ราชวงศถัง ๑






ราชวงศ์ถัง

บทความของ EmilyMark เกี่ยวกับราชวงศ์ถังที่ลงบนเว็บไซต์ Ancient History นับว่าเป็ยราชวงศ์ที่นำความมั่งคงมาสู่จีนอย่างแท้จริงแค่เกริ่นนำก็ไม่น่าเชื่อแล้วหุ่นยนต์โบราณ อะไรต่อมิอะไรอีกมาก โดยเฉพาะที่แปลไม่ถูก ๕๕๕

ราชวงศ์ถัง (ค.ศ.๖๑๘-๙๐๗)ถุกอ้างถึงอย่างสม่ำเสมอว่าเป็นราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีนยุคโบราณเป็นยุคทองของการปฏิรูปและความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นรากฐานสำหรับนโยบายที่ยังคงได้รับการปฏิบัติในประเทศจีนจนถึงปัจจุบันจักรพรรดิองค์ที่สองพระนามว่า ไท่จง (ค.ศ.๕๙๘-๖๔๙)หรือ (ค.ศ.๖๒๙-๖๔๙)ได้รับฐานะให้เป็นผู้ปกครองที่เป็นแบบอย่างในการปฏิรูปโครงสร้างทางสังคม การทหารการศึกษาและการปฏิบัติทางศาสนา

สิ่งประดิษฐ์มากมายที่น่าประทับใจและก้าวหน้ามากมายในประวัติศาสตร์จีนเช่นดินปืน เครื่องปรับอากาศ(เข้าใจว่าเป็นกลไกบางอย่าง) เตาที่ใช้แก๊ส การพิมพ์ความก้าวหน้าทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาปัตยกรรมแลละวรรณคดีล้วนแล้วกำเนิดในยุคราชวงศ์ถัง จักรพรรดิไท่จง บูเช็คเทียน ถังเสวียนจงทำให้ราชวงศ์ถังเป็นยุคยิ่งใหญ่ ถึงแม้ว่าราชวงศ์จะมีอำนาจ แต่ยุคทองก็จบลงสมัยฮ่องเต้เสวียนจงที่ทำให้อาณาจักรเกิดความสับสนวุ่นวายและอาณาจักรจีนกลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้งสมัยราชวงศ์ซ้อง (ค.ศ.๙๖๐-๑๒๓๔)

ความรุ่งเรืองของราชวงศ์ถัง

หลังจากการสิ้นสุดราชวงศ์ฮั่นก่อนหน้าที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจีนเคยถูกปกครองด้วยราชวงศ์มาแล้วหลายราชวงศ์ เช่นเว่ย จิ้น และฮั่นถูกแทนที่ด้วยราชวงศ์สุ่ย(ค.ศ.๕๘๙-๖๑๘)ซึ่งก็ดีขึ้นมีความก้าวหน้ามากมายแต่ก็เช่นเดียวกับอีกหลายราชวงศ์ในประวัติศาสตร์จีนที่จบไม่สวยเท่าไรนักจากการเป็นเผด็จการครองบัลลังก์ใส่ใจในเรื่องส่วนตัวและความเป็นอยู่อันหรูหรามากกว่าการกินดีอยู่ดีของราษฎร

ราชวงศ์สุ่ยเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการปรับปรุงระบบราชการและยังสนใจในเรื่องศิลปะตำนานมู่หลานหญิงสาวผู้ไปออกรบแทนพ่อในสงครามก็เกิดขึ้นในสมัยนี้อย่างไรก็ตามราชวงศ์สุ่ยทำให้เกิดความสะดวกสบายที่มีประสิทธิภาพในสมัยนี้ราชวงศ์สุ่ยเองมีอำนาจมาก เมื่อมีมากรวมไปถึงความหรูหราที่พวกเขาต้องการก็มีมากขึ้นด้วย

เกาจู่และไท่จงสองกษัตริย์ผู้บุกเบิกราชวงศ์ถัง

เกาจู่ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงประสิทธิภาพซึ่งการปฏิรูปนโยบายที่ทารุณภายใต้การปกครองของราชวงศ์สุ่ยเกาจู่ยังเป็นผู้ดำเนินการปฏิรูประบบราชการที่ยังมีใช้อยู่ในประเทศจีนแม้ว่าเกาจู่จะปกครองได้ดี แต่หลี่ซื่อหมินโอรสของเกาจู่มองว่าควรปรับปรุงได้อีกหลี่ซื่อหมินคือคนที่ต่อสู้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเกาจู่ เพื่อสร้างราชวงศ์ถังและเขารู้สึกว่าควรมีบทบาทในการกำหนดนโยบายด้วย หลี่ซื่อหมินด้รับตำแหน่งอ๋องแต่เขารู้สึกว่าตัวเองควรได้รับตำแหน่งที่สูงกว่านี้

