love me love Panda
เลิฟมีเลิฟแพนด้า เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ครูแป๋วแว่บไปหาหลินปิงและพ่อแม่(หมี)ที่เชียงใหม่ค่ะ งานนี้ต้องขอบคุณน้องสาวและน้องเขยที่เป็นสปอนเซอร์ออกค่าเครื่องบินให้พวกเราทั้งหมด ที่มาที่ไปก็คือ ทั้งแม่ครูแป๋วและแม่บ้านติด แพนด้าชาแนล กันงอมแงม พูดเกริ่นๆในบ้านหลายหนว่าว่างๆเราจะไปเยี่ยมสาวน้อยคนนี้กัน ตัวครูแป๋วเองก็ชอบเปิดช่องนี้ทิ้งไว้ พอปวดหัวกับงานก็จะเงยหน้าขึ้นมามองแพนด้าขนฟูให้ชื่นใจซะทีนึง และหากใครเคยอ่านที่ครูแป๋วเล่าไว้ในบล็อกเทนนิส จะทราบว่าครูแป๋วชอบแพนด้ามาตั้งแต่เด็กแล้ว สมัยที่ยังไม่มีแพนด้าในเมืองไทย ตอนนั้นประเทศจีนส่งแพนด้ามาโชว์ให้ดู ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นที่สวนสยาม ครูแป๋วก็ถ่อไปดูกะเค้า พอมาเรียนที่อเมริกา ครูแป๋วไปเที่ยวสวนสัตว์ที่ซานดิเอโก้ ที่นั่นเค้าไม่ให้หยุดยืนดูแพนด้า แต่ให้เดินไปเรื่อยๆ ครูแป๋วต่อแถวเข้าชม 7 รอบค่ะ เจ็ดรอบจริงๆนะไม่ได้โม้ แพนด้าที่สวนสัตว์วอชิงตันดีซีก็ไปเยี่ยมมาแล้ว สรุปว่าตอนนี้ครูแป๋วเจอแพนด้าตัวเป็นๆมาแล้ว 8 ตัวค่ะ
เมื่อได้ข่าวว่าหลินปิงจะออกโชว์ตัวที่สวนหลังบ้านเป็นสัปดาห์สุดท้าย จากนี้จะให้อยู่แต่ในห้องโชว์ที่เป็นห้องแอร์ แพนด้าแฟนคลับก็ตัดสินใจซื้อตั๋วทันที ด้วยความอยากเห็นแพนด้าน้อยอยู่กับธรรมชาติมากกว่าในห้องแอร์ มามะ ตามครูแป๋วไปดูหมีกัน
เราออกจากบ้านตอนตีสี่ครึ่งเพื่อไปขึ้นเครื่องนกแอร์ (ความชอบส่วนตัวค่ะ ชอบที่เครื่องบินทาสีเป็นนกนู่นนกนี่ น่ารักดี) ที่ดอนเมืองตอนเจ็ดโมงเช้า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จะมีก็คือ คุณแม่บ้านดูตื่นเต้นหน่อยๆเพราะขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิต อ้อ ลืมเล่าค่ะ งานนี้เพื่อนน้องสาวฝากแม่บ้านมาร่วมทริปด้วย บอกว่าแม่บ้านที่บ้านเธอก็คลั่งไคล้หลินปิงเช่นกัน พอได้ข่าวว่าพวกเราจะไปดูหมีกัน เธอก็ถือโอกาสส่งแม่บ้านตัวเองให้มาร่วมทัวร์ด้วยซะเลย แม่ครูแป๋วกระดี๊กระด๊าเป็นที่สุด ปกติแกไม่ค่อยชอบไปไหน อ้างว่าขาไม่ดีตลอดเลย ลูกๆชวนเที่ยวก็มักจะลีลาไม่ค่อยจะไปไหนง่ายๆ มีงานนี้นี่แหละที่ชวนปุ๊บ อุ๊ย ไปสิ ไปสิ จัดการจองรถตู้ให้มารับเราที่สนามบินเองสร็จสรรพ ส่วนเรื่องกินยิ่งไม่ต้องห่วง น้องเขยจบม.เชียงใหม่ค่ะ อยากกินอะไร ไป๊ ไปกัน ช่วงเช้าก่อนเข้าสวนสัตว์เราแวะทานข้าวมันไก่ที่ร้าน เกียรติโอชา ร้านนี้คนมาทานเยอะเชียวขณะที่ร้านข้างๆนี่ไม่มีคนเลย ระหว่างทานก็คิดวางแผนกันว่าดูแพนด้าจบแล้วเราจะทำอะไรต่อ ก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯตอนหกโมงเย็น
