ท่ามกลางแนวโน้มการชะลอตัวของตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่การแข่งขันกลับร้อนแรงดุเดือดยิ่งขึ้น เพราะแต่ละค่ายรถยนต์ต่างมีการงัดกลยุทธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญกระตุ้นยอดขาย หรือการเปิดตัวรถใหม่สู่ตลาด และล่าสุดได้มีการเปิดหน้าค่าตาออกมาแล้ว กับการเผยโฉมของอีโคคาร์ซีดานของค่าย มิตซูบิชิ เพื่อบุกตลาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นความหวังในการกระตุ้นยอดขายให้บรรลุเป้า รวมถึงรถรุ่นหลักอื่นๆ อีกที่จะทยอยตามมา ขณะเดียวกันยังเล็งเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค นำเข้ารถจากต่างประเทศมาเสริมทัพอีกด้วย
มิตซูบิชิจะมีรถรุ่นใหม่แนะนำสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เห็นได้จากอีโคคาร์ซีดาน มิตซูบิชิ แอททราจ (MITSUBISHI ATTRAGE) ที่จะเปิดตัวทำตลาดอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป และยังจะมีรถรุ่นต่างๆ ทยอยส่งลงสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นหลักที่จะมีการปรับโฉม และรถนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษารายละเอียดอยู่ |
นั่นเป็นคำกล่าวของ โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ในการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพรวมและแนวโน้มครึ่งปีหลังของมิตซูบิชิในไทย พร้อมเปิดเผยรายละเอียดคร่าวๆ ของอีโคคาร์ซีดาน รวมถึงตอบคำถามต่างๆ กับสื่อมวลชนไทย แน่นอนไฮไลต์ของมิตซูบิชิในครึ่งปีหลังนี้ ย่อมต้องเป็น มิตซูบิชิ แอททราจ (MITSUBISHI ATTRAGE) ซึ่งหมายมั่นจะมาเป็นพระเอกต่อจากอีโคคาร์รุ่นมิราจ หลังจากตัวเลขยอดขายเริ่มชะลอลงในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยมูราฮาชิบอกว่าจุดเด่น แอททราจ อยู่ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุด คล่องตัวในการขับขี่ และตัวถังกว้างกว่ารุ่นมิราจ ทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย จึงมั่นใจจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเช่นเดียวกับรุ่นมิราจ และจะช่วยผลักดันให้ยอดขายบรรลุเป้าหมาย 1.2 แสนคันในปีนี้แน่นอน |
ขณะเดียวกันด้วยการออกแบบตัวถังตามหลักอากาศพลศาสตร์ และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถัง จากโครงสร้างเหล็กแข็งแรงสูง High tensile steel ที่มีความแข็งแกร่งสูงกว่าเหล็กทั่วไปแต่น้ำหนักเบา จึงส่งผลให้อัตราการบริโภคน้ำมันสูงสุด 22 กม./ลิตร อีกทั้งยังให้ความคล่องตัวในการขับขี่ จากรัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุดเพียง 4.8 เมตร และมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ในส่วนของราคายังไม่สรุปเป็นทางการ จนกว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่จะมีความเหมาะสมและแข่งขันกับอีโคคาร์ซีดานในตลาดได้อย่างแน่นอน ในส่วนของรถรุ่นอื่นๆ อย่างเก๋งคอมแพ็กต์ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ กำลังจะดำเนินการบางอย่าง เพื่อกระตุ้นยอดขายเช่นกัน แต่รถรุ่นนี้จะยังไม่มีการปรับให้รองรับพลังงานซีเอ็นจี แม้จะมีการยุติการทำตลาดรุ่นแลนเซอร์ ซีเอ็นจีแล้วก็ตาม ขณะเดียวกันปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน กำลังอยู่ในช่วงพัฒนารุ่นโมเดลเชนจ์ และนอกจากนี้ได้มีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ ในการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศมาทำตลาด ซึ่งตอนนี้กำลังพิจารณารถตู้อเนกประสงค์ มิตซูบิชิ เดลิกา ดี:5 และอีกรุ่นเป็นเอสยูวี มิตซูบิชิ เอาต์แลนเดอร์ แต่รุ่นหลังคงจะยังไม่ทำตลาดในเร็วๆ นี้ มูราฮาชิกล่าว |
