:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 193 ::
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 193 ::
โจทย์ --- วางแผนวันหยุด ผู้คิดโจทย์ --- toor36
:: วัน --- หยุด ! ::
ภาพและคำ : กะว่าก๋า
[1]
มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศคิวบา เขามองหาชาวประมงเพื่อจ้างให้ล่องเรือพาไปตกปลากลางทะเล เมื่อเจอเรือลำหนึ่งจอดรอที่ชายหาด เจ้าของเรือเป็นชายวัยกลางคน กำลังนั่งดีดกีตาร์ร้องเพลงอย่างสบายอารมณ์
มหาเศรษฐี : เฮ้...ฉันอยากจะจ้างนายพาฉันไปตกปลา
ชาวประมง : ตอนนี้ผมไม่ว่าง
มหาเศรษฐี : ไม่ว่าง...ฉันเห็นนายนอนเล่นอยู่ ทำไมถึงบอกไม่ว่าง
ชาวประมง : นี่เป็นเวลาพักผ่อนของผม นอนกลางวันเสร็จ เดี๋ยวผมต้องไปรับเมียกินข้าวเที่ยง ตอนเย็นก็มีงานเลี้ยงกับเพื่อนในหมู่บ้านด้วย
มหาเศรษฐี : ฉันจะจ้างนายด้วยเงินสิบเท่าเลย
ชาวประมง : ไม่...ผมจะพักผ่อน
มหาเศรษฐี : นี่นายรู้ไหม ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะรับเงินสิบเท่านี่ไว้ มันจะทำให้นายสบาย
ชาวประมง : สบายยังไง ?
มหาเศรษฐี : ก็วันนี้นายจะได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นไง
ชาวประมง : แล้วไง ?
มหาเศรษฐี : ถ้านายใช้มันไม่หมด ก็เก็บเงินเอาไว้ จากนั้นก็เอาไปซื้อเครื่องมือจับปลาที่ดีกว่านี้
ชาวประมง : แล้วไงอีก ?
มหาเศรษฐี : พอจับปลาได้เยอะขึ้น นายก็เอาเงินที่ขายปลาได้ไปซื้อเรือลำใหญ่กว่าเดิม
ชาวประมง : แล้ว ?
มหาเศรษฐี : แล้วนายก็จะมีเงินเยอะขึ้น ๆ ซื้อเรือได้อีกหลายลำ จากนั้นก็เอาบริษัทของนายไปจดทะเบียนลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ นายจะกลายเป็นมหาเศรษฐี
ชาวประมง : เป็นมหาเศรษฐีแล้วยังไง ?
มหาเศรษฐี : นายก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะนอนพักผ่อนทั้งวัน มีเวลาพาเมียไปกินข้าว ตกเย็นมาก็เฮฮากับเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านไง
[2]
โครงการ "Zero Tolerance" หรือ "คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต"
ท่านนายกฯแถลงโครงการนี้เพื่อขอความร่วมมือ ให้ประชาชนและข้าราชการทุกภาคส่วน ร่วมมือกันป้องกันและปราบปรามการทุจริตในทุกวงการ
และต่อมาท่านนายกฯได้วิงวอนให้สื่อเพลา ๆ การนำเสนอข่าวของรองนายกฯ ในเรื่องของนาฬิกาหรูและแหวนเพชรวงใหญ่ที่กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน
สองสามวันต่อมาข่าวออกมาว่า
แหวนเป็นของแม่ นาฬิกาก็ยืมเพื่อนมาใส่
ผมคงอ่านชื่อโครงการผิด ตกลงมันคือโครงการ "คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต" หรือโครงการ "คนไทยต้องทนต่อการทุจริต" กันแน่
[3]
ในช่วงวันหยุดยาว ผมไม่เคยได้หยุดเลย เพราะเป็นช่วงต้องทำงานโดยตลอด คนที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ผมเชื่อว่า คนพื้นที่เลือกจะนอนอยู่กับบ้าน ไม่ออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น เพราะรถเยอะ คนเยอะ ไปไหนก็แย่งกิน แย่งเที่ยว เชียงใหม่รถเริ่มติดเหมือนกรุงเทพเข้าไปทุกวัน ๆ ช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน รถติดสะสมยาว ผู้คนใบหน้าหงุดหงิด ชีวิตเร่งรีบเร่งร้อนขึ้นมาก ร้านอาหารดัง ๆ คนเข้าคิวยาว เพื่อไปพบกับความผิดหวัง ไส้อั่วจานละ 200 บาท มี 5 ชิ้น กาแฟแก้วละ 100 กว่าบาท แม้ไม่ใช่กาแฟเจ้าดัง สถานที่เที่ยวเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ลืมไปเลยว่าจะได้ถ่ายรูปดีดี ไม่มีมุมสวย ๆ ให้คุณได้ถ่ายภาพสบาย ๆ ไปเที่ยวที่ไหนก็หาที่จอดรถยากมาก ไปไหนก็ต้องรอ ต้องอดทน
