ยินต้อนรับสู่ blog คนแก่
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Omizu tori ที่ Nara Japan

วันนี้พวกเราไปเที่ยวกันหลายที่ ตั้งแต่เช้าแวะที่ yoshino (anou bairin)เพื่อดูดอก ume หรือดอกลูกบ๊วยกัน(กว่า 20,000 ต้น) จากนั้นก็ไปต่อที่ Kohfukuji National Treasure Hall (แล้วจะเอามาลงให้ดูทีหลังนะ)ประมาณบ่าย 4 โมงเย็นได้พวกเราก็ถึงที่วัด Todaiji ที่ nara เพื่อไปดูการทำพิธี omizu tori กัน พอลงจากรถพวกเราก็เดินตามไกด์ กันเป็นกลุ่มไปเลย




ไกด์เดินอธิบายไปเราก็เดินตามไปถ่ายรูปไปแต่ไม่เกี่ยวกับที่ไกด์อธิบายเล๊ย
โอ้ะ! ร้านขายมันเผา ของชอบ เก็บภาพหน่อย



ถึงประตูทางเข้าวัดแล้ว



มียักษ์เฝ้าประตูด้วย ทั้งด้านซ้ายและขวา





โบสถ์ด้านใน



อีกมุม



ไหว้พระซะหน่อย odaibutsu




คราวนี้เราไป ที่ nigatsu do กัน เลี้ยวตามทางนี้ คร๊าบบบบ




ระหว่างทาง เราก็เก็บรูปไปเรื่อย ที่ nara มีกวางเยอะมากเลยนะ ในสวนสาธารณะก็มี ในวัด ก็เต็มไปหมด กวางทั้งหมดจะถูกตัดเขาทั้งหมดออก
อาจเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับคนก็ได้นะ เห็นมีเครื่องประดับที่ทำจากเขากวางขายมากมายเลยนะ





ถึงแล้วค่ะ nigatsudo ศาลาใหญ่ด้านซ้ายมือ



แต่พวกเรากลับถูกพาไปทางด้านขวามือ








ศาลาที่สร้างโดยไม่ใช้ตะปู





พิธีจะเริ่มตอน หนึ่งทุ่ม ไกด์บอกว่าพวกเราต้องไปทานอาหารกันก่อนแล้วถึงจะไปหาที่ยืนคอยดูกัน (ตอนนี้ประมาณ เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว)
อ๋อ. เข้าใจแล้วทำไมพามาทางด้านนี้ เพราะพอดูพิธีจบก็กลับ ขึ้นรถกลับบ้านกันเลย (บ้านเราอยู่ไกลนั่งรถตั้ง2 ชั่วโมง)
เอ้า... ทานก็ทาน 555



อาหารรสชาติอร่อยมากเลยค่ะ โดยเฉพาะ nabe udon เราชอบเป็นพิเศษ
ส่วนข้าวเราไม่ทานเลยแบ่งให้สามีเพื่อน
พอพวกเราทานเสร็จออกมาเพื่อหาที่ยืนดู ปรากฎว่ามีคนมายืนคอยเท่านี้แล้ว เพิ่งจะ 5 โมง ครึ่ง เองนะ พวกเราได้ที่ยืนดูไกลเหมือนกัน แต่ก็เป็นมุมที่ไม่เลวนัก



omizutori ที่วัด todaiji เป็นประเพณีที่ทำติดต่อกันมานานกว่า 1248 ปีโดยไม่เคยหยุดเลย แม้ตอนเกิดสงครามโลก ทั้ง 1 และ 2 ก็ตาม และไม่เคยเปลี่ยนวิธีทำพิธี เลย เรียกว่าทำตามของเดิมมาตลอด

shuni-e คือการเริ่มทำพิธีตั้งแต่เดือน 2 วันที่ 1 เป็นเวลา 1 เดือน
พิธีนี้ คือการทำพิธีสวดมนตร์และปลงอาบัติที่ทำอย่างเข้มงวดมากโดยทำในป่าลึกที่ทั้งเงียบสงบและหนาวเย็น(หิมะตก) ห้ามพูดจากัน ตลอดเวลาที่ทำพิธี อาหารทานมื้อเดียว เป็นอาหารแบบมังสวิรัตน์ ส่วนข้าวเป็นข้าวต้มเปล่า(okayu)

