เมษายน 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
พระเมรุ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ความศิลปความงามบนความสูญเสีย

สงกรานต์ปีนี้ สำหรับกาญจน์แล้วมัน เหมือน ๆ กับทุก ๆ ปี

ที่กาญจน์ไม่สามารถไปเที่ยวหา ญาติ /เพื่อนที่ต่างจังหวัดได้

เพราะงานของเรามันต้องอยู่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555  หรือที่ท่าน ๆ ทั้งหลายคุ้น ๆ หูกันว่า 7วันอันตราย ซึ่งดูเหมือนว่ายิ่งรณรงค์เท่าไหร่ก็มีคนตายและบาดเจ็บมากขึ้นเท่านั้น อยากให้ทุกคนทุกท่าน อย่าประมาทเพราะช่วงเทศกาลอย่างนี้ถึงแม้เราไม่เมา ไม่ได้ทำผิดกฎจราจรใด ๆ ทั้งสิ้นแต่...มันก็ไม่ได้ช่วยให้เราปลอดภัยขึ้นเลย เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะไปเจอคนเมาคนผิดกฎจราจรตรงใหนที่ใหนเวลาใด

ว้าออกนอกอ่าวไทยไปถึง ใหน ๆ แล้ว อิอิมันเป็นเรื่องปกติของกาญจน์เนอะที่ว่าเวลาเขียนBLOG เนี่ยมันต้องร่ายยาว ๆ เข้าไว้เพราะจุดประสงค์ในการเขียน BLOG ของกาญจน์ก็เพราะอยากบันทึกเรื่องราว อารมณ์ และความรู้สึก เกี่ยวเรื่องราวนั้นและ เขียน BLOGดีอย่าง ได้ใส่รูปด้วยไง แถมไปใหนมาใหนก็เปิดให้ใคร ๆ ดูได้ง่าย ๆ

เริ่มเรื่อง พระเมรุ ฯ กันเลยดีกว่า กาญจน์นะเป็นเด็ก ตจว. เมื่อก่อนนี้รู้สึกอิจฉาคนกรุงเทพฯ ที่ได้มีการจัดงาน/กิจกรรม/พระราชพิธีต่าง ๆ แล้วได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย และใผ่ฝันไว้ตลอดว่าถ้ามีโอกาศจะต้องนำพาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมบ้าง ไม่นึกไม่ฝัน ว่าโตมาจะได้มาอยู่จังหวัดชายแดนกรุงเทพฯ อย่างนนทบุรี ตอนมาเป็นสาวเมืองใน พอโอกาศเหมาะ ๆ กาญจน์ก็ตรงไปวัดพระแก้วและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครในทันที คนที่บ้านตลึงว่าหน้าอย่างกาญจน์นะชอบเรื่องแบบนี้ อ้าวออกไปอ่าวไทยอีกแล้ว คริคริ

เรื่องพระเมรุ ฯกาญจน์อยากไปดูตั้งแต่งานพระพี่นางแล้วแหละแต่ตอนนั้นไม่มีโอกาส คราวนี้ตั้งใจไว้เต็มที่กาญจน์อยู่เวรที่ศูนย์ ฯ วันคี่ และวันที่ 14-15          แม่กาญจน์ขอไปเที่ยวก่อน ที่บ้านกาญจน์จะไปใหนพร้อมกันหมดบ้านไม่ได้ต้องมีคนที่สามารถดูแล ป้อนข้าวย่า(ป่วยเป็นอัมพาต) มาลงตัววันที่ 16 กาญจน์บอกทุกคน(โดยเฉพาะคุณแฟน) ว่ายังไงก็จะไปให้ได้ ในเมื่อหยุดยาวตั้ง 4วันแต่เรามีเวลาว่างวันเดียวก็ต้องทำให้ครบตามประเพณี และหน้าที่กาญจน์ออกเวรตอน เที่ยงคืน รีบนอนเต็มที่ ตื่นเช้าหน้าใส เตรียมข้าวเช้าให้ย่าเตรียมพวงมาลัยดอกไม้ น้ำอบ ไว้สำหรับไปรดน้ำดำหัว พ่อแม่กาญจน์/ลุงป้าแฟนและเตรียมสวยด้วยการไปทำผม ตอนแรกกะว่าจะไปก่อนเที่ยงแต่คิวที่ร้านเสริมสวยคนเยอะกว่าจะเสร็จก็ 11 โมงและ เลยป้อนข้าวเที่ยงย่าอีกมื้อหลังจากนั้นก็ไปรดน้ำ พ่อ/แม่กาญจน์

