:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่ตาล ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่ตาล ::
พี่สงสัยค่ะ
นิสัยของคนเราขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมหรือการเลี้ยงดู
เพราะเคยเห็นครอบครัวหนึ่งมีฐานะดี ลูกชายสองคนได้รับการเลี้ยงดูในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน
แต่พอโตขึ้นมาคนหนึ่งเป็นนายแพทย์
อีกคนเรียนจบมหาวิทยาลัยมีชื่อเหมือนกัน แต่ไม่ได้ทำงานอะไรติดการพนันด้วยค่ะ
คุณก๋าคิดว่าขึ้นอยู่กับอะไรค่ะ
หรือขึ้นอยู่กับบุญกุศลของแต่ละคนที่ทำมา
คำถามโดย : ตาลเหลือง วันที่ : 19 ธันวาคม 2554 เวลา : 9:52:25 น.
ผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก มากถึงมากที่สุด ถ้ามองดูในบ้าน ไม่มีใครที่อ่านหนังสือมากเหมือนที่ผมอ่านเลยครับ
สมัยเป็นนักเรียน ผมฝังตัวอยู่ในห้องสมุดได้เป็นชั่วโมง ครูไม่เคยบังคับ แต่ผมชอบและรักการอ่านด้วยตัวเอง
ถ้าหยิบประเด็นเรื่องการอ่านมาเกี่ยวข้อง ผมว่ามันเกิดขึ้นในตัวเราเอง คิดได้เอง ค้นจนเจอสิ่งที่ชอบและรักด้วยตัวเอง
สมัยเรียนสถาปัตย์ เพื่อนเกือบทุกคนดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แวดล้อมตัวผมมีแต่เรื่องจีบสาว เข้าเธค เล่นพนัน ฯลฯ
แต่ผมผ่านมันมาได้โดยไม่เคยสนใจหรือคิดที่จะลองเลย ผมคิดว่าผมชัดเจนกับความคิดตัวเองมาก โดยไม่มีใครเป็นต้นแบบที่ชัดเจน
เป็นตัวตนที่พัฒนาขึ้นมาโดยไม่ค่อยสนใจสิ่งแวดล้อม ไม่ยอมให้ใครบงการความคิด
ผมคิดถึงสิ่งที่ตัวเองจะทำ ชัดเจนว่าอยากเรียนอะไร อยากเป็นอะไร และรู้ว่าความสุขของตัวเองอยู่ที่ไหน
มองกลับมาอีกด้านหนึ่ง ผมจึงเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก ไม่เปิดใจให้ใครง่ายๆ และรักษาพื้นที่ส่วนตัวไว้ จนเพื่อนหรือคนรู้จักยากจะเข้าถึงได้....
พ่อแม่ผมในสมัยเด็กไม่มีเวลาดูแลลูกทั้งสี่คนเลย เพราะต้องทำงานหนักมาก ทำงานทั้งวันทั้งคืน ช่วงวัยหนึ่งผมรู้สึกเหมือนโตขึ้นมาด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น พ่อกับแม่ไม่มีอิทธิพลใดใดกับวิธีคิดของผมเลย
เพียงแต่พอผมเรียนจบมา แล้วทำงานกับพ่อเป็นสิบกว่าปี ตรงนี้เริ่มซึมซับวิธีคิดและกลยุทธ์ในการทำการค้ามาจากพ่อบ้าง แต่ผมเก่งได้ไม่ถึงครึ่งของความสามารถที่พ่อมี
ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักธุรกิจ แต่เมื่อต้องมาทำ ก็พยายามให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ตอบคำถามมาถึงตรงนี้.. ผมก็ยังคิดว่า “ตัวตน” ที่เราสร้างขึ้นนั้น เกิดจากตัวเรา เกิดจากพันธุกรรมทางความคิดของเราเป็นหลัก สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู เพื่อน สื่อต่างๆมีผลไหม ? ก็คงมีบ้าง แต่ไม่เท่ากับสิ่งที่เราสร้างตัวตนของเราขึ้นมา ด้วยตัวเราเอง
