:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::
* จุดหมายไม่มีจริง มีแต่ความจริง ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดิน*
คนเราไม่ต้องวางเป้าหมายชีวิตหรือคะ ?
ไม่ต้องคิดถึงสิ่งที่เราอยากเป็นอยากทำหรอกหรือ?
งั้นเราเรียนหนังสือกันทำไม ? ถ้าไม่ใช่เพราะเราชอบ และอยากประสบความสำเร็จในอาชีพที่เราชอบ
นี่ไม่ใช่จุดหมายของคนเราส่วนมากหรอกหรือ?
แล้วความจริง ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดิน.... นี่คืออะไร ? อุปสรรค ? ขวากหนามของเส้นทาง? ความสุข?
เราต้องเรียนรู้ เพื่อก้าวไปถึง...จุดหมาย หรือ เพื่อ...ปล่อยวาง
คำตอบโดย : คล้ายดาว วันที่ : 22 มกราคม 2554 เวลา : 16:49:22 น.
สองสามวันก่อน ผมนั่งคุยกับรุ่นน้องคนหนึ่ง เขาถามผมว่า “เป้าหมายชีวิตของพี่คืออะไร ?” ผมตอบเขาไปว่า “เมื่อก่อนเคยมี...แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”
เมื่อตอนช่วงอายุ 27-28 ผมเคยนั่งจด 100 อย่างที่ผมอยากทำก่อนตาย ในร้อยข้อนั้นผมเขียนสิ่งต่างๆที่ผมอยากทำไว้มากมาย เช่น อยากไปเที่ยวต่างประเทศ อยากทำธุรกิจ อยากเป็นนักเขียน อยากเป็นครู อยากรวย ฯลฯ
รวมถึงผมเขียนรายชื่อ 100 คนที่ผมอยากคุยด้วย ในนั้นมีชื่อของคนที่ผมชื่นชมเป็นการส่วนตัว และอยากนั่งพูดคุยกับท่านเหล่านั้น เช่น แอ็ด คาราบาว , ประภาส ชลศรานนท์ , ปัญญา นิรันดร์กุล ไตรภพ ลิมปภัทร , แดนอรัญ แสงทอง , เสกสรรค์ ประเสริฐกุล เป็นต้น
แต่พออายุ 30 ...ผมวางเป้าหมายในชีวิตลงทั้งหมด ณ วันนี้ถามว่าผมอยากไปนั่งคุยกับใครเหมือนวันนั้นไหม ? ไม่มีความรู้สึกอยากแบบนั้นแล้วล่ะครับ...
เสียดายนะครับ…. ที่ผมเพิ่งรู้ว่าเป้าหมายของ “การศึกษา” ที่แท้จริงคืออะไร... ก็หลังจากที่ผมเรียนจบมานานมากแล้ว
สมัยเรียนผมเป็นเด็กเรียบร้อย อยู่ในระเบียบ แต่ประท้วงอาจารย์บ่อยมาก ทะเลาะกับเพื่อนร่วมรุ่นจนเรียนจบ เพื่อนเรียกผมว่า “ไอ้หัวรุนแรง” เพราะชอบด่าอาจารย์ ชอบตำหนิเพื่อน ประท้วงอาจารย์ถึงขั้นจัดงานนิทรรศการขึ้นมา เพื่อด่าอาจารย์ในแผนกตัวเองที่มหาวิทยาลัยก็เคยทำมาแล้ว
ถ้าผมรู้ว่าเขาให้เราเรียน ให้เราศึกษาเพื่อ “ให้เรารู้จักแก้ปัญหา” ไม่ใช่ให้เรียนเพื่อเกรด คะแนน หรือเพื่อทำให้รู้สึกว่าตัวเราเองฉลาดกว่าคนอื่น ผมคงมีความสุขในการเรียนมากกว่านี้
การศึกษาเป็นการจำลองชีวิตจริงของคนเรา ผ่านบทเรียน การเรียนรู้ การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและมีขั้นตอน
ไม่ว่าคุณจะเรียนบัญชี สถาปัตยกรรม วิศวกรรม แพทย์ ฯลฯ ทุกศาสตร์ล้วนสอนให้คุณรู้ในสิ่งที่เป็นพื้นฐาน เพิ่มเติมความรู้ ความเชี่ยวชาญผ่านการจำ การทดลอง และการปฏิบัติ
ยิ่งเรียนมากขึ้นเท่าไหร่ โจทย์หรือบททดสอบก็ยากและละเอียดมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
“ความรู้” แบบนี้ต่างหากที่ทำให้เราเข้าใจชีวิตที่อยู่นอกรั้วมหาวิทยาลัย ไม่ใช่การเรียนแบบท่องจำ กวดวิชา สอบ แล้วลืม....
เราศึกษาเพื่อให้ตัวเรามีทักษะในการแก้ไขปัญหา
ถ้าเรามีปัญญา ไม่ว่าเรียนจบอะไรมา เจอปัญหาในชีวิตแบบใด เราก็รับมือกับมันได้ ส่วนความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาก็ว่ากันไป ไปเพิ่มเติมความเชี่ยวชาญเอาเองในการทำงานจริง....
