:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 27 ::
:: ศึกชิงบัลลังก์ยุทธ์ มังกรพยัคฆ์บูรพา ตอนที่ 27 ::เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า
เจ็ดปีที่ทหารจินบุกตีด่านเซียนหยาง แต่ตียังไงก็ตีไม่แตก บุกมาแล้วได้แต่ล่าถอยกลับไป กลยุทธ์ในการตั้งรับของฝ่ายต้าซ่งไม่เผยให้เห็นจุดอ่อนใดใด ทหารในเมืองถูกฝึกมาเป็นอย่างดี มีระเบียบวินัย จิตใจฮึกเหิมกล้าแกร่ง ผิดกับป้อมเมืองอื่น ๆ ซึ่งเริ่มถูกตีจนย่อยยับ ต้าซ่งกำลังสูญเสียดินแดนไปเรื่อย ๆ
สิ่งที่บาตาญ่าแม่ทัพจินไม่เคยล่วงรู้ นั่นคือ ภายในกำแพงเมือง มีบุรุษชุดขาวหน้ากากดำทำหน้าที่เป็นกุนซือ คอยให้คำแนะนำกับเย่วฉินฟงตลอดเวลา ไม่ว่าทัพจินจะใช้กลยุทธ์ใดในการรบ ดูเหมือนทัพต้าซ่งจะอ่านทางได้ตลอด ปรับแผนรับมือได้ทุกกระบวนศึก การรุกรบตีชิงเมืองในสองครั้งที่ผ่านมา มิอาจทำอะไรได้นอกจากล้อมเมืองกดดันไปวัน ๆ เสียเวลาแรมเดือนแรมปีอย่างเปล่าประโยชน์ เมื่อแม่ทัพจินกลับไปรายงานสถานการณ์ให้กับคูบิไลข่านและเตมูบูจินได้ทราบ เป็นอันรู้กันว่าด่านที่หักได้ยากที่สุด ก็คือ เมืองเซียนหยางแห่งนี้นี่เอง !
...................................................
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วซึ่งทัพจินล้อมเมืองเซียนหยางไว้หมดทุกทาง สามเดือนผ่านไปโดยไม่มีอะไรคืบหน้า นอกจากบางวันซึ่งเย่วฉินฟงส่งทหารกล้าออกไปก่อกวนทัพจินให้ปั่นป่วน แต่ไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านั้น เนื่องจากทัพจินมีกำลังพลมากกกว่า 18 หมื่น ขณะที่ทหารภายในเมืองเซียนหยางนั้นมีเพียง 2 หมื่นคน
ที่สำคัญ คือ แม่ทัพใหญ่ของจินในคราวนี้มิใช่บาตาญ่าแม่ทัพคนเดิม แต่เป็นเตมูบูจินขุนศึกผู้เกรียงไกร ชื่อเสียงโด่งดังทั่วทั้งแผ่นดิน ไม่ว่าใครย่อมรู้จักและได้ยินชื่อเสียงของยอดขุนพลผู้อยู่ยงคงกระพัน และนักรบผู้เก่งกาจกร้าวแกร่งน่าครั่นคร้าม
เย่วฉินฟงรู้ตัวดีว่าความสามารถของตนนั้นด้อยกว่าเตมูบูจินในทุก ๆ ด้าน อีกทั้งอายุอานามของตัวเองก็แก่ชราไปมาก ต่อให้จิตใจคึกคักเข้มแข็งแค่ไหน แต่ร่างกายร่วงโรยเช่นนี้ ย่อมมิอาจตอบสนองปณิธานในการปกบ้านป้องเมืองได้
เมื่อหมดท่ามิรู้จะหันไปหาใคร เย่วฉินฟงจึงดั้นด้นเดินทางไปหาบุรุษหน้ากากดำ ผู้ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ทุกคำแนะนำของชายผู้นั้น ทำให้เมืองเซียนหยางยังตั้งอยู่ได้โดยไม่ถูกเผาทำลาย กลยุทธ์ศึกซึ่งชายหน้ากากดำบอกสอน เมื่อนำไปปฏิบัติ ก่อเกิดผลลัพธ์น่าอัศจรรย์ใจ ทหารจินบุกยังไงก็ตีป้อมค่ายไม่แตก เพียงแต่ทุกครั้งเมื่อเย่วฉินฟงร้องขอให้บุรุษหน้ากากดำเข้าร่วมรบด้วยนั้น คำตอบซึ่งได้รับกลับมา คือ คำปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
ชายหน้ากากดำบอกแต่เพียงว่าเขามิต้องการเป็นนักรบ แต่ที่ยืนหยัดอยู่คอยช่วยเหลือเย่วฉินฟง ก็เพียงเพื่อปกป้องดูแลประชาชนภายในกำแพงเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย หาได้ต้องการทำหน้าที่ทหารหาญไม่ เนื่องเพราะไม่เคยศรัทธาในการปกครองขององค์จักรพรรดิ รังเกียจการทำงานของเหล่าขุนนางกังฉิน
“ข้าทำสิ่งที่สมควรทำก็เพียงเท่านั้น”
นี่คือคำตอบซึ่งเย่วฉินฟงมักได้รับกลับมาเสมอในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา
............................................