อยากเล่าอันนี้ให้อ่านจัง เราไปเปิด หาคำshuni-e เพราะอยากรู้ความหมายของคำนี้ เนื่องจากทุกที่ที่เราเข้าไปถามถูกเขียนว่า shuni e-mail เรายิ่งงงหนักเข้าไปอีก พิธีของพระ เกี่ยวอะไรกับ e-mail ล่ะทีนี้ หาจาก wikipedia ก็เขียนเหมือนกันอีก (คนแปลหรือ เครื่อง แปล? ก็เหลือเกินนะ) เอ้าผลสุดท้ายโทรถามเพื่อนถึงได้ถึงบางอ้อ มีใครเจอเหมือนเราใหมนี่

จากวันที่ 1 มีนา เป็นเวลา 2 อาทิตย์ ก็จะมีการทำพิธี omizutori ทุกวัน
พิธีจะจัดขึ้นที่ ศาลา nigatsudo (หมายถึงศาลาเดือน 2) เดือน 2 ของปฎิทินทาง จันทรคติ ซึ่งตรงกับเดือนมีนาของปฎิทินสุริยคติโดยมีพระสงฆ์ที่ถูกคัดเลือกมา 11 รุป
เรียกว่า rengyoshu สวดเจริญชนและสวดเพื่อสันติภาพของโลก

omiizutori เป็นพิธีทางศาสนาที่มีชื่อเสียงที่สุด โดยพระสงฆ์ จะนำน้ำที่อยู่ด้านล่างของศาลา nigatsudo มาทำพิธี น้ำนี้ถือว่าเป็นน้ำที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์และมีกลิ่นหอม
ถือกันว่าน้ำนี้จะทำการปัดเป่าโรคร้ายหรือสิ่งที่ชั่วร้ายทั้งมวลได้ และยังเป็นการเรียกฤดูใบไม้พลิที่จะมาถึงให้มีการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วย




omizutori จะเริ่มทำในตอนกลางคืนของวันที่ 12-13 ระหว่าง ตี 1.30-2.30 น. พระสงฆ์จะเริ่มทำพิธีตักน้ำ จากฐานของพระอุโบสถ ซึ่งถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์เพียงปีละครั้ง และจากนั้นก็จะนำไปทำพิธี เรียกว่า Dattan จะทำภายในศาลา nigatsudo ในระหว่างทำพิธี จะมีการเป่า horns และตีระฆัง





พระจะถือคบเพลิงหมุนไปรอบๆภายในอาคารไม้จนครบรอบ ทำพิธีเสร็จประมาณ 3.30 น ก่อนรุ่งสาง





พระชื่อ jitchu ได้เดินทางเข้าไปในภูเขาลึกชื่อ ภูเขา kasagi อยู่ทางตะวันออกของnara ในปี 751 เพื่อปฎิบัติธรรม

พระ jitshu ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง shuni e ได้เชิญเทพเจ้า 13,700 องค์มาเข้าร่วมพิธี บังเอิญเทพเจ้า Onyu-myojin แห่งย่านน้ำ wagasa มาถึงล่าช้า เพราะมัวไปตกปลา ในแม่น้ำ onyu และเพื่อชดเชยความที่มาถึงล่าช้า ท่านจึงนำน้ำที่มีกลิ่นหอมจากแม่น้ำ onyu และเอานกกาน้ำ สีขาว กับสีดำ ออกจากหิน จึงทำให้เกิดน้ำศักดิ์สิทธิ์ ตรงจุดนี้

omizutori คือพิธีตักน้ำขึ้นมาจากน้ำ wakasa ที่อยู่ด้านล่างของศาลา nigatsudo ฐานพระอุโบสถ ที่เรียกว่าน้ำแท้ และห้ามเอาไปทำพิธีกรรมอื่นๆ