ปกติแล้วถ้าต้องเข้าเขตพระนครกาญจน์จะไม่ปลื้มเลยที่ต้องเอารถไปใหนรถจะติดใหนจะต้องไปวนหาที่จอดรถ ใหนจะพวกมาเฟียเจ้าถิ่นอีก โอ้ย ปวดตับ กายจน์บอกแฟนว่าเดี๋ยวเอารถไปจอดบ้านป้าแฟนที่ท่าน้ำนนท์นะเดี๋ยวเราไปรดน้ำ ป้าและลุงของแฟนก่อนแล้วเดี๋ยวนั่งเรือไปกัน ไปถึงบ่าย ๆอยู่จนถึงค่ำ ๆ จะได้ ทั้ง 2 บรรยากาศ ตอนแรกแฟนก็อืมออเห็นดีด้วย แต่สุดท้ายแล้วแฟนบอกว่าเดี่ยวเอารถไปและกันวันนี้รถไม่ติดหรอกไปพระเมรุ ฯ ถ่ายรูป แป็ป ๆ เดี๋ยวก็กับเนอะ ๆ ค่อยมาบ้าน ป้า/ลุงเพราะมีหลายคนอยู่ที่บ้านตั้งวงอยู่ขืนเข้าไป ก็ออกมาไม่ได้ กาญจน์ได้ยินปื้ดเลยนี่ชั้นไม่ใช่ฝรั่งชาวต่างชาตินะ ไปถ่ายรูปแป็ป ๆ เดี๋ยวก็กลับหนูไปเพื่อไปซึมซับความงดงามแบบไทย ๆ แฟนมันคงงงแฟนตรูเป็นขนาดนี้เลยหรือว่ะอิอิความจงรักภักดีและความเป็นไทยเนี่ยกาญจน์ถือว่าเหมือนชุดชั้นในแบบว่ามีไว้แต่ไม่ต้องโชว์ กร้ากกกกกก แต่สุดท้ายก็ยอมแฟนนะ

แล้วจริง ๆ ด้วย ถนนโล่งมาก ๆ จนต้องถ่ายรูแก็บไว้นี่ถนนบรมราชชนนี นะเนี่ย อ้ออันนี้ถ่ายตอนขากลับนะ ประมาณ 4 โมงเย็นนะ


ว้าว เขียนBLOGแบบใหม่ไฉไลมาก ๆ ตอนแรกที่ว่าตัวหนังสือใหญ่ ๆเจ๋งแล้วนะ เนี่ยลงรูปก็เห็นรูปเลย ปลื้ม

มาต่อ ถนนโล่งจนทำให้โล่งอกโล่งใจแล้วแต่เรื่องที่จอดรถก็มีปัญหาอีกแหละเข้ากรุงเทพ ฯ ที่ต้องวนหาที่จอดรถจนเหนื่อย กว่าจะได้ก็อาจจะไกลโขต้องเดินกันขาลาก แต่ครานี้พอเลี้ยวรถไปป้าป ในซอย...ไม่รู้จักชื่อนะแต่รู้ว่าด้านขาวมือเป็นศาลหลักเมืองกรุงเทพ ด้านซ้ายมือเป็นกระทรวงกระลาโหมมีรถ 1 คันออกพอดี ว้าให้มันได้แบบนี้สิ คนมันตั้งใจจะมาแสดงความจงรักภักดีต่อเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ไง ผลดีเลยตอบมา อิอิ

