https://kaoim.bloggang.com
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
ยิ่งดู.. ยิ่งเผลอ ...ยิ่งทำ ยิ่งยาก

ยังเป็นบันทึกตอนต่อมา ระหว่างการถามตอบกับผู้รู้นะคะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

วันนี้ขอมาส่งการบ้านด้วยคนค่ะ

แม่ชียังไม่ลงนั่งสมาธิตามรูปแบบค่ะ (ต้องขอเรียกตามที่หลวงพ่อปราโมทย์เทศน์ใน CD) แต่ว่าเดินจงกรมอยู่เป็นปกติ พร้อมกับดูกาย ดูใจไปด้วย งานที่วัดค่อนข้างเยอะ ก็เลยใช้โอกาสที่เราทำงานไปด้วยดูใจไปด้วยค่ะ

เมื่อวานไปกวาดตาด ระหว่างที่กวาดใจก็เป็นปกติไม่ได้ตั้งท่ารอว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่ชีพบว่าตอนหนึ่งเรากวาดไปโดนใบไม้แล้วเรานึกว่าเป็นตัวอะไร เราก็ตกใจ เห็นอาการตกใจและใจมันแยกออกมาจากตัว ถ้าเปรียบเหมือนๆ กับที่เคยฟังหลวงพ่อพูดว่า เรานั่งดูตัวละครเล่นอยู่บนเวที แล้วเราเป็นผู้ดูอยู่ข้างล่าง อย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ แต่จะเห็นแค่ชั่วแป๊บเดียวเท่านั้นนะคะ หลังจากนั้นก็เข้าสู่ภาวะปกติ ตรงนี้ใช่เป็นสติที่เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติหรือเปล่าคะ ทีนี้จะคอยสังเกตว่า ถ้าตรงไหนดูใจแล้วใจมันเบาๆ สบายๆ น่าจะทำถูก แต่ว่า ถ้าไปดู แล้วใจมันกลับหนักๆ ทื่อๆ น่าจะเป็นอาการไปเพ่ง ไปประคองระวังไว้ ใช่ไหมคะ
โดยคุณ ปล่อยวาง [วันที่ 12/10/2008 10:40]



ความคิดเห็นที่ 1
แต่จะเห็นแค่ชั่วแป๊บเดียวเท่านั้นนะคะ หลังจากนั้นก็เข้าสู่ภาวะปกติ
ตรงนี้ใช่เป็นสติที่เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติหรือเปล่าคะ...
จากที่แม่ชีเล่ามาก็น่าจะใช่การเกิดสติเองครับ

ถ้าตรงไหนดูใจแล้วใจมันเบาๆ สบายๆ น่าจะทำถูก แต่ว่า
ถ้าไปดู แล้วใจมันกลับหนักๆ ทื่อๆ
น่าจะเป็นอาการไปเพ่ง ไปประคองระวังไว้ ใช่ไหมคะ...
ใช่ครับ

โดยคุณ สุรวัฒน์ [วันที่ 12/10/2008 12:47]



ความคิดเห็นที่ 2
ขออนุญาตถามต่อเลยนะคะ

เวลาเรามีความสุข ก็มีสติตามรู้ว่ามีความสุข บางทียิ้มไปด้วย พอรู้ตัว มันกลายเป็นเราหุบยิ้มทันทีเมื่อเรารู้ตัว เหมือนบางทีกำลังหัวเราะ รู้สึกตัวว่าหัวเราะ เบิกบาน เราจะหยุดหัวเราะทันทีเลยน่ะค่ะ แล้วกลายเป็นนิ่งเฉย เอ...แบบนี้มันผิดปกติหรือเปล่าคะ
โดยคุณ ปล่อยวาง [วันที่ 12/10/2008 16:01]



ความคิดเห็นที่ 3
ปกติแล้วถ้าจิตเป็นกุศลแล้วไประลึกรู้จิตที่เป็นกุศล
จิตที่เป็นกุศลไม่จำเป็นต้องดับไป
แต่อาการหุบยิ้ม หยุดหัวเราะทันทีนั้น ก็เป็นไปได้ครับ
แต่ต้องดูว่าจิตเป็นอย่างไร ถ้าหยุดแล้วจิตนิ่งเฉยไป
ก็อาจเพราะพอรู้ตัวแล้ว จิตก็วางฟอร์มนักปฏิบัติ
ที่ต้องทำเป็นเคร่งขรึม
ยังไงแม่ชีต้องสังเกตเอานะครับ
เพราะผมบอกไปตามหลักการเท่านั้น
ไม่ได้ทราบเลยว่าแม่ชีเป็นอย่างไรกันแน่นะครับ

