กันยายน 2559
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
16 กันยายน 2559

:: ถนนสายนี้มีตะพาบโครงการที่ 163 ::






:: ถนนสายนี้มีตะพาบโครงการที่ 163 ::



โจทย์ : บ้านนอก

คิดโจทย์โดย : เป็ดสวรรค์










:: หมู่บ้านเร้นลับ ::

ภาพและคำ : กะว่าก๋า












มันเป็นหมู่บ้านที่แปลกประหลาด
นอกจากอยู่ติดชายแดนประเทศไทยกับพม่า
ภูมิประเทศโดยรวมคล้ายป่าดิบชื้น
ต้นไม้ใหญ่ขนาดแหงนคอตั้งบ่าเบียดเสียดกันแน่น
ถนนยังเป็นดินแดงคลุกฝุ่น สองข้างทางเป็นไร่นาเทือกสวน
มีบ้านหลังเล็ก ๆ คล้ายกระท่อมมุงหญ้าคาปลูกกันอยู่ห่าง ๆ
มองไปทางไหนก็เงียบสงบ

ผมขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวแบบไร้จุดหมาย
การได้มีโอกาสลาพักร้อนยาว ๆ 15 วันติดกัน
ทำให้ผมตัดสินใจขี่มอเตอร์ไซด์ขึ้นเหนือคนเดียวแบบค่ำไหนนอนนั่น
ไม่มีแผนอะไรในใจนอกจากคลายความเหนื่อยล้าจากงานวิชาการที่ตนเองทำอยู่

ถ้าจะมีอะไรที่ผิดแผนก็คือ น้ำมันดันมาหมดกลางป่า !!!

ผมตัดสินใจเข็นมอเตอร์ไซด์คู่ใจผ่านเข้าหมู่บ้านไปเรื่อย ๆ
มองเข้าไปในบ้านแต่ละหลังทำไมเงียบเชียบแบบนี้
เหมือนไม่มีใครอยู่ในหมู่บ้านเลย มีแต่เสียงจักจั่นร้องดังลั่นราวเสียงเลื่อยยนตร์
เมื่อเข็นไปตามถนนราว 10 นาที
จึงได้พบกับชาวบ้านที่กำลังรวมกลุ่มกันประมาณ 50 คน
ทุกคนกำลังนั่งพูดคุยล้มวงกันอยู่ในศาลาไม้ไผ่หลังใหญ่

เมื่อผมเข็นรถเข้าไปใกล้ ผู้นำชุมชนที่กำลังปราศรัยอยู่ก็หยุดพูดชั่วขณะ
แล้วหันมามองผมด้วยความสงสัย เขาเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 50 ปี
ผมสีขาวเกือบทั้งหัว แต่ดูยังแข็งแรงมาก

“มีอะไรหรือพ่อหนุ่ม” เขาถาม

“พอดีน้ำมันรถผมหมดน่ะครับ อยากจะขอซื้อจากชาวบ้านสักหน่อยครับ”

“ไม่ต้องซื้อหรอก” เขาตอบ แล้วหันไปทางลูกบ้านคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“เป็ง...ไปเอาน้ำมันรถมาเติมให้เขาหน่อยไป เอาที่บ้านป้อหลวงก็ได้เน้อ”
เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินไปทันที

ผมหันไปถามป้อหลวงหรือผู้ใหญ่บ้านว่า ชาวบ้านกำลังประชุมอะไรกันอยู่หรือ
ป้อหลวงยิ้มและตอบว่า
“ทุก 15 วันชาวบ้านจะมาพูดคุยกันที่ลานบ้านแห่งนี้ คุยกันทุกเรื่อง
รวมทั้งเรื่องหนังสือที่เราสนใจกันด้วย”

“หนังสืออะไรเหรอครับ” ผมถาม

ผู้ใหญ่บ้านยิ้มและตอบว่า “ชาวบ้านที่นี่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีทีวี เมื่อเราทำนาทำไร่เสร็จ
ไม่มีอะไรทำ เราเลยนั่งอ่านหนังสือกัน อ่านเสร็จก็จะเอามานั่งเล่าให้กันฟัง
ว่าใครชอบหนังสือเล่มไหน เพราะอะไร นี่เราก็กำลังจะเริ่มเล่าอยู่พอดี
สนใจจะฟังด้วยกันไหมเล่า”

“ดีสิครับ ผมไม่ได้รีบร้อนไปไหน ขอผมนั่งฟังด้วยคนนะครับ”

“ได้เลยพ่อหนุ่ม”



ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็เอาแกลลอนน้ำมันมา
เขาอาสาเติมน้ำมันให้ เมื่อผมยื่นเงินให้ เขาส่ายหน้าแล้วยิ้ม
“บ่าเป๋นหยังครับอ้าย” เขาตอบ

ผมขอบคุณน้องคนนี้และหันไปยกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่บ้าน
เขาโบกมือให้ผมนั่งลง แล้วนั่งฟัง




----------------------------------------------




ผมตั้งใจว่าจะนั่งฟังสักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยออกเดินทางต่อ
แต่เมื่อก้มลงไปมองดูนาฬิกาข้อมือ
ผมนั่งฟังชาวบ้านผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปเล่าเรื่องหนังสือนานกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว !

