Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
17 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
หนูขอโทษ ( คำสารภาพบาป )

เมื่อวานโทรไปบ้านใหญ่
ถามว่าจะไปโอฮากะกันวันใหน
ไม่มีใครรับสาย
อีกสองชั่วโมงโทรไปใหม่
นานะ ( น้องสาวพี่เฉื่อย ) รับ
บอกโอโต้ซังไม่อยู่
โอก้าซังไม่ค่อยสบาย จึงนอนพักผ่อน
เป็นห่วงจัง.....
โอก้าซังมักจะคอยดูแลเอาใจใส่แต่คนอื่น
จนลืมนึกถึงตัวเองเสมอ ๆ


2 อาทิตย์ก่อนนู้น ไปค้างบ้านนู้นมา
คุณปู่คุณย่าจัดวันเด็กผู้หญิงให้เด็กหญิงมิกิหลานรัก
เมื่อลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานรักมาถึง
อารหารก็เพรียบพร้อมบนโตะ เหล้ายาปลาปิ้ง
คุณย่าทำอาหารเยอะมาก
คุณย่าคงตื่นมาทำแต่ไก่โห่
เพราะคุณย่าเป็นคนทำอะไรช้า ๆ
กว่าจะได้อาหารเพรียบพร้อมบนโต๊ะนี้
คุณย่าคงไม่ได้นั่งมาทั้งวันแน่

แต่...ให้ตายสิ เย็นวันนั้น
มิกิหลานรักไม่ยิ้มแย้มร่าเริงเหมือนอย่างเคยเลย
เป็นอะไรไม่รู้สิ ร้องให้แว๊ก ๆ ๆ ไม่ยอมหยุดเลย
คุณปู่ คุณย่า คอยอุ้มคอยโอ๋กันอยู่อย่างนั้นตลอด
แต่เธอจำหน้าแม่ได้แล้ว จึงไม่ยอมหยุดร้อง
ถ้าไม่ไช่แม่มันอุ้ม... แม่มันจึงต้องอุ้มร่อนไปร่อนมา
คุณย่าเห็นแล้ว กลัวลูกสะใภ้จะไม่ได้กินข้าว
จึงขออุ้มบ้าง ไล่ให้ลูกสะใภ้ไปกินข้าว
ไปดื่มเหล้าที่ย่าเตรียมไว้ให้...
แย่งหลานไปอุ้ม หลานมันก็ไม่ยอมให้อุ้ม
มันร้อง ๆ ๆ ๆ ย่ามันก็จะอุ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ
แม่มันเลยโมโห เกิดอาการควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
บันดาลโทสะ ตะคอกใส่คนแก่

" โอก้าซัง ส่งมิกิมาเถอะ แกง่วง "
" มิกิง่วงนอน ไม่ได้อยากเล่น "
" ถึงเวลานอนแกแล้ว แกต้องนอนเท่านั้นจึงจะหยุดร้อง"

คุณย่าเงียบ....ส่งหลานรักคืนให้



โอก้าซัง....หนูขอโทษ...วันนั้นหนูตะคอกใส่
หนูผิดไปแล้ว...




กว่าคุณเธอจะหมดแรงร้อง
และหลับไปเล่นเอาเหนื่อยไปตามๆ กัน
.... ต่อมา คุณปู่นั่งมองหลานรักที่กำลังนอนอยู่
คุณปู่รักหลาน อยากอุ้มหลาน
ก็ตะกี้หลานมันเอาแต่ร้อง มันไม่ให้อุ้ม
ตอนนี้มันเงียบ ๆ น่ารักดีจัง อยากอุ้ม
คุณปู่จึงค่อย ๆ เข้าไปอุ้ม
แต่...มิกิหลานรัก ร้องให้แผลงฤทธิ์อีกแล้ว
คราวนี้ร้องหนักกว่าเดิมอีก ใครก็เอาไม่อยู่แล้วสิ
...แม่มันโมโหอีกแล้ว... สันดานดิบเริ่มครอบงำ
ตะคอกใส่คนแก่อีกแล้ว

" มิกิหลับอยู่ดี ๆ โอโต้ซังไปอุ้มทำไม "
" มิกิ ตกใจทีนี้ร้องให้ไม่หยุดแล้ว "

คุณปู่คอตก.........



