กุมภาพันธ์ 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
9 กุมภาพันธ์ 2550

ชื่อเรียกของมันมิใช่... “ความรัก” ภาค 9









นั่งคุยกับตัวเอง : ชื่อเรียกของมันมิใช่... “ความรัก” ภาค 9
เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ
9 กุมภาพันธ์ 2550




อะไรทำให้ภาพหนึ่งตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเรามาโดยตลอด
แม้ไม่ได้ถูกบันทึกเป็นภาพนิ่ง หรือแม้แต่จดจารเป็นตัวอักษร
แต่เธออยู่ตรงนั้น.....
และวันเวลาก็ไม่เคยลบเลือนเธอไป


…………………………………


เธอยืนอยู่ท่ามกลางหยาดฝน
แล้วความรัก...ก็ทำร้ายเธอ


................................................


เราไม่ได้สนิทกันมากนัก
พูดคุยกันก็ไม่กี่หน
หลายคนมองเธอเป็นคุณหนู ดูเป็นผู้ดีมีตระกูล
เด็กทุนเรียนดี พ่อแม่มารับมาส่ง
แต่งตัวเรียบร้อย กระโปรงยาวคลุมเข่า
ไว้ผมยาวตัดผมหน้าม้า สวมแว่นหนาเตอะ
ทุกครั้งที่พูดคุยกัน...
ยามเมื่อมองตาเธอ ผมรู้สึกว่าดวงตาเธอเศร้าเหลือเกิน


...........................................


ข่าวคราวที่รับรู้ คือเธอปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ไม่ได้
เพื่อนกลุ่มใหม่ สังคมใหม่
และที่รู้....เธอพยายามหาใครสักคนที่เธอจะรักได้
แต่มันไม่ง่ายเหมือนการเอาชนะข้อสอบ
ผู้ชายส่วนใหญ่ คิดว่า “รัก” คือ “เซ็กส์”
แน่นอน...ความรักแบบนี้ ย่อมจบลงตรง “ความว่างเปล่า” ทุกครั้งไป
ผลการเรียนเธอตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย
เพื่อนฝูงเริ่มตีตัวออกห่าง ใครได้พูดคุยกับเธอก็หาว่าเธอเพี้ยน คุยไม่รู้เรื่อง
แม้ภายนอกเธอดูไม่มีอะไรเปลี่ยน
แต่ดวงตากลับยิ่งเศร้าลึกกว่าเดิม
และผมไม่รู้จริงๆว่าหลุมดำอันมืดมิดนี้มันจะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน


.............................................


สิ้นเทอมนั้นเธอหายไปจากมหาวิทยาลัย
เพื่อนบอกว่าเธอป่วยเป็นโรคจิต
เพราะกดดันที่เรียนไม่ได้อย่างที่พ่อแม่คาดหวัง
ไม่ได้เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของเพื่อนๆ
และผิดหวังกับความรักครั้งแล้วครั้งเล่าที่เกิดขึ้น

ผมได้เจอเธออีกครั้งหลังจากเธอหยุดเรียนไป 1 ปีกว่า
ภายนอกเธอดูไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่งตัวเรียบร้อยเหมือนเดิม ใบหน้าเรียบนิ่ง
พูดจาด้วยน้ำเสียงเล็กแหลมแผ่วเบา
“เธอ” ยังคงเหมือนเดิม....
โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ซึ่งเศร้าและเหงาลึก
ดำดิ่งอยู่ในห้วงทุกข์......
มันลึกเสียจนมองเห็นไม่เห็นก้นบ่อของความทุกข์
ผมอยากให้เธอกรีดร้องและระเบิดอารมณ์ออกมาบ้าง
แทนที่จะเก็บมันไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา

ผมยังจำรอยยิ้มครั้งสุดท้ายที่เธอยิ้มให้ผมได้
มันเหมือนรอยยิ้มของเด็กที่ไร้เดียงสา
แต่ก็ฉายอยู่เพียงวาบเดียวเหมือนพลุ
แล้วเธอก็ซ่อนความรู้สึกไว้ใต้ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม

วันนี้..เธอจะเป็นอย่างไร
ผมไม่เคยทราบข่าวคราวอีกเลย
หวังว่าหากได้เจอกันอีกสักครั้ง
ขอให้ในดวงตาอมทุกข์คู่นั้น
ฉายแววประกายของความสุขในชีวิตสักเล็กน้อยบ้างก็คงดี.