ชาวบ้านหนึ่งคนใช้เวลาเล่าเรื่องประมาณ 15 -20 นาที
ทุกคนพูดถึงหนังสือที่ตัวเองเพิ่งอ่านจบไปอย่างมีความสุข
เล่าเรื่องได้ละเอียด พูดถึงประโยคที่ตนเองชอบ
มีการอ้างถึงลักษณะของตัวละครที่ชอบและไม่ชอบ
และที่ทำให้ผมแปลกใจมากที่สุด คือ หนังสือแต่ละเล่มที่ชาวบ้านยกขึ้นมาพูดนั้น
เป็นหนังสือที่ผมเองยังแทบไม่เคยได้อ่านเลย หรืออ่านแต่ไม่ค่อยเข้าใจ
ด้วยเนื้อหาแบบปรัชญา หรือวรรณกรรมที่ต้องอ่านไป ตีความไปตลอดเวลา

พี่น้องคารามาคอฟของ ฟิโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี
เจ้าชายแฮมเล็ต โดย วิลเลียม เช็คสเปียร์
แอนนา คาเรนิน่าโดย เลโอ ตอยสตอย
เจ้าชายน้อยโดย อองตวน เดอ แซ็งแตกซูว์เปรี
ร้อยปี แห่งความโดดเดี่ยวโดย กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกวซ
บทกวีของการ์บี เต้าเต๋อจิง คัมภีร์หลุนอวี่ หนังสือของกฤษณมูรติ
หนังสือของโอโช คัมภีร์ห้าห่วงของมูซาชิ ดอน กีโฆ่เต้ ปรัชญาเพลโต ฯลฯ

ผมนั่งฟังชาวบ้านพูดถึงหนังสือที่ตัวเองอ่านอย่างน่าทึ่ง
แล้วเขาไม่ได้พูดแบบท่องจำ แต่เป็นการพูดจากความรู้สึกจริงๆ
ทุกคนพูดได้อย่างคล่องแคล่วลื่นไหลน่าฟัง ผมเหมือนตกอยู่ในความฝัน
ชาวบ้านชาวดอย คนบ้านนอกคอกตื้อทำไมถึงอ่านวรรณกรรมลึกซึ้งแบบนี้ได้

“งงใช่มั้ย ?” ผู้ใหญ่บ้านตบบ่าผมเบา ๆ เมื่อคนสุดท้ายพูดจบ
เสียงปรบมือดังขึ้น ทุกคนหันมายิ้มให้กัน แล้วเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข
“ครับ ผมสงสัยว่าทำไมชาวบ้านถึงรู้จักหนังสือดีดีเช่นนี้
แล้วหนังสือพวกนี้ใครเป็นคนหามาให้เค้าอ่านกัน”

ผู้ใหญ่บ้านยิ้มแล้วพูดว่า “หลายปีก่อน ตอนมีโครงการกองทุนหมู่บ้าน
ผมได้เงินมาก้อนหนึ่ง จึงถามความเห็นทุกคนว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำอะไรดี
มีคนเสนอว่าอยากอ่านหนังสือ หนังสืออะไรก็ได้ เพราะที่นี่ไม่มีไฟฟ้าใช้
ถึงได้อะไรที่เป็นเครื่องจักรมา เราก็ไม่มีไฟฟ้าใช้มันอยู่ดี
ผมเลยตัดสินใจขับรถเข้าเมืองไปคุยกับเพื่อนของผม
เขาจดรายชื่อหนังสือดีที่ควรอ่านมาให้ยาวเหยียด ผมเองไม่รู้จักหรอกครับ
ว่าหนังสือเหล่านั้นมันดียังไง รู้แต่ว่าเพื่อนบอกว่าดีก็ดี เลยลองอ่านดู
อ่านครั้งแรกก็ไม่เข้าใจเลย มันมีแต่ชื่อตัวละครแปลกๆ
มีแต่เรื่องราวชวนงง แต่เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ อ่านซ้ำไปหลายๆครั้ง
ผมกลับพบว่าวรรณกรรมเหล่านี้มันดีงาม มีอะไรให้เราค้นหามากมาย
โดยเฉพาะเรื่องราวของความเป็นจริงแห่งชีวิต”

