<<
ตุลาคม 2562
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
1 ตุลาคม 2562

:: กะก๋าแนะนำหนังสือ - สุดทางทุกข์ ::


:: สุดทางทุกข์ ::

เขียน : Claude A. Thomas
แปล : อมร แสงมณี และ อัฐพงศ์ เพลินพฤกษา









หนังสือเล่มนี้บอกเล่าวัยเยาว์อันแสนเจ็บปวดรวดร้าว
เต็มไปด้วยความรุนแรงในครอบครัว
หลวงพ่อธอมัสผ่านสงครามเวียดนามในวัยหนุ่ม
กลับมาสู่ความแปลกแยกในบ้านเกิดที่สหรัฐอเมริกา
ก่อนพบความจริงว่า “สงครามเวียดนาม” ยังไม่ได้จบสิ้นลง
แต่กลายเป็นว่ามันกลับมาเป็น “สงครามภายในใจ” ของตัวเอง
ส่งผลยาวนานนับสิบปี สร้างความล้มเหลวให้กับชีวิตในทุก ๆ ด้าน
ไม่ว่าจะกลายเป็นคนล้มเหลวในหน้าที่การงาน ความสัมพันธ์อันไม่ยั่งยืนกับคนรัก
กลายเป็นพ่อที่ไม่กล้าอุ้มลูก อารมณ์เหวี่ยงไปมาด้วยฤทธิ์ยาเสพติด

จนวันหนึ่งซึ่งหลวงพ่อได้หยุดความสับสนทั้งมวลของชีวิต
ด้วยการสำรวจตรวจสอบความคิดของตนเองผ่านการฝึกฝนธรรม
เริ่มต้นจากการไปปฏิบัติธรรมกับสังฆะของท่านติช นัท ฮันห์ ราว 3 ปี
ก่อนกลับมายังสหรัฐอเมริกาอีกครั้งเพื่อบวชเป็นพระเซ็น




หนังสือแบ่งออกเป็นสองภาค
ภาคแรกบอกเล่าชีวิตประวัติของตัวท่านเองตั้งแต่วัยเด็ก
จนถึงช่วงที่กลับมาจากสงครามเวียดนาม และมีชีวิตตกต่ำดำดิ่งนานหลายปี

ภาคสองบอกเล่าการค้นพบตัวเองผ่านการเดินทางอันแสนยาวไกล
ข้ามเมือง ข้ามประเทศเพื่อทำกิจกรรมทางสังคม
ปฏิบัติธรรมในรูปแบบคล้ายการเดินธุดงค์
เพื่อสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับทุกคนโดยไม่เลือกชนชาติและศาสนา
สวดให้กับทุกดวงวิญญาณซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามตามสถานที่ต่าง ๆ

การเดินเพื่อเดิน ทำให้ท่านได้ค้นพบความจริง พบความยากลำบาก
เจอะเจอทั้งการปฏิเสธและการช่วยเหลือ
ทำให้ท่านเห็นแง่งามของความเป็นมนุษย์ที่แตกต่างหลากหลาย



“เมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์” งอกเงยและงอกงามอยู่ในใจของคนผู้ไม่มีสติ
มันคอยบงการความคิด เลือกและตัดสินใจให้เราต้องทำในสิ่งผิด
กระทำในสิ่งที่เป็นทุกข์
ทำให้เราต้องกลายเป็นคนที่ไม่อยากเป็น ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ

หนึ่งในความผิดพลาดของคนทั่วไปเวลาฝึกสติ
คือ การสร้างภาพพจน์ผิด ๆ คิดว่า คนที่มีสติ คือ คนที่ไม่มีความกลัว
หรือต้องสงบเย็นตลอดเวลา
แต่ในมุมมองของหลวงพ่อธอมัส
สติ คือ ความสงบในใจท่ามกลางสภาวะที่ไม่สงบ
คือการยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด สถานการณ์ใด
เพราะในชีวิตคนเราย่อมประสบพบเจอทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย
เจอะเจอทั้งความสงบและความวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา

การมีสติ คือ การรับมือทุกเหตุการณ์ โดยรู้ว่ามันจะผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ทุกข์หรือสุขในชีวิตก็ไม่ต่างกัน ... มาแล้วก็ไป --- มาแล้วก็ไป
ไม่มีอะไรคงอยู่คงทนถาวรตลอดไป

สติระลึกรู้จะทำให้เรามองเห็นความงามของสายฝนท่ามกลางพายุ
สามารถมองเห็นตัวตนที่แท้จริง เห็นสุขและทุกข์อย่างที่เป็น
ไม่ใช่อย่างที่เราอยากให้มันเป็น