เจอแล้วมาเฟียเจ้าถิ่นครานี้กาญจน์ขอเรียกว่า "มาเฟียดอกไม้สด" มาเฟียพวกนี้เมื่อก่อนเจอมาก็จะมาโบกรถให้อย่างดีถนนบุพพการีแม่งก็ไม่ได้มาสร้าง ดันมาเรียกเก็บค่าจอด ไม่ให้มีทำร้ายรถอีก นั่นอดีตที่เคยเจอ

ตอนเลี้ยวรถเข้าไปก็เห็นพวกคนถือดอกไม้ธูปเทียนมากมาย แต่...เห็นเค้าเอาดอกไม้วางหัวทิ่มไว้กับพื้นถนน(พอดีว่าถ่ายรูปไว้ไม่ทัน) คนเหล่านี้แหละมาโบกรถให้ในใจก็คิดแล้วว่าบริการดีอย่างนี้ก็คงต้องให้ตังค์ ซัก 50บาทเป็นแน่แท้ อะยอมๆ กันไปไม่อยากอารมณ์เสีย  ปกติแล้วกาญจน์จะ แต่งหน้าในรถก่อนถึงที่หมาย แล้วครั้งนี้ถนนมันโล่งไงแป็บเดียวก็ถึงและยังไม่ได้เขียนคิ้วเลย พอแฟนจอดรถเสร็จสรรพ กาญจน์ก็บอกว่าขอเขียนคิ้วก่อนนะเปิดท้ายรถให้ด้วยจะเอากระเป๋าถือไปเก็บท้ายรถ แฟนก็เปิดประตูรถไปพวกคนขายดอกไม้ก็มาเลย 2 คน ดอกไม่ธูปเทียนคับ ไหว้ศาลหลักเมืองชุดละ20บาท กาญจน์เอ๊ะในใจ(ตายังอยู่ที่กระจกเขียนคิ้วอยู่) คราวนี้มาดีวุ้ยให้ซื้อดอกไม้ไหว้พระชุดละ 20 บาทเอง สงสัยเจ้าหน้าที่ กทม.เค้าจัดระเบียบพวกมาเฟียแล้วที่ใหนได้ มันบอกต้อง 3 ชุดไหว้ 3ที่ (กาญจน์นึกในใจอะยังดี 60 บาท)พอลงไปจากรถเก็บกระเป๋าเท่านั้นแหละ แฟนบอกจ่ายตังเค้าหน่อยกาญจน์ถามว่าเท่าไหร่ เค้าบอก 240 บาท กาญจน์ถามว่าอะไรนะ เค้าบอกว่าดอกไม้คนละ 30 ชุด ทองคำเปลวอีก 3ชุด ก็คนละ 120 สองคนก็240กาญจน์มองไม่เห็นทองคำเปลวเพราะเค้าเอามายัดใส่กระเป๋าเสื้อแฟน กาญจน์เลยบอกว่าเอาคนเดียวก็พอหนูเป็นอิสลาม(มุขขำ ๆ ที่ใช้เล่นเวลาที่เพื่อนร่วมงานมาแจกซองผ้าป่า)จะมาดูพระเมรุ ลุงคนขายดอกไม้ยอมแล้ว แถมบอกว่าไปดูพระเมรุมีร่มมาหรือเปล่าร้อนมากนะ(กาญจน์รู้สึกชื่นชมในจุดนี้ถือว่า คนไทยน้ำใจงาม) แต่คนที่ขายทองคำเปลวดิ ไม่ยอมหยุด ยัดทองคำเปลวใส่กระเป๋าเสื้อแฟนอีกชุดแล้วดึงดอกไม้จากลุงมาใส่มือแฟน พร้อมกับบอกว่าไหว้คี่ไม่ได้ต้องไหว้คู่ อะเอากะเค้าหัวไวเชียะ แอบถ่ายรูปไว้ทันคนที่ใส่เสื้อน้ำเงินนะแหละที่ขายทองคำเปลว ลุงคนขายดอกไม้หายไปและ