“บางเรื่องเป็นวรรณกรรมโนเบล เป็นเรื่องแปลที่อ่านยากมากเลยนะครับ” ผมถาม

“ใช่...แต่มันไม่ยากเกินความเข้าใจของคนเราหรอก เรื่องราวของความเจ็บปวด
ความทุกข์ยาก ความเครียด ความโกรธ ความรักมันเป็นเรื่องที่คนทั้งโลกเข้าใจได้
ชาวบ้านที่นี่หลังจากทำงานเสร็จในช่วงสาย
จึงมักเดินไปหยิบหนังสือในศาลาหมู่บ้านกลับไปนั่งอ่านที่บ้าน
แล้วเราก็จะนำมาเล่าแบ่งปันกันว่าแต่ละคนอ่านแล้วได้อะไรกลับมา
จากหนังสือเล่มนั้นบ้าง”


ผมมองเข้าไปในชั้นหนังสือของศาลาหมู่บ้าน
หนังสือถูกเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ ดูแล้วมีหนังสือเป็นพัน ๆ เล่มเลยทีเดียว

“ทางการเองไม่ค่อยพอใจหรอกครับ ที่เราเอาเงินมาซื้อหนังสือ
ตอนนั้นเขาขอให้เราทำผลิตภัณฑ์โอทอปออกไปขาย ผมบอกกับทางการว่า
ชาวบ้านที่นี่อยู่กับอย่างเรียบง่าย ไม่มีใครอยากรวยมากกว่านี้แล้ว
ไม่ต้องการพัฒนาอะไรมากกว่านี้ อยากอยู่แบบเคารพธรรมชาติ
เขาทำหน้างง ๆ บอกว่าชุมชนจะเจริญ มันต้องมีถนนดีดี มีไฟฟ้าใช้สิ
แต่ชาวบ้านที่นี่ไม่ต้องการหรอกครับ เราไม่อยากรู้เรื่องภายนอกตัว
ไม่อยากรู้หรอกว่าดาราคนไหนเลิกกัน ไม่อยากรู้ว่าใครฆ่าใคร
หรือใครมีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง
ความสุขของคนในหมู่บ้านที่ล้าหลังแห่งนี้
คือการอยู่กับความเป็นบ้านนอกของตัวเองอย่างมีความสุขครับ”


“มันคงฟังดูแปลกมากในความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ทางการนะครับ” ผมว่า

“ตอนอ่านบทกวีของเอมิลี่ ดิกคินสันเป็นครั้งแรก ผมรู้สึกเหมือนเธอเป็นคนไทย
ป่าที่เธอเขียนในสหรัฐอเมริกามันไม่ต่างอะไรกับป่าในบ้านเราเลย
ความสวยงามของท้องฟ้าที่เธอบรรยายผ่านบทกวีของเธอ
ผมสัมผัสได้ถึงสิ่งนั้นในท้องฟ้าของหมู่บ้านนี้ แต่สิ่งที่รัฐพยายามทำกับเรา
คือการบอกว่า ชาวบ้านทุกคนต้องเชื่อฟังผู้นำ ต้องทำตาม ต้องเชื่อในแบบเดียวกัน
หนังสือเล่มเดียวกันแต่เปลี่ยนคนอ่าน ยังให้ความรู้สึกที่ต่างกันเลย
แล้วทำไมวิธีคิด และวิธีใช้ชีวิตของคนเรา
ถึงจะต้องคิดเหมือนกัน ต้องทำเหมือนกัน”


ผมพยักหน้าแล้วนั่งฟังผู้ใหญ่บ้านพูดต่อไป

“เราเป็นคนบ้านนอก แต่เรารู้ว่าเราต้องการอะไร อยากเป็นอะไร
ความสุขของเราคืออะไร อยู่ที่ไหน และจะรักษามันไว้ได้อย่างไร
เธอยังหนุ่ม ยังมีโอกาสใช้ชีวิต
ลองคิดดูให้ดีนะว่าคำตอบที่เธอต้องการในชีวิตมันคืออะไร ?”


คำถามสุดท้ายของผู้ใหญ่บ้านเล่นเอาผมเงียบและซึมไปถนัดใจ
ผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่บ้านอย่างนอบน้อม
ก่อนค่อย ๆ ขี่มอเตอร์ไซด์ออกมาจากหมู่บ้านแห่งนี้
พร้อมคำถามที่ยังตอบตัวเองไม่ได้อีกมากมายในใจ






 

Create Date : 16 กันยายน 2559
46 comments
Last Update : 16 กันยายน 2559 6:15:27 น.
Counter : 1115 Pageviews.

