มาอัพบล็อกแล้วครับ - แม่มีอาการเท้าบวม กับตาบวมอ่ะ
เมื่อวันอังคารแม่ไปหาหมอมาครับ (ต้องลุกไปจองบัตรคิวตอนประมาณ ตี 4-5 แล้วก็ต้องไปต่อคิวอีกตอน 8 โมง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องให้ไปเอาบัตรคิวก่อน ตอนนี้บ้านก็อยู่ไกลจากรพ.มากกว่าเมื่อก่อน แต่ว่าพี่ชายพาแม่ไปครับ ผมไม่ได้พาไป แต่ก็รู้สึกตัวตอนที่เขาออกไปจากบ้าน) แม่ไปรับยาเพิ่ม สงสารแม่เหมือนกันครับ วันๆก็กินยาหลายเม็ดเหมือนกัน ทั้งโรคความดันฯ, และอื่นๆ เดี๋ยวก็ปวดเมื่อย อีกอย่างก็มีอาการบวมขึ้นมาบ่อย บางครั้งก็ที่เท้า บางครั้งก็ที่หลังมือ ล่าสุดเป็นที่เท้า กับที่หน้าผากครับ รวมไปที่เปลือกตาด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าสาเหตุมาจากอะไร
ผมคิดเอาเองว่าอาจจะเป็นเพราะการที่เลือดไหลผ่านไม่สะดวก และแม่แกน่าจะพักผ่อนน้อยด้วยหล่ะครับ กลางคืนแกจะนอนไม่ค่อยหลับ (เหมือนผมเลย ถ้ามีเสียงอะไรดังขึ้นมา หล่ะก็รู้สึกตัวหล่ะ) แม่อาจจะเป็นห่วงลูกด้วยครับ บางทีผมเองก็กลับดึก บางทีพี่ชายก็กลับดึก (มากกว่าผมอีก) อีกอย่างวันไหนจะไปรพ. ก็จะกังวลกลัวตื่นสายมั้งครับ ก็แทบจะไม่ค่อยได้นอน
อาทิตย์นี้ ผมก็ไปทำบุญตั้งแต่วันจันทร์ - วันนี้เลยครับ ไปทุกวันเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าพระจะเบื่อหน้าผมหรือป่าวเนี่ย คิคิคิ ก็บอกแม่ครับ แกก็จะทำกับข้าวให้มากขึ้นหน่อย ใส่ถุงเสร็จก็ให้แม่ทูนหัวครับ (อ๋อ วันก่อนแม่เล่าว่าพระจีนทักแกว่ากำลังมีเคราะห์ ต้องไปไหว้ที่ศาลเจ้า และไปขอยา โดยการขอเซียมซีด้วย) และให้แม่อธิษฐานด้วยครับ และเมื่อผมไปทำบุญ ก็จะอธิษฐานให้แม่หายเร็วๆ และแผ่ส่วนบุญไปยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองแม่ของผม ให้ท่านดูแลแม่ให้ด้วยอ่ะครับ (พระสอนมาแบบนี้อ่ะ)
..........................................................
เพื่อนสนิทสมัยม.ต้นครับ (อายุน้อยกว่าผม 3 ปี) เขาทำโสมเกาหลีตังกุยจับอยู่ ล่าสุดเขามาคุยกับผม ให้เห็นภาพกว้างๆ ในการทำงานการตลาดเครือข่าย ซึ่งฟังแล้ว ก็เห็นด้วยกับเขานะครับ เพราะการตลาดเครือข่ายมีข้อดีดังนี้ 1. ใช้เงินลงทุนน้อย 2. ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องมีทำเล 3. เราก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของบริษัท 4. ส่วนใหญ่บอกให้ต้องทำไปตามวิธีการ และอดทนอยู่ในระบบให้ได้ประมาณ 2-5 ปี 5. ทำไปถึงระดับหนึ่ง หากมีเครือข่ายเยอะขึ้น บางครั้งเราหยุดไปเนื่องจากเหตุการณ์ไม่ปรกติ อาจจะเป็นเพราะป่วย หรือไปเที่ยว เครือข่ายก็ยังโตได้เรื่อยๆ 6. มอบเป็นมรดกให้ลูกหลานได้อีกด้วย
เปรียบเทียบกับการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น เฟรนไชส์ของ 7-11 ต้องลงทุนเริ่มต้น 1.5 ล้าน ต้องหาทำเล ต้องจ้างคน กว่าจะคืนทุนก็รับประกันที่ 1.5 ปี ที่สำคัญ เงิน 1.5 ล้าน จะเอามาจากไหนหล่ะเนี่ย ก็คงจะต้องไปกู้ยืม
แต่ตอนนี้ทางโสมเอง มีการเติบโตที่เร็วมากเลย 5 ปี มียอดขายล่าสุดปี 49 ตั้ง 1,900 ล้านบาท เทียบกับอันดับ 2 คือ Giffarine มียอดขายที่ 3,000 ล้านบาท และอันดับ 1 ก็คือ Amway มียอดขายที่ 10,000 ล้านบาท อีกอย่างโสมเป็นของคนไทยเอง เหมือนกับอันดับ 2 ครับ และเขาก้าวไกลได้กว่าด้วยระบบทางอินเตอร์เน็ต มีหน้าเวปไซด์ของตัวเองที่สามารถทำให้สะดวกในการทำงาน และค้นคว้าหาข้อมูล และนอกจากนี้มีระบบเฟรนไชส์หน้าเวปด้วยครับ แปลกดี แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีเหมือนกัน
....................................