ถ้าเราเข้าใจในจุดนี้ ต่อให้คุณจบบัญชีแต่ไปทำอาหาร คุณก็จะเป็นพ่อครัวที่มีความสุขในการทำอาหาร ถ้าคุณเรียนจบแพทย์ แต่รักที่จะเล่นดนตรี ย่อมไม่ผิดที่มือของคุณจะจับกีตาร์แทนที่จะจับมีดผ่าตัดรักษาคน
ความสุขและเป้าหมายในชีวิตคนเรา ไม่จำเป็นต้องทำหรือเป็นเฉพาะในสิ่งที่เราต้องการ เพราะหากเรารู้จัก “รัก” ในสิ่งที่เราเป็นหรือทำได้ แม้สิ่งนั้นอาจไม่ได้เป็นสิ่งที่เราถนัดหรือชอบใจนักในเบื้องต้น แต่เมื่อเรามีใจรักในทุกสิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราไม่ถนัดในเบื้องต้นย่อมสามารถปฏิบัติจนเกิดความชำนาญได้ในเบื้องปลาย
ปัญหาของคนส่วนใหญ่ คือ คิดว่าตัวเองทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ใฝ่ฝัน พอรู้สึกแบบนั้นจึงไม่เคยเต็มที่กับสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วมานั่งโทษว่า เพราะฉันไม่ได้ทำในสิ่งที่รักไง ฉันเลยทำมันได้ไม่ดี...
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ในชีวิตและทางธุรกิจ เขาไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาเป็นหรือทำหรอกครับ แต่เขาเต็มที่กับ “ทุกสิ่ง” ที่เขาทำ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร ไม่รู้ ...ไปศึกษาให้รู้ ไม่เก่ง ...พยายามให้มากกว่าคนอื่น เรื่องนี้เกี่ยวกับมุมมองและทัศนคติล้วนๆ ....
ผมไม่เรียกการไม่มีเป้าหมายของตัวเองว่าการ “ปล่อยวาง” แค่ทำทุกสิ่งไป “ทีละวัน” ของผมอย่างดีที่สุด ผมจึงไม่คิดว่าเป้าหมายมีความสำคัญอะไร
ถ้าให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ทุกวันนี้ผมตื่นตี 5 มาอัพบล็อกทุกวัน ผมไม่เคยตั้งเป้าหมายยิ่งใหญ่แบบ
“ฉันจะอัพบล็อกให้ได้ทุกวัน 10 ปีติดต่อกัน แล้วฉันจะเป็นเลิศในทุกสาขาให้ได้ ฉันจะโด่งดังและเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ฯลฯ”
ถ้าผมตั้งเป้าหมายแบบนี้ ผมอาจจะเป็นทุกข์หากวันไหนไม่ได้อัพบล็อก หรืออาจจะเครียดที่ต้องมานั่งคิดว่าจะเอาอะไรมานั่งเขียนบล็อกทุกวัน
แต่ผมไม่มีเป้าหมายอะไรเลย นอกจากมีวินัยในการตื่นเช้าตรู่ แล้วนั่งอัพบล็อกไปทีละวัน ทีละวัน ช่วงไหนมีรูปก็อัพบล็อกภาพถ่าย ช่วงไหนอยากเขียนกวีก็เขียน อยากวาดการ์ตูนก็ทำ เพราะผมสนุกและมีความสุขกับมัน ผมจึงอัพบล็อกได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกว่าจะต้องมีเป้าหมายอะไรเลย แค่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ และทำมันอย่างเต็มที่ก็เพียงพอแล้ว
เป้าหมายของชีวิตคืออะไร ?
เราจะตายในวินาทีไหน เรายังไม่รู้เลยครับ...
หลายคนมุ่งมั่นวาดฝันเสียใหญ่โต แต่ไม่เคยคิดถึงความสุขเบื้องหน้าที่คุณไขว่คว้าไว้ได้ หลายคนร่ำรวย แต่ไม่เคยมีความสุขอย่างแท้จริงกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ มีมากเท่าไหร่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าอิ่มและพอ
เหมือนคนที่มีคู่รักมากมายไม่ซ้ำหน้า แต่ไม่เคยได้พบกับรักที่พึงใจแม้แต่คนเดียว....
สองสามวันก่อน
ผมนั่งคุยกับรุ่นน้องคนหนึ่ง
เขาถามผมว่า “เป้าหมายชีวิตของพี่คืออะไร ?”
ผมตอบเขาไปว่า “เมื่อก่อนเคยมี...แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”
“ทำไมถึงไม่มีล่ะพี่ ?” เขาทำหน้าสงสัย...
ผมจึงตอบเขาไปว่า...
“แค่ใช้ชีวิตทีละวัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด...เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”
Create Date : 23 พฤษภาคม 2554 |
|
121 comments |
Last Update : 23 พฤษภาคม 2554 4:54:43 น. |
Counter : 2060 Pageviews. |
|
|
ทำวันนี้เวลานี้ให้ดีที่สุด
พอเพียงและเพียงพอ
ชีวิตก็สุขใจได้ทุกขณะเช่นกัน
ขอบคุณที่แบ่งปันความสุขกับการอยู่ปัจจุบันนะคะ