 

ชอบหมู่บ้านนี้จัง ผู้ใหญ่บ้านมีวิสัยทัศน์ดี...อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ก๋า

 

โดย: sawkitty 16 กันยายน 2559 6:39:20 น.  

 

เป็นหมู่บ้านที่น่ารักและอบอุ่นจังเลย มีความสุขกับสิ่งที่เค้ามี พอเพียงและเพียงพอกับชีวิตเค้าแล้ว

 

โดย: ปลาแห้งนอกกรอบ (ปลาแห้งนอกกรอบ ) 16 กันยายน 2559 6:52:30 น.  

 

เป็นความคิดที่ แปลกแตกต่าง ไปจากหมู่บ้านอื่น

เงินกองทุนหมู่บ้าน ผมไปลงเสียง ให้นำเงินกองทุนหมู่บ้าน
ไปซื้อแม่ปุ๋ย (ปุ๋ยเดี่ยว) มาผสม.. แต่ละชนิด เป็นปุ๋ย
ใส่ ต้นยาง... หรือ เงาะ...พริกไทย ที่ อ.แก่งหางแมว
จันทบุรีครับ... งอกงามดี กว่า นำเงินไปให้กู้ครับ 555

เห็นรายชื่อหนังสือ นักประพันธ์แล้ว... เคยได้ยินชื่อมาบ้าง

คุ้นเคย ตอลสตอย... เป็นนักคิดนักปราชญ์.. ถูกเมียบ่น
ขีั้บ่น...มาก..

จนวันหนึ่ง ตอลสตอย ไปตายอยู่ข้างบ้าน เขาสันนิษฐานว่า
แก เบื่อเมียขี้บ่น ทนเสียงไม่ไหว ไปตายในหิมะดีกว่า ครับ
555 แต่งานเขียน หรือสิ่งที่เขาทำ ม่าย รู้เรื่อง เขา
นะครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 16 กันยายน 2559 6:59:22 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ตอนนี้ ความสุข ของ ขวัญ คือ ท้องทุ่งนา และ ป่าเข้า ค่ะ
เวลามองไป แล้ว รู้สึก ผ่อนคลายมากๆ
พรุ่งนี้ เย็น ขวัญ จะ ขึ้นเชียงใหม่ นะคะ พี่ก๋า
ไป งานบ้าน พี่ติง ค่ะ

 

โดย: kwan_3023 16 กันยายน 2559 7:51:57 น.  

 

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
น่าจะเรื่องแต่งใช่มั๊ยคุณก๋า ผู้มีอำนาจคงไม่เชื่ออย่างนั้น

 

โดย: หอมกร 16 กันยายน 2559 8:00:50 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า
ตามอ่านตะพาบครับ
บ้านนอกแต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันไป หมู่บ้าน/บางบ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ รัฐก็สนับสนุนแผงโซล่าเซลล์
ตกกลางคืนก็ใช้ไฟที่ชาร์ตเปิดไฟนีออน ดูทีวี
เดี๋ยวนี้ มีบริษัทผลิตไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ ขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้า
เงินช่วยเหลือหมู่บ้าน หมู่บ้านที่ผมอยู่ทำโอทอปกล้วยฉาก(แต่ไม่เคยไปดูเลยครับ)
ส่วนหนังสือที่คุณก๋าลง ก็รู้ชื่อหนังสือบางเล่ม จากที่คุณก๋าเคยรีวิว เช่น หนังสือของกฤษณมูรติ โอโช

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

 

โดย: เศษเสี้ยว 16 กันยายน 2559 8:07:11 น.  

 

กะว่าก๋า Literature Blog

คำตอบในชีวิต บางทีคนกรุงก็มัวแต่ค้นหา

 

โดย: kae+aoe 16 กันยายน 2559 8:58:46 น.  

 

สงสัยว่าทำไมไม่มีหนังสือไทยเลยคะ 555

แต่จริงๆ นะ ความสุข ความเจริญ ไม่ได้มีมาตรฐานเดียวนี่นา

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 กันยายน 2559 9:14:05 น.  

 

ผู้ใหญ่บ้าน คือคุณก๋าแน่นอนเลย ถึงได้มีแนวคิดให้ลูกบ้านอ่านหนังสือกันแบบนี้

 

โดย: ลม อิสระ IP: 1.179.175.53 16 กันยายน 2559 9:15:22 น.  

