แบกเป้เที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย...วันที่ 3 (วัดเซ็นโซจิ (SENSOJI) หรือวัดอาซากุสะ ต่อด้วยถนนแม่บ้าน )
วันนี้จะเป็นสุดท้ายที่เราจะอยู่ในโตเกียว ก่อนที่จะเดินทางด้วย Willer Bus ไปเกียวโตในวันรุ่งขึ้น วันนี้จะพาไปเที่ยววัดอาซากุสะ กันค่ะ เราเดินกันไปจากที่พัก โห...ถ้ารู้ว่าอยู่ใกล้ขนาดนี้ เดินไปเที่ยวซะตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะ
วัดเซ็นโซจิSENSOJI) หรือที่เรียกกันว่าวัดอาซากุสะ (ASAKUSA TEMPLE) เพราะที่ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะซึ่งวัดนี้เป็นวัดเก่าและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียวสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 628-645 วัดนี้มีตำนานเล่าขานกันว่า มีสองพี่น้องตระกูล ฮิโนะคูมะ (HINOKUMA)ผู้มีอาชีพหาปลา ณวันหนึ่งได้มาหาปลาที่แม่น้ำสุมิดะ แล้วได้เหวี่ยงแหพบกับ เทวรูปคันนงซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาเข้าโดยบังเอิญ และแม้ว่าคนทั้งคู่จะนำรูปปั้นนี้กลับไปคืนแม่น้ำอีกสักกี่ครั้งก็จะมีเหตุให้รูปปั้นกลับมาอยู่ในมือของคนทั้งสองเสมอ ดังนั้นด้วยความศรัทธาของสองพี่น้องและชาวบ้านของ หมู่บ้านละแวกนั้นจึงได้อัญเชิญเทวรูปคันนงประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้ เชื่อกันว่าเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์มากขอพรอะไรก็ได้ตามปรารถนา และตำนานยังมีต่ออีกว่าในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับที่พบรูปปั้นได้ปรากฎมังกรทองตัวหนึ่งเลื้อยลงมาจากสวรรค์ จึงเป็นวัดที่เหล่าโชกุนและซามูไรให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมากในอดีต ปัจจุบันนี้วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงโตเกียว จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือโคมแดงขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณ ประตูคามินาริมง (Kaminarimon) (ประตูสายฟ้าฟาด) สร้างในปี 1960 ทั้งสองข้างของโคมแดงจะเป็นรูปปั้นของ 2 เทวบาลผู้รักษาประตู ได้แก่ ฟูจิน (FUJIN)เจ้าแห่งสายลม มีอำนาจต่อสายลมแสงแดดและเมฆหมอก รูปองค์สีดำมืดเหมือนเมฆฝน หน้าตาน่ากลัว ห่มหนังเสือดาว มีถุงลมใหญ่พาดไหล่ทั้งสองข้างซึ่งอยู่ทางด้านขวา ส่วนด้านซ้าย คือ ไรจิน (RAIJIN) เจ้าแห่งอสุนีบาต รูปองค์สีแดง มีกลองเป็นเครื่องมือในการทำให้ฟ้าแลบและฟ้าผ่า และเมื่อผ่านประตูนี้เข้าไป จะพบกับถนนนาคามิเซะ(NAKAMISE) หรือถนนคนเดินถนนคนเดินที่มีร้านขายของที่ระลึกพื้นเมืองเช่น ของที่ระลึก ตุ๊กตา เสื้อผ้า และขนมแบบญี่ปุ่น และของกินมากมายเรียงราย แบบเฉพาะญี่ปุ่นอยู่ที่เรียกกันว่า ถนนนาคามิเสะโดริ คล้ายกับเป็นการรวมเอาความเป็นญี่ปุ่นมาไว้ที่แห่งนี้ และยังมี ชินนาคามิเซะ (SHIN-NAKAMISE) เป็นถนนคนเดินที่มีหลังคาคลุมตลอดถนนเส้นนี้ร้านค้าเป็นแบบเปิดปิดได้ แบบห้องแถว มีร้านค้าและและร้านอาหารให้เลือกอีกมากมาย ภายในวัดก็จะมีให้สักการะเทพเจ้าคันนนโดยการรดน้ำ และตรงกลางวัดจะมีกระถางธูปขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นความเชื่อว่าไปรับควันนี้ติดตัวมา จะโชคดีมีสุข เพราะฉะนั้นคนที่ไป ก็จะไปยืนอังรับเอาไอควันนั้นเข้าตัว และการทำบุญไหว้พระด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง และการเสี่ยงเซียมซี หรือ โอมิกุจิ (Omiguji) ส่วนเจ้าแม่กวนอิมจะประดิษฐานอยู่ภายในก่อนถึงจะถึงองค์เจ้าแม่กวนอิมจะต้องผ่านประตูที่สองที่เป็นประตูชั้นในประตูนี้มีชื่อว่า โฮโซมน (HOZOMON)หรือประตูแห่งขุมทรัพย์หรือความหมายที่แท้จริงก็คือพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง ด้านซ้ายมือของที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมคือ ศาลเจ้าอาซากุสะ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่กรุงโตเกียวถูกฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย
ขอบคุณข้อมูลจาก //www.oknation.net
สองเท้าก้าวเดินกันต่อไป
ใกล้ถึงวัดอาซากุสะ มีบริการรถลากด้วย คนลากแรงดีมาก วิ่งห้อตะบึงเลย
ถึงแล้ว ...ทางเข้าวัดเซ็นโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ และนี่คือจุดที่ใครมาก็ต้องถ่ายรูปตรงจุดนี้ ประตูทางเข้าวัดที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า Kaminarimon Gate หรือประตูสายฟ้า มีโคมแดงขนาดใหญ่ยักษ์แขวนอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนต้องหยุุดถ่ายรูป่ค่ะ
พอผ่านพ้นประตูสายฟ้าเข้าไปก็จะได้พบกับ Nakamise Dori ถนนนากามิเซะ ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ขนมต่างๆ ล่อตาล่อใจนักท่องเที่ยวทั้งหลายเป็นอย่างมากแต่ราคาค่อนข้างจะแพงกว่าที่อื่น (เค้าว่าน่ะคะ)
ขนมดังโงะ เป็นขนมโบราณ เหนียว เนียน นุ่ม ปั้นเป็นลูกกลมๆ โดยมากใส่ใส้ถั่วต่าง ๆแล้วเอามาเสียบไม้ปิ้งเหมือนลูกชิ้นปิ้ง มีน้ำจิ้มหวานๆ ที่ทำจากน้ำตาล และถั่วแดง ไม่ได้ลองชิมค่ะ ได้แต่ชิมโมจิ จขบ.ชอบโมจิ มากกว่า
ปลายสุดของถนนนากามิเซะคือ ประตูชั้นที่ 2 เรียกว่าประตู Hozomon ซึ่งก็มีโคมแดงเหมือนกัน แต่ขนาดจะเล็กกว่าที่ประตูสายฟ้า
ตามธรรมเนียมของวัดญี่ปุ่นเราควรต้องชำระล้างร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อนที่เข้าวัด ซึ่งบ่อเทพมังกรจะตั้งอยู่ทางด้านขวาของวัด ทุกคนจะนำน้ำจากในบ่อมาล้างมือ ล้างหน้า ล้างตาและบ้วนปาก รวมไปถึงการดื่มกิน ซึ่งการดื่มน้ำในบ่อนี้จะต้องดื่มโดยการรินน้ำจากกระบวยใส่มือแล้วให้ดื่มน้ำจากมือค่ะ ห้ามดื่มจากกระบวยโดยตรง
ตรงกลางลานหน้าวัดจะมีกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เท่าที่สังเกตดูเค้าจะนำธูปกำยานที่จุดแล้วมาปักในกระถางใบนี้แล้วโบกควันเข้าหาตัว ลูบไปตามใบหน้า ศรีษะ หน้าอก หลัง และลำคอคงจะเพื่อความเป็นสิริมงคลและนำโชคลาภมาให้
จากนั้น เราจะเดินทางไปเที่ยวต่อที่ถนนแม่บ้าน(ไม่ทราบว่าเค้าเรียกกันแบบนี้รึป่าว) ซึ่งจะขายพวกเครื่องใช้ในครัวเรือนมากมายหลายชนิด ด้วยพาหนะนี้ค่ะ
Panda bus... น่ารักป่าวค่ะ พนักงานขับรถเป็นผู้หญิงค่ะ บริการฟรีด้วยค่ะ
สินค้าหลากหลาย ราคาถูก มีให้เลือกมากมายเชียวค่ะ
ตอนบ่ายแก่ๆ กะกันว่าจะไปเดินเที่ยวสวนอูเอโนะ แต่ก็ไม่ได้ไป เพราะฝนตกพรำๆ ตลอด จึงต้องยกเลิกโปรแกรมนี้ กลับไปพักที่โรงแรม เตรียมตัวเดินทางไปเกียวโต ในตอนกลางคืน บล๊อกหน้าจะพาไปเที่ยวเกียวโตนะคะ...อย่าลืมตามไปเที่ยวด้วยกันอีกน๊า....
สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งสุดท้ายที่ได้นั่งรถไฟ ในโตเกียว ชอบรูปคนสะพายเป้จัง ดูเหมือน จขบ.นิ...
ไปญี่ปุ่น ฝนตกพรำๆ ตลอดเลย ...เฮ้อ
Create Date : 27 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 22:17:46 น. |
|
22 comments
|
Counter : 5540 Pageviews. |
|
|
ความสำเร็จก็ต้องอยู่ที่นั่น
ภาพรถลากสวยจัง