Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
26 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

ปาย 1st

นำมาจาก spaces live ค่ะ

นี่เป็นการไปปายครั้งแรกของเกดลดา


February 07

Do nothing in PAI...

หลังจากที่ปอนกะอิไปปายมาเมื่อเดือนที่แล้ว ก็มาเล่าให้ฟังถึงความประทับใจต่างๆนาๆ

แล้วพวกเราจึงตัดสินใจว่า จะไปที่นั่นอีก ในตอนแรก อาจารีกะปิงปองก็จะไปกะพวกเราด้วย

แต่เนื่องด้วยงานการที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงพลาดทริปนี้ไป เสียดายจังเลย

ดังนั้น...สมาชิกที่ไปทั้งหมดจึงเหลือแค่ แววกะเบียร์ (สองคนนี้เดินทางไปสวีทกันล่วงหน้าแล้ว)

แล้วก็ เกดลดา ปอน อิ ตามไปในวันที่ 31 มกราคม เดินทางถึงปายก็วันที่ 1 กุมภาพอดี

เราเดินทางกันจากหัวลำโพง นั่งรถไฟกันไป เป็นรถเร็ว(แล้วเหรอ) ราคาคนละ 390 บาท

ตอนบ่ายสองครึ่ง ถึงเชียงใหม่ก็ตีห้าสิบห้านาทีโดยประมาณ



**********

1 Feb 2007

อากาศหนาวจับใจทันทีที่มาถึงเลย พวกเราเรียกรถแดงหรือรถสองแถวนั่นล่ะคนละ 20 บาท นั่งไปลงอาเขต

เป็นสถานีขนส่งมีรถทัวมากมายให้เลือกสรร แล้วก็ต่อรถบัสแอร์ซะด้วย คนละ 101 บาท ไปลงที่อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

จากประสบการณ์คราวที่แล้วทำให้ปอนกะอิรู้ว่าพวกเราจะต้องกินยาแก้เมารถก่อน ไม่งั้นมีอ้วกแหง

โค้งเป็นร้อยๆโค้งเลย และฤทธิ์ยาทำให้พวกเราหลับกันสนิททีเดียว คร่อกกกก....

รถแวะจอดตรงจุดพักแป๊บนึงเราก็ยังงัวเงียแต่ก็แอบลงไปเดินถ่ายรูปเล่นแล้วก็ขึ้นมานอนต่อจนถึงปายโดยไม่มีรูปถ่ายข้างทางเลย

เพราะรถแอร์มันหน้าต่างปิด แถมยังหลับมาตลอด แหะๆ

และแล้วเวลาประมาณ11โมงกว่าๆ เราก็เดินทางมาถึงปาย



และเดินเท้าเข้ามาจนถึงที่พัก ชื่อว่า "หลับฝันดีเกสเฮ้าส์" มาถึงก็เจอแววกะเบียร์ที่มาอยู่ก่อนหน้านี้แล้วนั่งเล่นสบายใจกันอยู่

และไม่ทันไร"พี่ปาน" เจ้าของเกสเฮ้าส์ผู้ใจดีน่ารักสุดๆ ก็ชวนพวกเรากินข้าวกัน และแววก็แนะนำให้รู้จัก "ปอ"

ชายหนุ่มผู้ซึ่งลาออกจากงานแล้วปลีกตัวมาปายเพียงคนเดียว ดังนั้นในทริปที่กำลังจะมาถึงพวกเราจึงต้องพึ่งพาปอ

ผู้ขี่มอไซค์เป็นอยู่คนเดียวยกเว้นแววกะเบียร์ที่อยู่กะพวกเราได้1 วัน 1 คืนก็หนีกลับมาก่อนซะและ

หลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเราก็อาบน้ำอาบท่า แล้วก็ออกไปตะลุยเมืองปายกัน




