เคยคิดว่าจะพิมพ์นามบัตรค่ะกระดาษเล็ก ๆ ข้อความสั้น ๆ ที่บอกให้คนรับไปรู้ว่าเราเป็นใคร ทำอะไร ติดต่อได้ที่ไหนแต่รู้สึกอึกอักในใจเมื่อคิดถึงว่าเราจำเป็นต้องใส่ตำแหน่งงานของเราไหมถ้าเราทำนามบัตรเพื่อใช้ในการติดต่องาน สิ่งนี้คงจำเป็นแต่ตอบตัวเองไม่ได้เลยว่างานที่ทำอยู่นี้มันคือ "อาชีพ" อะไรทบทวนไปมาแล้วก็นึกขำตัวเองหลายอย่างในชีวิตเรามักยึดติดกับกรอบหรือนิยามที่คนอื่น ๆ ใช้อยู่ที่สังคม (อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้) ประทับตรารับประกันว่า (สำเนา) ถูกต้อง!รู้ตัวว่าตนเองไม่สามารถจัดสถานะตนเองอยู่ในตรงไหนที่มัน "ถูกต้อง" ในนิยามที่มี หรืยอมรับกันโดยพื้นฐานว่า "ใช่" แม้วันมันแสนจะใกล้เคียง...ก็เลยคิดว่าจะพิมพ์อาชีพและตำแหน่งงานสั้น ๆ ให้ตัวเองว่า "นักเขียนอิสระ"แต่แล้วก็อดคิดต่อไปไม่ได้ว่า คนที่เราติดต่อด้วยเขาจะหัวเราะขำแค่ไหนคำว่า "อิสระ" ในวงการงานที่ทำก็พอจะรู้กันอยู่ว่าไม่มีสังกัด (และตามด้วยความไม่แน่นอนของงานและเงิน อิ อิ) แต่เขาไม่ได้อยากได้ "นักเขียน" ในความหมายที่เราใช้อยู่ในวงการของเขาพอมามองในมุม "นักเขียน" คนในวงการหนังสือก็คงหัวเราะเพราะรู้ว่างานที่เราทำมันไม่ใช่และคำว่า "อิสระ" ของนักเขียนคงมีอะไรมากมายกว่าการไม่มีสังกัดนักเขียนอิสระจริง ๆ คืออะไร คงเป็นคำถามที่ต้องใคร่ครวญแลกเปลี่ยนกันอีกยาวนาน เพราะทั้งคำว่านักเขียนและคำว่าอิสระมีความหมายที่ลึกซึ้งและยากที่จะสรุปสั้น ๆ ลงตรงไหนสักแห่งนึกทบทวนไปมาก็ลบคำว่า "นักเขียนอิสระ" ออกจากร่างนามบัตรพร้อม ๆ กับชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์....ไม่มีความจำเป็นใด ๆ เลยที่จะตีกรอบตัวเองลงในกระดาษแผ่นเล็ก ๆการได้เขียนชื่อและที่อยู่ตัวเองด้วยลายมือในกระดาษโน้ตหรือในสมุดของคนที่ติดต่อด้วยมีความหมายและบอกอะไรได้มากกว่านั้นเพราะได้ทั้งเขียน และ อิสระ ในรูปแบบที่เขียน แม้ว่าบางครั้งไม่ค่อยสวยงามเท่าที่ควรก็ตาม
"ใบไม้ร่วง""ใบไม้ร่วงควงคว้างลาห่างขั้ว...."
นามบัตรใครๆ ก็มีได้ แต่ลายมือของเราสิ หาได้ยากกว่า จะให้ใครต้องเป็นเราเท่านั้นที่เขียนให้ ดูมีความหมายมีคุณค่าด้วยนะคะ
...
"เขียนแบบนี้มีตอนต่อจากฟ้าผ่าเปรี้ยงในความมืด
หรือเปล่า"
มีค่ะ...มีแต่เสียงกรี๊ดจนแสบแก้วหูไปหมดเลย