 

โอ่โห เรื่องจริงหรือเรื่องแต่งครับเนี่ย ถ้าคุณก๋าขี่มอไซค์ได้เนี่ยเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องจริงแน่ๆ

บ้านนอกถึงจะขึ้นชื่อว่าบ้านนอกแต่ค้นให้ลึกมักเจอภูมิปัญญา หรืออะไรๆหลายอย่างให้ทึ่งอึ้งนึกไม่ถึงเสมอนะครับ

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 16 กันยายน 2559 9:34:49 น.  

 

555อ.เต๊ะ ว่า เจ้าคนที่มันไปแนะนำหนังสือนี่ น่าจะขายเครื่องหนัง อยู่ เชียงใหม่ แหงๆเลยนะครับนี่

เพราะ หนังสือ อ่านแล้วเวียนหัว ขนาดนี้ ทั้งเชียงใหม่มีเค้าคนเดียวนี่แหละ ที่อ่าน

คนปกติ เอ๊ย คนทั่วๆไป ชาวบ้านเค้าไม่อ่านกันหร้อก เย้ย 555





บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: multiple 16 กันยายน 2559 9:53:28 น.  

 

ชอบหมู่บ้านนี้ค่ะและชอบคำพูดของผู้ใหญ่บ้านจัง



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ตุ๊กจ้ะ Hobby Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog


มาสั้นๆก่อนนะคะ

 

โดย: mambymam 16 กันยายน 2559 10:05:10 น.  

 

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

นึกไม่ออกเลยค่ะว่าบ้านนอกที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เค้าอยู่ก้นยังไง

 

โดย: Raizin Heart 16 กันยายน 2559 10:39:30 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า

ชอบมุมมองของคนในหมู่บ้านนี้จัง

ถ้าได้อยู่ในหมู่บ้านนี้ชีวิตคงสงบสุขมากเลย

เหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกเลยนะคะ

ตอนแรกงงเหมือนกันชาวบ้านอ่านหนังสือวรรณกรรมแบบนั้นรู้เรื่องด้วยรึ

สุดยอดเลยค่ะ ดูถูกไม่ได้เลยนะ แม้จะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ

นอกจากอ่านแล้ว ยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้อีกด้วย

จากที่คุณก๋าบรรยายมา อ่านแล้วเห็นภาพวิถีชีวิตที่เรียบง่าย

ย้อนกลับมามองตัวเอง แล้วนี่เรากำลังทำอะไรอยู่นะ

กระเสือกกระสนดิ้นรน จนใจรุ่มร้อน

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ให้รู้ว่า ณ มุมหนึ่งของประเทศไทยก็มีมุมสงบสุขอยู่เช่นกัน

โหวตค่ะ

กะว่าก๋า Literature Blog

 

โดย: เรียวรุ้ง 16 กันยายน 2559 11:02:35 น.  

 

เป็นหมู่บ้านที่น่าอยู่จริงๆครับ ชาวบ้านน่าจะมีความสุขมากๆ

+Literature Blog

 

โดย: The Kop Civil 16 กันยายน 2559 12:03:28 น.  

 

สวัสดีครับคุณลม อิสระ

ถ้าผมเป็นผู้ใหญ่บ้าน อยากได้หมู่บ้านกลางดอยนะครับ 555
วันๆนั่งอ่านหนังสือกับลูกบ้าน น่าจะมีความสุขมากๆเลยครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 16 กันยายน 2559 12:10:46 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

การจะค้นหาว่าเราชอบอะไร เหมาะกับอะไร ทำอะไรแล้วมีความสุข
บุ๊งว่ามันยากมากเหมือนกันนะคะ

 

โดย: Close To Heaven 16 กันยายน 2559 12:27:57 น.  

 

แล้วตกลงว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งคะคุณก๋า

 

โดย: เรียวรุ้ง 16 กันยายน 2559 12:35:31 น.  

 

การไม่มีไฟฟ้าใช้ทำให้อ่านหนังสือจบเล่มได้จริงๆ ค่ะ เพราะพอมีไฟฟ้าบางทีเราก็เอาเวลาไปดูโทรทัศน์ เล่นคอมฯ

หนังสือ 1 เล่ม บางทีกว่าจะจบใช้เวลาหลายวัน

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog

 

โดย: comicclubs 16 กันยายน 2559 12:47:05 น.  

 

เป็นสังคมโลกในอุดมคติมากเลยพี่ก๋า
อยากให้หลายภาคส่วนมีมุมมองแบบนี้มากจัง

เรื่องของหนังสือ นี่มันเป็นเรื่องภาคต่อขยายมุมมองดีเหมือนกัน
ถึงไม่ได้ไปเห็นหรือสัมผัส แต่เราก็ยังต่อแนวผ่านตัวอักษรได้
ว่าแต่ พี่ก๋าจะลง ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านสักที่ ก็ดีนะ

แต่เดี๋ยวนี้เขาวัดความสุขจากยอดเงินกันไปหมดแล้ว

+

ปล.ฟ้าอัพเรื่องใหม่ในกลุ่มบล็อกตะพาบนะ
แต่ไม่ได้ตั้งหน้าหลักจ้า

 

โดย: กาบริเอล 16 กันยายน 2559 13:18:54 น.  

