เมื่อเท้าแตะแดนอาทิตย์อุทัย..อะไรจะเกิดขึ้น (วันแรกของการแบกเป้เที่ยว)
เช้ามืดของวันที่ 30 มิ.ย. จขบ.ตั้งนาฬิกาปลุกตี 3 เพราะกลัวว่าจะไม่ตื่น เครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ตอน 07.10น.(ไม่ค่อยเห่อเนอะ) นี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางไปต่างประเทศคนเดียว ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิตี 4 เผื่อเวลาเอาไว้ซะเยอะแยะ เพราะไปสายการบินราคาประหยัด เราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมั่ง อีกอย่าง ตม.บ้านเราก็กำลังปรับปรุง พอไปถึง ...อุแม่เจ้า เคาเตอร์แอร์เอเซีย คนต่อคิวรอยาวเหยียด แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของพนักงานคนใดเลย จขบ. ก็เดินลากกระเป๋าเดินไปเดินมา พร้อมเป้สีแดงอยู่ข้างหลัง (โปรดนึกภาพประกอบด้วย) สักพักก็เดินไปเข้าแถว ไม่นานเกินรอ พนักงานก็มา จขบ.เลยเป็นคนแรกของคิวนั้น เช็คอินเรียบร้อย ก็ถามพนักงานว่า เราไปต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ไปสนามบินฮาเนดะ เราต้องผ่าน ตม.ของมาเลย์หรือไม่ พนักงานยืนยันหนักแน่นว่าต้องผ่าน จขบ.ก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องผ่าน กระเป๋าก็ไม่มีโหลด เข้าเมืองก็ไม่ได้เข้า แค่เตร็ดเตร่อยู่ในสนามบิน รอพี่ที่จะมาสมทบจากเชียงใหม่ตอนเที่ยงครึ่งแค่นั้นเอง
หลังจากผ่านขั้นตอนนี้แล้ว ก็ไปกรอกใบผ่านขาเข้า - ขาออก เพื่อจะไปผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง อุแม่เจ้า...(อีกแล้ว) ไม่มีคนอ่ะ เหอๆ มีก็นิด ๆ หน่อยๆ ผ่านขั้นตอน ตม.ประมาณ ตีสี่ครึ่ง 555 ตานี้ไม่รู้จะไปไหน เดินลากกระเป๋าไปทั่วเลย ก็อีกตั้งนานนี่นา...หุหุ (กรุณานึกภาพประกอบอีกเช่นเคย เพราะไม่สามารถถ่ายรูปตัวเอง ขณะเดินท่อมๆ ไปทั่วได้ค่ะ) เดินสำรวจสนามบินสุวรรณภูมิที่กว้างขวางใหญ่โต เห็นผู้โดยสารชาวต่างชาติ บ้างก็นั่ง บ้างก็นอน ตามที่นั่งว่างๆ บางคนถึงขนาดยึดเก้าอี้นวดเป็นที่หลับนอน รอคอยเวลาเช้า เพื่อจะได้เข้าเมือง อีกไม่นาน จขบ.ก็คงจะมีสภาพไม่ต่างจากเค้าเท่าไหร่ เพราะเราไปถึงสนามบินฮาเนดะ ตอนเที่ยงคืน พวกเราสามคน คงมิสามารถเข้าเมืองได้ในทันที เพราะที่พัก ให้เช็คอินเวลาเก้าโมงเช้า
พอได้เวลาก็ขึ้นเครื่อง แอร์โฮสเตส และสจ๊วตของแอร์เอเชีย ใส่เสื้อสีแดง สวมกางเกงยีนส์ พะยี่ห้อแอร์เอเชียไว้ (คงไม่ต้องบอกนะว่าพะยี่ห้อไว้ตรงไหน...อิอิ) สักพักบนเครื่องก็เริ่มวุ่นวายจากการบริการของพนักงาน กลิ่นอาหาร ม่าม่า ตลบอบอวลไปทั่ว ไม่นึกเนอะว่า กลิ่นมาม่า ยำยำ จะตามมารบกวนถึงนี่ จขบ.สั่งแซนวิชตั้งแต่ตอนจอง แล้วก็มีการขายของที่ระลึกบนเครื่อง
เครื่องมาถึงสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (LCCC) ซึ่งเป็น TERMINAL ของแอร์เอเซียโดยเฉพาะ เวลา 10.15 น. (เวลาไทย 09.15 น. เพราะเวลามาเลย์เร็วกว่าไทย 1 ชม.) ผู้โดยสารเดินลงจากเครื่อง ไม่มีงวง...เงิง อะไรทั้งนั้น ใช้สองเท้าก้าวเดินนี่แหล่ะ เดินไปที่อาคารที่พักผู้โดยสาร อย่างเป็นแถวเป็นแนว ทั้งขาเข้า - ขาออก จขบ.ก็ขึ้นไปชั้น 2 เพื่อผ่านขั้นตอนของ ตม. โห...คนเยอะแท้เยอะว่า มัวแต่หันรีหันขวาง ตัวคนเดียวโด่เด่ แล้วฉับพลันทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงหวานๆ เจื้อแจ้วมาว่า