เกดลดาซ้อนมอร์ไซค์แวว อิซ้อนเบีย และปอนซ้อนปอ เมื่อทุกอย่างลงตัวพวกเราก็มุ่งหน้าไปน้ำตกแพมบกกัน

ตามที่พี่ปานแนะนำ ทางทรหดมากๆจนแววมันบอกว่าแกชั้นขี่มอไซค์จนจมูกบานหมดแล้ว 555

ถ้าดูภาพประกอบไปด้วยจะรู้ว่า เกดลดากะแววรัตน์หลั่นล้ากันมากไม่หวั่นแม้นั่งมอไซค์ก็ได้มาหลายรูปเหมือนกัน

ไปหยุดตรงน้ำตกแต่คิดว่ายังไม่น่าจะใช่เลยขี่รถขึ้นเขาไปอิกตามป้ายที่บอกว่า "น้ำตกหัวแพมอีก5กม."

ไปจนถึงจุดเปลี่ยนผันชีวิต เกดลดากะแววตกใจสุดขีดเมื่อทางข้างหน้าสะพานมีหลุมบะเริ่มน่ากลัวมาก

ด้วยความรักเพื่อน แววรัตน์ก็รีบปล่อยรถให้ล้มทันที ดีนะมันเป็นทรายนุ่มๆ แต่ก็ยังมิวายแววได้แผลมาขีดนึง

ไม่พอปอก็พารถเสียหลักตามๆกันมาอีกคน พวกเรามาหยุดคุยกันว่าเอาไงดี จะไปต่อมั้ย

ถามคนที่ผ่านแถวนั้นได้ความว่าโอยอีกไกล ทางยากด้วย

จึงตัดสินใจเลี้ยวรถกลับมาที่น้ำตกอันแรก และมารู้ตอนกลับมาว่านั่นล่ะแพมบกจอดรถแล้วเดินเข้าไปหน่อยก็เจอ

ไอ้ที่เราดั้นด้นกันไปมันหัวแพม !! จะแพมอะไรก็ช่างถ่ายรูปตรงนั้นแป๊บนึงก็นั่งรถมุ่งหน้าต่อไปยัง

น้ำตกหมอแปง ถ่ายรูปกันหนำใจก็ไปแวะตลาดซื้อของมากินกัน

แล้วก็ไปร้านขายโปสการ์ดแล้วก็กลับที่พัก

วันนี้พี่ปานโชว์ฝีมือทำ ไก่ห่อเบค่อน แฮม ชีส ชุบเกล็ดขนมปังทอดราดซอสเห็ด

จริงๆพี่ปานก็คอยสอนพวกเรามากกว่าที่เหลือก็คนละไม้คนละมือปั้นแต่งออกมากว่าจะสำเร็จเป็นอาหารมื้อนี้ แล้วก็มีสลัดผักด้วย

กินกันเปรมเลย ก็มีเพื่อนบ้านคนอื่นๆมานั่งล้อมวงกินกันที่หน้าชาน บรรยากาศอบอุ่นดีจัง


*********

2 Feb 2007



ในวันที่สอง แววรีบมาปลุกแต่เช้าหวังจะใส่บาตร แต่ก็เฟวไปอีกหนึ่งวัน อากาศหนาวมาก

ไปกันไม่ไหว แต่ก็ตื่นไปเที่ยวตลาดกัน ซื้อโจ๊กกะข้าวเหนียวห่อใบตองมากินกัน...ตอนเช้างี้อากาศหนาวทีเดียว



แล้ววันนี้แววกะเบียร์ก็จะเดินทางกลับแล้ว เสียดายจังเลย น่าจะอยู่ต่อ แต่แววต้องไปบินละ

ก็ได้ๆ พวกเราก็เหลือกันสามคน แล้วก็มีปออีกหนึ่งคนเป็นที่พึ่งพา

แล้วตอนสายๆเราก็ซ้อนท้ายปอกะปอน ส่วนอิก็นั่งมอไซค์รับจ้าง มุ่งหน้าไปหมู่บ้านจีนยูนนานกัน

