มีนาคม 2564
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
1 มีนาคม 2564

:: ความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในความสงสัย ::


:: ความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในความสงสัย ::

ผลงาน : กะว่าก๋า


















































 




 

Create Date : 01 มีนาคม 2564
27 comments
Last Update : 1 มีนาคม 2564 5:45:56 น.
Counter : 1564 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณTui Laksi, คุณblue_medsai, คุณmultiple, คุณทนายอ้วน, คุณหอมกร, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณmcayenne94, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณตะลีกีปัส, คุณcomicclubs, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณSleepless Sea, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณเริงฤดีนะ, คุณเนินน้ำ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณnewyorknurse

 

บางอย่าง เราก็มิอาจจะพูดออกมา แต่ยังคงมีวิถีชีวิตตามปกติ
มิได้หลอกลวง ใช้คำว่า
นิ่งเสียตำลึงทอง 555 ชักเข้าธรรมมะ
...

ผมเห็นงานเขียนคุณก๋า ข้างบนเวลาอ่านค่อย ๆ เลื่อนลงมา
ทำให้นึกถึง Ebook ที่ใช้คลิ๊กพลิกหน้า สะดวกมาก
ได้แต่หวัง ความก้าวหน้าของบล๊อกนะครับอาจจะมีหรือฮึดสู็
ฮึดพัฒนาต่อก็เป็นได้

...
กาญจนบุรี บางจุดเย็นสบาย... ตอนบ่ายเข้าไปริมน้ำที่
คนเยอะยอดฮิต ร้อนอิ๊บอ๋าย 555 กลับเข้าถึง กท.
ตอนกลางคืนครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 1 มีนาคม 2564 6:04:01 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า
เป็นจริงทั้งหมดในบทความ มนุษย์เราทนอยู่ภายใต้หน้ากาก
...เพื่อกลบความโกรธความเกลียด ความระแวงแคลงใจกันไว้

เราชอบอันนี้จัง...เมื่ออายุมากขึ้น ความสงสัยน้อยลง
สายตาแย่ลง แต่มองเห็นสิ่งต่างๆชัดเจนขึ้น...ตรงใจที่สุดค่ะ
เรื่องบางเรื่องไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิต....
ขอจดไว้เลยคร้า....ขอบคุณนะคะ

ปล. หนีกรุงไปเที่ยว ตจว. 3 วัน ตอนนี้เข้าที่ละ
นั่งเช็คภาพ หลักร้อย แถม ตื่นเต้นกับการเดินทางยุคโควิด
นอนไม่ค่อยหลับ...กลับถึงบ้านหลับยาวแบบไม่ได้ตั้งใจ 5 5

 

โดย: Tui Laksi 1 มีนาคม 2564 7:19:40 น.  

 

มีหลายคนค่ะ ที่เราสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป
บางคนเคยสนิทกันมาก นัดเจอกันก็บ่อย บางคนเคยโทรคุยกันบ่อยๆ แทบทุกวัน
แต่อยู่ๆ ก็นิ่งไป เห็นแต่โพสต์เฟซ แต่เค้าก็ไม่ตอบอะไรใดๆ นอกจากกดไลค์เม้นท์ที่เราไปพิมพ์ แต่ก็ไม่เคยโผล่มาเฟซเราเลย

เลยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นและสรุปสถานะตอนนี้คืออะไร ยังรักและสนิทกันอยู่ไม๊ แต่ก็ได้แต่เก็บความสงสัย

และคิดเข้าข้างตัวเองว่า "บางทีเราอาจจะรักกันแบบเงียบๆ" มั้ง 555+

//สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วค่ะ เป็นการแข่งขันที่อยากจะใช้คำว่า "มหาหฤโหด" มากกกกกกกกกก




 

โดย: Love Memoirist (blue_medsai ) 1 มีนาคม 2564 7:51:57 น.  

