแฟอยู่ตางบน แต่กะปิดตัวไปละ
พร้อม ๆ กับวาวีที่ย้ายออกไป
มีเชลล์ของสมุนไพรของอภัยภูเบศตวยเน้อ

เออ ๆ หันว่า ที่ ม.ช. จะมีงานหนังสือนินา
ปี้บะเกยไปงานหนังสือที่ ม.ช. เลยเจ้า

อู้ถึงร้านหนังสือ มีร้านการ์ตูนแห๋ม
เจ้าของร้านการ์ตูนสถานีรถไฟ กะจ่มปี้กัวเขาเลิกขายโธะ
เพราะในเจียงใหม่เหลือฮ้านการ์ตูนแค่ 2 ฮ้าน
ที่กาดธานินทร์ ร้านตุ๊กติ๊กแห๋มตี้เต้าอั้น

อีบุ๊คอ่านเป็นบางเตื้อเจ้าปี้
เฉพาะเรื่องที่อยากอ่านและบะทำออกมาเป็นหนังสือแล้ว
แต่ทำเป็นอีบุ๊คแตน

มีอ่านที่เวปเด็กดีกับเรื่อง กับนักเขียนบางคนที่ชื่นชอบเจ้า
ปรับตัวได้หมด มีโหลดมาเก็บไว้ในแอพฯ meb 2-3 เรื่อง

แต่จะใดกะยืนยันว่า หนังสือดีที่สุด เจ้า

สวัสดียามบ่ายค่ะคุณก๋า
โอ้โฮ...หนังสือเยอะมากค่ะ
ใช่ค่ะ หนังสือของผู้หญิงก็ปิดไปหลายเล่มเลยค่ะ
กุลสตรี ขวัญเรือนฯลฯ
และมีอีกหลายสำนักพิมพ์ที่กำลังจะปิด
...ตอนนี้ลูกชายก็หันไปอ่านการ์ตูนในเวปแล้วค่ะ..

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ About Weblog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog

ทิวากาลสวัสดิ์ค่ะ
ขอบคุณที่โหวตให้ค่ะ
โอ้โหๆ ชั้นหนังสือช่างเต็มไปด้วยสาระ
(ของนักผจญภัยฯ เต็มไปด้วยการ์ตูนกะนิยาย... )
เมื่อเร็วๆ นี้บริจาคให้ห้องสมุดที่ขอนแก่นไปหลายลัง
ฟู่... เห็นชั้นหนังสือแล้วช่างมีความสุข ใครเป็นเหมือนเรายกมือขึ้ล.... งดงาม ขลัง อยากคลุกๆๆๆ อยู่กับเครื่องเขียนทั้งหลาย... อา ....

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
พี่เริ่มเก็บนิตยสารเก่าๆเข้าตู้แล้วค่ะ วันข้างหน้าอาจมีคุณค่ากลับมาอีก สวัสดียามบ่ายค่ะคุณก๋า

น่าเสียดายมากค่ะ
แต่หนังสือ (ยกเว้นพ็อกเก็ตบุ้ค)อยู่ได้เพราะขายโฆษณามากกว่ายอดขายหนังสือค่ะคุณก๋า
โลกหมุนไป อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป ทั้งที่อยากให้คงเดิมไว้นะคะ

น่าเสียดายหนังสือดีๆ อีกหลายสำนักพิมพ์ อีกหลายเล่ม การเปลี่ยนแปลงที่ไปไวมากจริงๆ บางทีก็อดคิดถึงวันเก่าๆ นั่งเขียนจดหมายถึงเพื่อนๆ กันตอนปิดเทอม มีเสน่ห์มากเหลือเกิน แก่แล้วใช่ม๊ายยยยยย 555

สวัสดีค่ะพี่ก๋า
ทางนี้ ฤดูร้อนมาเยือนแล้วค่ะ

มาไวมว๊ากกก

อีกหน่อยคงต้องเปลี่ยนเป็นงาน
หนังสือเก่าแห่งชาติ เพราะหาพิมพ์ใหม่ไม่ได้
แล้วหนังสือเก่าก็จะแพงวินาศสันตะโร

พี่อ่านหนังสือตัวเล็กๆเป็นเล่มๆไม่ได้นานมาแล้ว
ใหม่ๆโหยหาการอ่านแบบนั้นมากเลย แต่นานๆ
ก็ทำใจได้ ถึงตอนนี้ก็เลยยิ่งเฉยๆ

สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

เรื่องการปิดตัวของโรงพิมพ์ ร้านหนังสือ และนิตยสาร
ต่าง ๆ ปัจจุบัน ได้อ่าน ได้ฟังมา ตลอดเวลาเนาะ ก็คงเป็น
ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกของเทคโนโลยี คนสูงอายุอย่าง
ครู ก็ตามไม่ทัน อิอิ แต่ก็พอใจที่ทำได้อย่างทุกวันนี้ ดีกว่าทำ
อะไรไม่เป็นเลย เนาะ