การเยียวยาบาดแผลในใจตนเอง
ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทุกข์เกิดขึ้นอีก
ความเจ็บปวดและความทุกข์ในชีวิตอาจไม่ได้หายไปไหนเลย
แต่การเยียวยา คือ การเรียนรู้ที่จะอยู่กับความทุกข์ที่มี
ในมุมมองซึ่งแตกต่างออกไปจากเดิม
เพื่อไม่ให้ทุกข์เหล่านั้นครอบงำความคิด ควบคุมชีวิตของเรา


“การตื่นรู้ในความจริงแห่งชีวิต”
เป็นหนทางที่จะทำให้เราพ้นทุกข์
เป็นการกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะของตนเอง
โดยไม่ต้องไปยุ่งกับอดีตซึ่งแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ไม่ต้องไปกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
ดั่งการผลักก้อนหินซึ่งขวางทางเดินให้เคลื่อนที่ออกไป
โดยไม่จำเป็นต้องทำลายหรือระเบิดก้อนหินนั้นทิ้ง




หนังสือเล่มนี้งดงามและบอกเล่าเรื่องราวของภิกษุรูปหนึ่งอย่างตรงไปตรงมา
มีหลายเรื่องราวในเล่มที่หลวงพ่อเขียนได้อย่างน่าสะเทือนใจ น่าประทับใจ

ฝากบางประโยคที่ผมชอบมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันด้วยครับ
































 




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2562
19 comments
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2563 22:50:25 น.
Counter : 427 Pageviews.

 

หนังสือแนวนี้มีคุณค่าต่อจิตใจมากเลยนะคะพี่ก๋า
รินไม่มีแบบเป็นเล่มมากนัก ส่วนใหญ่อาศัยติดตาม
ทาง fb อ่านแล้วก็เข้าใจชีวิตมากขึ้นค่ะ
ขอบคุณที่แนะนำนะคะ ^^

 

โดย: Rananrin 1 ตุลาคม 2562 7:14:39 น.  

 

แค่ชื่อก็กินขาด
เอ๊ย!!
น่าอ่านแล้วค่ะ

สติเป็นกุญแจที่ไขสู่ความเข้าใจทุกข์
ดังว่าจริงๆค่ะ

 

โดย: เริงฤดีนะ 1 ตุลาคม 2562 7:22:55 น.  

 

ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆให้อ่านค่ะคุณก๋า

........................

ที่🙏วัดบึงลัฏฐิวัน ยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์

สวยงามจริงๆค่ะคุณก๋า ดูแล้วยังคงอีกหลายปีกว่าจะก่อสร้าง

ให้เสร็จ ดูจากรอบๆวัด แล้วจะกลับไปอีกเอารูปมาฝากกันชมค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 1 ตุลาคม 2562 7:46:06 น.  

 

พระอาจารย์องค์นี้ ชีวิตผ่านความยากลำบากเสี่ยงจากการทำหน้าที่
เมื่อกลับมาสู่บ้านเกิดเมืองนอน กลับไม่พบสิ่งที่สมหวัง

เลยฉุกคิดคือ ค้นหาพบหนทางเลยไปศึกษาจาก ท่าติชฮันท์
แล้วก็ค่อย ๆ พบสัจจะ และทางออกที่ดี มีสติ ยอดเยี่ยมเลย
ครับคุณก๋า

แตกต่างกว่าพระพุทธเจ้าของเรานะครับ พระพุทธเจ้าเพียบพร้อม
ในชีวิตเกิดความเบื่อหน่าย จึงค้นหา ทรมาณตนเองก็ไม่ใช่
จน ค้นพบทางสว่าง และตรัสรู้..ด้วยตนเอง

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 1 ตุลาคม 2562 7:59:59 น.  

 

อังคารสวัสดีครับ คุณก๋า
สวัสดีกับปีงบประมาณใหม่ ข้าราชการเกษียณได้หยุดพักงานไปอีกหลายแสน
หนังสือดีมากๆครับ คนมีทุกข์ได้อ่านแล้ว น่าจะมีทางลดทุกข์ได้บ้าง
ถ้า สงคราม ผมนึกถึงภาพยนตร์ แรมโบ้ กลับจากสงครามเวียดนาม ด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ มีแต่ความทุกข์ เข้ากับสังคมไม่ได้
รวมทั้งภาพยนตร์สงครามอื่นๆ เช่น อิรัก อัฟกัน แต่ละคนกลับมา เป็นโรคจิต สภาพจิตแย่ๆ
ทุกข์กลายเป็นเรา นี่น่ากลัวมากๆครับ
สุขในทุกข์ ลดทุกข์ แทบหาไม่เจอ
เป็นโชคดีของธอมัสมากครับ ที่ได้ไปเรียนทางธรรมกับติช นัท ฮันห์

ฝนน่าจะไปแล้ว กลางคืนนอนเย็นสบาย เช้ามามีหมอกบริเวณภูเขาใกล้ที่ทำงานครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 1 ตุลาคม 2562 8:27:20 น.  