 

อ้าว....คุณหลอกดาวหรือคะนี่

อ่านไปก็นึกว่าเรื่องจริงที่คุณก๋าประสบพบเห็นมา

กลายเป็นเรื่องแต่งซะงั้น ก็ยังแปลกใจอยู่ว่าหมู่บ้านที่ไหนเนี่ยเหลือเชื่อชะมัด

แต่ก็สนุกค่ะ สนุกมากด้วย ชอบค่ะ

 

โดย: เรียวรุ้ง 16 กันยายน 2559 13:48:20 น.  

 

ใช่ค่ะ กระเจี๊ยบแดงปลูกแล้วคุ้มมาก
ออกผลทีนึงเก็บกันไม่ไหว เยอะจริงๆ
ขอบคุณโหวตค่ะ

 

โดย: mambymam 16 กันยายน 2559 13:59:58 น.  

 

เรื่องที่คุณก๋าเขียนวันนี้ เป็นเรื่องเล่า...
ที่เรารู้สึกว่ามาจากข้อมูลพื้นฐานของควมเป็นจริง
ในคำว่า "บ้านนอก" หมายถึงแหล่งชุมชนที่อยู่ไกลเมือง
คุณก๋าบรรยายได้เห็นภาพมากๆ
เขาไม่ศิวิไลน์ทางสถานภาพ แต่ทางความคิด งดงามเลย
หนังสือแต่ละเล่มที่อ่าน ไม่ธรรมดา เราเองยังไม่เคยอ่านเล๊ย 55

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog

 

โดย: Tui Laksi 16 กันยายน 2559 14:14:46 น.  

 


อิอิ ภาพอาจไม่สุภาพนะคะ มันน่ารักดี (ตรงไหน 555)
มีความสุขมากมากค่ะ

 

โดย: white in the dark 16 กันยายน 2559 14:33:23 น.  

 

อยากเป็นผู้ใหญ่บ้านที่นี่ เพราะมีหนังสือให้อ่านเยอะหรือเปล่าคะ ลูกบ้านก็น่ารักด้วย อิอิ

 

โดย: ปลาแห้งนอกกรอบ 16 กันยายน 2559 15:36:16 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

อ่าน ตะพาบ บ้านนอก ของน้องก๋า แล้ว ทึ่ง นะ หนังสือที่ยกตัวอย่างมา ยาก ๆ ทั้งนั้น คนในหมู่บ้าน ซึ่งถือว่า เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่สามารถ อ่านได้เข้าใจและนำมาเล่าสู่กันฟัง ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก นอกจากจะเป็นหมู่บ้านในฝัน แต่ถ้าเป็นหนังสือที่อ่านง่ายกว่านี้ นับเป็นโครงการที่ดีมากทีเดียวโดยหลักการนะ ทุกหมู่บ้านถ้ามีแนวคิดเช่นนี้ ประเทศไทยเจริญและอยู่เย็นเป็นสุข เข้าลักษณะ หลักทฤษฎี เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเลยนะจ๊ะ

โหวด หมวด งานเขียนของเจ้าของบล็อก จ้ะ

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 16 กันยายน 2559 16:12:26 น.  

 

อยากไปหมู่บ้านนี้จัง

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
multiple Literature Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
ชมพร Cartoon Blog ดู Blog
sawkitty Travel Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 16 กันยายน 2559 17:01:13 น.  

 

ขอบคุณสำหรับโหวตนะครับ

ผึ้งหลวงดุมากครับ แค่เสียงดัง หรือได้กลิ่น ควันไฟเวลาใครเผาอะไรนี่

จะออก มาหาเรื่องทันทีเลยละครับ

แล้วตอนเช้ามืด เค้าจะชอบมาเล่นไฟมาก บางทีคนที่บ้าน
เผลอไปเหยียบ ไปปัด ก้ยังโดนต่อย ประจำ
ไม่เว้น แม้แต่หมา ปิ๋วศรีนี่ โดนบ่อย เพราะชอบไปดมตัวมัน 555

ปล ลิง ชื่อในบล็อก นี่ อ.เต๊ะ ตั้งตาม ความชอบส่วนตัวนะครับ เย้ย 555

 

โดย: multiple 16 กันยายน 2559 18:14:13 น.  

