เจอหน้าลูกครั้งแรก
อดเปรี้ยวหวาน มันเค็มไว้ ไม่เกื่ยวข้อง ถึงแพ้ท้อง ต้องอาเจียร จนเวียนหัว เฝ้าถนอม ยอมทุกทาง อย่างเตรียมตัว เพื่อทูนหัว "เลือดก้อนน้อย" แก้วกลอยใจ ครบเก้าเดือน เจ็บเตือน เหมือนกายแตก ปวดร้าวแทรก เจ็บยิ่ง กว่าสิ่งไหน พอเจ้าคลอด รอดกาย เจ็บหายไป ลูกปลอดภัย ไม่อ่อนแอ แค่นั้นพอ. คลอดวันที่ : 27 กันยายน 2555 เวลา 03.42 (คืนวันพุธ - เช้าวันพฤหัส) สรุปถ้าตั้งชื่อตามโหรไทย (ก็ต้องยึดหลักพุธกลางคืน) วิธีคลอด : คลอดแบบธรรมชาติ(เบ่งหน้าตั้งเลย) น้ำหนักตัว : 3,640 กรัม ความยาว 51 ซม. บรรยากาศการมาคลอด ตอนเย็นวันที่ 27 กันยายน 55 ไปหาหมอที่คลินิคเพื่อให้หมอเช็คปากมดลูกว่าเปิดกี่เซนเพื่อจะได้รู้วันคลอดที่ใกล้เคียงที่สุด(แม่จะได้ลางานถูก) พอไปถึงคุณหมอบอกว่าปากมดลูกเปิด 2 ซม.แล้ว ให้ Ad-mit ได้เลย โอยๆๆ ตื่นเต้นเป็นที่สุด ก็แค่จะไปหาหมอไม่คิดว่าจะคลอดคืนนี้แล้วหรือนี่ ขนาดแม่ทำใจมาตั้ง 9 เดือน แล้วนะพอใกล้ถึงทำไมมันยังตื่นเต้นอยู่หล่ะ มีความรู้สึกว่ามือเย็นตัวเบาๆ ยังไงไม่รู้ โอเค มาถึงขนาดนี้แล้วแม่ก็ขอคุณหมอกลับไปบ้านเพื่อไปเก็บเสื้อผ้า อาบน้ำ (และที่สำคัญหมอให้กินข้าวมาให้เรียบร้อยเลย) ขนาดตื่นเต้นนะเนี่ย แม่กินบะหมี่เกี๊ยวแห้งไป 2 ชาม หมดเกลี้ยง) กลับถึงบ้านคุณยาย,คุณยายทวด พอรู้ว่าแม่จะต้องไปคลอดคืนนี้ ตื่นเต้นกันใหญ่(ตื่นเต้นกว่าแม่เสียอีก) ก่อนออกจากบ้านแม่ก็ได้จุดธูปบอกคุณพระคุณเจ้าในบ้าน "ขอให้การคลอดครั้งนี้ไม่มีอุปสรรค,มีแต่ความราบรื่น,แคล้วคลาดปลอดภัยทั้งตัวแม่และลูกที่กำลังจะเกิดมา" (เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ)แม้เกิดมาเป็นหญิง อาจไม่ได้ไปเป็นทหารกอบกู้บ้านเมือง แต่ลูกผู้หญิงเราเวลาไปคลอดลูกก็อย่างกะไปออกรบเหมือนกันต้องใช้ขวัญและกำลังใจ ไม่มีใครเป็นกำลังใจที่ดีได้เท่าตัวเราเองเพราะยังไงเราก็ต้องเป็นคนเบ่งลูกออกมาเอง พอไปถึงโรงพยาบาล เวลา 20.00 น. (2 ทุ่ม) :- 1.คุณหมอให้เปลี่ยนชุด 2.รอทำความสะอาด-ให้ยาสวนเพื่อจะได้ขับถ่ายให้เรียบร้อย 3.