ใช่ --- ช่วงเทศกาลคุณไม่ต้องมองหาคนพื้นที่หรอก พวกเราเลือกที่จะอยู่บ้านกัน
[4]
ภายในอาทิตย์เดียว มีคนบ่นเรื่องค้าขายฝืดเคืองกับผมมากกว่าสิบราย ไปนั่งตัดผม ช่างตัดผมบ่นว่าลูกค้าหายไปหมดเลย คนตัดผมน้อยลงเพราะอะไร ? หรือเปลี่ยนไปตัดผมร้านอื่น ? พี่เขาเล่าว่าเดี๋ยวนี้คนตัดผมช้าลง เมื่อก่อนตัดเดือนละครั้ง เดี๋ยวนี้สองสามเดือนถึงจะมาตัด เพราะประหยัดเงิน
ไปตลาด...แม่ค้าขายผลไม้บ่น ทำไมเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยมาซื้อผลไม้กินเลย
บริษัทผลิตถุงพลาสติกขนาดใหญ่บอกกับผมว่า ลูกค้าลดจำนวนการสั่งถุงพลาสติกลงเยอะมาก ทุกคนบ่นว่าค้าขายฝืดเคือง ลูกค้าน้อยลง นักท่องเที่ยวน้อยลง แถมยังโดนภาษีต่าง ๆ นานาเพิ่มขึ้นอีก เหนื่อยมาก รอรัฐบาลใหม่อยู่เนี่ย เบื่อมากเลย ฯลฯ
เพื่อนผมที่ทำบูติกโฮเทลบอกว่า ตั้งแต่ทำโรงแรมมาสิบกว่าปี สองปีนี้เขาขาดทุน ผมบอกว่านักท่องเที่ยวจีนมาเยอะเลยไม่ใช่เหรอ เขาบอกว่าคนจีนพักแต่โรงแรมถูก ๆ และส่วนใหญ่คนจีนเข้ามาทำธุรกิจโรงแรมเอง ซื้อหอพักมาดัดแปลงเป็นโรงแรม แล้วเปิดให้คนจีนเข้ามาพัก ลูกค้าของเขาส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง ซึ่งพอสอบถามไป ลูกค้าของเขาบอกว่าไม่อยากมาเชียงใหม่แล้ว มีคนจีนเข้ามาเที่ยวเยอะเกินไป จนเมืองวัฒนธรรมกลายเป็นเมืองที่วุ่นวายพลุกพล่าน ลูกค้าฝรั่งจึงเปลี่ยนไปเที่ยวประเทศอื่นที่คนจีนไม่ไป
เพื่อนผมทำหอพักแถวนิคมอุตสาหกรรมลำพูน ติดป้ายขายหอพัก เพราะไม่มีคนเข้ามาพัก โรงงานปิดตัวไปเยอะมาก นักลุงทุนต่างชาติย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น เมื่อโรงงานปิด พนักงานตกงาน หอพักของเพื่อนผมก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
[5]
รัฐบาลแถลงข่าวว่าตัวเลขการลงทุนดีขึ้นมาก ตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นมาก รองนายกฯพูดด้วยซ้ำ ว่าจะทำให้คนจนหมดไปจากประเทศในปีหน้า (หรือชาติหน้า)
แต่ทำไมผมไปไหนก็เห็นแต่ความฝืดเคือง แม้แต่ร้านของตัวเองก็เหนื่อยครับ กำลังซื้อภายในประเทศหดหาย ที่เคยฝากความหวังไว้กับกำลังซื้อจากต่างประเทศ อย่างภาคการท่องเที่ยว ผมว่ามันมาถึงทางตันแล้ว ทัวร์ศูนย์เหรียญแก้ไขไม่ได้ นักท่องเที่ยวจีนมาเมืองไทยด้วยความรู้สึกว่าถูกหลอก ทำอะไรต้องระวังว่าจะถูกโกง เขาจะยังอยากมาอีกหรือ แล้วคนที่ทำกับนักท่องเที่ยวจีนก็ไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนจีนด้วยกันทั้งนั้น คนจีนเข้ามาลงทุนทำบริษัททัวร์ เปิดร้านนวด ร้านอาหาร ทำบริษัทรถเช่า เปิดร้านขายของตั้งแต่ระดับห้องแถว ไปจนถึงร้านหรูหราในห้างใหญ่ เงินที่ผ่านมือมาจากนักท่องเที่ยวจีน แทบจะไม่ตกมาถึงมือผู้ประกอบการชาวไทยเลย
นักลงทุนชาวจีนมาเปิดบริษัทรับซื้อผลผลิตการเกษตรของไทย มาใหม่ ๆ ก็เหมาสวนผูกปี จ่ายราคาสูงมาก จนเกษตรกรตาลุกวาว พอปีต่อมาก็กดราคาลง จากนั้นก็แกล้งไม่ซื้อ พอผลผลิตเริ่มเน่า คราวนี้กดราคาหนักกว่าเดิม เกษตกรไม่มีทางเลือกจำใจต้องขาย ขายเสร็จคนจีนตีเช็คสามเดือน มาครบกำหนดไปขึ้นเงิน เช็คเด้ง คนไทยขาดทุนเป็นร้อยล้าน ส่วนคนจีนนอนตีพุงสบายหนีไปเมืองจีน
เศรษฐกิจที่ว่าดี .... ดีอะไร อะไรดี ?