 

สวัสดีอีกรอบค่ะคุณก๋า

สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวโตเกียวแบบไม่ใช่ทัวร์หรือนักท่องเที่ยวทั่วๆ ไปเที่ยว

เราว่าเล่มนี้น่าสนใจค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 กันยายน 2559 19:09:57 น.  

 

สวัสดีจ้า..

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

 

โดย: ก้นกะลา 16 กันยายน 2559 19:58:20 น.  

 

ขอบคุณสำหรับโหวตคะคุณก๋า
ช่ายเลย...เตะดึกมากตี 2 เดี๋ยวนอนเร็วหน่อย
แล้วอาจมีตื่นมาลุ้นบ้างคร้า

 

โดย: Tui Laksi 16 กันยายน 2559 20:26:13 น.  

 

หนังสือและการอ่านคือขุมพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์นะคะ
วันนี้เพิ่งไปซื้อมา 10 เล่มอ่านให้ตาแฉะไปเลยสุดสัปดาห์นี้
(นวนิยายล้วน ๆ ค่ะ 555)
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
multiple Literature Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
kae+aoe Literature Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

 

โดย: เนินน้ำ 16 กันยายน 2559 21:35:55 น.  

 

ลาพักร้อน 15 วันนี่เขาไล่ออกแล้วมั้งครับ
เป็นชาวบ้านที่ใฝ่รู้ดีนะครับ ไม่มีไฟฟ้าใช้เลยมานั่งอ่านหนังสือ ถ้าเป็นสมัยก่อนหลังฤดูเก็บเกี่ยวก็จะมาล้อมวงร้องเพลงกัน
ชื่อหนังสือแต่ละเล่มที่ยกมานี่ตัวเอกตะพาบไม่เคยอ่าน แต่พี่ก๋าอ่านมาหมดแล้วชัวร์ๆ
หนังสือดีๆมีประโยชน์อ่านแล้วได้อะไรก็เยอะ ถ้าอ่านด้วยความเข้าใจและนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบชาวบ้านนอกนี้ ชุมชนนั้นน่าจะเป็นสังคมอุดมปัญญามากกว่าสังคมท่องจำในรั้วสถานศึกษาเสียอีกนะครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ชีริว 16 กันยายน 2559 21:42:14 น.  

 

อ่านคร่าวๆ กำลังรีบมาก
พรุ่งนี้อยู่บ้านป่าจะเข้ามาอ่านใหม่ค่ะ
ตอนนี้พอรู้ว่าชาวบ้านที่นี่เป็นนักรีวิวหนังสือ
ที่น่าทึ่งมากๆ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
mcayenne94 Home & Garden Blog ดู Blog
ปลาแห้งนอกกรอบ Photo Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog
Tui Laksi Sports Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ขอบคุณโหวตด้วยค่ะ คำประพันธ์ดีๆพี่เขียน
ไม่ค่อยเป็น เซี้ยวๆเงี้ย ชอบเขียน

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 16 กันยายน 2559 22:11:05 น.  

 

ถ้าโดยพื้นที่นี่บ้านนอกอยู่ แต่ความคิดนี่ทันสมัยมากค่ะ
จัดระบบกันเองด้วย หมู่บ้านนี้พัฒนาด้านจิตใจเพิ่มพูนความรู้นะคะ
ไม่ต้องมีไฟฟ้า ไม่ต้องมีความเจริญทางวัตถุ
แต่จิตใจนี่เจริญสูงมาก



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา 16 กันยายน 2559 22:22:41 น.  

 

เหมือนเป็นหมู่บ้านเร้นลับ ยิงทำให้น่าค้นหามากยิ่งขึ้นเจ้า
นึกถึงแม่กำปองเลยเจ้า มีระบบการจัดการหมูบ้านกันเอง
พัฒนาจนยั่งยื่นเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว คราวนี้ ก็จับตาดูต่อไปเจ้า
เมื่อธุรกิจและเศรษฐกิจเข้ามาครอบงำกันมากขึ้น


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
ALDI Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog



 

โดย: Rinsa Yoyolive 16 กันยายน 2559 23:20:17 น.  

 

หมู่บ้านนี้น่าอยู่จัง
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

 

โดย: newyorknurse 17 กันยายน 2559 1:19:42 น.  

 

ผมคิดแบบอ.เต๊ะนะครับ เจ้าคนๆ นั้นคือคนที่เขียนบทความนี้แน่ๆ

บางทีชาวบ้านก็ไม่ได้ต้องการสิ่งที่รัฐยัดเยียดหรือชุดความคิดที่รัฐต้องการปลูกฝังนะครับ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 17 กันยายน 2559 1:41:50 น.  

