เมื่อผมเป็นกรดไหลย้อน
ก่อนหน้านี้ผมเลิกเขียนไดอารี่ในสมุดจริงๆไปเลยครับ เพราะว่ากลับบ้านดึกแล้ว เลยไม่อยากจะเขียน นอนก็ดึกติดกันเรื่อยๆ เลยเที่ยงคืนทุกวันเลย ประกอบกับก่อนหน้านี้ไปบริจาคเลือดมา ก็ยังเป็นเล่นแบดเหมือนเดิม นอนดึก ตี 1 ซ้อนกัน 2 คืน อีกวันเกิดอาการคอแห้ง มันแห้งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยไปหาหมอที่รพ.กรุงเทพ หมอจัดยาให้ทั้งหมด เกือบ 2,500 บาท มีวงเงินในบัตรสุขภาพแค่ 1,500 บาท ก็เลยบอกให้เขาลดยาลง สรุปลดยาตัวเดียวเท่านั้น ยาปฏิชีวนะ เม็ดละ 78 บาท จาก 20 เม็ด เหลือแค่ 6 เม็ด แต่ยามันแรงดี กินครังเดียว รุ่งขึ้นหายเจ็บคอเลยแฮะ แต่ก็กินยาเรื่อยๆ จนหมดก็ไปขอเพิ่มอีก (ไม่เกินวงเงินแระ)
วันที่ยาหมดพอดี มีอาการอื่นขึ้นมาอีกครับ คือเวลากลืนข้าว มันจะเจ็บหน้าอกทางด้านขวามือ เจ็บแปลบๆ ยิ่งวันก่อนที่จะไปหาหมอ มันเจ็บนานเลย ประมาณ 5 นาที ผจก.บอกว่าลูกค้าเคยเป็นแบบนี้ นึกว่าไม่เป็นไร พอไปตรวจที่รพ.บำรุงราษฏร์ เป็นโรคหัวใจ ต้องทำบายพาสกันเลย แต่ของผมยังไม่ถึงขั้นนั้น แพทย์ที่รพ.สิริโรจน์บอกว่าเป็น "กรดไหลย้อน" แย่เลย
บางคนก็แนะนำให้กินหมากฝรั่ง เพราะให้หลอกมันว่าเรากำลังจะกินอยู่ตลอดเลย กรดมันจะไม่ไหลขึ้นมามากนัก บางคนก็แนะนำให้ไปหาสมุนไพรจีนมาต้มกิน แต่ตอนนี้ทานยาแผนปัจจุบันก่อน เพื่อดูอาการสักหน่อย ว่าเป็นอย่างไรต่อไป
ตอนนี้ผ่านไปหลายวันแล้ว ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่ค่อยเจ็บตอนที่กลืนแล้วหล่ะครับ แต่ก็ต้องกินยาไปเรื่อยๆ จนหมด แล้วก็ไปให้หมอดูอาการอีกครั้งนึงด้วยนะครับ
มีเพื่อนที่รู้จักกันทางเน็ต ส่งกาแฟดีท้อกซ์มาให้ด้วย ก็ศึกษาโดยการอ่านหนังสือ "ประสบการณ์ดีท้อกซ์" และค้นหาทางเน็ต เพื่อเพิ่มความแน่ใจในวิธีการต่างๆ และผลเสียของมัน เท่าที่อ่านก็ยังไม่พบว่ามีผลเสีย ยกเว้นใช้ปริมาณที่เยอะเกินไป อาจจะปวดท้องบ้าง และการที่ยกขวดน้ำสูงเกินไปก็อาจจะทำให้น้ำกาแฟไหลเข้าเร็วเกินไป ร่างกายอาจจะปรับสภาพไม่ทัน ก็จะปวดท้องได้เท่านั้นเองครับ แต่ผมเองก็ยังไม่ได้ลองด้วยตัวเองจริงๆสักที ไว้หาโอกาสว่างๆ แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
Create Date : 25 มิถุนายน 2551 |
|
16 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2551 19:25:44 น. |
Counter : 1453 Pageviews. |
|
|
|
ทรมานมาก ขอให้หายไวไวนะน่ะ