 

เคยได้ยินแต่ เมล็ดพันธุ์แห่งความดี เพิ่งเคยได้ยินคำว่า เมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ วันนี้ค่ะ

 

โดย: kae+aoe 1 ตุลาคม 2562 8:33:38 น.  

 

ชอบชื่อภาษาอังกฤษจังครับ "At Hell's gate"
"From war to pace" นี่ก็ด้วยครับ ดูแบบว่าที่สุดในทั้ง 2 ขั้วมากๆ

ผมเคยดูหนังเรื่อ American sniper เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Sniper มือหนึ่งในสงครามอิรัก
พูดถึงสภาพจิตใจของเค้า ความกดดัน หน้าที่ ความรับผิดชอบ
และฝันร้ายของทหารที่ผ่านสงครามหนังหน่วงมาครับ
หนังดราม่าจ๋าๆ เลยครับพี่ก๋า ไม่ใช่สงครามเลย
แต่น่าดูมากๆ

อ่านรีวิวหนังสือเล่มนี้แล้วรู้สึกดีใจกับท่านด้วยที่พบทางสงบอย่างแท้จริง
และกลับมาอยู่ในโลกที่ท่านปรารถนาได้ ^^

 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 1 ตุลาคม 2562 11:19:00 น.  

 

ความทุกข์ในใจ ฝังรากลึกมานาน น้อยคนจะก้าวผ่าน หรืออยู่กับมันได้ อย่างมีสติ

ต้องผ่านการฝึก วิธีคิดมายาวนาน ถึงจะคิดได้แบบนี้นะครับ
คนเรา ถ้าเผชิญหน้ากับความทุกข์ได้ อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรให้กลัวอีกแล้วนะครับ

 

โดย: multiple 1 ตุลาคม 2562 12:03:56 น.  

 

คุณก๋าจับประเด็นที่น่าสนใจ อ่านแล้วทำให้เข้าใจชีวิตและการดำรงอยู่
ทำให้ผมคิดถึงคำพูดของพระรูปหนึ่ง ท่านว่าความทุกข์ และความสุขไม่ได้มีต่อเนื่องกันตลอดเวลา มักจะ เกิดๆ ดับๆ ชีวิตคนเราถึงอยู่ได้ ไม่มีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งครอบงำอย่างฝ่ายเดียว มิฉะนั้นชีวิตจะดำรงอยู่ไม่ได้

 

โดย: Insignia_Museum 1 ตุลาคม 2562 12:29:39 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

มาแล้ว มาแนะนำหนังสือดี ๆ ให้อ่าน ครูชอบอ่านการ
แนะนำหนังสือนะ เพราะตัวเองไม่มีเวลาอ่านหนังสือ นั่นเอง เหะ
เหะ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า การอ่านหนังสือเป็นสิ่งดีมาก เพราะทำให้โลก
แห่งความคิดของเรากว้างขึ้น

หนังสือ แปล เรื่อง "สุดทางทุกข์" อ่านจากการรีวิวของ
เธอแล้ว ถิอว่า เป็นหนังสือที่น่าอ่านเรื่องหนึ่งจ้ะ ทั้งนี้ น่าจะ
เป็นเพราะว่า เขียนขึ้นจากประสบการณ์ชีวิตของตนเอง

ในงานเขียนของธอมัส ที่แนะนำมานั้น ตรงกับความคิด
ของครูที่เคยเขียนอยู่เสมอว่า "สติ" เป็นสิ่งสำคัญที่สุดใน
ทุก ๆ เรื่อง เมื่อเกิดความทุกข์ เกิดเหตุการณ์อันไม่พึงปรารถนา
ต้องตั้งสติไว้ก่อนเสมอ ดีจัง มีคนคิดเหมือนเราแฮะ อิอิ

"ทุกคนต่างมีบาดแผลในใจตัว" นี่ก็เป็นอีกวรรคหนึ่ง
ที่ชอบ เพราะมันเป็นสัจธรรมที่มนุษย์ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดจะ
ต้องพบเจอ ถึงจะมีสติ ทำให้เรื่องเลวร้ายนั้นผ่านวิกฤตไปได้
แล้วก็ตาม แต่มันก็ยังคงเป็นแผลเป็น เมื่อถูกสะกิดขึ้นมา
เมื่อไร ก็มีผลจะเจ็บปวดได้เหมือนกัน เนาะ

โหวดหมวด รีวิวหนังสือ





 

โดย: อาจารย์สุวิมล 1 ตุลาคม 2562 12:33:42 น.  