โอโต้ซัง....หนูขอโทษ...วันนั้นหนูตะคอกใส่
หนูผิดไปแล้ว



----------------------------------------------



จากวันนั้นมานั่งคิดนอนคิด
รู้สึกผิด และไม่สบายใจเลย.............




โอโต้ซัง โอก้าซัง เคยบอกพ่อกับแม่ฉันว่า
" ไม่ต้องเป็นห่วงลูกสาวนะ ฉันจะดูแลให้ดีที่สุดเลย"
และท่านทั้งสองก็ทำได้ดีที่สุดจริง ๆ




วันที่มิกิออกจากโรงบาล จะได้กลับบ้าน
คุณปู่พาไปเลือก はごいた
คุณปู่บอกว่ามันมีความหมายสำหรับเด็กผู้หญิง
พอฉันเห็นตุ๊กตาสวย ๆในตู้กระจกงาม ๆ นั้น
ราคามันทำให้ฉันหูหนา ตาโต และพร่องปากพูดแย่ ๆ ออกมา

" แพงจัง ไม่เอาได้ใหม เสียดายตังค์ "
"เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่มันจำเป็นกว่านี้ได้ไหม"

คุณปู่เงียบไปอึดใจนึง ก่อนตอบว่า

" ปู่อยากซื้อให้หลาน ปู่อยากให้จริง ๆ กรุณารับไว้เถอะ"



นี่ฉันลืมคิดไปว่า คำพูดฉันมันทำร้ายจิตใจคนที่ตั้งใจให้
ฉันคิดไม่ถึงว่าเจ้าตุ๊กตาสวย ๆ
ในตู้กระจกที่ติดตราประจำตระกูลนั้น
มันมีค่าทางจิตใจสำหรับผู้ให้และผู้รับมากมายแค่ใหน

.....ยิ่งได้รู้จากน้องสาวพีเฉื่อยว่า
โอโต้ซังไปด้อม ๆ มอง ๆ ที่ร้านขาย はごいた
และสั่งทำตราประจำตระกูลไว้
ตั้งแต่หลานรักยังอยู่ในทอ้งแล้ว


ฉันรู้สึกผิดมากจริง ๆ .............



-------------------------------------------------------


เดือน 2 คุณย่าไปสั่งทำตุ๊กตาโอฮินะซะมะ
สำหรับวันเด็กผู้หญิงในเดือนถัดมา
แล้วโทรบอกให้ลูกชายกับลูกสะใภ้ไปเอา
ลูกชายมันก็ไม่ว่างไปเอาซักที
กว่าจะโผล่ไปได้ คุณย่าเธอโทรมาตามแล้วตามอีก
พอลูกชายไปเห็นโอฮินาซะมะที่คุณย่าสั่งไว้
ตกใจพูดไปว่า

" ทำใมซื้อมาอันใหญ่ขนาดนี้ "
"แล้วจะเอาไปวางไว้ที่ใหน"

ยิ่งลูกสะใภ้ตาดีเห็นราคาที่แปะไว้ข้างตู้
ก็ตะเบ็งพูดไปแบบไม่คิดถึงหัวอกคนให้อีกแล้ว

" หูย...ซื้อตุ๊กตาราคาเท่านี้ ซื้อนมให้มิกิกินได้จนโตเลยนะ"
" เอาไปเปลี่ยนเป็นอันเล็ก ๆ ได้ใหม?"

คุณย่าเงียบ...แล้วทรุดตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ข้าง ๆ ตู้
ท่านก้มหน้าลงมองพื้นแป๊บนึง ก่อนเงยหน้าขึ้นพูดว่า

"ก็ย่าซื้อมาแล้ว ถ้าเอาไปเปลี่ยนก็เกรงใจเจ้าของร้านเขา"

แล้วฉันยังยืนยันอีกว่า

"อันขนาดนี้เอากลับไปด้วยไม่ได้แน่นอน"