เค้าล่ำลือว่าต้องมากินขาหมูที่นี่ ขาหมูยูนนานอร่อยมัก มาคนเดียวคงไม่กินเพราะมันเยอะและชามละร้อยกว่าบาท

แล้วเรายังสั่งแป้งทอดรูปสามเหลี่ยมมันชื่อไรน๊า เหลียงเฟิงเหรอ ไม่รุแฮะลืมละ แล้วก็บะหมี่ยูนนาน แล้วก็หมั่นโถวมากินด้วย

อิ่มทีเดียว คุ้มค่ากะการเดินทางมากินถึงนี่ จากนั้นก็ไปเดินถ่ายรูปเล่นแล้วก็ซ้อนมอไซค์ปอกลับมาบ้าน



พอช่วงบ่าย ก็มีพวกพี่ชายหนุ่มสามคนมาใหม่ และแล้วพวกเราก็อาสัยความเนียนถามเค้าไปว่าพี่จะไปเที่ยวไหนไปด้วยได้ป่าว

เนื่องจากพี่เค้ามีมอไซค์สองคันแน่ะ และแล้วพี่ก็ติดบ่วงพวกเราอย่างเต็มใจ (รึจำใจไม่รุ) พาพวกเราไปเที่ยว

โดยปอก็ไปร่วมทริปกะพวกเราด้วยโดยปอหนักหน่อยต้องเอาเกดลดากะปอนซ้อนไป

ส่วนอิซ้อนท้ายพี่บูม แล้วพี่เอกซ้อนท้ายพี่เล็ก ก็มุ่งหน้ากันไปกองแลน หรือ ปายแคนย่อนนั่นเอง

เป็นหน้าผาสูง น่ากลัวชะมัดกว่าจะเดินเท้าขึ้นไปถึงทำเอาหอบทีเดียว แต่ก็คุ้มค่านะ มันสวยจริงๆเลยล่ะ

ไปต่อที่สะพานประวัติศาสตร์หรือที่ใครๆเรียกว่าสะพานเหล็ก ถ่ายรูปกันใหญ่



จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่น้ำพุร้อน ร้อนจริงๆควันขึ้นเลย ตอนแรกจะเข้าไปในอุทยานห้วยน้ำดังแต่เย็นแล้วจะหมดเวลาเข้าแล้ว

เลยอยู่แค่น้ำพุร้อนข้างหน้า จากนั้นก็ไปแวะถ่ายรูปพระอาทิตย์สวยงามกับบ้านต้นไม้ (Pai Tree House)

สวยจริงๆ แล้วก็มุ่งหน้าไปที่วัดพระธาตุแม่เย็น เหตุการณ์ระทึกมากๆเมื่อมันเป็นเนินสูงชัน แล้วรถคันที่เรานั่ง

มันก็ดันอืดมากๆปอเร่งเครื่องไม่ขึ้นเลย หวั่นจะตกเขาชะมัด แล้วปอก็หยุดรถเพื่อตั้งสติ

เกดลดากะปอนก็ช่วยกันเอาเท้ายันพื้นสุดพลัง แล้วปอก็ใส่เกีย1 ขึ้นไปจนสำเร็จ เฮ้อ ข้างบนนี้สูงมากๆเลย

มองลงไปเห็นไปทั่ว ไหว้พระเรียบร้อยก็ระทึกอีกรอบ เพราะทางที่มันลาดชันเหลือเกิน

ใครไม่ใจนี่ไม่กล้าขับลงเลย แต่ปอทำได้ค่า โล่ง...