ไปนอนรอที่ห้องรอคลอด(คืนนั้นนอนรออยู่คนเดียว) (ยังไม่มีอาการปวดท้องใดๆทั้งสิ้น) เวลา 22.10 น. (สี่ทุ่ม) นอนใกล้จะหลับแล้วก็ได้ยินเสียงโบ๊ะ(ดังจนตกใจ)แล้วก็มีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดแบบเยอะมาก แม่รู้แล้วอาการนี้เรียกว่าน้ำเดินแล้ว แสดงว่าก็ใกล้คลอดแล้วซินะ ในห้องไม่มีพยาบาลอยู่เลยซักคน แม่ก็ค่อยๆ ลงจากเตียงแล้วเดินไปหน้าห้องเพื่อดูว่ามีใครอยู่บ้างแม่ก็เห็นพยาบาลนั่งอยู่คนหนึ่ง แล้วก็เลยแจ้งพยาบาลว่าน้ำเดินแล้วผ้าถุงที่ใส่เปียกหมดเลย ขอเปลี่ยนผ้าถุงใหม่แล้วก็ไปเปลี่ยนผ้าปูเตียงให้ใหม่ด้วย (จะคลอดอยู่แล้วยังแอบกลัวเลอะอยู่อีกนะเราเนี่ยะ) แล้วพยาบาลก็มาจัดการตามที่ขอทุกอย่าง(น่ารักเป็นที่สุด) เวลา 22.30 แม่รู้สึกว่าเริ่มปวดท้องน้อย(เหมือนปวดประจำเดือนแบบปวดเป็น2เท่า) มันจะปวดทุกๆ 20 นาที จะร้องก็ไม่กล้าร้องด้วยเหตุผลที่ก่อนจะมาคลอดคุณยายๆๆ พี่ ป้า น้า อา ทั้งหลาย ถ้าปวดอย่าร้องโวยวายนะเดี๋ยวจะโดนดุเอา แม่ก็กลั้นใจสุดฤทธิ์ไม่ร้องซักแอ่ะ แต่มือเนี่ยซิจิกไปที่หมอน,ผ้าปูเตียงกันเลยที่เดียว,ท่องคาคากันแล้วตอนนี้ เวลา 24.00 (เที่ยงคืน) "ปวดมาก" แต่คงยังต้องทนให้ได้ต่อไป เวลาที่มันปวดก็ลดระยะห่างลงเรื่อยๆ ปวดทุก15 นาทีแล้วตอนนี้ ทุก 10 นาที แล้วมันก็เหลือแค่ทุก 5 นาที ตอนนี้ท่องคาถาไหนก็เอาไม่อยู่แล้วแม่ถึงกับเรียกพยาบาลแล้ว ตอนนี้ว่าทำใมมันปวดมากๆ พยาบาลก็มาดูปากมดลูกให้ว่าเปิดเยอะหรือยังตอนนี้เวลาประมาณ 12.30 (เที่ยงคืนครึ่ง)ปากมดลูกเปิด 5 ซ.ม.ซึ่งยังคลอดตอนนี้ไม่ได้มันต้องรอให้ถึง 10 ซ.ม. แม่ฟังดังนั้นโอ้ยต้องรออีก 5 ซม.หรือแค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว แม่มองแต่นาฬิกาตลอดๆ เวลา 02.40 นาที (ตีสองสี่สิบ) แม่เริ่มทนไม่ไหวแล้วพยาบาลมาดูปากมดลูกกันอีกรอบแล้วเค้าก็ตะโกนกันแล้วทีนี้ "โทรตามหมอเลย" "เอาเตียงมาย้ายคนไข้ได้แล้ว" "เตียงเตรียมคลอดเลย" พอแม่ได้ยินอย่างนั้นมันหายปวดไปเลย คือว่าบรรยากาศในนั้น ขณะนั้นพยาบาล,นักเรียนพยาบาลมันเต็มห้องกันไปหมด แล้วเค้าก็เตรียมอุปกรณ์โน่น นี่ นั่น ชุลมุนน่าสนุกดีแม่เลยลืมปวดไปเลย เวลา 03.30 นาที (ตีสามครึ่ง) แม่เห็นคุณหมอไปนั่งรอลูกอยู่ตรงปลายเตียง แต่คนที่ช่วยเรื่องการเบ่งคลอดเป็นผู้ช่วยคุณหมอ 