เย่วฉินฟงควบม้าเดินทางไปพบบุรุษหน้ากากดำด้วยความร้อนใจ คนผู้นั้นยังคงนั่งตกปลาอยู่บนโขดหินก้อนเดิมโดยมิอาทรร้อนใจ เย่วฉินฟงกระโดดลงมาจากหลังม้าอย่างรวดเร็ว รีบกล่าวรายงานโดยไม่ทันทักทาย
“แย่แล้วท่านที่ปรึกษา คราวนี้พวกเราต้องแย่แน่ ๆ”
บุรุษชุดดำยังทอดอารมณ์นั่งถือคันเบ็ดโดยมิรู้ร้อนหนาว
“ใจเย็น ๆ ก่อนเถิดท่านแม่ทัพ ข้ารู้ดีว่าสถานการณ์นอกกำแพงสูงนั่นเป็นอย่างไร”
“แล้วเหตุใดท่านจึงดูสบายอารมณ์เยี่ยงนี้ได้อยู่เล่า ข้าเร่งร้อนมาพบท่าน ก็เพื่อขอคำแนะนำปรึกษาโดยด่วน ว่าเราควรทำประการใดดี” เย่วฉินฟงมิอาจสงบใจได้
“แม่ทัพใหญ่ของจินครานี้ คือ เตมูบูจิน ขุนพลไร้พ่าย นั่นหมายความว่าครั้งนี้เดิมพันของอาณาจักรจินวางไว้สูงลิบหมดหน้าตัก หากหักหาญเอาชัยไม่ได้ ย่อมไม่มีวันถอยหลังกลับเป็นแน่แท้”
บุรุษหน้ากากดำวางคันเบ็ดในมือไว้บนก้อนหิน ก่อนกระโดดม้วนตัวตีลังกาสามตลบลงมายืนเบื้องหน้าแม่ทัพเย่วฉินฟง
“คำแนะนำของข้าในครั้งนี้ คงสร้างความลำบากใจให้กับท่านแม่ทัพไม่น้อย ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยกับข้าหรือไม่ก็ตาม ข้าอยากให้ท่านได้ทำสิ่งหนึ่งก่อนเป็นอันดับแรก”
บุรุษหน้ากากดำบอกกล่าว
“ทำอันใดหรือท่าน ได้โปรดรีบบอกกล่าวมาได้เลย ?”
แม่ทัพผู้แบกรับชะตากรรมของประชาชนชาวซ่งรีบเอ่ยขึ้นทันที
“ปลดดาบของท่านออกจากฝัก แล้วจงฟันมาที่ตัวข้าให้เต็มแรง”
คำสั่งนี้ทำให้แม่ทัพซ่งถึงกับยืนงงเป็นไก่ตาแตก หันรีหันขวาง ไม่กล้าลงมือ บุรุษหน้ากากดำเร่งเร้าให้ลงดาบ
“ข้าสั่งให้ท่านทำ ลงมือเดี๋ยวนี้ โปรดอย่าได้ลังเล !”
เมื่อหมดทางเลือก เย่วฉินฟงจึงฟาดดาบไปที่ลำตัวของบุรุษชุดดำเต็มแรง
“เคร้ง !!!” ดาบในมือแม่ทัพซ่งถึงกับหักสะบั้นเมื่อกระทบหน้าอกของบุรุษหน้ากากดำต็มแรง เย่วฉินฟงถึงกับยืนตกตะลึงตาค้าง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าในโลกนี้ยังมีคนหนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า !