เราก็มุ่งหน้ากลับโดยระหว่างทางสวนกะโดโด้ด้วยเว้ยยย 555

พี่เค้าไปเที่ยวกะเพื่อนฝูงนั่งรถไอ้ที่มันมีสี่ล้อเรียกว่าไรหว่า วิบากหน่อยลุยๆ นั่นล่ะก็สวนทางกันไป

วันนี้เล่นเอาเหนื่อยทีเดียว แต่ก็คุ้มค่าสุดๆ ตอนค่ำพวกเราก็เดินเท้าออกมาหาไรกินกัน







เนื่องจากวันนี้พี่ปานไม่อยู่ขี่มอไซค์ไปเยี่ยมพ่อที่เชียงใหม่ พ่อพี่ปานล้ม..แย่เลย

วันนี้ก็เดินเล่นกินนู่นนี่กันอิ่มก็เข้ามานั่งชิวกัน พอดึกๆ ตั้ม (นศ.หนุ่มผู้ละทิ้งทุกอย่างมาอยู่ปายได้สองเดือน

เพื่อหาข้อมูลทำทีสิด ใครอยากรู้อะไรเกี่ยวกะปายถามตั้มได้ ตั้มเป็นกูรู) ได้ชวนพวกเราไปเที่ยวงานวัด

ในตอนแรกก็คิดกันว่า งานวัดมีอะไร แต่ตั้มก็ให้โค้ดลับไว้ว่า ....หางเครื่อง...

ทุกคนเลยตัดสินใจออกไปยังวัดหัวนา งานนี้พี่ปอง (เพื่อนพี่ปานที่มานั่งร้องเพลงชิวๆที่เกสเฮ้าส์ก็ขอไปด้วยคน)

ไปถึงพวกเราก็ค้นพบว่างานวัดมันมีอะไร...ขาว...และเอ๊กซ์ นี่เองที่ตั้มอยากจะมานักหนา

หันไปดูเห็นมองตาค้างเลย....มางานนี้ได้เห็นอะไรฮาๆเยอะ ชาวบ้านเต้นกันสะบัดทั้งป้าแก่ๆ ชายชาวเขาสะพายลูกไว้ข้างหลัง

ก็กระโดดเหยงๆจนหัวลูกเอียงมาข้างแล้วยังไม่หยุดมัน ยังมีฝรั่งคนนึงเต้นไม่หยุดทีเดียวเชียว 5555 สนุกดี

จากนั้นเมื่อดูจนหนำพวกเราก็กลับมาชิวสักพัก แล้วก็เข้านอน



**********

3 Feb 2007

วันที่สามนี้ ปอและพี่ชายสามคนต้องกลับซะแล้ว เสียดายจัง ไม่มีแก้งค์มอไซค์ละ

ที่เหลือก็เค้ามากันเป็นกลุ่มๆ ปลีกตัวไปเที่ยวกันเองละ วันนี้เราสามคนเลยใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในที่พัก

พี่ปานก็ยังไม่กลับ อย่างมากก็ออกไปเดินเล่นที่ตลาด อ่อ วันนี้เราเดินไปกินส้มตำหน้าอำเภอมา

อร่อยมากแต่เผ็ดจนปากเบินทีเดียว กินส้มตำแหนม ส้มตำปู+ปลาร้า น้ำตกหมู และตับหวาน

ล้ำขนาด (พี่นุช แม่บ้านที่หลับฝันดีสอนมา ภาษาเหนือ แปลว่าอร่อยมาก)

พอตกเย็นค่ำพี่ปานก็ขี่มอไซค์กลับมาด้วยความเหนื่อยอ่อน

เลยเจอเกดลดาทั้งนวดและเหยียบจนพี่ปาน...เดี้ยงหนักกว่าเดิม 55555

พี่ปานบอกว่าวันเสาร์ (วันนี้) มีถนนคนเดินพวกเราเลยเดินกันออกไปทิ้งพี่ปานให้นอนเดี้ยงเหนื่อยอ่อนอยู่ที่บ้าน

