ข้าวโพด เป็นพืชที่เกษตรกรภาคเหนือนิยมปลูกกันมาก บางปีก็ราคากิโลกรัมละ 8 บาท มาปีนี้ 2552 ข้าวโพดราคา กิโลกรัมละ 2 บาทกว่าๆ เกษตรกรก็ขาดทุนกันไป ใครจะรับผิดชอบก็ว่ากันไป

แต่สิ่งที่เห็นในช่วงฤดูเก็บข้าวโพดขาย ช่วงเดือน สิงหาคม กันยายน จะมีการการนำข้าวโพดไปสี เพื่อเอาเมล็ดขาย ส่วนที่เหลือคือเปลือกข้าวโพด ถ้าไม่มีใครเอาไปทำอะไร เจ้าของที่รับสีก็จะจุดไฟเผาทิ้ง

ในระ่ว่างที่ขับรถผ่านกองเปลือข้าวโพดหลายๆที่ ก็พยามคิดว่า จะทำประโยชน์จากพวกนี้ได้อย่างไรบ้าง จะทำกระดาษจากเปลือกข้าวโพดได้ใหม จะทำปุ๋ยหมักโดยใช้เปลือกข้าวโพดดีใหม จะทำ......... ซึ่งก็มีแต่คำถาม ที่ยังไม่ได้หาคำตอบซักที

เย็นวันหนึ่ง ชวนลูกสาวไปตลาดเขาเห็นเห็ดฝางที่ดอกตูมๆ เขาอยากกินเพระาว่ามันเหมือนลูกชิ้น เอามาต้มน้ำปลาเขาจะชอบมาก ระหว่างที่เอาเห็ดมาทำกับข้าว ก็ได้คุยกับลูกๆว่า เรามาปลูกเห็ดฝางกินกันเองดีใหม ซึ่งลูกสาว สองคนก็เห็นด้วยและอยากทำ เอาละซิ จะทำไงดี

หลังจากทานข้าวเย็นกับลูกๆเสร็จแล้ว ก็เข้าไปหาข้อมูลการทำเห็นฝากโดยใช้เครื่องมือช่วยค้นหา จาก Google  ได้ข้อมูลการทำเห็นฝาง เยอะมาก แต่ข้อมูลการทำเห็นฝากจาก เปลือกข้าวโพดหายังไงก็ไม่เจอ

ได้คุยกับน้องชื่อหมูอ้วน ที่เป็นคนริเริ่มในการทำนา และเป็นคนคอยช่วยสนับสนุนด้านอื่นๆเสมอ ว่าเราจะำทำเห็ดฝาก จากเปลือกข้าวโพดได้ใหม ซึ่งมันมีเปลือกข้าวโพดเหลือเยอะมาก ซึ่งคำตอบจากหมูอ้วนก็บอกว่า "ทำได้ซิพี่"

ว่าแล้วเราก็เริ่มทอดทำกันเลย โดยไปขนเปลือกข้าวโพด ที่กองไว้เ่ป็นภูเขา มาหนึ่งลำรถกระบะั  เริ่มทำแปลงง่ายๆ โดยใช้ไม้ไผ่ เป็นรั้วเตี้ยๆเพื่อกั้นให้เปลือกข้าวโพด ให้เป็นแปลงดูดีขึ้น ส่วนเชื้อเห็ดฝางก็เข้าไปซื้อ ที่ร้านขายถุงละ10 บาท ซื้อมาทั้งหมด 10 ถุง

หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือเอาเปลือกข้าวโพดลงในแปลงที่เตรียมไว้ โรยเชื้อเห็ดฝางลงไป ทำแปลงละ 3 ชั้น ซึ่งแปลงหนึ่งใช้เชื้อเห็ดฝางไป 3 ถุึง เปลือกข้าวโพดที่ขนมาหนึ่งลำรถ สามารถทำได้ 2 แปลง คิดว่าคงต้องไปเอามาเพิ่ม เพราะว่าเชื้อเห็ดยังเหลือ และแปลงก็ยังว่างอีกแปลง โดยการทำในส่วนนี้ หมูอ้วนทำคนเดียวทั้งหมด เนื่องจากข้าพเจ้าเอง ไปต่างจังหวัดหลายวัน

หลังจากผ่านไป 1 ทิตย์ เจ้าแปลงเห็ดฝางที่ทดลองทำกันจากเปลือกข้าวโพด ก็เริ่มมีเห็นฝางดอกตูมๆ เล็กๆ โผล่ออกมาบ้างแล้ว นี่ก็แปลว่า การใช้เปลือกข้าวโพดในการทำเห็นฝาง ของเราเริ่มเห็นเค้าโครงความสำเร็จมาบ้างแล้ว