พอมาถึงที่จัดแสดง มีคนมารอกันมากพอสมควรแล้วค่ะ ยัยหนูหลินปิงนี่แฟนคลับเยอะจริงๆ วุ๊ย เห็นคนเยอะเราก็เริ่มตื่นเต้น พอเจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าชม ครูแป๋วก็ไหลไปกับฝูงแฟนคลับอื่นๆ .... เข้าไปในนั้น อู้ววว ชัดนะ ตอนแรกคิดว่าจะเห็นไกลๆ แต่พอได้ดูจริงหมีแม่ลูกมาเล่นนัวเนียกันอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ น่ารักมากๆๆๆๆๆ ไม่รู้จะบรรยายยังไง คราวนี้ละ ตัวใครตัวมัน ต่างคนต่างก็ร้องครางวี๊ดว๊ายกันเบาๆ หาที่ว่างส่วนตัวพยายามส่องหมีให้ชัดที่สุด มารู้สึกตัวอีกที อ้าว แม่ชั้นอยู่ไหนนี่ เดินหาแม่จนเจอ แม่บอกว่าแม่บ้านบ้านป้าเพิ่งโทรมา เล่าว่าเห็นพวกเราในทีวี อืมมม บรรยากาศก็ประมาณนี้ละค่ะ วันนี้หลินปิงคึกคักเป็นพิเศษ วิ่งดุ๊กดิ๊กไปมา เดี๋ยวก็วิ่งกลับมานัวเนียกับแม่ฮุ่ย ทำตัวน่ารักให้พวกเราถ่ายรูปได้สวยๆหลายรูป ว่ากันตามไสยศาสตร์แล้วดูเหมือนว่าหลินปิงจะรู้ว่าเรามาเยี่ยม อิอิ ... ดูจนอิ่มค่ะ ดูจน อืมม พอเหอะนะ ครูแป๋วรวบรวมไพร่พลจนครบพากันเดินออก ตรงทางออกเจอ พี่แต ของแฟนคลับกำลังยืนคุยอยู่กับสาวๆ แม่บ้านที่มาจอยทริปเราขอวิ่งเข้าไปถ่ายรูปกับพี่เลี้ยงหมี ตรงนี้โนคอมเม๊นท์ค่ะ ชื่นชมพอประมาณก็โอเค แต่ที่เห็นเขียนเป็นตัววิ่งในทีวีประมาณ พี่แตสุดหล่อ รักนะจุ๊บๆ พี่เปิ้ลไม่อยู่คิดถึงจัง ฯลฯ มันทำให้ครูแป๋วเซ็งประเทศหน่อยๆว่า ดูหมีแล้วยังบ้าผู้ชายได้อีกนะนี่ นับถือสาวไทยจริงๆเลย ช่วงบ่ายหลังจากแวะกราบนมัสการพระธาตุดอยสุเทพและทานก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ศรีพิงค์ พวกเราไปไหว้พระที่วัดต่างๆ จากนั้นแวะ วนัสนันท์ เพื่อซื้อของฝากกลับบ้าน ครูแป๋วได้ลูกท้อดองของโปรดมาสองกระปุก (ขอแฉว่า ดิฉันโดนแม่แฮ๊ปเอาไปฝากคนอื่นกระปุกนึง แม่บอกว่าหาได้ง่ายดายในกรุงเทพฯ แต่จนบัดนี้แม่ยังหามาคืนไม่ได้เลยค่ะ) กลับถึงดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ โดยมีทหารขับรถคู่ใจผู้ชอบกระแนะกระแหนพวกเรา(เบาๆ)ว่า สงสารช้างไทยหมั่นใส้หมีแพนด้า มารับกลับบ้าน อืมม บ้านนี้หมาแมวหมีช้างฮิปโปยีราฟเก้งชะนี เรารักหมดเลยค่ะ J
สัญญาไว้คราวที่แล้วว่าจะเล่าเรื่องสมาชิกใหม่ แมวตัวที่เจ็ดของบ้าน ... ตัวเมียค่ะชอบมาก ขนสั้นลายวัว เธอมีชื่อว่าเหมียว เจ้าของเป็นเพื่อนน้องสาว มีปัญหาย้ายที่อยู่ใหม่แล้วเอาแมวไปอยู่ด้วยไม่ได้ มามะ มาอยู่กะครูแป๋ว เหมียวเป็นแมวเรียบร้อยมารยาทดี รู้เลยว่าเจ้าของเลี้ยงมาดี เธอชอบนอนบนผ้าห่มครูแป๋ว ทำให้คริสตินาที่นอนดูทีวีตรงนี้ประจำต้องระเห็จไปอยู่ที่อื่น ... ตอนแรกกังวลนิดหน่อย กลัวว่าเค้าจะเขม่นกันและตบกัน ช่วงแรกๆครูแป๋วจะได้ยินเสียงขู่เวลาเหมียวเดินเข้าใกล้อีกตัว แต่พอดุไปสองสามทีก็ไม่ทำแล้วค่ะ ดีใจที่แมวในบ้านทั้ง 7 ตัวซึ่งต่างพันธ์ ต่างสีต่างลาย ต่างที่มา ไม่หาเรื่องทะเลาะกัน อยู่ด้วยกันได้อย่างสันติ แมวมันรักดีอ่ะค่ะ มันคงรักเจ้าของ ไม่อยากให้เจ้าของทุกข์ใจ พวกที่มันทะเลาะกันมันคงคิดถึงแต่ตัวเอง มองตัวเองเป็นหลัก อ้าว เรื่อยเจื้อยไปไหนแล้วนี่ ไว้สถานการณ์บ้านเมืองเย็นๆแล้วเราค่อยมาคุยกันใหม่ นะคะ
Free TextEditor
Create Date : 13 เมษายน 2553 |
Last Update : 13 เมษายน 2553 10:52:55 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1471 Pageviews. |
|
|