พฤษภาคม 2565
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
25 พฤษภาคม 2565

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ปรัชญาชีวิตจากครูมอร์รี :


: ปรัชญาชีวิตจากครูมอร์รี :

เขียน - Morrie Schwartz
แปล - จิรันธรา ศรีอุทัย










ผมเคยเขียนถึงหนังสือเล่มโปรดเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า
“วันอังคารแห่งความทรงจำกับครูมอร์รี” ซึ่งเขียนโดย Mitch Albom
หนังสือเล่มนั้นเป็นเขียนร่วมกันระหว่างลูกศิษย์หนุ่มกับครูวัยชราซึ่งป่วยเป็นโรคร้ายแรงรักษาไม่หาย
หนังสือเล่มนั้นช่วยสะท้อนความจริงของความป่วยไข้ การทำใจยอมรับความจริง
และการเตรียมใจเพื่อรับมือกับความตายได้อย่างดงามที่สุดเล่มหนึ่ง


แต่หนังสือ “ปรัชญาชีวิตจากครูมอร์รี” นั้นเขียนโดยครู Morrie Schwartz เอง
เขาเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น ขณะมีอายุ 78 ปี ป่วยด้วยโรคเอเอลเอสหรือโรคลู เกห์ลิก
โรคที่ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานไปทีละส่วน และจะต้องเสียชีวิตในที่สุด
ครูมอร์รีตั้งใจเขียนงานชุดนี้ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตที่แฝงไปด้วยแง่คิดและมุมมองการใช้ชีวิตของตน
ด้วยความซึ่งเคยเป็นครูมาอย่างยาวนานตลอดทั้งชีวิต ครูมอร์รียังใช้ความเจ็บป่วยของตน
เป็นบทเรียนสำคัญในการสอนผู้คนให้ตระหนักถึงความจริงแห่งชีวิต
ให้เข้าใจความตายในมุมที่ลึกซึ้งและสงบงาม
ครูมอร์รีจากไปอย่างสงบที่บ้านในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995
พร้อมทิ้งบทเรียนชีวิตอันยิ่งใหญ่ให้กับโลก ในรูปแบบหนังสือและบทสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์



“ปรัชญาชีวิตจากครูมอร์รี” ไม่ได้เป็นหนังสือคู่มือเตรียมพร้อมรับมือกับความตาย
หากแต่บอกเล่าถึงความป่วยไข้อย่างตรงไปตรงมา
พูดถึงอารมณ์ ความรู้สึกของคนที่ต้องป่วยจนช่วยเหลือตนเองไม่ได้
การเขียนถึงความทุกข์ที่ตนต้องเผชิญ ทำให้เราเห็นเส้นทางซึ่งคู่ขนานกันไป
ทางหนึ่งร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ แต่อีกทางหนึ่งกลับลงลึกไปในความเข้าใจ
จนรับมือกับการลาจากได้อย่างสงบ



ไม่มี ไม่ตาย
ไม่ตาย ไม่มี



เพียงแต่ความตายของใครบางคน
กลับทำให้คนที่ยังอยู่ได้เห็นถึงคุณค่าและความหมายชีวิตมากขึ้น
ด้วยการบอกเล่าความคิด ความรู้สึก รวมทั้งปรัชญาในตน
จนเราได้เห็นและเรียนรู้ไปกับครูมอร์รี
ตราบจนวันสุดท้ายของท่านนั่นเอง















































 




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2565
19 comments
Last Update : 25 พฤษภาคม 2565 5:39:08 น.
Counter : 1118 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtanjira, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณปัญญา Dh, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmultiple, คุณTui Laksi, คุณทนายอ้วน, คุณtuk-tuk@korat, คุณtoor36, คุณThe Kop Civil, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณตะลีกีปัส, คุณSweet_pills, คุณสองแผ่นดิน, คุณไวน์กับสายน้ำ

 

สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

" เราต่างหนีความตายไม่พ้น
เราทุกคนล้วนต้องตาย "

มันคือสิ่งที่เราต้องเข้าใจและยอมรับนะคะ

พี่ชอบทุกประโยคที่ก๋านำมาเสนอเลยค่ะ

อ่านรีวิวเล่มนี้ของก๋า
ทำให้พี่คิดถึง น้าผช ที่จากไปเลยค่ะ
น้าผช เป็นข้าราชการครูที่ทุ่มเทมากๆคนนึงค่ะ
หลังเกษียณอายุก็มาทำประโยชน์ให้สังคม
พี่ยังทำหนังสือที่ระลึกให้น้าเลยนะคะ
น้าเคยทำหนังสือไว้ 3 เล่มด้วยค่ะ
สุดท้ายแล้ว เมื่อคนเราจากไป ความดีเท่านั้นที่จะอยู่ในใจคนนะคะ


ร้านนี้ยายน่ารักค่ะ ทำอาหารก็เก่ง
เหมือนแม่พี่เลย ทุกวันนี้ยังชาวยน้องสาวอยู่เลยค่ะ
ใครๆมาก็จะถามหาแม่ครัวมือหนึ่งล่ะค่ะ ^^

ก๋า มาดาม หมิงหมิง สุขกายสบายใจนะคะ

 

โดย: tanjira 25 พฤษภาคม 2565 6:53:52 น.  

