ตอนแรกกะว่าจะใช้เวลาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ไม่นานแต่พวกเราก็เพลิดเพลินอยู่ในนั้นจนลืมเวลาไปเลยทีเดียว จนท้องร้องจ๊อกๆ แต่ว่าเมื่อมาแถวนี้แล้ว อย่ากระนั้นเลย แวะไปเยี่ยมเจ้า Bobby กันก่อนดีกว่า
ภาพนี้ จากอินเตอร์เนตค่ะ
Bobby คือใครมีความสำคัญอย่างไร Bobby คือสุนัขพันธ์สกายเทอร์เรียร์ ที่อุทิศตนเองเพื่อเจ้านาย และกลายมาเป็นสุนัขในตำนานที่ชาวสกอตยกย่องชื่นชมในความจงรักภักดีของมัน ด้วยการสร้างรูปปั้นไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์อยู่ใจกลางเมืองEdinburgh เมื่อจอน เกรย์,เจส และจอน จูเนียร์ สามชีวิตพ่อแม่ลูกย้ายจากชนบทเข้ามาอยู่ในเอดินเบอระ (Edinburgh) ในปี 1850 จอนหางานทำสวนอย่างเดิมไม่ได้จึงไปสมัครเป็นตำรวจทำหน้าที่พลตระเวนกลางคืน
ทุกคืนทีออกตรวจ จอนจะมีหมาตัวเล็กๆพันธุ์สกาย เทอร์เรียร์ ชื่อ บ็อบบี้ ตามไปด้วยไม่เคยห่างกายจนกระทั่งกลายเป็นภาพคุ้นสายตาของผู้คน คืนแล้วคืนเล่า ปีแล้วปีเล่าไม่ว่าฝนตกฟ้าร้องหรือหิมะโปรยปรายจนกระทั่งจอน เป็นวัณโรคตายในปี 1858 เขาถูกนำไปฝังที่สุสาน Greyfriars Kirkyard ที่นี่เองที่ตำนานของGreyfriars Bobby เริ่มขึ้น
เจ้าบ็อบบี้ เปลี่ยนหน้าที่มาเป็นคนเฝ้าหลุมฝังศพของนายวันแล้วคืนเล่าไม่ยอมห่าง ถึงเวลาเที่ยงวันก็ออกไปนอกสุสานไปกินอาหารที่ผู้ใจบุญจัดหาให้ พนักงานสุสานจะพยายามไล่อย่างไร ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งแม้จะ อุ้ม ไปทิ้งไกลๆ เจ้าบ็อบบี้ก็ไม่ยอมลดละ หาทางกลับมานั่งอยู่กับนายจนได้ จนกระทั่งคนยอมแพ้ต้องจัดเพิงหมาแหงนให้มันพักติดกับหลุมศพของจอน เกรย์ นั่นเอง
ในปี 1867 เมืองเอดินเบอระ ออกเทศบัญญัติให้สุนัขทุกตัวมีเข้าของและทำป้ายแขวนคอท่านเซอร์วิลเลียม เชมเบอร์ ตำแหน่งเป็นลอร์ด โปรโวสต์แห่งเอดินเบอระ ก็กรุณาซื้อบัตรและทำป้ายแขวนคอให้เรียบร้อยว่า "Greyfriars Bobby from theLord Provost 1867 licensed"
เจ้าบ็อบบี้ เฝ้าอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งมันแก่ตายตามนายไปในปี 1872รวมเป็นเวลาที่มันเฝ้าอยู่นานถึง 14 ปี
BaronessAngelia Georgina Burdett-Coutts สตรีผู้ทรงศักดิ์ประทับใจในความจงรักภักดีของบ็อบบี้จึงขออนุญาตเทศบาลสร้างน้ำพุพร้อมทั้งรูปปั้นของบ็อบบี้อยู่ข้างบนสร้างเสร็จและเปิดผ้าคลุมเมือเดือนพฤศจิกายน 1873 ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวที่นั่งรถชมเมืองเอดินเบอระจะต้องนั่งผ่านและฟังมัคคุเทศก์บรรยายถึงเจ้าบ็อบบี้ ซึ่งมีอนุสาวรีย์อยู่ข้างถนนไม่ห่างจากสุสานของนายเท่าใด เจ้าหมาน้อยยืนสง่า อยู่ ณ ที่นั้นกว่า 150 ปีแล้ว
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์บทความโดย ปราโมทย์ นาครทรรพ วันที่ 22 กันยายน 2547
คำจารึกที่อนุสาวรีย์เขียนว่า "Greyfriars Bobby - died 14th January 1872 - aged 16 years - Let his loyalty and devotion be a lesson to us all".