น้ำศักดิ์สิทธิ์จะถุกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือน้ำแท้ที่ตักจากน้ำ wakasaขึ้นมา อีกส่วนคือ เอาน้ำแท้เอามาผสมน้ำเพื่อประกอบพิธีเป็นน้ำที่ทำพิธีมากว่า 1200 ปี

น้ำที่ทำพิธีแล้วจะถูกถวายพระ kannon sama ( พระโพธิสัตว์) และใช้เพื่อสาธรณชนด้วย

(ขอท่านผู้อ่านทุกท่าน โปรดใช้พิจารณญาณในการอ่านด้วย พนักงานพยายามแปลอย่างดีแล้ว แต่ได้เท่านี้ อะ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้นะที่นี้ก็แล้วกัน(ห้ามถามมากกว่านี้นะเพราะไม่รู้จะอธิบายอย่างไร))


otaimatsu คือการถือคบไฟที่หมายถึงผู้ให้ความสว่างหรือผู้นำ





otaimatsu ทำพิธีโดยพระ 10 รูป ถือคบเพลิงใหญ่ ทำที่ระเบียงศาลา nigatsudo ในตอนกลางคืนของทุกคืนเป็นเวลา 2 อาทิตย์ จากวันที่ 1-14 ของเดือนมีนา




โดยการถือคบเพลิงแบบวิ่ง จากระเบียงด้านซ้ายไปยังด้านขวา



ระหว่างที่วิ่งคบเพลิงก็จะถูกจับหมุนไปด้วย ทำให้เกิดลูกไฟ ร่วงพรู




ลูกไฟดังกล่าวเชื่อว่ามีอำนาจวิเศษ ถ้าใครสามารถจับลูกไฟหรือถูกลูกไฟได้ก็จะได้รับความโชคดี และปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปได้



หลังจากทำพิธี ตอนกลางวันเสร็จแล้วทุกคืนเวลา หนึ่งทุ่ม พระทั้งทั้งสิบรูปจะนำเอา คบเพลิงมาโปรยเพื่อให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมได้รับสิ่งดีๆด้วยโดยทำทีละรูป จนหมดคบไฟ

แต่ในวันสุดท้ายคือวันที่ 14 มีนา จะมายืนรวมทั้งหมด โดยทำทีเดียวสวยงามมาก





จบพิธีทำ omizutori และ otaimatsu แล้วญี่ปุ่นบอกว่าพอเสร็จพิธีนี้แล้ว ก็จะหมดหนาวแล้ว คราวนี้อากาศก็จะเริ่มอุ่นขึ้นทุกครั้งที่ฝนตก

ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆนะคะ

ขอขอบคุณ wiki pedia และ japan guide .com ด้วยค่ะ


Create Date : 18 มีนาคม 2553
Last Update : 22 ตุลาคม 2554 7:13:08 น. 20 comments
Counter : 2698 Pageviews.

 
บรรยากาศดีจัง...น่าเที่ยว


โดย: Calla Lily วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:12:18:36 น.  

 
สวัสดีคะ
ขอตามไปเที่นวด้วยคนนะคะ



โดย: Violeta Lady วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:48:37 น.  

 
สวัสดีค่ะป้าต่าย

สบายดีไหมค่ะ พอดี หนูมัวแต่ยุ่ง ๆๆ กับ อยู่ในช่วงลดน้ำหนักอยู่อ่ะค่ะเลยไม่ได้เข้าบล้อคเลย น่าจะพลาด บล้อคญี่ปุ่นของป้าต่ายไปหลายบล้อคใช่ไหมค่ะ เดี๋ยวหนูย้อนไปอ่านก่อน อิอิ


โดย: KowneawMooping@MooBambam วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:13:09:47 น.  