 

จากที่บล็อก

หลานสาวอายุ 10 ขวบ ครับ เลี้ยงเด็กสมัยนี้ยากจัง ถ้าเป็นสมัยก่อนไม่ต้องพูดอะไรเลย ตีลุย เดี๋ยวนี้ต้องพูดกันจนปากเปียกปากแฉะ แล้วต้องฟังเหตุผลเด็กด้วย จะสอนอะไรทีต้องวางแผนให้รัดกุม ถ้าเด็กให้เหตุผลเราจะตอบว่ายังไง .... โชคดีที่ไม่มีลูกเอง ไม่งั้นตีกันกระจายแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ

 

โดย: ทนายอ้วน 1 มีนาคม 2564 8:29:16 น.  

 

สำหรับตัวเองนะคุณก๋า
ถ้าเราไม่ชอบใคร เราก็เลือกที่จะไม่พูดด้วย
มากกว่าเสแสร้งแกล้งทำเป็นพูดดีด้วย
แต่ในใจรู้สึกตรงกันข้าม อย่างนี้ไม่ทำ
เพราะมันก็คือการโกหกดีดีนี่เอง
คนเราโกหกเสียแล้ว ความชั่วอื่นทำได้หมดจ้า
ต่อไปก็จะไม่มีคนเชื่อถือเหมือนคนแก่บางคน
ที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ในพื้นที่ข่าวทุกวันนี้
พูดอะไรไม่เคยทำได้อย่างที่พูด เฮ้อใครนะ




 

โดย: หอมกร 1 มีนาคม 2564 9:14:14 น.  

 

อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เลิกสงสัย ปลง(ตก)ได้เยอะ เพราะไม่อยากเอามารกสมอง ให้เหนื่อยอีกต่อไปจ้า

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 1 มีนาคม 2564 9:27:22 น.  

 

เดี๋ยวนี้ไม่ได้สนใจคิดเรื่องอะไรเลยค่ะ
ยิ่งเรื่องคนอื่นนอกวิถีแล้ว เรื่องของเขา
คิดไปก็เหนือยเปล่า.
คิดแต่เรื่องเฉพาะหน้าของตัวเอง
เลิกสนใจคนอื่นด้วยค่ะ
อยากทำอะไรก็ทำ ที่สบายใจที่ชอบ
ไม่เดือดร้อนใคร
ถ้าสงสัยอะไรกับคนที่สงสัย
นึกได้ก็ถามเลย ชีวิตนี้สั้นนัก
ทำความสุข สงบ สบายใจ
คิดมากวิเคราะห์มาก
ไม่มีประโยชน์ค่ะ

หน้ากากตุ๊กตาสยองดีแทบทั้งนั้นนะคะ
คนมักไม่เลือกให้ตัวเอง มักเลือกหน้ากาก
เทพบุตร เทพธิดานะคะ

 

โดย: mcayenne94 1 มีนาคม 2564 10:12:30 น.  

 

ไอ่เกลียดโดยไม่แสดงออกนี่ผมเป็นบ่อยเลยครับ
บางทีก็สงสารเค้าที่เอาไปคุยกับคนอื่นว่าสนิทกะผม
แต่พอถามผมผมก็บอกว่า ป่าว....แค่คุยกันในงาน
ซึ่งผมไม่ชอบเค้าเลย เกลียดเลยละ
คุยแค่ในงาน เท่าที่จำเป็น ส่วนเรื่อส่วนตัวผมไม่ยุ่งเลย
เค้าลาออกไปแล้ว วันที่ออกผมเอาซองงานทำบุญบ้านเค้าไปคืนให้
แล้วบอกว่า ไม่ไปนะครับ ไม่ใส่ซองนะ ไม่สนิท
พี่เค้าก็ยังบอกว่า ไปเถอะ กันกินข้าวกันถือว่าเลี้ยงส่งพี่
ผมเลยบอกว่าไม่อยากกินด้วยคับ ไม่มีประโยชน์ในงาน

เค้าทำหน้าตกใจมากๆ
รู้ครับว่าทำไม่ได้ แต่ผมกับคนนี้ไม่ได้จริงๆ.......