คราวนี้ผมก็มีอะไรให้ทำเยอะมากเลยครับ (เรียนนิติศาสตร์, งานขายประกันชีวิต, แอมเวย์, โสม) ผมมองทุกอย่างเป็นโอกาสที่ดีของผม แต่ผมจะทำอย่างไรดี จะเลือกอันไหนดี - นิติศาสตร์ ใช้เวลาเรียนอย่างน้อย 3 ปี ต้องเรียนโทอีก ต้องสั่งสมความรู้โดยการทำงานอีก กว่าจะสามารถสอบเป็นอัยการ หรือผู้พิพากษาได้ แต่เมื่อถึงระดับนั้น รายได้ก็หลักแสนได้เหมือนกันนะครับ - ขายประกัน ถ้าขายได้ ก็ได้รายได้เยอะในแต่ละเคส และจะลดลงในปีถัดๆไป (เพราะไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรมาก แค่ลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันต่อเนื่อง) อีกอย่างตอนนี้ดูเหมือนว่าบริษัทเพิ่มส่วนตอบแทนให้ตัวแทนมากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการ turn over ของพนักงานสูงขึ้น และจะพบว่าตัวแทนจะขยันทำงานแค่ในช่วงแรกครับ เพราะส่วนใหญ่เน้นการขายให้กับคนสนิท และคนรู้จัก เมื่อ 2 กลุ่มนี้หมด ก็ต้องอาศัยความสามารถที่สูงขึ้นอ่ะครับ - งานเครือข่าย ดูแล้วก็น่าดีนะครับ เพราะเราจะก้าวขึ้นไปข้างบนได้ เราก็ต้องทำให้ลูกทีมของเราทำงานเป็น และประสบความสำเร็จไปด้วย ไม่งั้นเราก็ไม่ได้ไปไหนเหมือนกัน ถ้าเรามีเครือข่ายเยอะขึ้นๆ ทุกๆเดือน จริงๆแล้ว เพียงแค่ใช้สินค้าเอง แค่นี้ก็น่าจะมีการเติบโต้ขึ้นเรื่อยๆแล้วหล่ะครับ แต่ถ้าใครต้องการให้สำเร็จเร็วขึ้น ก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น เมื่อถึงระดับหนึ่งแล้ว รายได้ก็จะเข้ามาเยอะขึ้น และสามารถหยุดได้ และได้ไปท่องเที่ยวกับบริษัทได้อีกด้วยอ่ะ (อันนี้น่าจะเป็นความฝันของทุกๆคนที่มีเวลาได้ไปท่องเที่ยวกับคนที่คุณรัก โดยที่ไม่ต้องกังวลกับการหารายได้)
.............................................
แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่ "ใจ" ของผมเองที่จะเอาตัวของผมลงไปศึกษา และทำมันอย่างจริงจังหรือป่าว ??? แต่ตัวผมนี่สิ มันมีแรงกระตุ้นอะไรเลยอ่ะครับ ทำไงดีหว่า ? - บ้านก็มีแล้ว (ไม่ใช่น้ำพักน้ำแรงของผมหรอกครับ ของแม่ทั้งหมดเลยอ่ะ) - หนี้สินก็ไม่มีอ่ะครับ (กลัวการเป็นหนี้สินมากที่สุดเลยอ่ะครับ) - แฟน ไม่มี เลยไม่ค่อยมีภาระอะไรมากนัก วันๆ ก็ทำงาน และไปเล่นแบด (กีฬาที่เล่นอยู่เป็นประจำ เกือบทุกวัน) กลับบ้านก็ดึกหน่อย เลยทำให้ไม่ได้ไปมองใครเลย อีกอย่างก็มีความรู้สึกว่า มีแฟนแล้ว น่าจะตามมาด้วยภาระที่หนักขึ้น และยิ่งมีลูกก็จะมีภาระมากขึ้นไปอีก กองล้นตัวเลยอ่ะ ผมอยากจะมีแฟน แบบเพื่อนอ่ะครับ เป็นคู่คิด คู่เล่น คู่สร้าง คู่เสริม แต่ในรายที่ผ่านๆมา ผมไม่ชอบเอง เพราะเมื่อเป็นแฟนกันแล้ว ต้องบังคับให้ผมต้องเปลี่ยนแปลงตัวผม เช่น ต้องโทรหาทุกวัน, ต้องบอกรัก, ต้องพาไปเที่ยว ฯลฯ แล้วก็ตามมาด้วย การหึงหวง การระแวง สรุปแล้วอยู่คนเดียว ก็สบายใจดีกว่าอ่ะครับ
...................................
สุดท้ายของประชาสัมพันธ์นะครับ 2 เรื่อง 1. วันที่ 1 เม.ย. นี้ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ต จะมีการจัดงาน Money Channel สัญจรครับ เวลา 10.00-16.00 น. ในงานก็จะมีโบรกเกอร์, กองทุนต่างๆ ออกบูธ เพื่อแนะนำการลงทุน และมีละครส่งเสริมการลงทุนให้กับเด็กๆครับ เพราะฉะนั้นงานนี้เหมาะที่จะไปได้ทั้งครอบครัวครับ และมีการเสวนาทิศทางการลงทุนด้วยนะครับ
2. ผจก.ของผมจะจัดพิมพ์หนังสือ 2 เล่มเพื่อไว้แจกในเทศกาลกินเจที่ภูเก็ตครับ จำนวน 10,000 เล่ม ต้นทุนในการจัดพิมพ์ ชุดละ 14 บาทครับ
- หนังสือ คู่มือดับทุกข์ "เวลาพบกับอารมณ์ที่ไม่น่าพอใจ มันชวนให้ท่านโกรธ หรือเดือดร้อนใจขึ้นมา จงอย่าเพิ่งพูดอะไรออกไป หรือจงอย่าเพิ่งทำอะไรลงไป แต่จงคิดให้ได้ก่อนว่า นี่คือสิ่งที่ทุกคนในโลกนี้ไม่ปรารถนาจะ พบเห็น แต่ทุกคนก็ต้องพบกันมัน สิ่งนี้คือ สิ่งที่ท่านจะเอาชนะมันด้วยการสกัดมันออกไปจากใจได้ ท่านก็จะเป็นอิสระ และไม่เป็นทุกข์ เมื่อท่านไม่เป็นทุกข์ ก็หมายความว่า ท่านชนะมัน"
- หนังสือ วิธีสร้างบุญบารมี โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก " การถวายวิหารทาน แม้จะมากถึง 100 ครั้ง (100 หลัง) ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ธรรมทาน แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม การให้ธรรมทานก็คือการเทศน์ การสอนธรรมะแก่ผู้อื่นที่ยังไม่รู้ให้รู้ ที่รู้อยู่ แล้วให้รู้ยิ่งๆขึ้น ให้ได้เข้าใจมรรค ผล นิพพาน ให้ผู้ที่เป็นมิจฉาทิฐิได้กลับใจเป็นสัมมาทิฐิ ชักจูงผู้คนให้เข้าปฏิบัติธรรม รวมถึงการพิมพ์ การแจกหนังสือธรรมะ"
ขอเชิญร่วมบุญได้นะครับ โดยติดต่อผ่านทางบล็อกของผมนี่หล่ะครับ
อัพแค่นี้ก่อนดีกว่า พิมพ์ไปพิมพ์มา ยาวทุกทีเลยแฮะเรา
Create Date : 29 มีนาคม 2550 |
|
22 comments |
Last Update : 30 มีนาคม 2550 16:35:42 น. |
Counter : 1092 Pageviews. |
|
|
|
***********
55555555++++
คนไม่มีแฟน หรือคนไม่มีใครเอา
หรือไม่ชอบสาวๆ หรือเราน่ากลัวเวลาใกล้ๆ ใคร อิอิอิอิ
อะน่า ..........