 
อ่านจนจบ..
ป้าต่ายอธิบายละเอียดยิบๆ เลยนะคะ
ได้ความรู้เต็มกาหมองเลยค่ะ

เรื่องหลังก็ดีขึ้นแต่ยังไม่หายเลยที่เดียว
ก็ยังต้องนั่งทำงานอยู่
เลยเป็นๆ หายๆ ค่ะ

คุณป้ากระต่ายขอบดู อินุยาฉะ
เหมือนกันเหรอค่ะ
ปุ๊กชอบดูมาก
แต่หลังๆ ห่างๆ ไปเพราะที่หาเช่าไม่ได้
จะดูในทีวีก็ไม่ค่อยมีเวลา
แต่ถ้ามีโอกาศไม่เคยพลาดค่ะ
ชอบบบบ


โดย: mutcha_nu วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:15:37:26 น.  

 
คุณป้าต่ายจ๋า...
เราขอโทษนะคะที่มาล่าช้า
แต่พอเข้ามาก็ได้สิ่งดีดี ที่เกี่ยวกับประเพณีอันดีงามเป็นความรู้กลับไปค่ะ

เมือง Nara เป็นเมืองที่เราอยากไปเที่ยวมากค่ะ ยิ่งมาเห็นรูปวัดเก่าแก่ ใหญ่โตแบบนี้ ยิ่งอยากไปดู ไปไหว้พระ ไปถ่ายรูป

ที่สวิสนี่ก้มีประเพณีที่เกี่ยวกับการเผาหุ่นเหมือนกันค่ะ เป็นทำนองว่าขับไล่ความหนาวเย็นและต้อนรับความอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิที่กำลังมาเยือน

แต่พิธีของเค้าไม่ขลังและดูศักสิทธิ์
เหมือนของญี่ปุ่น ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าพิธีนี้จะทำติดต่อกันมาถึง 1200 ปี

ท้ายสุด..ชอบทานมันเผาเหมือนกันเลยค่ะ เห็นทีไรต้องซื้อทานทุกที


โดย: Suessapple วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:17:50:58 น.  

 
เที่ยงแล้ว..ชวนคุณต่ายไปกินกั๊งกัน....
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=calalily


โดย: Calla Lily วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:12:21:12 น.  

 
คุณป้าต่ายทำอะไรอยู่คะ (^___^)

พูดถึงดอก saffron crocus แล้วน่าสนใจค่ะ เพราะเรารู้จัก saffron แต่ไม่เคยทราบว่าเป็นดอกที่เต้าเอาเกสรมาตากแห้งเพื่อเอาไปทำอาหาร

แถวๆเมืองแขกมี saffron ขายเยอะและราคาถูกกว่ายุโรปมาก เป็น spice ที่แพงที่สุดในโลก

เราเคยเอามาใส่ในข้าวอิตาเลียนค่ะ Risotto ออกมาสีเหลืองสวยรสหวานหอมดี แต่อย่างอื่นขี้เกียจทำ อิ อิ

รอชมร่มจากคอลเลคชั่นของคุณป้าต่ายนะคะ เรามีร่มญี่ปุ่นอยู่คันนึงแต่เอาทิ้งไว้ที่เมืองไทย เป้นร่มสีขาวงาช้าง และมีระบายที่ขอบร่มเป็นชั้นๆขลิบด้วยสีดำ

น้องสาวซื้อมาฝากจากญี่ปุ่น เค้าบอกว่าพอเห็นร่มแล้วนึกถึงเราขึ้นมาได้ และเพื่อนๆก็เชียร์ให้ซื้อมาให้
บอกว่ามันเข้ากับเรามากๆเลย 555

คุณป้าจ๋า เราใช้เวลาอยู่เมืองไทยค่ะ กางทีไรนึกถึงมารี ปอ๊ปปิ้นในเรื่อง The sound of music จังค่ะ 55 แต่ก็ใช้ค่ะ สวยดี


โดย: Suessapple วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:14:54:51 น.  