 กาญจน์กับแฟนเดินออกมาเซ็งเลยกะว่าจะเสียแค่ค่าจอดรถประมาณ 50 บาทที่ใหนได้โดนหนักกว่าอีกดีนะที่ไหวตัวทันบอกว่าเป็นอิสลาม 55555

ครอบครัวนี้สิมากันตั้ง 4-5 คนคงโดนอาน หรือคนกรุงเทพเค้าชิน


 ที่จริงแล้วเข้าไปที่ศาลหลักเมืองเค้าก็ไม่ได้ให้ไหว้ธูปเทียน ดอกไม้สดหรือปิดทองนะเค้าให้ปิดที่องค์จำลอง ต้องเดินไป 4-5 จุด ร้อนง่ะ แล้วอีกอย่างคนมาเยอะนะจะมีพนักงาน เก็บกวาดธูปเทียนดอกไม้ด้วยแค่ปักเทียน ธูปไปถึงกระถางยังไม่ทันก้มลงกราบเลยเค้าก็มาเก็บแล้ว แถมดอกไม้ก็ซื้อจากข้างนอกเงินก็ไม่ได้บำรุงวัด/วังอะไร ถ้าเราไม่ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นกาญจน์ว่าพนมมือไหว้แล้วเงินทำบุญที่กล่องรับบริจาคจะสบายใจกว่า กาญจน์ขี้เกียจเดินหลายที่ เลยเหลือทองทำเปลวอยู่ 3 ชุด เลยบอกแฟนว่าพอเถอะเดี๋ยวทองคำเปลวเอาไว้ไปทำมาร์คหน้ากัน แฟนขำ


 ภาพจิตกรรมฝาฝนังของชอบของกาญจน์ต้องซักรูป


 ประตูลงรักปิดทองว้าว ๆ กาญจน์ชอบสิงโตแหละ แต่...ชอบผู้ชายที่นั่งข้างประตูมากกว่า ไม่หล่อแต่น่ารักโครต


แล้วที่ดีใจอีกอย่างคือปีนี้ไม่ค่อยเห็นคนที่ นุ่งสั้นสายเดี่ยวเท่าที่ผ่านมาปลื้มนะ กาญจน์ก็ไม่ได้ป้าจนขนาดว่ารับไม่ได้กับการแต่งตัวของคนสวยๆ สมัยนี้ (ไม่ใช่เฉพาะวัยรุ่นนะ พวกป้า ๆ เนี่ยแหละตัวดีบางคนแต่งซะ ไม่ดูสังขาร)แต่ขอให้เหมาะสมกับสถานที่ เวลา และโอกาส เข้าวัด/วังก็ควรจะคารพสถานที่ หน่อยกาญจน์ว่ามันดูดีกว่าถ้าคุณเป็นคนสวย ที่แต่งตัวเหมาะสม ถึงคุณจะไม่ได้อวดขาขาว ๆ นมอึ๋ม ๆแต่ความงามของคุณมันทะลุเสื้อผ้าออกมาได้ จริง ๆ นะ

รูปนี้ที่จริงกะถ่ายแฟนแต่พอดีกับที่แฟนไปยืนข้างคนสวย อย่างที่เห็นในรูป


น้ำมนต์ไม่ได้เอาอะไรไปใส่ กับมาฝากคนที่บ้านง่ะ


เค้ามีละครให้ดูด้วยที่จริงอยากดูต่อจนจบเพราะอยากรุ้ว่าเป็นยังไง แตกต่างจากลิเกมากมั้ย แต่ต้องรีบไปดำหัวลุงป้า แฟนไงเลยไม่ได้ดูอยู่ต่อ เค้าไม่ได้เครื่องเสียงนะ ร้องปากป่าวเลย นางเอกก็รุ่นป้าแล้วไม่รู้ว่าหากหมดรุ่นนี้ไปจะมีใครมาสานต่อป่าว