โหวดหมวด แวดวงหนังสือ จ้ะ

ในชีวิตแม่ซองฯโลกเปลี่ยนไปมาก จากหนังขาวดำเป็นหนังสี ทีวีขาวดำเป็นสี
ตอนทำงานแบงค์ไปเอบรมที่สำนักงานใหญ่
เห็นคอมฯเท่าตู้กับข้าว
เดี๋ยวนี้กลายเป็นคอมเล็กนิดเดียว
และอีกจิปาถะ
อ่านข่าวเรื่องแบงค์ไทยพาณิชย์ ก็ใจหายเหมือนร้านหนังสือที่ต้องปืดตัวลง

คงจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอีกเยอะ

พี่ยังชอบหนังสือเป็นเล่ม ยังรองานหนังสือทุกครั้ง (ได้ไป หรือไม่ได้ไปว่ากันอีกที)

เพิ่งรู้ว่าเค้าทำ e-book ขายกันด้วย เชยอีกแล้วพี่

แถวบ้านพี่ร้านที่ปิดกิจการบ่อยที่สุด คือ ร้านขายอาหาร ค่าเช่าแพง แต่พอร้านนึงปิดไป แป๊บ ๆ ก็มีร้านใหม่มาเปิดทั้งที่ค่าเช่าก็แพง

จริงอย่างที่คุณก๋าว่า...ทำอะไรออกมาขาย
หากขายดี อีกไม่กี่วันก็มีคนทำเลียนแบบและขายถูกกว่า...ต้องคิดต่าง ต้องสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร สุดท้ายต่างได้ไม่นาน ก็มีคนตามอีก

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ร้านหนังสือในห้างที่เชียงใหม่ที่คุณก๋าฯ พูดถึงคือร้านของนานมีบุ๊คส์ใช่ไหมครับ?

ผมคิดว่าถึงเวลานี้ทุกคนในวงการสิ่งพิมพ์ต้องปรับตัว แต่อาจไม่ถึงตายกันหมดทุกราย ผมเชื่อว่าต้องมีรายที่มั่นคงและรอยู่รอดได้แน่ ถึงแม้ว่าจะมีอีบุ๊ค หรือคนอ่านทางออนไลน์กันหมด แค่หนังสือเล่มก็ยังมีคุณค่าทางใจที่จับต้องได้อยู่ครับ

ถ้าไปกลัว เพราะผมเชื่อตามคำกล่่าวของนักเขียนดังระดับโลก (นักเขียนฝรั่งนะ) ที่เขาบอกไว้ว่า

"หนังสือก็เหมือนกับนมนั้นหล่ะ ได้ดูนมผ่านทางจอต่างๆ ทางออนไลน์ได้ก็ดี ได้เห็นก็ได้อารมณ์และตื่นเต้นเช่นกัน แต่ถาได้จับนมด้วยก็คงดีที่สุดแน่ๆ"

ตานักเขียนคนนั้นบอกไว้อย่างนี้ก็ลองไปตีความกันเอาเองนะครับ

ไปล่ะ ... ผมไปจับ .. เอ๊ย รีบไปอ่านบล็อกของเพื่อนๆ ต่อดีกว่าครับ

อิอิ

กร๊ากกก

น้องต่อไม่น่าอ่านหนังสือค่ะ ถ้าการ์ตูนอ้ะ เป็นได้

ผมจำได้ว่าเคยบ่นเรื่องร้านขายหนังสือการ์ตูนเจ้าประจำที่ผมซื้อตั้งแต่ประมาณปี 2546-2559 10 กว่าปี การที่ร้านค้าไม่ว่าร้านอะไรสักอย่างปิดตัวไป มันน่าใจหายมาก

ต่อไปจะสั่งหนังสือ อาจต้องสั่งทางอินเตอร์เน็ตแทน แต่มันก็ไม่ได้อารมณ์เหมือนเดินไปเลือกเอง

ผมก็ไม่ค่อยชอบอ่านผ่านจอ มันปวดตาครับ

เยี่ยมเลยค่ะ คุณพ่ออ่านนิทานให้ลูกฟัง, เป็นสายสัมพันธ์ที่สื่ออะไรก็มาแทนกันไม่ได้นะคะ

สวัสดีจ้ะน้องกิจ

น่าเสียดายนะคะ ถ้าร้านจะปิดตามกันเรื่อยๆแบบนี้

พี่ก็ชอบอ่านหนังสือเล่ม มากกว่าอ่านทางออนไลน์
แต่ทำไงได้อยู่ไกลบ้าน เมื่ออยากอ่านก็ต้องอ่านอีบุ๊คแทน

ถ้าอ่านทางออนไลน์ได้แบบนี้
พี่ว่าโลกของหนังสือคงจะถอยลงไปเรื่อยๆ

กะว่าก๋า Book Blog

เห็นนิตยสารที่ทะยอยปิดตัวลงก็ใจหายค่ะคุณก๋า
ถ้าร้านหนังสือประจำปิดตัวไปคงเหมือนสิ่งคุ้นเคยหนึ่งในชีวิตขาดหายไปนะคะ
ได้ข่าวว่าธนาคารจะปิดสาขาลงอีกเรื่อยๆในปีนี้
จำนวนพนักงานก็จะปรับลดลงด้วย
การเปลี่ยนแปลงอย่างมากนี้เกิดในช่วงชีวิตเรานี่เองนะคะ

ชอบอ่านหนังสือเป็นเล่มมากกว่ารูปแบบอื่นเหมือนกันค่ะ
สวัสดียามเช้าค่ะคุณก๋า