ผมไม่เชื่อในเรื่องของกรรมเก่าที่เป็นกฏเกณฑ์ตายตัว แบบที่หลายคนชอบอ้างถึงเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นกับตัวเอง แล้วโทษว่าเป็นเรื่องของกรรมเก่า เป็นเรื่องของโชคชะตา พรหมลิขิต
แต่ผมเชื่อในสิ่งที่คนๆหนึ่ง คิด พูด ทำกับตนเอง ทำบ่อยๆ คิดบ่อยๆ พูดบ่อยๆ สิ่งนั้นจะไหลเข้าไปในจิตสำนึก ที่สุดแล้วมันจะกลายเป็นความเคยชิน จากความเคยชินกลายเป็นสันดานติดตัวในที่สุด
สันดานนี้เราเรียกว่า “กรรม” หรือ “การกระทำ “ นั่นเองครับ
คนจะดี จะเลว จึงไม่ได้อยู่ที่ชาติกำเนิด การเลี้ยงดูมีส่วนมากพอสมควร การเรียนรู้หล่อหลอมวิธีคิดก็สำคัญ
แต่ที่สุดแล้ว ใครกันล่ะครับ ที่สร้าง “ตัวตน” ขึ้นมา ก็ “ตัวเรา” ทั้งนั้น
แก้วเหล้าวางอยู่ ไม่มีใครหยิบกรอกปากเราได้ ถ้าเราไม่คิดจะดื่ม
เห็นเงินตกอยู่สามล้าน ถ้าเรารู้ว่าไม่ใช่ของเรา เราก็ไม่หยิบ
เห็นคนเดือดร้อน ถ้าใจเรามีกุศล ถึงไม่มีใครบอก เราก็คิดอยากเข้าไปช่วยเหลือ
ฯลฯ
ผมว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ติดตัว ฝังอยู่ในความคิดของเรา ข้ามภพข้ามชาติมาโดยตลอด เป็นความเคยชิน เหมือนหลายคนเกิดมาแล้วถนัดซ้าย บางคนร้องเพลงเก่ง บางคนใจคอโหดเหี้ยม บางคนเก่งด้านการค้าขาย บางคนเก่งศิลปะ ฯลฯ
สิ่งนี้มีอยู่แล้วในตัวเรา เพียงแต่เรา “เปลี่ยนแปลง” มันได้ ขอเพียงรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี แยกแยะ วิเคราะห์ แล้วลงมือเปลี่ยนแปลงตัวเองทันที ทำอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน ทำอย่างอดทน
ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เว้นเสียแต่เราไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง
ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นคนดีขึ้นได้ในทุกวัน เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้ตัว รู้ตัว รู้ดี รู้ชั่ว สิ่งไหนในตัวที่ดีรักษาไว้ นิสัยหรือความคิดด้านลบ ฝึกหัดแก้ไขความเคยชิน ทำซ้ำๆบ่อยๆ จนเกิดการเปลี่ยนแปลง ที่สุดแล้วย่อมต้องเปลี่ยนแปลงได้ในสักวัน
สิ่งนี้ใครจะมาทำให้เราได้ครับ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เพื่อนพี่น้อง ฯลฯ ใครก็เปลี่ยนนิสัยเราไม่ได้ ถ้าเราไม่คิดจะเปลี่ยน
“ตัวเรา” เป็นคนสร้างตัวตนขึ้นมาจาก “ความคิด” ของเรา และถ้าเราอยากเปลี่ยนตัวตนของเรา ก็ไม่มีหนทางไหนเลยครับ นอกจากเปลี่ยนแปลงที่ “ความคิดของตัวเราเอง” เท่านั้นเอง
Create Date : 28 พฤษภาคม 2555 |
|
86 comments |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2555 5:17:16 น. |
Counter : 2250 Pageviews. |
|
|
วันนี้ขอเจิมหน่อยค่ะ