 
บะหมี่ทอดกรอบราดหน้า

เรายังไม่ได้ทานอะไรเลยค่ะ ตอนนี้ที่นี่ จะสิบโมงแล้ว เราไม่เคยทานข้าวเช้าค่ะ
กำลังคิดๆว่าอยากจะจัดระเบียบชีวิตเสียใหม่ นอนหัวค่ำ ตื่นเช้า แล้วทานข้าวสามมื้อ แต่ทำไม่เคยได้เลยค่ะ

ตอนไปอยู่ที่ญี่ปุ่น มีความสุขกับเรื่องกินมากๆเลย บางทีกลับที่พักก็แค่แวะซูเปอร์ แล้วซื้ออาหารสำเร็จรูปมาอุ่นทานในไมโครเวป แค่นั้นก็อร่อยแล้วค่ะ

ญี่ปุ่นดอกซากุระบานหรือยังคะ (^____^)


โดย: Suessapple วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:15:54:10 น.  

 
แต่งตัวเสร็จแล้ว
กำลังจะออกไปข้างนอกค่ะคุณป้าต่าย
เลยแวะมาส่งคุณป้าเข้านอนเลยนะคะ
เดี๋ยวกลับมาจะมาเล่าให้ฟังว่าไหนมาบ้างค่ะ อิ อิ
หลับฝันดีๆๆๆนะคะ...


โดย: Suessapple วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:18:07:41 น.  

 
มาแล้วค่าคุณป้าขา..
มานั่งกระซิบๆ อิ อิ กลัวคุณป้าตื่นค่ะ
วันนี้เราออกไปที่สวนที่เป็นเกาะกลางทะเลสาบค่ะ เป็นสวนที่ได้ชื่อว่ามีดอกไม้สวยที่สุด
แต่ตอนนี้มีดอกไม้นิดหน่อยเองค่ะ แต่เราคิดว่าได้ไปเดินเล่น ...(^__^)
ก็เห็นมีดอก Crocus อีกแหละค่ะแต่คราวนี้เยอะมาก เค้าปลูกสลับสีเป็นทุ่งเลยค่ะ
แล้วเค้าจะเปลี่ยนปลูกดอกไม้สลับไปตลอดจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ราวๆกลางตุลาก็จะปิด
แล้ววันนี้เห็นต้นแดฟโฟดิลเป็นทุ่งเลยค่ะ บนเนินก็มี นี่ถ้าบานเมื่อไหร่ต้องสวยแน่ๆเลย
เราไปเร็วไปหน่อย แต่ได้เห็นทุ่ง Crocus ก็ชื่นใจแล้วค่ะ

มากระซิบเบาๆ แล้วก็ย่องออกไปนะคะคุณป้าต่าย อิ อิ
กลัวคุณป้าตื่นค่ะ...หลับฝันดีนะคะคุณป้า


โดย: Suessapple วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:3:19:54 น.  

 
ตามไปเืที่ยวนาราด้วยคนค่ะ กำลังจะไปช่วงสงกรานต์นี้พอดีเลยค่ะ แต่คงไม่ได้อยูดูพิธีomizutori หรอกค่ะ เพราะโปรแกรมเยอะค่ะ เห็นทางเอ็นเอชเคเคยเอามาให้ดูน่าสนใจมากๆเลย


โดย: sakana's world วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:13:03:46 น.  

 



ป้าต่ายขาสวัสดีค่ะ มาเยี่ยมป้าต่ายคราวนี้ยิ่งทำให้ไก่วาอยากไปเยือนญี่ปุ่นมากๆ
สถาปัตยกรรมที่โด่เด่น วาแหละตกหลุมรักวัดในsetting สวยๆ กับต้นไม้เขาค่ะ
ป้าต่ายสบายดีนะคะ วาเพิ่งปิดงานเมื่อวาน วันนี้เลยขอพักค่ะ
คนที่โน่นเขาให้ความสำคัญกับประเพณีมากๆ เลยนะคะ
สืบทอดกันมานานเป็นพันปี คนก็ยังหลั่งไหลกันมาจนถึงปัจจุบัน
คิดถึงป้าต่ายค่ะ ถ้าไม่ยุ่งมากๆ แวะมาคุยกันบ้างนะคะ




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:15:30:44 น.  