 

สวัสดีครับ

 

โดย: ปัญญา Dh 25 พฤษภาคม 2565 7:40:47 น.  

 

อ่านช่วงมีโรคระบาดนี้ดีค่ะ
ช่วยให้ปลง..ปรับตัวเอง
และเผื่อแผ่ให้คนใกล้ตัวทราบต่อไป

ผู้ประพันธ์ เขียนและถ่ายทอดด้วยfeel
ของตัวเองล้วนๆ
มีประโยชน์จริงๆ

 

โดย: เริงฤดีนะ 25 พฤษภาคม 2565 7:59:03 น.  

 

เล่มนี้เพิ่งเคยเห็นที่บล็อกคุณก๋านี่แหละ

 

โดย: หอมกร 25 พฤษภาคม 2565 8:11:04 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"ปรัชญาชีวิตจากครูมอร์รี" หนังสือที่เขียนตอนป่วย ตอนอายุ
มาก น่าจะเขียนได้เนื้อหาสาระที่จะให้ผู้อ่านได้มากนะ เพราะเป็นการ
เขียนจากประสบการณ์ชีวิตที่ตนสั่งสมมาเป็นเวลานาน เนาะ
เหมือนดั่งหนังสือของ " คุณครูมอร์รี” วัย 78 ปี จากตัวอย่าง
ข้อความที่ยกมาประกอบของ ก๋า ให้แง่คิดเกี่ยวกับชีวิต โดยเฉพาะ
เรื่องไม่มีใครหนีพ้นความตายไปได้แน่นอน

โหวดหมวด แนะนำหนังสือ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 25 พฤษภาคม 2565 9:10:11 น.  

 

เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากจริงๆนะครับ
ถ้ารู้ว่า ตัวเราจะต้องตายไปอย่างช้าๆ
อวัยวะหยุดทำงานไปเรื่อยๆทีละอย่างนี่

โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง นี่เดี๋ยวนี้เริ่มได้ยินมากขึ้น แสดงว่า
คนเป็นกันแยะ แถมไม่มีทางรักษาซะด้วย
จิตใจที่เข้มแข็งเท่านั้นนะครับ ที่จะช่วยเราอยู่ได้ ในสภาพที่ร่างกาย
เริ่มถดถอยลงทุกขณะ

ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ต้องดูแลรักษาให้ดี
ร่างกายเค้าก็ให้มาใช้ มีช่วงเวลาจำกัด
เสร็จแล้วก็ต้องคืนเขาไปทุกอย่างเลยนะครับ

คนเราถึงจะไม่ร่ำรวยแต่ขอให้ร่างกายแข็งแรง
เช้ามาตื่นหายใจได้เต็มปอด มีแรงยืนเดินได้นี่
ก็มีความสุขมากแล้วละครับ



 

โดย: multiple 25 พฤษภาคม 2565 9:38:51 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า
โอ้...อ่านรีวิวแล้วอยากไปซื้อมาไว้อ่านบ้างเลยละคร้า

"ความตายของใครบางคน...กลับทำให้คนที่ยังอยู่
ได้เห็นถึงคุณค่าและความหมายชีวิตมากขึ้น"

ตรงนี้ละโดนใจมากที่สุด..จริงพัน % ที่เราทุกคนหนีความตายไม่พ้น
เราชอบอินกับข่าวคนดีๆที่กำลังป่วยใกล้ถึงจุดจบชีวิต
ถึงความรู้สึกของเขา...ที่เรารู้สึกเสียดายคุณความดีที่เขาได้ทำไว้
จะหวนคิดเข้ามาวนเวียนในความรู้สึกหลายวันเลยละ...
ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเราเลย...
เวลาทำให้เราปรับใจเลิดคิดได้

เหมือนกับ ต.ย. หนึ่งที่คุณก๋านำมาให้อ่าน...
"ถ้าเราไม่ต้องการให้อะไรๆดำเนินไปอย่างที่เป็น
เราจะต้องหาวิธีเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้น"

ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆได้รู้จักค่ะ

 

โดย: Tui Laksi 25 พฤษภาคม 2565 9:56:33 น.  

 

สวัสดีค่ะ

 

โดย: นาฬิกาสีชมพู 25 พฤษภาคม 2565 10:39:27 น.  

 

เคยได้ยินชื่อหนังสือครับ แต่ไม่เคยอ่านเลย อิอิอิ


ตอนนี้ที่ กทม ฝนเริ่มทิ้งช่วงแล้ว แดดเริ่มแรง เลยรีบขนอะไรที่จำเป็นจะต้องซักมาซักแทบจะทุกวันเลยครับ ฮ่าๆๆๆ

 

โดย: ทนายอ้วน 25 พฤษภาคม 2565 11:11:42 น.  

 

ฉะนั้นอยากเปลี่ยนหน้า ทุบหน้า จงรีบทำ ตอนกำลังมีแฮง 5555

 

โดย: tuk-tuk@korat 25 พฤษภาคม 2565 13:22:20 น.  