 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 1 มีนาคม 2564 10:45:16 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ

บางข้อความตรงใจค่ะ เช่น
แก่แล้วตาพร่ามัว แต่มองเห็นสิ่งต่างๆชัดเจนขึ้น

ตอนนี้ยึดคติอยากทำอะไรๆก็ทำ
ทำแล้วตนเองเป็นสุข ไม่ทำร้ายหรือริดรอนสิทธิ์คนอื่น เป็นพอค่ะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 1 มีนาคม 2564 11:34:37 น.  

 

มีบางเรื่องอยากคุย มีบางเรื่องอยากถาม แต่ถ้าถามแล้วมีปัญหากัน อยู่อย่างเงียบงันดีกว่า

รักกันในความเงียบดีกว่าเลิกรักกันเพราะได้คุย

ความสงสัยอย่ามีให้มากนัก ถ้าอยากจะรักกันอย่างยืนยาว

 

โดย: comicclubs 1 มีนาคม 2564 12:21:32 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

ข้อเขียนของเธอวันนี้ เขียนเอง น่าจะเขียนจากความรู้สึก
ของตัวเองนะ "ความสงสัยที่ซ่อนอยู่ในความสงสัย" เป็นเรื่องจริง
จ้ะ ครูก็เคยเป็นนะ ด้วยวัยในข่วงที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวจะเป็นมาก
กว่าวัยที่อายุมากขึ้น ความสงสัยจะถูกตัดออกไปมากมาย

เรื่องของความสงสัย บางอย่างครูว่า ควรพูดหรือถาม
กันไปเลย ให้รู้ดำรู้แดงไป อย่าเก็บความสงสัยให้เป็นทุกข์อยู่ใน
ใจเพราะหาคำตอบไม่ได้ แต่อย่างว่า ความสงสัยบางเรื่อง
เราก็ไม่กล้าถาม เพราะถามไปแล้ว อาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจมากหรือไม่มองหน้ากันไปเลย บางครั้ง ก็แปลกใจ
เหมือนกัน คนที่เคยสนิท เคยคุยกัน เคยมาเยี่ยมเยือน แต่จู่ ๆ
ก็หายเงียบไป แต่ก็รู้ว่า เขาสบายดี ก็ไม่อยากถาม ถือว่า
วาสนาของเรากับเขา บุญคงทำมาเพียงเท่านี้ อิอิ คิดแบบนี้ก็
จะได้สบายใจไงล่ะ

โหวดหมวด งานเขียน ฯ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 1 มีนาคม 2564 13:21:48 น.  

 

ชอบบล็อกวันนี้ มากค่ะพี่..

พออายุมากขึ้นไม่เชิงว่าสงสัยน้อยลง
แต่..... สงสัยแล้วปล่อยผ่านมากขึ้นมากๆ เลยค่ะ
บางครั้ง.. บางคำถาม หรือความสงสัย พอเกิดขึ้นมา
แม้ไม่ได้คำตอบก็ไม่หงุดหงิด เรากลับถามตัวเองกลับไปว่า
รู้แล้วได้อะไร ไม่รู้แล้วได้อะไร จากนั้น มันก็เลิกสงสัยไปได้เอง

แต่ถ้าเป็นในเรื่องของความสัมพันธ์
บ้างครั้ง..ความไม่ยินดียินยินร้าย อะไรแบบนี้
นานๆ เข้าก็ทำให้เกิดความชาชินได้เหมือนกันค่ะพี่

 

โดย: nonnoiGiwGiw 1 มีนาคม 2564 13:47:17 น.  

