ชื่อเรียกของมันมิใช่... “ความรัก” ภาค 11
นั่งคุยกับตัวเอง : ชื่อเรียกของมันมิใช่... “ความรัก” ภาค 11 เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ 11 กุมภาพันธ์ 2550
อะไรทำให้ภาพหนึ่งตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเรามาโดยตลอด แม้ไม่ได้ถูกบันทึกเป็นภาพนิ่ง หรือแม้แต่จดจารเป็นตัวอักษร แต่เธออยู่ตรงนั้น..... และวันเวลาก็ไม่เคยลบเลือนเธอไป
…………………………………
ต้นไม้ที่เธอให้ไว้ยังไม่ตาย...
...................................
เพื่อนในสมัยเรียนให้ต้นไม้เล็กๆกระถางหนึ่งกับผม ตอนแรกมันมีต้นเต็มกระถาง กระบองเพ็ชรที่ใครๆว่าเลี้ยงง่าย กลับตายลงไปทีละต้นทีละต้นอย่างรวดเร็ว จากสิบกว่าต้นในตอนแรก เหลืออยู่เพียงสามต้นเท่านั้น นั่นเป็นบทเรียนแรกของการเรียนรู้ที่จะดูแลต้นไม้ เมื่อคุณดูแลมันมากเกินไป ดีเกินความพอดีก็ไม่ได้ ไม่เหลียวแลทิ้งขว้างมันก็เหี่ยวเฉาตาย จุดที่พอดีก็ไม่ง่ายที่จะหาพบ คุณต้องเรียนรู้อุปนิสัยของต้นไม้นั้นๆ ชอบแดดหรือร่ม ชอบน้ำหรือชอบแล้ง โรคของมันมีอะไรบ้าง ชอบปุ๋ยแบบไหน ฯลฯ
............................................
ผมพามันกลับบ้านมาด้วย หลังจากเรียนจบ เมื่อเวลาผ่านไป มันเริ่มแทงหน่ออ่อนขึ้นมาใหม่ ไม่นานนักก็อวดดอกสวย...สีสันแปลกตา
..........................................
ระยะทางไกล ทำให้เราห่างกัน เป็นอย่างที่ผมคิดไว้ตั้งแต่ต้น ว่าความสัมพันธ์ที่ขีดคั่นไว้ให้หยุดตรงคำว่า “เพื่อน” ไม่อาจงอกงามเป็นอย่างอื่นอย่างใดไปได้ ไม่มีคำว่า “มากกว่าเพื่อนสนิท แต่ไม่ใช่คนรัก” สำหรับผม เพื่อนคือเพื่อน คนรักคือคนรัก... ทุกอย่างตรงไปตรงมา คำตอบในใจผมไม่เคยเปลี่ยน....
.........................................
วันนี้ผมมองดูเจ้าต้นไม้ที่เคยทำท่าจะล้มหายตายจากกันไป กลับเติบโต แตกกิ่งก้านสาขาและหน่ออ่อนอยู่เรื่อยๆ ผิดกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเจ้าของต้นไม้นี้ที่ห่างหาย และห่างเหินตามวันเวลาที่ผ่านไป
เมื่อนั่งย้อนมองกลับไป... ผมไม่แปลกใจว่าทำไมตอนแรกถึงดูแลต้นไม้กระถางนี้ได้ไม่ดี เพราะผมไม่เข้าใจมันดีพอ รดน้ำมากเกินไป วางไว้ในร่ม ทั้งๆที่มันเป็นไม้ที่ชอบแดดและความแล้ง
เหมือนความสัมพันธ์...ที่วันหนึ่งทำให้ผมได้รู้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกัน ก็เหมือนต้นไม้ ถึงแม้อยากสานต่อ อยากทักทอความรู้สึกเท่าใด หากอีกฝ่ายไม่เปิดใจ ย่อมไม่มีประโยชน์ เพราะความสัมพันธ์ที่ไม่รู้จักวิธีดูแลรักษา ย่อมเหี่ยวเฉาและยืนต้นตายไปในที่สุด ต่างกับการถอยออกมามองดูไกลๆ เข้าใจตัวเองให้มาก ต้องรู้ให้ได้ว่าตัวเองต้องการอะไร ต้องมองตัวเองให้ขาดว่าเราทำอะไรเพื่ออีกฝ่ายได้แค่ไหน ปล่อยพื้นที่ว่างให้ต่างได้หายใจ วันหนึ่ง...เมื่อ “ความรู้สึก” ที่มี เติบโตขึ้น ย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่ต่างจะให้ร่มเงาซึ่งกันและกัน.
..............................................................
หมายเหตุ :
ดอกเฮลิโคเนียกำลังบานอวดดอกสวย รูปไม่ตรงกับบันทึกที่เขียน เพราะแพ้ความงามของต้นนี้ครับ
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
9 comments |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2550 16:56:34 น. |
Counter : 1869 Pageviews. |
|
|
แต่ละชีวิตย่อมมีที่มีทางที่เป็นหนทางเฉพาะของตน
รักย่อมไม่ต้องการการครอบครอง
หากแต่เคียงข้าง ประคับประคองและค้ำจุนซึ่งกันและกัน