[6]
การอยู่กับความเป็นจริงเป็นเรื่องเจ็บปวด การรับรู้ข่าวสารมาก ๆ บางคราวก็ทำให้เครียด ไม่ว่าจะรักหรือเกลียดนักการเมืองมากมายเพียงใด สุดท้ายผมก็ยังอยากเลือกตั้ง ยังอยากใช้สิทธิ์ของตัวเอง เพื่อ เลือก และบอกว่าเราต้องการอะไรจากคนที่เราเลือก ประชาธิปไตยไม่ใช่ระบอบการปกครองที่ดีที่สุด แต่อย่างน้อยที่สุดมันเปิดโอกาสให้เราตรวจสอบ และพูดได้ว่าอะไรคือความถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ชอบหรือไม่ชอบ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย มันเปิดโอกาสให้ตัดสินใจเลือกหรือไม่เลือกโดยไม่มีใครบังคับ
ปีหน้าผมมองว่าจะมีธุรกิจจำนวนมากที่ปิดตัวลง หลายคนต้อง หยุด ....ต้อง พัก ทั้งที่ไม่อยากหยุดและไม่อยากพัก แต่สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และนโยบายด้านภาษีที่เข้มงวด จะเป็นตัวซ้ำเติมให้หลายธุรกิจพังทลายลงอย่างย่อยยับ ไม่ว่าจะเป็นหาบเร่แผงลอย ร้านรวงในตลาด ไปจนถึงร้านบนห้างหรู เราจะได้รับสิทธิ์ที่จะสัมผัสความยากจน และพบกับความยากลำบากในการทำการค้าอย่างเท่าเทียมกัน
ยิ่งหากการเลือกตั้งถูกเลื่อนต่อไป (โดยไม่มีกำหนด) หรือเลวร้ายกว่านั้นไม่มีการเลือกตั้ง ความเชื่อมั่นจากนานาประเทศจะยิ่งลดน้อยถอยลง การลงทุนขนาดใหญ่จากนักลงทุนต่างชาติ จะเข้ามาอย่างที่รัฐบาลคาดหวังหรือไม่ การท่องเที่ยวที่ซบเซาจะทำให้เกิดผลกระทบหนักหนาเพียงใด ในฐานะประชาชนเราจะวางแผนการใช้ชีวิตอย่างไร ? ผมคิดว่านี่เป็นคำถามที่สำคัญจริง ๆ
Create Date : 17 ธันวาคม 2560 |
|
24 comments |
Last Update : 17 ธันวาคม 2560 6:23:11 น. |
Counter : 1352 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณmultiple, คุณSakormaree, คุณtanjira, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณmcayenne94, คุณJinnyTent, คุณSai Eeuu, คุณตะลีกีปัส, คุณmariabamboo, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณmambymam, คุณkae+aoe, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtoor36, คุณชีริว, คุณหอมกร, คุณสองแผ่นดิน, คุณALDI, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณnewyorknurse |
| |
โดย: multiple 17 ธันวาคม 2560 7:22:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 17 ธันวาคม 2560 8:00:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sai Eeuu 17 ธันวาคม 2560 11:27:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 17 ธันวาคม 2560 13:05:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 17 ธันวาคม 2560 19:05:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 17 ธันวาคม 2560 20:30:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 17 ธันวาคม 2560 21:28:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชีริว 17 ธันวาคม 2560 21:46:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 17 ธันวาคม 2560 21:55:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ALDI 17 ธันวาคม 2560 23:02:19 น. |
|
|
|
| |
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้มาเจิมบล็อกของคุณก๋าเลย
วันนี้..ได้มาล่ะ
โอ่โฮ...มีหลากหลายข่าวจัง..
แต่ชอบเรื่องแรกนะ..แสดงว่า
ชายคนที่นอนเล่นเป็นเศรษฐีจริงๆ..อิอิ
โหวตให้เลยคะ