2 คน และนักเรียนพยาบาลที่น่ารักอีก 4 คน ทุกคนให้แม่หายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกแบบสุดๆ โดยไม่ต้องอ้าปาก เค้าบอกว่าให้เบ่งเหมือนเบ่ง "อึ" ตอนนั้นแม่ก็งงมาก ก็จะคลอดไม่เบ่งตรงช่องคลอดเหรอ เบ่งอยู่ 4 ที ก็ยังไม่ออก จนผู้ช่วยบอกว่าคลอดเองไม่ได้แล้วมั้ง พอสิ้นเสียงผู้ช่วยคนนั้น มันเหมือนมีอะไรจุกๆ อยู่ตรงช่องคลอดแล้วแม่ก็เลยตะโกนบอกหมอว่า "จะเบ่งแล้วนะ" แล้วแม่ก็เบ่งพลวดเดียวออกมาเลย เพิ่งมารู้ตอนหลังว่านั่นคืนที่เรียกว่า "มีลมเบ่งนั่นเอง" เวลา 03.42 นาที (ตีสามสี่สิบสอง) : พญาบาลท่านหนึ่งก็ได้เอาหนูมาวางไว้บนอกแม่ แล้วให้แม่หอมแก้มหนู (จมูกแม่เลอะเลือดเต็มไปหมด) คิดเอาไว้ว่ามันจะเหมือนในหนังหรือเปล่าน้อ ว่าจะต้องปลื้มปิติจนน้ำตาไหล "แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เลย" ไม่มีน้ำตาซักกะหยด คือในขณะนั้นมันแบบว่าทุกอย่างมันดูเร็ว ฉับไว เป็นขั้นเป็นตอนแม่เห็นหน้าหนูยังไม่ชัดเท่าไหร่เลยพยาบาลเค้าก็รีบอุ้มหนูไปทำความสะอาดแล้วอ่ะ บทสนทนาของพยาบาลและนักเรียนพยาบาล "ในห้องคลอด" สนุกสนานมาก แม่ : คุณหมอครบถ้วนไม่ขาด ไม่เกินนะคะ พยาบาล คนที่ 1 : ทุกอย่างโอเค ครบถ้วนสมบูรณ์ค่ะคุณแม่ พยาบาล คนที่ 2 : โตขึ้นเป็นนักร้องแน่ "น้องร้องเสียงดังชัดเจนดีค่ะคุณแม่" นักเรียนพยาบาล : ขาวอวบจ้ำม้ำเลยค่ะ หน้ากลมเหมือนคุณแม่เลย แม่ : ตกลงชมไช่ไหมคะ "หน้ากลมเนี่ยะ" "หัวเราะกันทั้งห้อง" ไม่ต้องถามเรื่องความเจ็บปวด คุณหมอกรีดตรงไหน เย็บแผลตอนไหนแม่ไม่รู้เรื่องเลย คุยกันอย่างเดียว ปล.ขอขอบคุณน้องนักเรียนพยาบาลกลุ่มนี้ น่ารักและเป็นกันเอง ทำให้แม่ที่กำลังจะคลอดลืมความเจ็บปวดไปเลยจ้า ***************************************
Create Date : 06 กรกฎาคม 2556 |
|
4 comments |
Last Update : 20 กรกฎาคม 2556 14:55:56 น. |
Counter : 1092 Pageviews. |
|
|
|
น้ำทะเลสวยมากๆค่ะ เงียบสงบ ที่พักติดทะเล เดินลงหาดทรายได้เลยค่ะ
อ้อมกับแฟนเห็นตรงกันว่า ถ้าอยากพักผ่อน ต้องที่นี่ที่เดียวเลยค่ะ
เงียบสงบ ผ่อนคลายมากๆค่ะ
ยังไงขอให้คุณแม่คุณลูกแข็งแรงๆนะคะ