ไปเดินเล่นได้กางเกงมาหนึ่งตัว ได้ไปกินหนมจีนน้ำเงี้ยว เดินๆๆๆๆแล้วก็กลับ

จริงๆมันก็ไม่มีไรต่างจากวันปกติมากเพราะมันก็มีคนเดิมๆขายของกันอยู่แล้ว

จะพิเศษหน่อยตรงที่มีนักเรียนมานั่งเล่นดนตรีไทยตรงหน้าวัด กะมีฉายหนังจอขนาดกลางๆให้ดู

จนพี่ปานทักว่าทำไมกลับมากันเร็วจัง นั่นสิ แล้วเราก็นั่งคุยกันสักพักก็เข้านอน



***********

4 Feb 2007

วันที่ 4 ซึ่งตามกำหนดการเดิมเราควรจะกลับกันแต่เนื่องจากว่า ตอนจองตั๋วนครชัยแอร์

เที่ยวสามทุ่มนี่เต็มหมดเลย เราเลยเลื่อนไปจองของวันจันทร์แทน ได้อยู่ต่ออีกวัน

วันนี้ก็ตื่นเช้ามาตั้งใจกันว่าจะไปกินต้มเลือดหมูกัน

พี่ปานก็แนะนำให้ไปกินตรงแถวตรงข้ามอำเภอ พวกเราก็เดินกันไป

สรุปร้านปิดค่ะ จ๋อยเลย เลยเดินกลับมากันระหว่างทาง

พี่ปานขี่มอไซค์ผ่านมาพอดีเลยโฉบพวกเราซ้อนสี่ไปส่งตรงร้านอ้อยเบเกอรี่

เราก็เลยได้กินต้มเลือดหมูแถวนี้แทน อร่อยดี จากนั้นก็ต่อร้านลุงหล้า โอวัลตินร้อน กะปาท่องโก๋ร้านข้างๆ

อร่อยชื่นใจ ปาท่องโก๋เค้าอร่อยจริงๆนะ ที่นี่นิยมทำปาท่องโก๋แบบมีงาผสมอยู่ด้วย

จากนั้นก็เดินกลับกัน พอกลางวันก็พี่ปานก็ทำปลาร้าทอดกินอีกอร่อยจริงติดใจ

ได้สูตรมาละไว้ว่างๆลองทำ อิอิ



ตกเย็นวันนี้พวกเราไปจ่ายตลาดกันกะพี่นุช แม่บ้านอารมณ์ดี ไปซื้ออุปกรณ์มาเตรียม

จะทำสุกี้กินกัน และเนื้อย่าง โฮ่ๆๆๆๆ มื้อนี้ซื้อของมาเพียบเลย ด้วยเงินพี่ปานผู้ใจดีตั้งใจจะเลี้ยงพวกเรา

และคนอื่นๆในบ้าน อบอุ่นดีจัง ช่วยกันหั่นนู่นนี่ ปรุงน้ำจิ้มนิดหน่อยได้พี่ห้องข้างๆช่วยปรุงน้ำจิ้มเนื้อย่าง

รสเด็ดทีเดียว อร่อยค๊าบบบบ แต่ว่ารุสึกเนื้อที่เราลวกเองจะไม่ค่อยสุกแฮะ

แอบท้องเสียใหญ่เลยอ่ะ แต่ก็สนุกดีกินไปคุยกันไป ถ้าไม่ได้มาพักที่นี่

ก็ไม่รู้จะประทับใจแบบนี้รึป่าว



************

5 Feb 2007

วันนี้วันสุดท้ายแล้วสินะ ไม่อยากจะกลับเลย

รู้สึกเศร้ายังไงมะรู้ ตอนเช้าก็เดินออกไปกินโอวัลตินกะปอน ส่วนอิขอไม่ออกมา



จากนั้นพอเข้ามาสักพักพี่ปานก็ชวนไปตลาดนัดก็ซ้อนท้ายกันไป มีเกดลดากะปานตา ส่วนอิรู้สึกว่าจะอาบน้ำอยู่