เป็นคำจารึกที่ลึกซึ้งกินใจมากเลยทีเดียว
เมื่อพวกเราไปถ่ายรูปอนุสาวรีย์เจ้าบ๊อบบี้สุนัขที่ซื่อสัตย์กันแล้ว เลยแวะเข้าไปดูในสุสาน Greyfriars Kirkyard ซึ่ง เจ เค โรลริ่งผู้แต่งนวนิยาย เรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ นำชื่อผู้ตายในสุสาน มาตั้งเป็นชื่อตัวละครในนวนิยายของเธอ พวกเรา 3 คน ก็เดินท่อมๆ ไปตามหลุมศพต่าง ๆ เพื่อหาชื่อตัวละครที่คุ้นเคยแต่เนื่องจากฝนตกปรอยๆ อีกอย่างท้องก็เริ่มร้องหนักเข้าเพราะเลยเวลามานานแล้ว ก็เลยไปหาข้าวกินดีกว่า
เราไปกินบุฟเฟต์อาหารจีนราคาคนละ 7 ปอนด์กว่าๆ ก็อร่อย ใช้ได้ค่ะดีกว่ากินอาหารฝรั่งจืดๆ มาหลายมื้อแล้ว เพราะเราได้กินข้าว ความจริง ณ ตอนนั้น ข้าวคลุก พริกน้ำปลา ก็อร่อยแล้ว
หลังจากนั้นก็กลับที่พักเพราะคงเดินไปไหนไม่ได้ไกลเพราะน้องน้ำฝนที่ยังไม่ยอมหยุด พอถึงโรงแรมที่พัก น้องเมย์ก็ยังอยากไป Greyfriars Kirkyard อีกรอบ เพราะยังหาชื่อตัวละครในเรื่องแฮรี่พอตเตอร์ไม่เจอ เลยลากป้าออกไปเป็นเพื่อน ไม่รู้สองคนนี่ เอาพลังมาจากไหนพอกลับมาโรงแรมในช่วงค่ำ บอกว่าไปเจอ Gost Tour ด้วยที่นี่จะมีพาเที่ยวในลักษณะนี้เยอะค่ะ เพราะเป็นประเทศเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์มีตำนานเล่าขานมากมาย พาไปตามป่าช้า พาเข้าออกตรอก ซอก ซอยโน่นนี่ ที่เค้าเรียกกันว่า CLOSE พร้อมเล่าเรื่องราวสยองขวัญให้นักท่องเที่ยวฟัง...
เข้าไปไกลแค่นี้แหล่ะ...กลัวเดินๆ ไป มีใครออกมา say hello จะวิ่งกันป่าราบ อิอิ
บล๊อกหน้าจะพาไป iNVERNESE ค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะมา...
มาเดินเที่ยวท่ามกลางสายฝนกับพี่เปี๊ยกด้วยคนค่ะ
เห็นรูปแล้วคิดถึงหนังพิพิธภัณฑ์มีชีวิตจังค่ะ
ทำได้สนุกมาก ตอนกลางคืนพวกสัตว์หรือรูปปั้นต่างๆจะมีชีวิตขึ้นมา
ออกมาเดินเล่นกันสนุกสนานน่าดู
ปล.ได้รับการ์ดสวยๆจากแดนไกลแล้วนะคะพี่เปี๊ยก
ขอบคุณมากๆเลยค่ะพี่ที่คิดถึงน้องคนนี้
ได้รับสดๆร้อนเมื่อวานนี้เองค่ะ
ขอบคุณนะคะพี่