ลูกชายคว้าโทรศัพท์ โทรหาร้านที่คุณย่าซื้อมา
แล้วขอเปลี่ยน...
เจ้าของร้านก็ใจดีมาก ๆ ให้เอาไปเปลี่ยนได้
แถมยังคืนเงินส่วนต่างมาให้อีก

แต่ที่น่าเกลียดมากไปกว่านั้นก็คือ
ลูกชายกับลูกสะใภ้ ชี้เอาอันที่เล็กที่สุดในร้าน
โดยไม่ได้สนใจไตร่ตรองดูรายละเอียดปลีกย่อยอะไรเลย
และก่อนที่ลูกชายจะอุ้มโอฮินะซะมะอันเท่าตู้ปลานั้นออกจากร้านไป
เจ้าของร้านก็พูดว่า

"เสียดายอันที่จองไว้นะ คุณย่าเธอสั่งทำกับช่างที่มีฝีมือคนนึงทีเดียว"
" ประณีต ตัวตู้ทำจากไม้โมโม่ ความหมายดี "
" ที่ให้คืนได้ เพราะว่าอันนี้เดี๋ยวก็มีคนมาซื้อไปแน่นอน"


นี่ฉันเสียดายเงินจนหน้ามืดตามัวไปแล้ว
ฉันเห็นแก่เงินส่วนต่าง ฉันให้เงินมันมีอำนาจเหนือฉัน
ฉันทำร้ายจิตใจคุณย่า


น้องพี่เฉื่อยบอกว่า....
โอก้าซังเทียวไปเทียวมาที่ร้านนั้นบ่อยมาก
หากขับรถผ่าน คุณย่าจะคอยชะโงกหน้าไปดูเสมอ ๆ
ว่าของที่คุณย่าสั่งทำไว้ มาถึงหรือยัง


ฉันรู้สึกผิดมากจริง ๆ


-----------------------------------------------------


วันนี้ฉันโทรไปบ้านใหญ่อีก
โอโต้ซังบอก โอก้าซังสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง
ไม่สบายเล็กน้อย หายแล้ว
ฉันจึงบอกว่า งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ วันเสาร์
พวกเราจะไปหา จะไปค้างซักสองสามวัน
โอโต้ซังบอก "จะรอนะ" ด้วยน้ำเสียงดีใจ


ฉันนั่งมองไปรอบห้อง
ของใช้มิกิ ของเล่น เสื้อผ้า ต่าง ๆ นา ๆ
คุณปู่คุณย่าท่านซื้อให้ทั้งนั้น
ใหนจะข้าวสารกรอกหม้อทุกวันนี้
คุณปู่ท่านหิ้วมาให้ไม่เคยขาด
เรียกได้ว่า ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่ประเทศนี้
ฉันไม่เคยซื้อข้าวสารกินเองเลย


แล้วฉันจะยังใจร้ายกับท่านอีกเหรอ......


ฉันกะว่า พร่งนี้ฉันจะไปทำอาหารไทยให้ท่านกิน
เพราะท่านทั้งสองชอบกินอาหารไทย
( ชอบเพราะเอาใจลูกสะใภ้รึเปล่าไม่รู้ )




แต่ตอนเย็นโอก้าซังก็โทรมา ว่า
พรุ่งนี้ยังไม่ต้องมานะ
โอก้าซังยังเป็นหวัดอยู่ กลัวมิกิจะติดหวัดจากย่า
อย่างอื่นไม่เป็นไรมาก ไม่ต้องเป็นห่วง
เป็นแต่หวัดเล็กน้อยเท่านั้น เดี๋ยวก็หาย......



แต่ฉันคิดว่า ท่านไม่ได้เป็นแค่เล็กน้อยหรอก
เพราะท่านชอบบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร
เพื่อไม่ให้ใคร ๆ ต้องมาห่วง.............



ต่อไปฉันจะพยายามพูดดี ๆ กับท่าน
จะพยายามระงับสติอารมณ์
จะพยายามเอาแต่ใจตัวเองให้มันน้อยลงกว่านี้
จะพยายามเอาใจท่านมาใส่ใจเรา
ฉันจะพยายาม...........

