วิธีการและเคล็ดลับการเก็บออม
พอดี kanyong1 อ่านเจอมาเลยอยากนำมาให้เพื่อนๆ อ่านบ้างค่ะ
บทความ โดยคุณ หล่อใสไร้รัก แห่งสยาม
ความเชื่อที่ว่าเศรษฐีืคือคนที่ใช้ชีวิต อย่างสุขสบาย, กินอยู่อย่างหรูเริด, บ้านเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่อย่างกะวัง, รถหรูคันงาม, ชอปกระจาย กินใช้อย่างฟุ่มเฟือย, ข้าทาสบริวารตามเป็นพรวน ฯลฯ
เป็นเพียง "ภาพมายา" ที่วงการโทรทัศน์สร้างขึ้นมาทั้งนั้น (อันนี้น่าแปลกที่ละครต่างประเทศไม่เคยสร้างภาพความรวยแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี, ญี่ปุ่น, อเมริกา มีแต่ละครไทยนี่แหละ ไม่ว่าจะเก่าแบบบ้านทรายทอง หรือล่าสุดแบบวนิดา)
การวิจัยเกี่ยวกับ พฤติกรรม "คนรวย" ในสหรัฐอเมริกาต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยสัมภาษณ์เก็บข้อมูลคนที่มีทรัพย์สินเกิน 1 ล้านเหรียญ (ซึ่งมีเพียง 3.5% ของประชากรทั้งประเทศ) กว่า 500 คน และสำรวจข้อมูลผู้ที่มีรายได้สูงอีกกว่า 1 หมื่นคน
พบว่าเศรษฐีส่วน ใหญ่ไม่ได้มีชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย และปัจจัยที่ส่งเสริมให้ฐานะมีความมั่นคงอยู่ได้ เกิดจากพฤติกรรมสำคัญ 7 ประการ อันได้แก่
มีความมัธยัสถ์ รู้จักเก็บหอมรอมริบ ใช้จ่ายน้อยกว่าเงินที่หาได้ มีการจัดสรรเวลา พลังงาน และเิงิน อย่างมีประสิทธิภาพในการสะสมความมั่งคั่ง มีความเชื่อว่าอิสรภาพทางการเงิน สำคัญกว่าการแสดงออกซึ่งฐานะอันสูงส่ง ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ไม่ได้อุ้มชูด้วยเงินทอง (อันนี้มีข้อมูลชัดเจนว่า โดยเฉลี่ยความมั่งคั่งร่ำรวยที่ส่งต่อผ่านจากรุ่นพ่อแม่ ลงมาลูกหลาน มักจะ maintain ได้ไม่เกิน 3 generations จะเสื่อมถอยลง) ลูกหลานที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีประสบการณ์และทักษะในการแสวงหาโอกาส มักเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว หรือประกอบวิชาชีพอิสระ "คนที่รวยจริง (be rich) ไม่ใช่คนที่ดูรวย (look rich) อย่างที่เราเข้าใจกัน"
เคย สังเกตหรือเปล่าว่าคนที่รวยเฉียบพลัน (acutely rich) มักมีฐานะจนลงหรือแย่ลงกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นอดีตนักแสดง, ดารา, ตลก, อดีตนักมวยแชมป์โลก หรือนักกีฬาเหรียญโอลิมปิก ฯลฯ มีซักกี่คนที่ยังคงเก็บสะสมเงินทองทรัพย์สมบัติที่ได้มา หรือต่อยอดทรัพย์สินเหล่านั้นให้เพิ่มขึ้นได้ รายได้, เงินรางวัล, ทอง ฯลฯ ที่ได้มามันหายไปไหนหมด ?
ดังนั้น การมีเงินอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร หรืออาจทำให้ปัญหามันมากขึ้น ถ้าเราไม่มีวิธีคิด หรือความรู้ในการจัดการที่ถูกต้อง
เป้าหมายของอิสรภาพทางการเงิน (financial freedom / financial independence) ไม่ได้แปลว่าเราจะรวย แต่หมายถึงว่าเราต้องการมีหลักประกันทางการเงินที่มั่นคง เพียงพอที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย สมควรแก่อัตภาพโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร และไม่ต้องหวาดผวากับปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในการใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ
เพื่อน ๆ ต้องการอิสรภาพทางการเงินกันหรือเปล่า?