สำหรับมิตซูบิชิ เดลิกา ดี:5 (MITSUBISHI DELICA D:5) เป็นรถตู้อเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งผลิตทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยขนาดตัวถังรวมยาว 4,730 มม. กว้าง 1,795 มม. สูง 1,850 มม. และมีฐานล้อยาว 2,850 มม. การออกแบบรูปลักษณ์ของเดลิกา ดี:5 ค่อนข้างดูดุดันกว่ารถประเภทเดียวกันในตลาด โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเบนซิน 2.0 และ 2.4 ลิตร แต่รุ่นหลังจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่นเดียวกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร ทั้งหมดส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 6 สปีด INVEC III และยังมีโหมดสปอร์ตด้วย เนื่องจากมิตซูบิชิเคยทำตลาดเอ็มพีวีรุ่นสเปซ แวกอน ดังนั้นจึงต้องการจะหารถรุ่นใหม่มาทดแทน แม้จะเป็นรถนำเข้าราคาสูงกว่าก็ตาม เพราะมุ่งเน้นเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค รถตู้เอ็มพีวีมิตซูบิชิ เดลิกา ดี:5 จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากจะนำเข้ามาทำตลาดคงจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ซึ่งสามารถทำราคาได้ในระดับประมาณ 2 ล้านบาท ขณะที่รุ่นอื่นๆ เครื่องยนต์ใหญ่และเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงไม่เหมาะกับการทำตลาดมากนัก ส่วนจะนำเข้าเมื่อไหร่ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ อย่างเร็วอาจจะเป็นปลายปีนี้ หรือในช่วงปีหน้า |
มูราฮาชิยังบอกว่า
ช่วงนี้เงินบาทไทยกำลังแข็งค่า จึงเป็นโอกาสในการนำเข้ารถจากต่างประเทศมาทำตลาด ซึ่งนอกจากรถตู้รุ่นเดลิกาแล้ว ยังมองครอสโอเวอร์ มิตซูบิชิ เอาต์แลนเดอร์ ที่กำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้นำเข้ามาทำตลาดในไทย โดยที่น่าสนใจเห็นจะเป็นรุ่นไฮบริด เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมามิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น ได้ชะลอการผลิตออกไป เพราะมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ในเครื่องบินที่เป็นข่าว แต่ตอนนี้มีข่าวกลับมาเริ่มดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งในไทยคงจะยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ ถ้าจะมีความคืบหน้าหรือความชัดเจนคงจะเป็นปีหน้า มิตซูบิชิ เอาต์แลนเดอร์ (MITSUBISHI OUTLANDER) เป็นรถครอสโอเวอร์ที่ไม่ได้ใหม่สำหรับตลาดไทย มิตซูบิชิเคยนำเข้ามาขายระยะหนึ่งแต่ก็เลิกไป ปัจจุบันในต่างประเทศเพิ่งเผยโฉมโมเดลใหม่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และทยอยส่งลงทำตลาดในภูมิภาคต่างๆ โดยมีเครื่องยนต์หลักเป็นรุ่น 2.0 และ 2.4 นอกจากนี้ยังได้มีการเผยโฉม Outlander PHEV คาดจะส่งลงทำตลาดโลกต้นปีหน้า ซึ่งครอสโอเวอร์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นนี้ เป็นการผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 80 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 117 แรงม้า |
ส่วนปิกอัพ มิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมใหม่ ว่ากันว่ารูปลักษณ์จะได้รับอิทธิพลจากต้นแบบ มิตซูบิชิ คอนเซปต์ GR-HEV (MITSUBISHI Concept GR-HEV) ที่เพิ่งมาเผยโฉมในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2013 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีรายงานข่าวจากซัพพลายเออร์ หรือผู้ผลิตชิ้นส่วน การทดลองผลิตชิ้นส่วนและเตรียมการผลิตมีความพร้อมแล้ว เหลือเพียงดำเนินการผลิตตามคำสั่งซื้อของมิตซูบิชิ ซึ่งจะเริ่มส่งมอบชิ้นส่วนให้ได้ในปีหน้า หากเป็นไปตามนี้น่าจะเห็นโฉมใหม่ของปิกอัพรุ่นไทรทันภายในปี 2557 และหลังจากนั้นจะได้เห็นรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ตามมาแน่นอน นับว่า
ค่ายรถมิตซูบิชิมีแผนการเปิดตัวรถใหม่ ไม่น้อยคู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการโมเดลเชนจ์รุ่นหลักที่มีอยู่ หรือเพิ่มรุ่นธงตัวใหม่ในตลาดอย่าง มิตซูบิชิ แอททราจ ตลอดจนการศึกษาเรื่องรถไฮบริดในรุ่นมิราจ รวมถึงรถนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ แต่ที่ยังเป็นปัญหา มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ จะทำยังไง? บางกระแสโฉมใหม่จะมาปีหน้า แต่บางรายงานข่าวก็ดูเหมือนจะถอดใจ?!!... |