คนข้าง ๆ มันบอก "จะทำได้เร้อ....
เดี๋ยวก็บอก กัมมังเดกิไน่..
แล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก "

เฉ๊อะ...อย่ามาดูถูกฉัน....

ฉันจะพยายามจริง ๆ
เพราะฉันไม่อยากมานั่งเสียใจทีหลัง
เหมือนตอนนี้ ที่ฉันเสียใจกับเวลา....
เวลาที่ผ่านมา ที่ฉันไม่ได้ดูแลพ่อแม่ตัวเองเลย



ขอโทษทีนะ วันนี้ร่ายซะยาวเลย
จะมีใครอ่านมาถึงตรงนี้มั๊ยเนี่ย....
จริง ๆ ตอนแรกกะจะเขียนไว้ในห้องเก็บของ (ที่ล็อคไว้)
เพื่อเก็บไว้เตือนสติตัวเอง....
...แต่คิดดูอีกที แปะไว้ห้องนี้ดีกว่า
เพื่อให้เพื่อน ๆ เข้ามาอ่าน และช่วยกันด่าฉันหน่อย
ฉันจะได้รู้สึกสำนึกซะมั่ง...







Create Date : 17 มีนาคม 2549
Last Update : 17 มีนาคม 2549 21:31:55 น. 13 comments
Counter : 611 Pageviews.

 
เรื่องที่ผ่านมาเเล้ว จะกลับไปเเก้ไขอะไรไม่ได้เเล้วค่ะ ก็พยายามทำวันข้างหน้าที่มีอยู่ให้ดีที่สุดก็เเล้วกันค่ะ :)


โดย: Hana* วันที่: 17 มีนาคม 2549 เวลา:21:45:07 น.  

 
หง่า...คุณกาปุ้ยเป็นลูกโทนรึเปล่าคะเนี่ย หรือไม่ก็คงเป็นน้องคนสุดท้อง

เอาเถอะค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าเก็บเอามาเป็นทุกข์เลยค่ะ คิดถึงอนาคตดีกว่าค่ะ จะแก้ไขตัวเองได้อย่างไร ไม่ให้เป็นที่เอือมระอากับญาติสามีอีกค่ะ
เราควรปล่อยวางบ้าง ควรเห็นดีด้วยกับสิ่งที่ท่านตั้งใจทำเพื่อเราค่ะ เงินทองของนอกกายค่ะ ไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่ความรู้สึกของคน เมื่อมันเสียไปแล้ว ก็แก้ไขให้เหมือนเดิมยากค่ะ บางครั้งการนิ่งเงียบหากไม่เห็นด้วยกับท่าน ก็น่าจะดีกว่านะคะ

สิ่งที่คุณปุ้ยทำที่ผ่านมาทั้งหมด คุณปุ้ยสำนึกผิดแล้ว แต่จะไม่มีประโยชน์หากคุณปุ้ยไม่ไปพูดกับท่านด้วยตัวเอง ไปทำความเข้าใจกับท่าน ขอโทษท่าน จะดีที่สุดค่ะ


โดย: เด็กหัดเดิน วันที่: 17 มีนาคม 2549 เวลา:22:58:59 น.  

 
มาเป็นกำลังใจให้พยายามค่ะ

ทำให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังอีกนะคะ

โชคดีจังนะคะ มีพ่อแม่ที่น่ารักตั้ง 4 คนแบบนี้

ความรู้สึกที่เสียไปแล้ว ยังไงก็เหลือแผลเป็นไว้ค่ะ เหมือนเราถอนตะปูออกจากผนัง ยังไงก็ยังมีรอยหลงเหลืออยู่ แต่ถ้าเราพยายาม ในที่สุดรอยตะปูนั้นก็จะค่อยๆตื้นขึ้นด้วยความรักความเข้าใจและสิ่งดีๆที่เรากระทำให้ท่านในอนาคตค่ะ


โดย: @opal@ วันที่: 17 มีนาคม 2549 เวลา:23:35:58 น.  