 
ป้าต่ายขา ถ้าป้าต่ายไม่สบายกาย ไม่สบายใจช่วงนี้ไก่วาก็ขอเอาใจช่วยให้มันหายไปเร็วๆนะคะ
อะไรไม่ดีอย่าได้มากวนกายกวนใจป้าต่ายเลย
แล้วถ้าป้าต่ายสบายใจขึ้นค่อยแวะมาคุยกันค่ะ ยังไงแล้ววาก็คิดถึงป้าต่ายเสมอ
ขอจุ๊บๆๆๆๆๆ ป้าต่ายก่อนไปค่ะ





โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:15:33:19 น.  

 
บล็อคนี้จัดเข้าเป็นเชิงสารคดีท่องเที่ยวได้เลยครับ เห็นวัฒนธรรมประเพณีของชาวญี่ปุ่นชัดเจนทีเดียว โชคดีที่เราเอเซียแถบนี้นับถือพระพุทธศาสนาเป็นหลักจึงมีรากฐานจิตใจ วัฒนธรรม คล้าย ๆกันครับ จึงทำให้เข้ากันได้โดยไม่ขัดแย้ง ขอบคุณครับที่ตั้งใจเขียนบล็อคนี้ให้อ่านประกอบภาพทำให้รู้จักประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นครับ


โดย: Patteera วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:17:01:21 น.  

 
สวัสดีครับ
ตามมาเที่ยวด้วย มาดูภาพสวยๆ
ถ้ายักษ์มีตัวตนจริงไม่รู้ยักษ์ที่ญี่ปุ่น กับเมืองตัวไหนหน้ากลัวกว่ากันนะ


โดย: kitpooh22 วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:21:34:19 น.  

 
หวัดดียามเที่ยงๆค่ะ


โดย: Van (cheering ) วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:12:12:57 น.  

 
คิดถึงคุณต่ายค่ะ..เมื่อไหร่กลับเมืองไทยค่ะ..ส่งดอกไม้มาให้ค่ะ



โดย: Calla Lily วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:8:37:56 น.  

 
หวัดดีค่ะป้าต่าย
ไม่ได้แวะมานานเลย
ตอนนี้งานเริ่มเข้าที
คงจะได้แวะมาบ่อยๆ แล้วนะคะ

ว่าแต่น่าอิจฉาป้าต่ายจัง
ได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่น
ที่เค้ารักษาไว้ได้ค่อนข้างดีนะคะ


โดย: mutcha_nu วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:21:13:58 น.  

 
แวะมาชวนคุณต่าย...ไปกินของอร่อยที่บ้านCalla ค่ะ..


โดย: Calla Lily วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:13:42:32 น.  

 
คุณป้าต่ายจ๋า...

ได้เห็นเม้นท์ป้าต่ายที่หน้าบ้าน
แล้วดีใจจังค่ะ ที่ป้าต่ายยุ่งๆอยู่
แต่ก็ปลีกเวลามาคุยด้วย
.
.
คุณป้าต่ายหายเศร้าหรือยังคะ
อย่าเศร้านานนะคะป้าต่าย
เราจะได้ออกมาคุยกัน
รอดูรูปภาพสวยๆจากบ้านป่าต่ายอยู่เสมอค่ะ

อัพบล๊อคเมื่อไหร่
อย่าลืมไปตามเรามาชื่นชมด้วยนะคะ รออยู่ค่ะ

คิดถึงป้าต่ายเสมอค่ะ



โดย: Suessapple วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:20:53:09 น.  

Katai_Akiko
Location :
กรุงเทพฯ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




 


วันที่ 31 ตุลาคม

free counters free counters
ใส่รูปให้กล่อง Comment
New Comments
Friends' blogs
[Add Katai_Akiko's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.