เป้าหมายของอิสรภาพทางการเงิน ดูยังไง
จริง ๆ มีหลายสูตร แต่ที่จะให้เพื่อน ๆ ลองใช้แบบง่าย ๆ ก็คือ
ดูว่าค่าใช้จ่ายต่อเดือนของเราที่จะกินอยู่แบบพอมีพอใช้สบาย ๆ ในตอนนี้มันซักเท่าไหร่ คิดว่าเพื่อน ๆ จะทำงานต่อไปอีกซักกี่ปี ให้คำนวณค่าใช้จ่ายเมื่อถึงเวลาเกษียณ ตามเงินเฟ้อเฉลี่ยเมื่อเวลาผ่านไปถึงปีที่เกษียณ คำนวณว่าถ้าเราต้องการทรัพย์สินให้ทำงาน สร้างผลตอบแทนให้ได้เท่ากับค่าใช้จ่ายนั้น เราต้องมีทรัพย์สินซักเท่าไหร่ ยกตัวอย่างง่าย ๆ มาให้ดู สมมติว่า เราต้องกินอยู่ใช้จ่าย ในแต่ละวันทุกวันนี้ มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 2 หมื่นบาท และทำงานต่อไปอีกซัก 20 ปีจึงจะเกษียณ
ที่ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปีละ 3.5% ใน 20 ปีข้างหน้า เงินจะมีค่าเหลือเพียงครึ่งเดียว ดังนั้นที่ 20 ปีข้างหน้า เราต้องการเงินใช้จ่ายเดือนละ 4 หมื่น จึงจะเพียงพอ (การคำนวณเงินเฟ้อระยะยาวเฉลี่ยปีละ 3.5% ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ระยะเวลา 20 ปี ดอกเบี้ยจะทบต้นจาก 100 -> 198.98)
ถ้าทรัพย์สินของเรา ทำงานให้เราด้วยผลตอบแทน 5% ต่อปี (เอาแบบปลอดภัย ไม่ต้องตื่นเต้นกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ก็ลงทุนพวกพันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้ ควรจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณนี้) เราจำเป็นต้องมีทรัพย์สิน = (40,000 x 12 x 100)/5 = 9,600,000 บาท
หมายความว่าเรามีเวลา 20 ปีในการหาเงินให้ได้ประมาณ 9 ล้าน 6 แสนบาท เราก็จะเกษียณได้อย่างมีความสุข
หรืออีกสูตรนึง แบบง่ายๆ คือ เป้าหมายทางการเงิน ประเมินจาก WEALTH RATIO = รายได้จาก สินทรัพย์ / รายจ่าย ควรให้ WR > 1 จึงจะมีอิสรภาพทางการเงินได้
หมายเหตุ สินทรัพย์ = สิ่งที่ผลิตรายได้ให้เรา สม่ำเสมอ แม้เราจะไม่ได้ทำงาน แต่สิ่งเหล่านี้จะทำงานหาเงินแทนเรา เช่น หุ้น ตราสารหนี้ บ้าน/ อสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้เช่าหรือขาย ทรัพย์สิน = สิ่งที่ผลาญเงินเราสม่ำเสมอ เช่น รถ (ใครบอกว่าเป็นทรัพย์สิน มันผลาญเงินคุณตะหาก ค่าน้ำมันเอย ค่าซ่อมบำรุงเอย) บ้านที่มีไว้อยู่อาศัยเอง เป็นต้น
เป้าหมายทรัพย์สินที่ท่านควรมี = อายุ x รายได้ทั้งปี / 10
เช่น ของผม ตอนนี้มีรายได้ตลอดปี 1.68 ล้าน อายุ 38 ปี ผมควรมีเงินเก็บ 6,384,000 บาท นั่นคือเป้าหมายขั้นต่ำที่ต้องไปให้ถึง เพราะถ้าไม่ถึงแล้ว ตอนที่เราเกษียณ จะลำบากมาก
แล้วมันจะทำได้ไงล่ะ รายได้ตอนนี้ออกจะ เบี้ยน้อย หอยเล็กกันขนาดนี้.........
Create Date : 16 มกราคม 2557 |
Last Update : 16 มกราคม 2557 15:08:02 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1149 Pageviews. |
|
|
|