 
มีความตั้งใจดีก็ถือว่ามีการเริ่มต้นที่ดีแล้วค่ะ ขอแค่ให้นึกถึงความตั้งใจนี้ทุกๆ ครั้งที่จะทำอะไรค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณปุ้ยนะคะ


โดย: lisalee วันที่: 18 มีนาคม 2549 เวลา:11:22:26 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณๆคนข้างบนนะ ปุ้ยโชคดีมาก ที่เจอครอบครัวสามีที่ดีกับเราขนาดนี้ เคยดูรายการตอนเช้าๆไหม แม่ผัวลูกสะใภ้ตีกันแหลกลาน บางคู่เล่นสงครามจิตวิทยาเสียจนอีกฝ่ายเกือบบ้าไปเลย

อันนี้ ในเมื่อทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว และปุ้ยเองก็สำนึกผิดแล้ว คราวต่อไปก็ต้องระวังมากๆแหละเนอะ คอยเตือนตัวเองว่า มาหาท่านไม่นาน เดี๋ยวเราก็กลับบ้านเราแล้ว อดทนนิดหน่อย รักษาความรู้สึกกัน ทางนู้นก็ไม่เสียใจ ทางเราก็ไม่ต้องมานั่งสำนึกผิดทีหลัง

....แต่ว่าอีกแง่นึงนะ ถ้าจะมองในแง่ดีๆ ก็ดีเหมือนกันนะ แบบว่าแสดงว่าปุ้ยรู้สึกสนิทใจกับครอบครัวสามีดังเช่นเป็นครอบครัวตัวเอง เลยแสดงความเป็นตัวของตัวเองที่สุดออกไป ไม่แน่ ท่านอาจจะแอบดีใจเล็กๆก็ได้นะ(แต่อย่าออกมาบ่อยดีกว่า แหะๆ) เราเองไปบ้านสามีกี่ทีๆ ก็นั่งเกร็งทุกทีเลยอ่ะ แม่สามีก็ดีมากนะ แต่ไม่สามารถสนิทใจได้มาก เพราะมันเหมือนมีกำแพงหลอกตัวเองว่า ยังไงเรามันก็ยังเป็นแค่คนอื่นอยู่ดี(ไม่ค่อยดีเลยนะอารมณ์นี้)

เอาเป็นว่า เอาใจช่วยให้ชนะ กับคำว่า "เดี๋ยวก็บอก กัมมังเดกิไน่.."ที่พ่อน้องมิกิดูถูกไว้ให้ได้นะ


โดย: นู๋โนริ วันที่: 19 มีนาคม 2549 เวลา:14:40:32 น.  

 
อยากให้ด่าจริงเหรอครับเนี่ย??

ยังไงถ้ายังไม่ได้ขอโทษ
ก็เอ่ยปากขอโทษไปก่อนแล้วกันครับ


โดย: Oakyman (Oakyman ) วันที่: 22 มีนาคม 2549 เวลา:13:19:34 น.  

 
แอบเข้ามาเตือนสติอีกรอบค่ะ คุณปุ้ยโชคดีขนาดไหนแล้วคะ ได้พ่อแม่สามีดีขนาดนี้ หากคุณปุ้ยพอจะมีเวลา ให้ลองคลิกไปที่เวปเปิดท้ายขายของในลิงค์บล็อคดิฉันดูนะคะ คลิกอ่านที่หัวข้อด้านบนพ่อแม่คุยกันน่ะค่ะ แต่ละคนมีปัญหามากกว่าคุณปุ้ยหลายเท่านักค่ะ แย่ๆกันทั้งนั้นค่ะ มีทั้งแม่ผัวกดดัน สามีกับคนใช้อี๋อ๋อ สามีกับเพื่อนร่วมงานเล่นชู้กัน สารพัดปัญหาค่ะ

เรื่องต่างๆที่เราอ่านของคนอื่นนั้น ยังไงก็ไม่อยากให้เกิดกับตัวเราเองนะคะ ฉะนั้นการพูดคุย การทำความเข้าใจ การแก้ปัญหาด้วยสมองจะดีกว่าแก้ปัญหาด้วยการใช้อารมณ์ค่ะ เรื่องของจิตใจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่ะ อันไหนหยวนๆได้ ก็นิ่งๆไว้ก่อนค่ะ ถ้ามันมีปัญหากับเราจริงๆ ก็พูดไปเลยตรงๆค่ะ ว่าเราชอบไม่ชอบอย่างไร อย่าให้มันระเบิดค่ะ ค่อยๆคิดแก้ไขปัญหาค่ะ


โดย: เด็กหัดเดิน วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:0:22:27 น.  