...............................................



หมายเหตุ :


วันนี้...นกตัวนี้ดูเศร้าที่สุดในความรู้สึก




 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2550
16 comments
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2550 7:43:37 น.
Counter : 995 Pageviews.

 

ภาพมีอารมณ์และความรู้สึก สวยค่ะ

 

โดย: Jannyfer 9 กุมภาพันธ์ 2550 8:03:45 น.  

 


โลกที่เธออยู่มันคงอ้างว้างมาก

เธอจึงพยายามหาใครสักคนที่เธอจะรักได้

แต่การพยายามค้นหา

บางทีก็เหมือนเป็นการพยายามผลักไส

อาจทำให้เธอเจ็บปวดมากกว่าเดิม

*******

ในความคิด กลับเห็นว่า

นกตัวนี้ยังไม่เศร้าเท่าไหร่

เพราะสายไฟที่พาดผ่าน

แม้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต มันก็บอกได้ว่า

นกตัวนี้ยังมีเพื่อนในภาพนั้น

แต่หากนกเกาะบนกิ่งไม้ที่โดดเดี่ยว

และไร้ซึ่งภาพประกอบใดๆ

มันจะดูเหงา เศร้า และอ้างว้าง

มากกว่า

 

โดย: sunny-low (sunny-low ) 9 กุมภาพันธ์ 2550 8:24:32 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ

 

โดย: มาดามมุก (sridaping ) 9 กุมภาพันธ์ 2550 9:53:11 น.  

 


ขอบคุณที่แวะไปคุยที่บล็อกค่ะ

ส่วนมากบล็อกจะมีแต่เพื่อนๆ ที่คุ้นเคย

จึงไม่ค่อยพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น

ก้อเลยต้องมาหาประสบกาม
เอ๊ย!!! ประสบการณ์
ความคิดเห็นที่บล็อกนี้

อิอิ

 

โดย: sunny-low (sunny-low ) 9 กุมภาพันธ์ 2550 10:39:34 น.  

 

น่าเห็นใจเธอนะคะ

 

โดย: printcess of the moon 9 กุมภาพันธ์ 2550 13:49:30 น.  

 

นกเกาะบนสายไฟ
ใบไม้ไหว ลมพัดเอื่อย
ชีวิตยังไหลเรื่อย... ยังไหลเรื่อย...

 

โดย: LASIP 9 กุมภาพันธ์ 2550 15:21:19 น.  

 

ชีวิตก็คือชีวิต
บางทีเรื่องที่ทำให้หม่นหมองค้างคาใจ
เพราะเราจะเข้าไปช่วยอะไรไม่ได้
ก็ได้แต่มองดู
และ ชีวิตก็ดำเนินต่อไป
ที่ฝากไว้คือ...
ช่วยดูแล รักษาหัวใจ ของคนที่ใกล้ ๆ ให้ดีหน่อย

 

โดย: ชิงดวง 9 กุมภาพันธ์ 2550 15:41:03 น.  

 

ดี.แวะมาส่งความสุขค่ะ

 

โดย: d__d (มัชชาร ) 9 กุมภาพันธ์ 2550 15:42:14 น.  

 

ภาพ สวยแบบอ้างว้างค่ะ

เรื่อง รักกับเซกส์นี่ ทำคนเสียใจมามากแล้ว

เราไม่สามารถใช้ร่างกายเหนี่ยวรั้งใครไว้ หรือเรียกร้องความรักจากใครหรอกค่ะ

ความรักมันเป็นนามธรรมนะ แม้มันเป็นสิ่งที่เหมือนจะจับต้อง สัมผัสได้ก็จริง แต่มันไม่ได้ประกอบอยู่ด้วยสัมผัส ทางกายหยาบล้วนๆ

ผู้หญิงหลายคน ยอม เพราะผู้ชาย บอกว่า ถ้าไม่ยอม แปลว่า ไม่รักกันจริง ไม่อยากเสียเขาไป ก็เลยต้องยอม

ถ้ารัก เขา แล้วเราเป็น ตัวเรา ใน แบบแผน แห่งความดีงาม ไม่ได้ ก็ปล่อยเขาไปดีกว่า

จะรั้งไว้ด้วยอะไรก็ตาม สุดท้ายมันก็ต้องจากไปอยู่ดี

 

โดย: ปอ (O_Sole_mio ) 9 กุมภาพันธ์ 2550 15:43:43 น.  