“ท่านไม่มีวันชนะศึกนี้ได้” บุรุษหน้ากากดำเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา
“แม่ทัพของจินใน ครั้งนี้ คือ เตมูบูจิน ผู้เก่งกาจ และอยู่ยงคงกระพันเช่นเดียวกับตัวข้า เมื่อฟันแทงไม่เข้า และมีวรยุทธ์เหนือล้ำกว่ามาก ท่านแม่ทัพจะเอาชัยจากคนผู้นั้นได้อย่างไร”
“เหตุใดศัตรูของต้าซ่งจึงฟันแทงไม่เข้าเฉกเช่นเดียวกับตัวท่าน ข้าไม่เข้าใจเลย”
ใบหน้าของเย่วฉินฟงแสดงความสับสนงงงวยจนเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่
“ข้ากับเขา เราต่างมียันต์เกราะเพชรคุ้มกายอยู่ ยันต์นี้ทำให้ผิวกายทนทานต่อศาสตราวุธทุกชนิด ทางเดียวจะก่อให้เกิดความพ่ายแพ้ได้ ย่อมต้องใช้วรยุทธ์ขั้นสูงสุดเข้าห้ำหั่นทำลายกันด้วยมือเปล่า หรือไม่ก็ต้องใช้ยาเบื่อยาพิษเท่านั้น”
คำอธิบายของชายหน้ากากดำยิ่งสร้างความหนักใจให้แม่ทัพใหญ่อย่างทวีคูณ เมื่อมองไม่เห็นหนทางชนะ แล้วไฉนเลยจะปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ได้
“แล้วข้าต้องทำเช่นใดกันเล่าท่าน ข้าอับจนปัญญาไปหมดแล้ว”
ชายชุดขาวหน้ากากดำยืนนิ่ง ค่อย ๆ เอื้อมมือปลดหน้ากากไม้สีดำที่สวมใส่ไว้ลง เย่วฉินฟงได้แต่ยืนมองดูตาค้าง ตระหนกตกใจแทบสิ้นสติ !!!
....................................................
เย่วฉินฟงลดตัวคุกเข่าทำการคารวะโดยมิรั้งรอ
“คารวะท่านแม่ทัพไป่จิงเหวิน ที่แท้เป็นท่านนี่เอง”
เย่วฉินฟงกลับคาดไม่ถึงว่าผู้ที่คอยให้คำปรึกษาช่วยเหลือวางกลยุทธ์ในการรบตลอด 7 ปีที่ผ่านมา กลับเป็นอดีตแม่ทัพใหญ่ของต้าซ่ง
ไป่จิงเหวินรีบเดินเข้าไปประคองให้เย่วฉินฟงลุกขึ้นยืน
“ขออภัยท่านแม่ทัพเย่วที่ข้าต้องอำพรางใบหน้าตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ข้าชื่นชมในตัวท่านยิ่งนัก ที่ได้ทำการปกปักรักษาบ้านเมืองอย่างสุดกำลัง ข้าทำได้เพียงช่วยเหลือท่านอยู่ห่าง ๆ เนื่องจากตั้งใจตัดขาดเรื่องทางโลกไปแล้ว และข้ามิได้มีตำแหน่งแห่งหนใดใดในกองทัพ บัดนี้ข้าต้องกล่าวกับท่านตามตรงว่าเมืองเซียนหยางของเรานั้น คงมิอาจต้านทานทัพจินได้อีกต่อไป หนทางเดียวซึ่งจะรักษาชีวิตของพลเมืองซ่งทุกคนไว้ได้ คือ การยอมจำนน”
“ยอมจำนน” แม่ทัพเย่วทวนคำด้วยน้ำเสียงแหบแห้งน่าสะเทือนใจ
“ใช่...การยอมจำนนเป็นเพียงหนทางเดียว หากท่านต้องการรักษาชีวิตทหารและประชาชนเอาไว้ ท่านไม่มีทางสู้เตมูบูจินได้ไม่ว่าจะด้วยการรบตัวต่อตัวหรือรบแบบใช้พิชัยยุทธ์สงคราม หากฝืนดึงดันตั้งรับต่อไปเรื่อย ๆ ทุกคนในกำแพงเมืองคงอดตายกันหมดภายในสามเดือน เพราะทางจินไม่มีวันล่าถอยกลับไปเหมือนสองครั้งก่อนอย่างแน่นอน แถมเตรียมเสบียงมาเพียบ พร้อมสู้ศึกยาวนานนับปี ข้าไม่อาจรู้ได้ว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร แต่หากท่านเลือกยอมจำนน ข้ายินดีอาสาเป็นผู้ไปเจรจาความกับเตมูบูจินให้ท่านด้วยความเต็มใจ”
ไป่จิงเหวินกล่าว
เย่วฉินฟงถึงกับทรุดตัวร่ำไห้โดยไม่อาย ตัวตายยังไม่อายเท่าพ่ายศึก นี่ยังมิทันสู้ กลับต้องยอมแพ้เนื่องจากไม่มีทางเอาชนะแม่ทัพของข้าศึกได้ ยิ่งคิดยิ่งเศร้าโศกเสียใจ เย่วฉินฟงดึงมีดสั้นข้างเอวออกมาหมายปาดคอตัวเองล้างอายในครั้งนี้ แต่ไป่จิงเหวินเร็วกว่า ใช้ฝ่ามือกระแทกไปที่ใบมีดจนพุ่งไปปักแน่นในก้อนหิน !