"พี่คะ...หนูว่า เราไม่ต้องผ่าน ตม.นะ เพราะหนูถามพนักงานที่เมืองไทยแล้วว่า เรา fly thru ไม่ต้องผ่าน ตม. เพราะเราไม่ได้เข้าเมืองเค้า หนูเห็นป้ายข้างล่างอ่ะค่ะ ที่บอกว่า fly thru ให้ไปตรงนี้"
"เหรอคะ...พี่เองก็ไม่แน่ใจ เพราะพนักงานที่เคาเตอร์ที่พี่เชคอิน เค้าบอกว่าต้องผ่านอ่ะค่ะ เราลงไปถามเค้าดีมั๊ย"
"ดีค๋ะพี่...แต่เอิ่ม ...ภาษาอังกฤษหนูไม่ค่อยแข็งแรง ฟังพอรู้เรื่อง แต่โต้ตอบไม่ค่อยได้... แหะๆ"
เอาละวา...เป็นไงเป็นกัน ภาษาอังกฤษก็คืนครูไปหมดแล้วตั้งแต่เรียนจบ คงต้องร่ายมนต์ให้เค้าเข้าใจที่ จขบ.พูดล่ะกัน เอิ๊กๆๆๆๆๆๆ
จขบ.กับน้อง ซึ่งทราบชื่อทีหลังว่า ชื่อก้อย ซึ่งก็จะไปญี่ปุ่นเหมือนกัน กำลังรอเพื่อนอีกสองคนที่จะบินมาสมทบจากภูเก็ต ก็เดินไปหา จนท.ตรงเคาเตอร์ เอาใบยืนยันการเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ไป ฮาเนดะ ให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็บอกว่า กลุ่มของ จขบ.มีสามคนนี่ จขบ.บอกว่า ใช่ แต่จะมาจากเชียงใหม่ แล้วพี่แกก็เชคโน่นนี่ แล้วก็ปริีนท์ตั๋วมาให้ เป็นอันเสร็จ ไม่ต้องผ่าน ตม. เดินเข้าไปที่ห้องผู้โดยสารขาออกได้เลย ทำให้ได้ความรู้ใหม่ แต่ขากลับ...ไม่เหมือนกันนะ อุบไว้ก่อน แล้วจะเล่าให้ฟังค่ะ
พอใกล้ๆ เที่ยงครึ่ง ก็ออกไปรอพี่ตรงหน้าประตูผู้โดยสารต่อเครื่อง พอเห็นก็รีบกวักมือเรียก บอกว่าไม่ต้องผ่าน ตม. เพราะเราไม่มีกระเป๋าโหลด เข้ามาเชคอินได้เลย พวกเราก็มานั่งรอเครื่องออกไปสนามบินฮาเนดะ เวลา 15.30 น. ถึงสนามบินฮาเนดะ เวลา 23.30 น. ใช้เวลาเดินทาง 7 ชม.(เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชม.) เมื่อผ่านวิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว (เค้ามีภาษาไทยด้วยค่ะ ว่าให้ทำอย่างไร ให้มองกล้อง ให้วางนิ้วชี้ทั้งสองสแกนลายนิ้วมือ นับว่าสะดวกสบายมาก สำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษจริงๆ)
ตานี้...พวกเราสามคนก็มองหาที่สำหรับนั่ง และนอน แต่ก็นอนไม่หลับหรอก นั่งรอเวลาเช้า เพื่อจะได้นั่งรถไฟใต้ดินเข้าโตเกียวกัน พอเช้าก็ไปล้างหน้าแปรงฟันกันที่ห้องน้ำในสนามบิน เจอห้องสุขาอัจฉริยะเข้า เคยฟังแต่ที่เค้าพูดๆ กัน และฟังจากเดี่ยวไมโครโฟนของโน้ส อุดม เพิ่งจะได้เห็นของจริงก็คราวนี้ อย่ากระนั้นเลย แชะๆ ภาพมาฝากเพื่อนๆ ดีกว่า แต่ว่า...ห้องสุขาชาย ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรนะคะ...อิอิ
จะให้น้ำฉีดแบบแรง - เบา ก็ได้ตามใจปรารถนา...
มีให้น้ำฉีดชำระด้านหน้า - ด้านหลัง พร้อมเป่าให้แห้งด้วยน๊าาา.... อะไรจะรู้ใจกันซะขนาดน้านนนนน
กำหนดจุดทิศทาง ความแรงของน้ำ ...555
นี่ซิเจ๋ง.....มีเพลงให้ฟังด้วย เพื่อกลบเสียงส่วนตัว....อิอิ
กดน้ำชำระ...เพียงแค่ฝ่ามือแตะ....
จขบ.ใช้เวลาอยู่ในห้องสุขาที่สนามบินสักพัก จนพี่สาวบอกว่า หายเข้าไปนาน ที่แท้มัวไปถ่ายรูปอยู่นี่เอง
บล๊อกนี้ ...คงจะพอแค่นี้ก่อน แต่เรื่องห้องสุขาอัจฉริยะก็สนุกแล้ว....จริงป่าวค๊าาาาาาา
Create Date : 18 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2555 14:55:35 น. |
|
27 comments
|
Counter : 1862 Pageviews. |
|
|