 

บางเรื่องพออายุเริ่มเยอะขึ้น ก็สามารถปล่อยวางได้จริงๆ ครับ
เหมือนเคยอ่านบล็อกคุณก๋าตอนนึงว่าเราใส่หน้ากากกันทุกคนใช่มั๊ยครับ
ลิเวอร์พูลชนะเป็นเสียทีนะครับ ลุ้นกันยาว ๆ

 

โดย: The Kop Civil 1 มีนาคม 2564 13:48:49 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ก๋า

ตอนแรกไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ไม่ได้สนใจอะไรเลย จนเพื่อนเริ่มพูด
ก็ถึงค่อยสืบหาข้อมูลมายืนยันดูอีกที อย่างที่เขียนเล่าใน blog ค่ะ
โรคระบาดจะอยู่อีกนานค่ะ อีกหน่อยก็จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น
ทำได้แค่ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ รักษาระยะห่าง
และรักษาสุขอนามัยตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน
ทำได้ดีที่สุดสำหรับทุกคน ก็คือ การดูแลตัวเอง จริงๆ ค่ะ

อ่านที่พี่ก๋าเขียนแล้วก็นึกถึงเรื่องน้องเมียน้อยเลยค่ะ
มีดีแค่เป็น case study ให้เหม่งเอาไปเล่าให้แฟนฟังค่ะ
เพราะแฟนหนุ่มของน้องสาวแฟน ก็ดันเป็นแบบเดียวกัน
กับผู้ชายที่น้องเมียน้อยคบอยู่ นิสัยเหมือนกันเป๊ะ
นี่ถ้าไม่ไล่ออก บริษัทคงได้เจ๊งเพราะพนักงาน
ขอลาออกกันหมดทั้งที่เศรษฐกิจแย่ขนาดนี้ค่ะ

 

โดย: Princezz Matcha Latte 1 มีนาคม 2564 13:56:01 น.  

 

ไม่ชอบใครก็ไม่คบค่ะ
ค่อยๆถอยห่างออกไป
ไม่ชี้แจงแสดงเหตุอะไรทั้งนั้น
เผื่อว่า วันหลังเราพบว่าเราเข้าใจผิดเอง
ก็จะได้ต่อใหม่ติด
ไม่ชอบผิดใจกับใครแบบออกหน้าออกตา

สองสามวันมานี้ออกไปอยู่บ้านป่า
เน็ตช้ามาก เลยได้แต่ตามกดโหวตให้เท่านั้นนะคะ

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 1 มีนาคม 2564 14:12:10 น.  

 

อายุมากขึ้นเราก็เข้าใจโลกมากขึ้น

โลกเรานี้มนุษย์เรามันก็เป็นแบบนี้แล ใส่หน้ากากเข้าหากัน คำชมอาจเป็นยาพิษ คำตำหนิอาจเป็นน้ำผึ้ง (ได้รับมากๆ ก็เบาหวาน) มันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 1 มีนาคม 2564 14:27:13 น.  

 


สวัสดีครับคุณก๋า

“ภายใต้หน้ากากแห่งความหลอกลวง”

คำว่า “หน้ากาก” มันชวนให้ระแวงไม่น้อย
แต่คนก็สวมหน้ากากกันทุกวัน เพราะกลัวโควิด ผ่างงงงง ง ง ไม่ใช่ อิอิ
คนสวมหน้ากากกันก็เพราะมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นบางประการ
ทำให้กลัว ทำให้รัก ทำให้ชัง ทำให้คล้อยตาม

หน้ากากไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่คนหลังหน้ากากนี่แหละอาจตกเป็นผู้ต้องสงสัย

คนทั่วไปประเมินกันด้วยสิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็นส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่จึงใส่หน้ากากกัน
แม้กระทั่งมือถือยังใส่หน้ากากเลย อิอิ ล้อเล่งงง

ที่ผมคุยกับคุณก๋าอยู่ตรงนี้ ผมก็ใส่หน้ากากนะครับ หน้ากากที่เป็นตัวอักษรไง
ตัวอักษรที่พิมพ์ คือ หน้ากาก

เช่น

“ ผมชอบคุณก๋ามากเลย “
“ ผมเกลียดกะว่าก๋าสุดๆ “

จะเห็นว่า หน้ากากทั้งสองชวนให้ผู้พบเห็นรู้สึกคล้อยตามไปทางใดทางหนึ่ง มากน้อยก็แล้วแต่อารมณ์ปรุงแต่ง
แต่ผู้ใส่นั้นคือผมเอง กลับอยู่ในอารมณ์ปกติ

ในความเห็นส่วนตัวผมนะครับ คนที่จะอยู่รอดทางอารมณ์ได้ คือคนที่มองหน้ากากด้วยความ “ไม่สงสัย”
และคนที่มองหน้ากากด้วยความเข้าใจครับคุณก๋า

 

โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) 1 มีนาคม 2564 17:30:56 น.  

