a P p L e
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
4 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
ฝึกความยืดหยุ่นแบบ Body Balance

ฝึกความยืดหยุ่นแบบ Body Balance

บังเอิญได้อ่านพบใน website และตัวเองก็เล่นอยู่แล้ว อันนี้เขาได้ข้อมูลมาจาก Fitness Oasis ส่วนผมเล่นอยู่ที่ fitnessfirst หลักการจริง ๆ ก็อันเดียวกัน เพราะได้ลิขสิทธิ์จากแหล่งเดียวกัน เลยเอามาให้อ่านกัน
ในคอลัมน์ Fitness Files ฉบับนี้ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการยืดกล้ามเนื้อ (stretching) ก่อนและหลังการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อและลดการบาดเจ็บอันอาจจะเกิดขึ้นระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมากๆ และหนึ่งในวิธีการออกกำลังกายที่มีส่วนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ได้แก่ บอดี้บาลานซ์ (BODYBALANCE)
บางคนอาจจะคุ้นเคยกับ บอดี้บาลานซ์ กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะแฟนขาประจำของคลาสออกกำลังกายเป็นกลุ่มตามสถานออกกำลังกาย (fitness center) บางแห่งที่เปิดสอน หรือบางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ เพียงแต่ยังไม่เคยทดลองเล่นดูจริงๆ ว่ามันคืออะไร วิธีการอย่างไร เล่นแล้วจะสนุกหรือดีกับร่างกายอย่างไร

ท่าออกกำลังกายระดับแบรนด์เนม
บอดี้บาลานซ์ (BODYBALANCE®) เป็นชื่อของชุดท่าออกกำลังกาย สร้างสรรค์และจดลิขสิทธิ์โดย Les Mills สโมสรออกกำลังกายจากนิวซีแลนด์ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการออกแบบสร้างสรรค์ท่าออกกำลังกายแบบกลุ่ม ที่นำเอาเสียงเพลงเข้ามาช่วยเพิ่มสีสันให้กับจังหวะเคลื่อนไหว จนได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ในประเทศไทยเองก็มีสถานออกกำลังกาย (finess club) หลายแห่งที่ซื้อลิขสิทธิ์บอดี้บาลานซ์ รวมทั้งชุดท่าออกกำลังกายแบบอื่นๆ อีก เช่น บอดี้คอมแบท (BODYCOMBAT) บอดี้ปั๊มพ์ (BODYPUMP) ฯลฯ ของ Les Mills มาเปิดสอนให้กับคนทั่วไป แต่ละแบบก็มีจุดเด่นและวัตถุประสงค์ของการออกกำลังกายแตกต่างกัน

ศาสตร์โบราณในเสื้อตัวใหม่
สำหรับบอดี้บาลานซ์นั้นจะมุ่งเน้นที่การให้ผู้เล่นได้บริหารร่างกายไปพร้อมๆ กับจิตใจ ผ่อนคลายความเครียด ฟังอย่างนี้คุณคงคุ้นๆ ว่าคล้ายกับหลักการของวิธีการออกกำลังกายบางอย่างที่มีมาแต่ดั้งเดิม?!!... นั่นล่ะค่ะ ฟิลลิปและแจ็คกี้ มิลล์ (Phillip & Jackie Mills) สองสามีภรรยาผู้บริหาร Les Mills และทีมงานได้นำเอาท่าทางและหลักการของโยคะ (Yoga) ของอินเดีย ไทชิ (Tai-chi) ของจีน และพิลาตีส (Pilates) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความแตกต่างในรายละเอียด นำ 3 แบบนี้มาผสมผสานและเรียบเรียงขึ้นมาใหม่