 

สวัสดีจ้ะน้องกิจ

หมู่บ้านนี้ไม่ธรรมดาเลยเน๊าะ
อ่านหนังสือแต่ละเล่มที่ชาวบ้านธรรมดาเขาไม่อ่านกัน

คนบ้านนอกแต่มีจิตใจดี มีความจริงใจ อยู่ใกล้แล้วอบอุ่น


กะว่าก๋า Literature Blog

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 17 กันยายน 2559 2:26:18 น.  

 

โห อันนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะคุณก๋า ... อยากให้มีหมู่บ้านที่ผู้นำมีวิสัยทัศน์ดี ๆ แบบนี้เนาะ วรรณกรรมแต่ละเรื่องฟังดูยากที่จะเข้าใจได้ง่าย ๆ ถ้าเป็นหมู่บ้านจริง ทึ่ง ๆ เลยค่ะ

พี่มีประสบการณ์ เคยพบคนแก่ที่เมืองไทยอายุ 70 80 กว่า ๆ เข้าใจธรรมะในครัมภีร์ไบเบิล แอบทึ่งเหมือนกันค่ะ แบบตัวพี่หลาย ๆ เรื่อง ไม่กระดิกเข้าหูหรือใจ 55 ... อ่านเรื่องราวของคนหมู่บ้านที่คุณก๋าเขียนถึง นึกถึงความจริงเรื่องนี้เลยค่ะ ว่าการเรียนรู้+ความเข้าใจไม่ขีดจำกัดจริง ๆ


ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

 

โดย: Tristy 17 กันยายน 2559 5:48:30 น.  

 

คัมภีร์ .. 55

 

โดย: Tristy 17 กันยายน 2559 5:49:36 น.  

 

อ่านจบ ก็มีคำถามในใจเหมือนกันค่ะ

คำถามก็คือว่า มีหมู่บ้านแบบนี้ในเมืองไทยจริงๆ เหรอ

หนังสือแต่ละเล่ม แม้แต่เยาวชนไทย ก้ไม่ค่อยอยากอ่านกัน เพราะไม่ใช่การ์ตูน

ทำให้นึกถึง ว่าเคยดูข่าวในทีวีสมัยก่อนค่ะ ว่าในหมู่บ้านหนึ่ง เขามีโครงการหนังสือยืมอ่าน โดยมีหนังสืออยู่ในกระเป่าใบหนึง 2-3 เล่ม หลายๆ กระเป๋า และกระเป๋าใบนี้จะถูกเวียนไปตามบ้านต่างๆ เพื่อนให้ลูกบ้านและคนในครอบครัวได้อ่านกัน พอถึงกำหนด ก็ต้องถูกส่งต่อไปยังบ้านอื่นอีกไปเรื่อยๆ

ก็เลยคิดว่าหมู่บ้านแบบนี้ก็มีจริงๆ ด้วย

ดีจังเลยนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
Max Bulliboo Klaibann Blog ดู Blog
Maeboon Klaibann Blog ดู Blog
Close To Heaven Travel Blog ดู Blog
secreate Food Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Book Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: Sai Eeuu 17 กันยายน 2559 14:05:00 น.  

 

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลยค่ะ
เรื่องการอ่านหนังสือของคนในหมู่บ้านที่ว่านี้...
ทำให้นึกถึงหมู่บ้านที่เป็นคริสเตียนหมู่บ้านนึง เมื่อครั้งที่เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมของพี่น้องคริสเตียนน่ะค่ะ
คนส่วนใหญ่จะมีข้อคิดมาจากพระคัมภีร์และหนังสือแปล เนื้อหาเป็นปรัชญาสอนการดำเนินชีวิต และใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงน่ะค่ะ










 

โดย: ไม้น้ำ (เจ็บไม่อั้น ) 17 กันยายน 2559 19:27:11 น.  

 

สุดยอดเลยค่ะ

คุณก๋าช่างสรรหามาแต่ง
แนวคนชอบอ่าน
มักคิดถึงแต่สิ่งดีๆที่ได้อ่านมานะคะ

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 17 กันยายน 2559 20:11:11 น.  

 

เข้ามาตามอ่านบล็อกเก่าๆ ของหลายๆ ท่าน ชอบตะพาบนี้ของพี่ก๋ามากค่ะ โหวตๆ แอบขำคอมเม้นท์ของหลายๆ คนด้วยอ่ะ ฮ่าๆๆ คนแนะนำหนังสือนี่ขายเครื่องหนังแน่ๆ ฮ่าๆๆ นั่นสินะ

 

โดย: คมไผ่ 22 กันยายน 2559 14:52:58 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: คมไผ่ 22 กันยายน 2559 14:53:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]