เย่วฉินฟงถึงกับอ้าปากค้าง เกิดมาไม่เคยพบเจอสุดยอดวรยุทธ์เช่นนี้มาก่อน
“อย่าทำร้ายตัวเองเลยท่านแม่ทัพ เหตุการณ์นี้หาใช่ความผิดของท่านไม่ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาท่านปกป้องเมืองนี้ด้วยชีวิต โดยไร้การสนับสนุนเหลียวแลจากทางราชสำนัก ท่านขอเสบียง ขออาวุธ ขอกำลังพลไปกี่ครั้งก็มิเคยได้รับการช่วยเหลือใดใด งบประมาณถูกส่งมาอย่างจำกัดจำเขี่ยเพราะขุนนางชั่วโฉดต่างโกงกินเงินรัฐเงินหลวงไปจนหมดสิ้น หากเมืองนี้ไม่มีแม่ทัพชื่อเย่วฉินฟง เห็นทีจะล่มสลายไปตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว”
คำพูดของไป่จิงเหวินคล้ายน้ำเย็นชโลมใจให้คลายทุกข์ เย่วฉินฟงค่อยเช็ดน้ำตาแล้วหันมาขอคำปรึกษา
“ข้ามิรู้จะคิดอ่านประการใดต่อไปแล้ว ขอท่านไป่จิงเหวินได้โปรดสั่งการมาด้วยเถิด”
เย่วฉินฟงไม่คิดต่อต้านทหารจินอีกต่อไปแล้ว เมื่อได้ทบทวนเหตุผลตามที่ไป่จิงเหวินเอื้อนเอ่ยมาความเดิมจากตอนที่แล้วตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 ตอนที่ 4 ตอนที่ 5 ตอนที่ 6
ตอนที่ 7 ตอนที่ 8 ตอนที่ 9 ตอนที่ 10 ตอนที่ 11 ตอนที่ 12
ตอนที่ 13 ตอนที่ 14 ตอนที่ 15 ตอนที่ 16 ตอนที่ 17 ตอนที่ 18
ตอนที่ 19 ตอนที่ 20 ตอนที่ 21 ตอนที่ 22 ตอนที่ 23 ตอนที่ 24
ตอนที่ 25 ตอนที่ 26
Create Date : 10 กันยายน 2562 |
|
23 comments |
Last Update : 10 กันยายน 2562 12:23:23 น. |
Counter : 3154 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสองแผ่นดิน, คุณmultiple, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณhaiku, คุณkae+aoe, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณอุ้มสี, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณInsignia_Museum, คุณtuk-tuk@korat, คุณRinsa Yoyolive, คุณTui Laksi, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณธนูคือลุงแอ็ด, คุณRananrin, คุณJinnyTent, คุณnewyorknurse |
| |
โดย: multiple 10 กันยายน 2562 8:04:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 10 กันยายน 2562 8:19:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 10 กันยายน 2562 9:07:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 10 กันยายน 2562 9:55:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 10 กันยายน 2562 10:56:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 10 กันยายน 2562 11:49:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 11 กันยายน 2562 0:19:10 น. |
|
|
|
| |
เดี๋ยวไล่อ่านต่อจากตอนที่แล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