 

เข้ามาดูภาพนี้ มันดูโดดเดี่ยวยังไงไม่รู้

 

โดย: วันวานที่ผ่านมา 9 กุมภาพันธ์ 2550 17:50:09 น.  

 


มาแอบดีใจ
ที่มีชื่อตัวเองอยู่ใน frieds' blog
ขอบคุณที่รับเป็นเพื่อนนะ

เคยสงสัยตัวเองไม๊
ว่า
การที่เราจะ add ใครไว้ใน frieds' blog ของเรา
เราตัดสินจากอะไร

เคยดีใจที่แวะไปบล็อกเพื่อนที่ไม่คุ้นเคย
แต่เขาแวะมาอ่านที่บล็อก
ก็เลยแวะไปบล็อกเขา
ปรากฎว่าเขา add เราไว้แล้ว

ก็แปลกใจ เพราะเราเองยังไม่เคยไปบล็อกเขาเลย
ทำให้รู้ว่า เขาคงมาบล็อกเราบ่อย
ถึงได้ add เราไว้เลย

ขณะที่บางคน เราก็แวะไปบล็อกเขาบ่อยๆ
แต่เขาไม่เคย add เรา
มาวันหนึ่งเขาก็ add เราไว้
เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่า
เขารับมิตรภาพจากเราแล้ว



ขอบคุณ

 

โดย: sunny-low (sunny-low ) 10 กุมภาพันธ์ 2550 2:06:42 น.  

 

เอ.. กลัวเป็นคนเก็บกดจังอ่ะ

สงสัยต้องระเบิดอารมณ์บ้างแล้วครับ

 

โดย: กะได 10 กุมภาพันธ์ 2550 5:28:23 น.  

 

เวลาจะ add friend มีอยู่เหตุผลหนึ่งที่สำคัญมาก คือ ต้องรู้สึกว่าพูดคุยกันได้ ชอบอะไรที่คล้ายๆกัน และหมั่นทักทายกันเสมอ
ที่บล็อกผม...กลุ่มที่เข้ามาชมคิดว่าไม่มาก
บางคนมาแบบซุ่มๆ (แต่ผมรู้นะว่าคุณเข้ามาดูทุกวัน ถึงจะไม่ได้ comment อะไรสักประโยคก็ตาม)
บางคนเข้ามามอบแง่มุมความคิดดีๆสม่ำเสมอ
เพื่อนใหม่บางคนก็ให้ความช่วยเหลือแบบเต็มที่เต็มใจ
ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยพูดคุยได้ยินเสียงกันก็ตาม

นี่ก็เป็นเหตุผลดีๆอีกข้อที่ทำให้โลกนี้ไม่โหดร้ายเกินไปนัก

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 10 กุมภาพันธ์ 2550 7:45:15 น.  

 


ในความคิดส่วนตัว

บางทีการที่เรามองว่าโลกนี้โหดร้าย

ก็เพราะเรารับรู้ความเป็นไปของโลกนี้ด้านเดียว

จากคำบอกเล่า จากสื่อต่างๆ

แต่เมื่อเราเดินไปหาความจริงของโลกใบนี้ด้วยตัวเอง

เราจะเห็นว่า

โลกนี้มีอะไรดีๆ แอบซ่อนไว้มากเลยล่ะ

 

โดย: sunny-low (sunny-low ) 10 กุมภาพันธ์ 2550 8:21:55 น.  

 

ฝีมือทุกภาพเลย ดูจากภาพ คนถ่ายภาพมีอาการโรคหัวใจกำเริบนิดหน่อย
คาดว่า(ถ้า) ได้รับดอกกุหลาบวันวาเลนไทม์จากคนผุ้เป็นที่รักซักดอกอาการคงดีขึ้นนะค๊า

มาชมภาพสวยๆ อย่างตั้งใจมาเลยค่ะ

แฮปปีวาเลนไทม์ล่วงหน้ามีความสุขมากๆในวันแห่งความรัก
บายค่ะ

Tikky!

 

โดย: Stricky-rice (Stricky-rice ) 13 กุมภาพันธ์ 2550 0:38:04 น.  

 

Vi-ti kid nai karn dum naern chee wit nun' sum kun jing jing naa kaa

 

โดย: CSULB@FineArt 9 กันยายน 2550 14:41:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]