 

สวัสดีตอนเย็นครับ

มาอ่านข้อคิดดีๆกับภาพประกอบสวยๆครับ
งานศิลปtชุดนี้สวยมากครับ

 

โดย: Sleepless Sea 1 มีนาคม 2564 17:32:28 น.  

 

วันนี้ อ.เต๊ะ ยุ่งมากเลยครับ มาโหวตแล้วก็ไป
อ่านแล้ว ก็รู้ว่าเขียนดี มัวแต่ลองโปรแกรมใหม่อยู่
เดี๋ยวนี้ โปรแกรมรุ่นใหม่ป้องกันการcrack ติดตั้งยากมาก
ลงหลายรอบ เล่นซะมึนไปทั้งวัน555

พี่ๆเค้าเม้นท์กันเต็มที่แล้ว งั้น อ.เต๊ะ น้องใหม่ บล็อกแก๊ง
ขออนุญาตมาเยี่ยมเฉยๆนะครับ 555



 

โดย: multiple 1 มีนาคม 2564 17:56:16 น.  

 

เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง 


สวัสดีครับ
ภาพแรก ผมเลือกที่จะถาม แล้วความสัมพันธ์ก็สิ้นสุดลงจริงๆ

จากบล็อก - ยินดีครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 1 มีนาคม 2564 18:02:23 น.  

 

อายุมากขึ้นประสพการณ์ก็สอนเรามากขึ้น
รู้หน้าไม่รู้ใจ
เก็บไว้ในใจเฉยๆดีกว่า อิอิ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 1 มีนาคม 2564 18:52:48 น.  

 

คนเราคิดไม่เหมือนกันเลย

 

โดย: นาฬิกาสีชมพู 1 มีนาคม 2564 19:27:55 น.  

 


สวัสดีครับน้องแตง

พี่ก๋าชอบประโยคนี้ครับ

รักกันอย่างเงียบ ๆ ดีกว่าเกลียดกันจากเสียงพูดคุย


 

โดย: กะว่าก๋า 1 มีนาคม 2564 21:02:02 น.  

 

 

โดย: เริงฤดีนะ 1 มีนาคม 2564 21:21:10 น.  

 

สงสัยในความสงสัย
โลกนี้มีคนเสแสร้งเยอะจริงค่ะ
อ่านแล้วเห็นด้วยทุกบท
โดยเฉพาะประโยคคนที่แสร้งเห็นอกเห็นใจ
อาจเป็นคนที่ใจร้ายที่สุด

 

โดย: เนินน้ำ 1 มีนาคม 2564 21:42:13 น.  

 

อายุมากขึ้น แก่เพิ่มขึ้น ก็มีข่าวอยู่ทุกวัน อายุ 70 80 ฆ่าคนได้ด้วยอารมณ์บันดาลโทสะ
อายุมากขึ้น ว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน รู้มาก รู้ธรรม ประสบการณ์มากกว่า
การกระทำจะเป็นเครื่องตัดสิน

เมื่อวานไม่ได้เข้าบล็อกมาทักทายใครเลย พาญาติป่วยไปรพ.ทั้งเช้าและค่ำ(อาการไม่ดีขึ้น) กลับมาหลับยาวตื่นมาหลังเที่ยงคืน

 

โดย: สองแผ่นดิน 1 มีนาคม 2564 23:35:36 น.  

 


สวัสดีค่ะน้องก๋า

 

โดย: newyorknurse 2 มีนาคม 2564 1:11:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]