 
พี่คิดว่า ความรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดเนี่ยแหละ
ได้ลงโทษน้องกาปุ้ยไปแล้ว ไม่ต้องรอให้ใครเข้า
มาว่าเลย (พี่เป็นบ่อย)

บางที พอเรารู้ว่ามีใครรักเรามากๆ เรามักจะลืม
แคร์ความรู้สึกเขา เพราะมั่นใจว่ายังไงซะ
เขาก็รักเราที่สุด เหมือนแม่กับลูกสาวน่ะ กระฟัด
กระเฟียดกันประจำ แต่ก็รักกันสุดๆ (อันนี้ก็จากชีวิตพี่เอง )

ถ้าให้ช่วยคิดนะคะ คิดว่าไปขอโทษ ไปเล่าว่ารู้สึกเสียใจอย่างไรที่ทำลงไปแบบนั้น
น้องกาปุ้ยโชคดีมากๆ ที่มีพ่อ แม่ของสามีที่น่ารักมากๆ


โดย: วดี วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:8:30:33 น.  

 
ช้านรู้ว่าแกไม่ได้ตั้งใจหรอก คนแบบกาปุ้ยไม่อยากทำอะไรให้คนอื่นเสียใจหรอก

แต่ใจเย็นลงบ้างก็ดีนะแก เดี๋ยวมิกิเหมือนแม่แล้วจะยุ่ง อิ อิ

ปล.ฝากบอกคุณปู่คุณย่าว่าเก๋จังคิดถึงนะ ดูแลสุขภาพให้ดีด้วย


โดย: จีออริน IP: 203.146.236.106 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:10:20:51 น.  

 
เพิ่งมาอ่าน...น้ำตาคลอเบ้าเลย

ไม่ด่าหรอก...สำนึกแล้วนี่นา..

เอาเป็นว่า...ปุ้ยรู้ว่าปุ้ยทำอะไร..แล้วคิดได้
แค่นี้ก็ดีแล้ว
ต่อไปก็เหยียบอารมณ์ตัวเองนิดหน่อย
(บอกคนอื่น..ตัวเองทำไม่ได้หรอก)
แต่จริงๆเป็นเพราะว่าปุ้ยสนิทเหมือนพ่อแม่ด้วยแหละ
เลยพูด..ปล่อยอารมณ์ที่ว่าได้
เป็นเพราะว่าเป็นหลานคนแรกด้วยแหละ
ปู่ย่าเลยเต็มที่มาก...ลองมีอีกสักสี่คน..อุ้มกันมือเป็นระวิงแน่

แค่ปุ้ยเสียใจ..ก็เป็นการขอโทษได้แล้วล่ะ
เพราะต่อไปก็ระมัดระวังขึ้น

ปู่ย่าใจดีมากๆๆเลย..นับว่าปุ้ยโชคดีแล้วแหละ

ยังไงเอาใจช่วยให้ทำดีกับท่านได้เร็ว

คนข้างๆท้าแล้วทำไม่ได้...สบประมาทได้ไง
ปุ้ยยอมแพ้ได้รึ


โดย: iamname IP: 218.140.64.54 วันที่: 24 มีนาคม 2549 เวลา:18:37:04 น.  

 
แวะมาเยี่ยมคุณแม่คนสวยค่า


โดย: lisalee วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:6:32:55 น.  

 
วันนี้พามิซากิไปแอบดูซากุระมาค่ะ เก็บภาพมาฝากด้วยนะคะ แม่ปุ้ยแวะไปติชมได้ค่ะ


โดย: katase วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:14:23:48 น.  

 
คอนนิจิวะ สบายดีไหมคะ

วันนี้โพสรูปสาวน้อยแล้วค่ะ


โดย: katase วันที่: 27 มีนาคม 2549 เวลา:11:33:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาปุ้ย
Location :
Ibaraki Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



















Friends' blogs
[Add กาปุ้ย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.