โดยคุณ สุรวัฒน์ [วันที่ 12/10/2008 20:04]



ความคิดเห็นที่ 4

Quote:
ถ้าหยุดแล้วจิตนิ่งเฉยไป
ก็อาจเพราะพอรู้ตัวแล้ว จิตก็วางฟอร์มนักปฏิบัติ


กำลังสังเกตเหมือนกันค่ะว่า พอรู้ตัวว่าเบิกบาน ก็หยุดยิ้มทันที จะตั้งท่าปฏิบัติ
แม่ชีรู้สึกว่า มันเหมือนๆ กับจะมี"อาการแช่" อยู่กับการรู้สึกตัว ยังไม่ค่อยเป็นธรรมชาติว่า รู้แล้วก็สักว่ารู้
ทีนี้มันรู้แล้วก็ไม่ยอมละ พอเกิดการรู้ตัว มันมักจะคอยตามรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้นหลังการตามรู้ทันที คิดว่ามันไม่น่าจะถูกต้องใช่ไหมคะ
ถึงแม้ว่าใจมันจะไม่ได้พากย์ออกมาว่า ต่อไปอย่าเผลอนะ หรือ อย่าหลงนะ แต่อาการแช่นิ่ง ตามหลังการรู้สึกตัวจะมีบ่อยๆ ค่ะ มีวิธีทางแก้ไขอย่างไรคะ
โดยคุณ ปล่อยวาง [วันที่ 13/10/2008 08:28]



ความคิดเห็นที่ 5
อาการแช่นิ่ง ตามหลังการรู้สึกตัวจะมีบ่อยๆ ค่ะ มีวิธีทางแก้ไขอย่างไรคะ[QUOTE]
แม่ชีไม่ต้องหาทางแก้หรอกครับ
ให้ใช้หลักที่หลวงพ่อปราโมทย์บอกเสมอๆ ว่า
"จิตเป็นอย่างไร ก็ให้รู้ว่าจิตเป็นอย่างนั้น"
พอจิตไปแช่นิ่ง ก็แค่รู้ว่าจิตแช่นิ่งอยู่
แล้วขณะนั้นแมีชีทำกิจกรรมอะไรอยู่ก็ทำกิจกรรมนั้นตามปกติ
แล้วก็ตามดูจิตต่อไปครับ

โดยคุณ สุรวัฒน์ [วันที่ 13/10/2008 09:24]



Create Date : 13 ตุลาคม 2551
Last Update : 13 ตุลาคม 2551 16:30:59 น. 6 comments
Counter : 516 Pageviews.

 
เข้ามาทักทายค่ะ


โดย: bo (bow_relax ) วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:17:42:23 น.  

 
สาธุกับการปฏิบัติครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:24:08 น.  

 
ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ครับ



ปีนี้ว่างงานครับ ทั้งงานออกแบบเว็บ และโปรโมทเว็บ ว่างดีชะมัด
แต่ก็ดี ทำให้มีเวลาให้ครอบครัวมากหน่อย ทุกปีช่วงปลายปีจะไม่มีเวลาให้เลย

ที่เกิด คือ อาการเห็นรู้ทันหลังจากสติเผลอไปชั่วขณะ
แวบ แล้วสติกลับมาตามทัน

ช่วงเวลานี้ จะยิ่งเห็นมากขึ้นว่าที่จริงที่ปฏิบัติ ช่วงเวลาที่ละสตินั้นมีมาก ยิ่งพิจารณายิ่งเห็น

แต่เมื่อกำกับและรู้ทันอยู่เรื่อยๆ มันจะลดลงไปทีละน้อย และน้อยลง

เจริญในธรรมครับ


โดย: granun วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:18:57:55 น.  

 
ในวาระดิถีเปลี่ยนปีใหม่ ขอให้ จขบ. kaoim มีความสุขสันต์สมปรารถนา ดั่งใจนึกทุกประการตลอดปี 2552 จ๊ะ



โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:12:47:42 น.  

 
ธรรมะสวัสดีค่ะ
ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกับการปฏิบัตินะคะ

ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:14:23:10 น.  

 
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่แวะมาเบี่ยมชม
ผมว่า koaim ก็สามารถเข้าใจอย่างที่ผมเข้าใจเป็นอย่างดี

ความปรารารถนาของแต่ละคนมันแตกต่างกันมากมายครับ

เราไม่รู้หรอกว่า วันข้างหน้าจะพบเจออะไร

จริงมั้ยครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:21:51:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kaoim
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]








Friends' blogs
[Add kaoim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.