แจ็คกี้ มิลส์ (Jackie Mills) ไม่เพียงแต่เป็นทั้งนักเต้น นักยิมนาสติก ครูฝึกแอโรบิค แต่ยังเป็นสูติแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ที่ทำงานรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลเวสต์โอ๊คแลนด์ ไปพร้อมๆ กับการช่วยฟิลลิป (Phillip Mills) ผู้เป็นสามีดูแลธุรกิจศูนย์ออกกำลังกาย งานของเธอจึงเกิดจากความสามารถทุกด้านที่มีมารวมกัน นอกจากนี้แจ็คกี้ยังสนใจในโยคะเป็นพิเศษ หลังจากเปิดสอนคลาสโยคะมานานจึงริเริ่มนำเอาโยคะมาประกอบกับเพลงเพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศใหม่ๆ จากนั้นจึงได้พัฒนานำเอาท่าทางจากเทคนิคอื่นมาใช้ด้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์กับร่างกายที่หลากหลายขึ้น อันเป็นจุดเริ่มต้นของบอดี้บาลานซ์เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วนั่นเอง
ท่าทางแต่ละท่าที่เลือกมาใช้ จะไม่ใช้ท่ายากซับซ้อน แต่เป็นท่าง่ายๆ ที่ใครก็น่าจะทำได้มาใช้ เพื่อให้คนทุกเพศ ทุกวัยสามารถมาร่วมเล่นกันได้อย่างเพลิดเพลินและปลอดภัย ทั้งนี้ได้ผ่านกระบวนการออกแบบตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วยประเมินว่า เมื่อจะทำท่าให้ได้ประโยชน์สูงสุดแล้ว ควรจะทำขนาดไหน เล่นอย่างไรก่อน-หลัง หรือจัดวางท่าขนาดไหนจึงจะปลอดภัย และได้ผลต่อร่างกายดีที่สุด แม้จะทำให้ต่างไปจากศาสตร์ดั้งเดิม ซึ่งใครที่เคยฝึกโยคะ ไทชิ หรือ พิลาตีส อย่างใดอย่างหนึ่งมาอาจไม่คุ้นเคย แต่เป้าหมายของบอดี้บาลานซ์คือเพื่อให้คนทั่วไปเล่นได้ และคนที่เคยเล่นเฉพาะอย่างก็จะได้ฝึกเพิ่มในจุดอื่นที่เขาอาจไม่เคยฝึกมาก่อน สิ่งสำคัญที่ทำให้บอดี้บาลานซ์แตกต่างจากวิธีออกกำลังกายแบบเดิมๆ ก็คือ การนำเพลงมาเป็นตัวช่วยกำหนดจังหวะ ท่าทาง และอารมณ์การเล่น ส่งผลให้ผู้เล่นคล้อยตามเพลงและทำแต่ละท่าได้อย่างต่อเนื่องสวยงาม

11 เพลงเรียงร้อย ให้บริหารทุกส่วนใน 1 ชั่วโมง
การเล่นบอดี้บาลานซ์แต่ละครั้ง ครูฝึกมักจะเป็นผู้นำให้คนในคลาสเคลื่อนไหวร่างกายตามท่าทางที่กำหนดมาแล้วประกอบเพลงประมาณ 10-11 เพลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพลงร่วมสมัยต่างๆ ที่คุณอาจคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว มีการตัดต่อหรือกำหนดความยาวให้ลงตัวกับท่าที่ออกแบบมาให้เล่น รูปแบบ (style) ของเพลงจะเป็นตัวกำหนดบทบาทของกลุ่มท่า รวมทั้งสร้างอารมณ์ให้จิตใจและร่างกายทำงานประสานกัน ทั้งตื่นตัว เร่งเร้า ผ่อนคลาย ไปจนถึงสงบนิ่ง เพลงยังให้ความรู้สึกทันสมัย เป็นกันเอง ในเรื่องนี้คนที่เคยเล่นไทชิกับเพลงจีนโบราณมาก่อนคงจะรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน
ตลอด 1 ชั่วโมง ที่เรียกว่า 1 release นั้นท่าเล่นจะแบ่งออกเป็นกลุ่มท่าโยคะ พิลาตีส และไทชิ ท่าทางที่กำหนดให้ใช้ในแต่ละเพลงจะไม่ซ้ำกันตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการบริหารร่างกายแต่ละส่วน จำนวน 4-5 ท่าต่อเพลง สลับกันซ้าย-ขวา ไม่สามารถกระโดดข้ามขั้นหรือสลับลำดับได้