 

อ่านรีวิวแล้ว อยากอ่านหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาทันทีเลยครับ
เรียนรู้ความทุกข์ และอยู่กับความทุกข์ให้ได้นี่สุดยอดไปเลยครับ

อาทิตย์นี้บอลยุโรปมาอีกละครับ ลิเวอร์พูลน่าจะเตะคืนพรุ่งนี้นะครับ

 

โดย: The Kop Civil 1 ตุลาคม 2562 13:13:21 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ

มีชีวิตอยู่ ก็ต้องผจญทั้งสุขทั้งทุกข์นะคะ
ไม่ทุกข์ก็ไม่รู้ถึงสุข
สุขมากก็ไม่รู้ถึงทุกข์

ดังนั้นโชคดีที่เราได้พบเจอทั้งสุขทุกข์
และรับมือกับมันได้ค่ะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 1 ตุลาคม 2562 15:22:29 น.  

 

กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
คุณก๋าไม่ลงมางานหนังสือเหรอ ปีนี้จัดอิมแพคเมืองทองนะ

 

โดย: หอมกร 1 ตุลาคม 2562 16:19:21 น.  

 

เราเชื่อเรื่องทุกคนต่างมีบาดแผลและน้ำตาของตัวเองนะคะ

บางคนก็จัดการกับมันได้ แต่บางคนก็ทำไม่ได้ตลอดชีวิตเลยแหละค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ตะลีกีปัส Pet Blog ดู Blog
JinnyTent Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 1 ตุลาคม 2562 17:22:54 น.  

 

อ่านถึงบทความสุดท้ายที่คุณก๋าสรุป
นึกถึงคำสอนของหลวงปราโมทย์ที่ว่า

"เมื่อใดที่เรามีสติ เราจะไม่ทำผิดศีล"
สติสำคัญ เป็นเกราะป้องกันการทำผิดศีล
เมื่อใดที่เฮาบะมีสติ โอกาสทำผิดศีลมีเยอะมาก

วันนี้นี้อ่านหนังที่พรีรีวิวในเฟช 2 เล่มจบ
ยังบะจบเล่มหนึ่งเตื้อ ม่วนขนาด
มีหลายประโยคที่ชอบ

อยากยกมาเล่าหื้ออ่านสักบทความเจ้า..

ดีเกินไป..ในหมู่คนเลว ย่อมอยู่ยาก
เลวเกินไป..ในหมู่คนดีมีศีลธรรม ก็อยู่ยาก
ดีน้อยไป เลวน้อยไป ไม่หาจุดเหมาะสมกับกลุ่มคนนั้น ๆ
ที่ต้องเข้าไปร่วมงาน ยิ่งอยู่ยาก
เธอจึงเป็นปุถุชนที่ใครก็เข้าถึงตัวได้ ไม่ว่าคนดีหรือคนเลว

เป็นนิยายที่ติดตามผลงานของนักเขียนคนนี้มาเมินเจ้า
เลยว่างเป็นจับหนังสือช่วงนี้ ติดลม

คุณก๋าอ่านข้อคิดธรรมะปรัชญาเรื่อย ๆ
ปี้กะอ่านนิยายติก ๆ ช่วงนี้ 5555

 

โดย: JinnyTent 1 ตุลาคม 2562 19:15:49 น.  

 

แวะมาดึก
ข้าราชการที่เกษียณ ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งหัวหน้า จะยุบตำแหน่งไปเลยครับ
รับพนักงานราชการเข้าแทนตำแหน่งนั้นๆ (เบิกสิทธิข้าราชการไม่ได้ ใช้สิทธิประกันสังคม ใช้งบน้อยลงไปอีกเยอะ)

ดูข่าว ฝนตกที่เชียงใหม่

 

โดย: สองแผ่นดิน 1 ตุลาคม 2562 23:00:09 น.  

 

มีสติ อยู่กับปัจจุบันขณะของตนเอง
ไม่หลงยึดติดและรู้เท่าทันทุกข์
ก็คงห่างไกลทุกข์นะคะ
ขอบคุณสำหรับหนังสือที่ให้ข้อคิดดีๆอีกเล่มค่ะคุณก๋า

ฝันดีนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 1 ตุลาคม 2562 23:27:46 น.  

 

ส่วนมากเรามักไม่ค่อยมีสติกัน คุมสติไม่อยู่ พอมีปัญหาก็อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เลยไปไกล

สงครามมีทุกที่จริงๆ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 2 ตุลาคม 2562 0:36:56 น.  

 

สวัสดีค่ะต้องก๋า
หนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดีๆ น่าอ่านมากค่ะ

 

โดย: newyorknurse 2 ตุลาคม 2562 1:28:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]