ก็มาไกลเลย เป็นตลาดนัดสนามบินปาย ของขายเพียบเลย ยังกะตามพ่อมาจ่ายตลาดเลย

พี่ปานก็แนะนำซื้อนู่นยังไง นี่ยังไง จากนั้นก็ไปเช่าวีซีดีไปดู

555 พวกเรากลับแล้วพี่ปานคงเหงาน่าดูไม่มีคนคอยป่วนเลย แต่พี่ปานกลับบอกว่าดีซะอิกเนี่ยแหะๆ

พี่นุชก็คงเหงาไม่มีใครมาคุยด้วยอย่างพวกเรา โอยคิดถึงที่นั่นจัง ไม่อยากกลับเลย



วันนี้เราก็ตัดสินใจออกเดินทางมาหลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ

จริงๆจะออกเย็นกว่านั้น แต่ว่าจะไปซื้อแคปหมูที่ตลาดวโรรสที่เชียงใหม่ถ้าไม่รียออกตลาดจะปิด

จริงๆเราก็ไม่เน้นแต่ไหนๆก็ไหนๆเพื่อนๆก็ตัดสินใจให้ออกมาเร็วก็ได้ เลยออกมานั่งรถบัสเที่ยวบ่ายสอง

กระเป๋ารถดูงงๆ ตอนแรกไม่เก็บตังเก็บแต่คนอื่น ตอนแรกนึกว่าคนละ80 ไปๆมาๆ ตอนกลางทางไปละเพิ่งมาเก็บตังเราสามคน

แถมทอนตังให้ 20 สักพัก พี่แกก็เดินมาอิกแล้วทอนให้อิก 20

เออ งง วุ้ย แต่ก็เอาเหอะได้นั่งรถถูก



เดินทางไปถึงท่ารถอาเขต ที่เชียงใหม่ก็ประมาณ 5-6 โมงเย็น เกดกะปอนก็มานั่งรถต่อไปตลาดวโรรส

ตอนแรกขึ้น ชมขส. สาย 11 รอนานมากรถไม่ยอมออกจากท่าซะที เลยลงมาขึ้นตุ๊กๆ ไป ในราคา 50 บาท

ไปถึงตลาดจะปิดหมดละ รีบซื้อแล้วก็นั่งรถแดงกลับ 40 บาท อิมานิรอที่นครชัยแอร์แล้ว จากนั้นได้เวลาสามทุ่ม พวกเราก็ขึ้นรถ

แสนไฮโซ มีปุ่มนวดด้วย บัสโฮสเตสก็เดินแจกอาหารจนกล้ามขึ้น น่าสงสารจริง แถมมีมิวสิคเพลงวัยรุ่นด้วย

แล้วก็เปิด DOA ให้ดู จนเราหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ตีกว่าๆ ด้วยความหนาวมาก ก็ตื่นๆหลับๆจนถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

--- ทริปนี้มีความสุขที่สุดเลย ---






 

Create Date : 26 กันยายน 2551
12 comments
Last Update : 26 กันยายน 2551 13:48:47 น.
Counter : 1452 Pageviews.

 

ทริปนี้สนุกมากๆเลยจ้า เราอ่านเพลินเลยอะ ชอบจังไปเที่ยวกะเพื่อนแบบนี้
งบประมาณเท่าไหร่อะจ้า หลังไมล์หน่อยน้า

 

โดย: kapaos 26 กันยายน 2551 14:24:54 น.  

 



มีแต่กิน

 

โดย: Dotpng 26 กันยายน 2551 15:03:52 น.  

 

หลังไมค์ไปแล้วนะคะคุณ kapaos
ส่วนพี่ปิง อย่ามาอิจฉากัน

 

โดย: katelada 26 กันยายน 2551 15:47:21 น.  

 

ไปแบบลุยๆ แบบนี้น่าไปจังค่ะ แต่ต้องไปกับเพื่อนด้วยถึงจะสนุก

 

โดย: ยัยหนูจอมจู้จี้ 26 กันยายน 2551 17:09:00 น.  