เกาจู่ได้สร้างกฎหมายของราชวงศ์ขึ้นแลละรักษากฏนั้นไว้ซึ่งกฎหมายดังกล่าวได้รับการคัดลอกแพร่หลายออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นเกาหลีและเวียดนามนอกจากนี้เกาจู่ยังปฏิรูปขุนนางเพื่อมิให้ขุนนางเรียกเก็บภาษีจากเกษตรกรชาวนาและมีการแจกจ่ายที่ดิน

ในช่วงเวลานี้เกาจู่ได้แต่งตั้งหลี่จินเฉิงขึ้นเป็นรัชทายาทแทนที่จะเป็นหลี่ซื่อหมินเพราะเข้าใจว่าหลี่ซื่อหมินคิดวางแผนเป็นกบฎหลี่ซื่อหมินทำการัฐประหารและสังหารพี่น้องของเขารวมไปถึงหลี่จินเฉิงบังคับให้เกาจู่สละราชสมบัติ เมื่อได้เป็นจักรพรรดิทรงมีพระนามว่าถังไท่จงนำคนที่อยู่ขั้วตรงข้ามมาเป็นที่ปรึกษานำแนวความคิดการเคารพบรรพบุรุษมาใช้เพื่อประโยชน์ในการปกครอง

ไท่จงแสดงให้เห็นว่าทรงเป็นจอมทัพที่มีประสิทธิภาพภายใต้การปกครองของพระบิดาไม่มีใครท้าทายเขาเมื่อเขาเข้ามาปกครองแผ่นดิน ความเชื่อมั่นในตนเองการโดนจ้องจับผิดและเขาเองได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นจักรพรรดิที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าบิดา

ไท่จงมักอ้างการปฏิรูปหลายครั้งและการอดทนต่อนโยบายทางศาสนาซึ่งเขาอนุญาตให้ศาสนาหลายศาสนาได้เข้ามายังแผ่นดินจีน เช่น คริสต์ พุทธศาสนาเป็นต้น ควบคู่ไปกับการปฎิบัติเดิมของลัทธิขงจื๊อและลัทธิเต๋าซึ่งเป็นสิ่งที่บิดาทำไว้ เขาได้ทำให้ประสบความสำเร็จไท่จงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ร่วมก่อตั้งราชวงศ์และเป็นแบบอย่างของผู้นำที่ใช้กฎหมายที่ดีและมีประสิทธิภาพ


บูเช็คเทียน นางพญาเหนือมังกร

ประมาณค.ศ.๖๓๘ ไท่จงได้เลือกเด็กสาววัย ๑๔ ปีนามว่าบูเว่ยเหนี่ยงเข้ามาเป็นนางสนม เธอน่ารักและดึงดูดความสนใจต่อโอรสของฮ่องเต้ไท่จงเอง บูเริ่มมีความสัมพันธ์กับโอรสของไท่จงเมื่อฮ่องเต้ไท่จงสวรรคตในปี ค.ศ.๖๔๙ นางบูซึ่งเป็นสนมต้องโกนหัวบวชชีเธอถูกส่งตัวไปวัดเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เป็นชีแต่หลีจื้อซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นจักรพรรดิเกาจงพาเธอกลับมาพระราชวังเพราะพระองค์รักเธอ

บูกลายเป็นสนมที่ฮ่องเต้โปรดปรานด้วยความรักที่เกาจงมีให้บูทำให้ฮองเฮาหวังและสนมเสี่ยวเสียพระทัยเพื่อกำจัดพวกนางและเพิ่มอำนาจให้สนมบู มีคนกล่าวว่า นางได้ฆ่าพระธิดาองค์น้อยและใส่ความเจ้านางหวังเป็นอาชญากรทำเรื่องร้ายแรงสนมบูกลายเป็นผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลังบัลลังก์และเมื่อเกาจงสวรรคตปีค.ศ.๖๓๘เธอได้ตั้งตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิบูเช็คเทียน(ผู้นำสวรรค์) เปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็น"โจว" เพื่อแสดงให้เห็นว่าเริ่มต้นยุคใหม่

ม่




Create Date : 15 เมษายน 2560
Last Update : 15 เมษายน 2560 2:20:19 น.
Counter : 1704 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1532163
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เมษายน 2560

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
 
 
15 เมษายน 2560
All Blog