เดินข้ามถนนไปพระเมรุภาพแรกก็ประทับใจเลย ต้นมะขาม สวยดีเนอะ แฟนกาญจน์เค้าเคยอยู่ในวังวนแถวนี้ ตามที่เค้าบอกคือเคยมาขายของตามงานต่าง ๆ ง่ะนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงเปล่า กาญจน์ชอบแซวเค้าเรื่องผีขนุน ผีมะขาม เพิ่งเคยมาเห็นของจริงเค้าปลูกไว้สวยง่ะ

 มาถึงส่วนแรกที่เป็นสวน แดดก็แร้งแรง แต่ดูดอกไม้ไม่เหี่ยวเลยเนอะ กาญจน์ไปถึงประมาณ บ่าย  โมงกว่า ๆ นะค่ะ แดดกำลังร้อนได้ที่เล้ย


เข้าไปที่จุดอำนวยการเค้าแจกแผ่นพับพระราชประวัติ และแผ่นสัตว์หิมพานต์ประดับพระเมรุ นะค่ะ


 แล้วก็เป็นโชคดีมาก ๆ ของกายจน์อีกอย่างที่ ตอนที่ไปถึงกองอำนวยการเค้าบอกว่าเดี๋ยวบ่าย 2 โมงเค้าจะมาคนนำเราชม พระเมรุ และอาคารประกอบดีใจมากเลย ถึงแม้ว่าจะศึกษาขอมูลมาบ้างว่า ตรงใหนคืออะไร แต่มันก็ไม่เหมือนกับมีผู้เชียวชาญมาบอกให้ฟัง ลำฟังเดิน ๆ ดู ๆ เอาก็ไม่รู้เรื่องอะไร


 วิทยากรที่นำชม ออกตัวก่อนเลยว่า ไม่ได้เป็นไกด์อาชีพ แต่เค้าคือวิศวกร ที่มาก็มาช่วย น่ารักมากเลย เพราะเค้าพูดไม่เก่งอย่างว่าแหละ มีทีมงานหลายคน แต่ละคนก็จะแนะนำในเรื่องที่ตัวเองได้รับผิดชอบ พูดผิด ๆ ถูก ๆ แต่ก็น่ารักดีค่ะ ที่เสียสละ อืมที่จริงเค้ามีบรรยายวันละ 4 รอบแต่จำไม่ได้ว่าตอนกี่โมงบ้าง

จุดแรกที่พาชมเป็นด้านหน้า ไปถึงกาญจน์ก็ตื่นเต้นมากเลยเพราะได้เห็น ลิฟที่ ในหลวง ทรงประทับในช่วงประกอบพิธี (ไม่รู้ว่าจะใช้ศัพท์ถูกหรือเปล่า) ถึงเค้าจะกั้นรั้ว แต่ก้ไม่ห่างมาก รู้สึกว่า เนี่ยในหลวงทรงเคยประทับ เราได้มาอยู่ใกล้มาก ๆ ปลื้ม ๆ ๆ ๆ



 ทุกสิ่งอย่างล้วนมีที่มาและความหมาย ดวงไฟ วิทยากรบอกว่า ทำเป็นรูปไข่แทน เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ด้านบนเป็นรูปมงกุฎ แทน  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว






Create Date : 19 เมษายน 2555
Last Update : 19 เมษายน 2555 14:25:09 น.
Counter : 2036 Pageviews.

1 comments
  
สวยมากเลย
โดย: ... IP: 183.89.71.250 วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:10:31:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมูหวานน้อย
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เกมส์ เกม