 

น่าไปเที่ยวมากเลยค่ะ คราวที่แล้วไปแค่เชียงใหม่เอง ขับรถไปอีกนิดก็คงจะถึงปายแล้ว

ไว้คราวหน้าจะไปให้ถึงปายเลยค่ะ

 

โดย: hoshi_nao 26 กันยายน 2551 18:17:56 น.  

 

ตอบคุณ "ยัยหนูจอมจู้จี้"
ใช่ค่ะ ไปเที่ยวกับเพื่อนยังไงก็สนุก แต่ต้องเพื่อที่ชอบแนวๆเดียวกับเราด้วยนะ

ตอบคุณ "hoshi_nao"
ลองไปดูค่ะสนุกมากๆ เลย นี่เกดไปมาสามครั้ง แต่ยังไม่เคยไปแวะปางอุ๋งเลยนะเนี่ย คราวหน้าจะลองไปบ้าง แต่ขับรถไปปายเองระวังหน่อยนะคะโค้งมันเยอะมาก

 

โดย: katelada 26 กันยายน 2551 18:36:31 น.  

 

ให้มันจริงเถอะ Do Nothing in Pai
ก็เที่ยวไง ไม่เห็นชิวๆ ซักที

 

โดย: คนขับช้า 27 กันยายน 2551 8:27:27 น.  

 

ตอบคุณ "คนขับช้า"

นั่นสินะ...

แต่จะบอกว่าไปปายบางทีแค่พักผ่อนอยู่กับที่พักก็ได้แล้วค่ะ
เค้าถึงเป็นคำเปรียบเทียบว่า Do nothing in pai
เกดไปมาสามครั้ง ถ้าไม่ติดต้องพาเพื่อนที่ไม่เคย
ไปเที่ยวให้รู้สึกว่าได้ไปเที่ยวปาย ไปตามแผนที่แหล่งฮิตต่างๆ

ความคิดที่เกดอยากไปปายก็คือ
"ไปนอนชิลๆสบายๆที่บ้านพัก" แค่นี้เองจริงๆของความรู้สึกที่เกดอยากจะไปปาย ฮ่าๆๆ

แต่ก็ไปสามครั้งไม่เหมือนกันสักครั้งเลย
แต่ก็ประทับใจซะทุกครั้ง...

ไว้คราวหน้าเกดจะเอาบันทึกที่เขียนไว้
มาแปะให้อ่านกันในนี้ค่ะ

ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายกันนะคะ

 

โดย: katelada 27 กันยายน 2551 9:32:14 น.  

 

ไปมาแล้วสองรอบ
ชอบปายเหมือนกัน
แต่ไปช่วงสั้นเลยต้องรีบกิน รีบเที่ยว
ไปแบบนี้คุ้มสุดสุดไปเลย

Photobucket

 

โดย: chalawanman 27 กันยายน 2551 12:34:52 น.  

 

... อยากไปเที่ยวมั่งจัง ...

... ยิ่งอ่านแล้วยิ่งอยากไป ... ไม่มีใครชวนสักที

 

โดย: SIMAKHA 27 กันยายน 2551 13:46:48 น.  

 

อ่านแล้วน่าสนุก
อยากไปปายจัง
แต่ไม่มีโอกาสได้ไปซะที

 

โดย: Somouinaka 28 กันยายน 2551 13:07:59 น.  

 

หวัดดีครับ ผมไม่รู่ว่าจะมีญาติผมบ้างไหม บ้านผมอยู่นครศรีธรรมราช ปู่เป็นคนระโนด ตอนนี้ผมอยู่กทม หากยังไงก็ปอกผมด้วยน่ะครับ แล้วผมจะแวะเข้ามาไหม ขอบคุณครับ

 

โดย: สมหวังปานคง IP: 124.122.117.134 3 พฤษภาคม 2554 23:28:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


katelada
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Life is Journey...
Friends' blogs
[Add katelada's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.