:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่ BeachBum ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่ BeachBum ::
บางครั้งที่เรายึดติดมันเกินไป ทำดีแล้วคิดว่าไม่มีคนเห็น ไม่มีคนเข้าใจ ก็เลยกลายเป็นทุกข์ซะนั่น ปล่อยวาง..... อยากปล่อย แต่วางไม่ค่อยจะลง เพราะกิเลสที่ลุ่มหลง .. ทำไงดี
คำถามโดย : BeachBum วันที่ : 26 เมษายน 2553 เวลา : 10:28:56 น.
สวัสดีครับพี่
ใครบางคนเคยบอกกับผมว่า
“ฝันให้ใหญ่ ฝันให้ไกลเข้าไว้ แล้วไปให้ถึง”
ในวันที่เรายังเยาว์วัยและเต็มไปด้วยแรงใจไฟฝัน ประโยคเช่นนี้สร้างความฮึกเหิมให้ตัวเราไม่น้อย
การตั้งเป้าแบบอยากรวย อยากมีความสุข อยากได้รับการยอมรับจากผู้คน อยากเป็นที่สนใจของใครต่อใคร อยากมีชื่อเสียง ฯลฯ ทำให้เราใช้ชีวิตแบบ “รีบร้อน” “รีบเร่ง” ที่จะประสบความสำเร็จ
ต่อเมื่อได้ลงมือทำอะไรบางอย่าง แล้วผลตอบกลับมาไม่เป็นอย่างที่คิด เราจึงได้ตระหนักว่าบางทีชีวิตก็ไม่อาจเป็นไปได้ดังฝัน ด้วยเหตุที่ว่ามันมีปัจจัยแวดล้อมมากมาย ในการนำพาชีวิตของคนๆหนึ่ง ให้ไปสู่จุดที่ตัวเองคิดและฝันเอาไว้
หลายคนจึงลดขนาดความฝันของตัวเองลงให้เหลือเพียง
“ฝันใกล้ๆ ค่อยๆเดินไป..เดี๋ยวก็ถึง”
แต่แม้จะลดขนาดของความฝันลงแล้ว กลับยังไปไม่ถึงฝันที่ตัวเองวาดเอาไว้อยู่ดี....
ผมเลิกฝันมานานแล้ว...
การได้ทำงานและอยู่กับความเป็นจริงของชีวิต ทำให้ผมได้ตระหนักรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว...คนเราอาจไม่จำเป็นต้องฝันอะไรเลย หากเขาสนใจสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ วางอดีตลง และมองอนาคตอย่างรู้เท่าทัน สิ่งสำคัญที่สุด คือ การมีสติอยู่กับปัจจุบัน
หลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อ “รอ” ความฝันของตัวเอง จนละเลยความสวยงามที่ผ่านเข้ามาในชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า เราเพิกเฉยต่อความงดงามเบื้องหน้า เพราะมัวไปตามหา “ความสุขล่วงหน้า” ที่ยังมาไม่ถึง
เรามัวแต่ใช้ชีวิตเพื่อรอสิ่งที่เรารัก เราชอบ และถูกใจเราจริงๆ ก่อนจะพบว่า...เราไม่เคยพบเจอสิ่งนี้เลย
เราอยากทำในสิ่งที่เรารัก ทั้งที่ในความเป็นจริงของชีวิต มีใครสักกี่คนที่จะได้ทำตามฝันและทำสิ่งต่างๆทุกอย่าง อย่างที่ตัวเองต้องการ...
เราทุกข์เพราะเรา “เป็น” ในสิ่งที่เราฝันไม่ได้
แต่ถ้าเราเลิกสนใจความฝันลมๆแล้งๆนั่น แล้วกลับมามีความสุขกับสิ่งที่เรา “ทำได้” และ กำลัง “ทำอยู่” เราจะพบว่าการงานที่เราเคยเบื่อหน่ายถ่ายถอน ความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างที่กำลังมีปัญหา ชีวิตที่เราว่ามันเส็งเคร็งน่าหดหู่และพบแต่ความโชคร้าย
บางที...เราอาจจะพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปของมันเช่นนี้ก็เพราะ “ความคิด” หรือ “ทัศนคติ” ที่เรามีต่อตัวเองเท่านั้นเอง
ความทุกข์เกิดจากความคาดหวัง ความฝัน ความต้องการ ความทุกข์เกิดจากการคิดและจินตนาการไปเองว่า ชีวิตต้องมีแต่ความสุข ความสมหวัง และได้ดังฝันทุกประการ
วางความฝันลง แล้วกล้าเผชิญหน้ากับ “ความจริง” ไม่ว่าในวันนี้ “ความจริง” ที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ จะชวนให้รู้สึกทุกข์ เบื่อหน่าย หรือเจ็บปวดมากเพียงใด
จงผ่านมันไปให้ได้ จงเข้าใจทุกๆความทุกข์ที่มีอยู่ในชีวิต จงยอมรับชะตากรรมอย่างไม่หวั่นกลัว
ที่สุดแล้วเราจะพบว่า... ที่ผ่านมาเราทุกข์เพราะเราไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก แต่เพียงแค่เราเปลี่ยนวิธีคิดและหันมารักในสิ่งที่เราทำ (และทำได้)
ชีวิตไม่ได้มีอะไรซับซ้อนไปกว่านั้น
ตื่นจากความหลับใหล ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ยอมรับในสิ่งที่เราทำได้ และตั้งใจอย่างดีที่สุดกับทุกสิ่งที่เราทำ
แค่เข้าใจทุกข์ ก็สุขแล้ว !
Create Date : 03 มิถุนายน 2553 |
|
128 comments |
Last Update : 3 มิถุนายน 2553 5:39:01 น. |
Counter : 1192 Pageviews. |
|
|
อ่านแล้วรู้สึกเย็นสบายครับ
อรุณสวัสดิ์ครับ ^^