 

อดีตก็คืออดีต บางทีเราอาจยึดติดกับมันมากเกินไป

ผมคุ้นๆ เหมือนพี่ก๋าเคนเขียนบล็อกพูดถึงครูมอร์รีไว้ด้วยรึเปล่าครับ เห็นชื่อนี้แล้วรู้สึกคุ้นมาก

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 25 พฤษภาคม 2565 16:18:13 น.  

 

เห็นด้วยกับเม็นต์อาจารย์เต๊ะเลยครับ ถ้ารู้วันตายแล้วทำใจยากมากจริง ๆ ครับ ถ้าได้อ่านเล่มนี้แล้วผมว่าคงจะปลงไปได้เยอะเลยนะครับ
ลิเวอร์พูลเหลือลุ้นอีกถ้วยนึง น่าจะสนุกแน่นอนครับ

 

โดย: The Kop Civil 25 พฤษภาคม 2565 16:22:57 น.  

 

สวัสดีครับคุณก๋า

ชอบประโยคที่ว่า ไม่มีวิธีใดวิธีหนึ่งที่เหมาะกับทุกคน
จงหาวิธีที่เหมาะสมกับตนเองครับ

เพราะเมื่อเราอาจทำตามแบบคนอื่น
เมื่อไปถึงจุดหนึ่งก็จะพบว่ามันก็ไม่ใช่วิถีแบบเรา
ยกตัวอย่าง นักกีฬา ที่ต้องหาเทคนิคเฉพาะตัว

ขอบคุณที่แนะนำหนังสือน่าอ่านอีกเล่มครับ

 

โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา 25 พฤษภาคม 2565 16:56:01 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ

ส่วนใหญ่ไม่ค่อยกลัวความตายกัน
ที่กลัวคือ ความทรมานเจ็บปวดก่อนการตาย
และการพะวงห่วงถึงคนที่รักนะคะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 25 พฤษภาคม 2565 17:20:55 น.  

 

สวัสดียามดึกครับคุณก๋า

ข้อความ ข้อคิดบางส่วน ที่คุณก๋าคัดออกมาให้อ่าน
ผมว่าทุกประโยค ทุกถ้อยความนั้นมีประโยชน์มากนะครับ

หนังสือแนวพัฒนาตนเองจะมีประโยชน์ต่อเมื่อ
เราได้อ่านแล้วนำมาปรับใช้เพื่อแก้ไขตนเอง

เช่น…

“ถ้าคุณเป็นคนช่างหงุดหงิด
คุณจะยังคงเป็นอย่างนั้นต่อไป
ถ้าไม่พยายามเปลี่ยนตัวเอง”

ตรงนี้อาจจะไม่ใช่แค่ “คนช่างหงุดหงิด” เท่านั้น
อาจจะเป็น “คนมองโลกในแง่ร้าย”
อาจจะเป็น “คนเห็นแก่ตัว” “คนไม่มีเมตตา” “คนใจร้าย”
หรือ คนอะไรก็ได้ ที่เรารู้สึกว่ามันไม่ดี และมีอยู่ในตัวเรา
ถ้าเราไม่เปลี่ยนมัน เราจะเป็นแบบนั้นต่อไป

ต้องขอบอกเลยว่า หนังสือเล่มนี้ ดีงามครับคุณก๋า

 

โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) 25 พฤษภาคม 2565 21:35:19 น.  

 

ขำอันนี้ด้วยครับ ตอนคลอปป์มาถามเฟอร์กี้ว่ามาคุมทีมไหนดี เฟอร์กี้บอกว่าทีมที่มีประวัติศาสตร์ แกคงไม่คิดว่าคลอป์จะมาลิเวอร์พูล 555

 

โดย: The Kop Civil 25 พฤษภาคม 2565 22:00:58 น.  

 

เล่มนี้ยังไม่เคยเห็นค่ะคุณก๋า
ให้ข้อคิดที่ดีจังค่ะ ขอบคุณนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 25 พฤษภาคม 2565 23:37:26 น.  

 

หนังสือเกี่ยวกับ เตรียมตัวก่อนตาย ก็เคยอ่านบ้างครับ
มีเวลาชีวิตเหลือเท่าไร ยิ่งต้องรีบทำสิ่งสำคัญก่อนจากไป
ดีกว่าจากไปแบบไม่สั่งเสียสั่งลา

ช่วงเลิกงาน ฝนตกหนักครับ มาถึงบ้านฝนหยุดแล้ว


 

โดย: สองแผ่นดิน 26 พฤษภาคม 2565 0:05:47 น.  

 

หนังสือเขียนโดยครู แนวปรัชญาดูแล้วคุณมอร์รี่คงจะปลงตก
และฮึดสู้ ทำได้เท่าที่ทำได้

งานเขียนของครูผมนึกถึง หนังสือ เอะจำชื่อไม่ได้แล้ว 555
ที่อยู่จังหวัดสุโขไทย เขียนเกี่ยววิถีชีวิตชาวบ้าน น่าจะเขียน
ครูบ้านนอก ได้งดงาม

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 26 พฤษภาคม 2565 5:11:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]