กฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ใหม่ เพิ่มบทลงโทษเป็น 2 เท่า หากผู้กระทำผิดเป็นนักการเมืองและข้าราชการ และครอบคลุมถึงการบังคับใช้แรงงาน การขอทาน การผลิตและเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกด้วย โดยจะมีผลบังคับใช้ 5 มิ.ย.นี้

นางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวระหว่างเปิดประชุมวิเคราะห์สถานการณ์การค้ามนุษย์ และทบทวนแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ร่วมกับภาคีเครือข่าย ว่า พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 5 มิ.ย.นี้ มีสาระสำคัญ คือ ได้กำหนดคำนิยามของ “ความเสียหายการค้ามนุษย์” ใหม่ จากเดิมจำกัดเพียงการค้าประเวณีหญิงและเด็ก ให้ครอบคลุมถึงการบังคับขอทาน การบังคับใช้แรงงาน การเอาคนมาเป็นทาส การตัดอวัยวะเพื่อการค้า และการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก หรือการแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบอื่นที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่

นางกานดา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในกฎหมายใหม่ยังให้มีกองทุนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ สำหรับเป็นทุนใช้จ่ายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

ด้านนางสายสุรี จุติกุล ประธานอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาหญิงและเด็ก กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวถึงสถานการณ์การค้ามนุษย์ในปัจจุบันว่า ได้เปลี่ยนรูปแบบจากการค้าประเวณี เป็นการบังคับใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือแรงงานประมง และขอทานมากขึ้น ส่วนการค้าประเวณีลดลง โดยเริ่มมีเด็กชายและผู้ชายตกเป็นผู้เสียหายมากขึ้นด้วย

นางสายสุรี กล่าวต่อว่า ที่น่าสนใจ คือ พ.ร.บ.นี้ เพิ่มบทลงโทษผู้ค้ามนุษย์ จากเดิมจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นจำคุกตั้งแต่ 4-10 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000-200,000 บาท ที่สำคัญ ยังระบุชัดเจนในมาตรา 13 ว่า หากผู้กระทำผิดเป็นนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น และข้าราชการ ให้รับโทษเป็น 2 เท่าของโทษที่กำหนดไว้ ส่วนพนักงานเจ้าหน้าที่และกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือคณะกรรมการ ปกค. ซึ่งรวมถึงรองนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้รับโทษเป็น 3 เท่าของโทษที่กำหนด จึงขอเตือนไว้ด้วย

“ต่อไปนี้เราจะไม่ให้มีซ่อง จะเอาผู้หญิงไปติดเบอร์หน้ากระจกเหมือนนกหรือแมวไม่ได้ กฎหมายนี้จะคุ้มครองโสเภณี ไม่ถือว่าเป็นอาชญากรเหมือนก่อน ตำรวจจะไปจับกุมไม่ได้ หากไม่ได้ไปรบกวนใคร และให้ไปเน้นจับพวกขบวนการค้ามนุษย์ เช่น พวกพ่อเล้า แมงดา พวกซื้อบริการ” นางสายสุรี กล่าว.

ที่มา://www.innnews.co.th/social.php?nid=98889
โดย:ทีมข่าว INN News 28 มีนาคม 2551 17:46:05 น.