ตัวอย่าง เช่น
เพลงที่ 1 เป็นท่า Warm up อบอุ่นร่างกาย ด้วยท่าไทชิ
เพลงที่ 2 Sun salutation (ท่าไหว้พระอาทิตย์) ที่ใครเคยเล่นโยคะคงคุ้นเคยกันดี
เพลงที่ 3 Standing strength การสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อต้นขา
เพลงที่ 4 Balance ท่าฝึกการทรงตัว
เพลงที่ 5 Hip opener ฝึกความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกหรือต้นขาด้านใน
เพลงที่ 6 Abdominal การนำท่าเล่นจากพิลาตีสมาใช้บริหารช่วงท้อง
เพลงที่ 7 Core back หรือท่าฝึกกล้ามเนื้อหลัง
เพลงที่ 8 Twist ยืดลำตัวด้านข้าง หน้าอก และหัวไหล่
เพลงที่ 9Hamstring stretch จะเน้นการยืดต้นขาด้านหลัง เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
เพลงที่ 10 Relaxation เป็นขั้นตอนของการผ่อนคลาย โดยอาจจะให้ทำท่าศพอาสนะของโยคะ หรือนอนนิ่งๆ เพื่อให้ร่างกายทุกส่วนได้ผ่อนคลาย
เพลงที่ 11 การ Recover ค่อยๆ ดึงพลังความรู้สึกกลับมาสู่ภาวะปัจจุบันหลังจากการพักนิ่งๆ

ทั้ง 11 เพลงจะถือว่าเป็น 1 เซ็ต ผู้เล่นก็จะเล่นตามท่าต่างๆ ในเซ็ตเหมือนกันทุกครั้ง และจะมีการเปลี่ยนเพลงเซ็ตใหม่ทุกๆ 3 เดือน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนรายละเอียดท่าไปบ้าง แต่จะยังคงประโยชน์ครบถ้วนเหมือนเดิม

ได้ประโยชน์แบบองค์รวมทั้งกายและใจ
อย่างที่บอกว่าบอดี้บาลานซ์ได้นำประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบดั้งเดิม ทั้ง 3 ชนิดมาผสานกัน ซึ่งต่างก็เน้นเรื่องการสร้างสมาธิ และการเคลื่อนไหวให้ร่างกายสัมพันธ์กับจิตใจแทบทั้งสิ้น ท่าเคลื่อนไหวที่ต้องเปลี่ยนไปเรื่อย เล่นต่อเนื่องไม่มีหยุดตลอด 1 ชั่วโมงทำให้คนเล่นจะมีสติจดจ่ออยู่กับท่าอยู่ตลอดเวลา ได้ฝึกการกำหนดลมหายใจอย่างถูกต้องตามหลักพื้นฐานของโยคะ จึงช่วยได้มากในเรื่องการผ่อนคลายความเมื่อยล้า ฝึกความอดทน ส่วนทางกายก็แน่นอนว่าจะได้ยืดเส้นยืดสาย สร้างความอ่อนตัว ยืดหยุ่น ความสมดุล ฝึกการทรงตัว และความแข็งแรงคงทนให้กับกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกาย ได้บริหารกล้ามเนื้อหัวใจจากการที่ต้องค้างท่าแต่ละท่าเป็นเวลานานอันจะทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดเหมือนเวลาเราออกกำลังกาย ขณะที่ท่าจากพิลาตีสจะเป็นการฝึกความแข็งแรงให้กับบริเวณแกนกลางของลำตัวของเรา ได้แก่ กล้ามเนื้อด้านในที่ห่อหุ้มกระดูกสันหลัง ทำให้กระดูกสันหลังตั้งตรงอยู่ได้ ซึ่งจะช่วยปรับบุคลิกภาพให้หลังตรง ยืดอกได้อย่างสง่าผ่าเผยด้วย ที่สำคัญยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ที่เราไม่ค่อยได้ใช้งานอีกด้วย ส่วนท่าจากไทชิ นั้นใช้เพื่อบริหารความแข็งแรงเฉพาะส่วนและควบคุมท่าทางการเคลื่อนไหว รวมทั้งฝึกสมาธิและการประสานสอดคล้องกันระหว่างระบบประสาทและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังผสมผสานเทคนิคอื่นๆ เช่น บัลเล่ต์ เพื่อช่วยเพิ่มสีสันและความต่อเนื่องในการเล่นอีกด้วย ประโยชน์ที่ได้จากการฝึกกายให้สัมพันธ์กับใจ และมีสติ สมาธิ กับสิ่งที่ทำอยู่นั้น เราสามารถนำไปใช้ได้กับชีวิตประจำวันด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ช่วยให้ใจเย็น อารมณ์ดี มีความสุขอยู่กับปัจจุบัน ที่สำคัญ คือ ไม่เครียด!!

คลาสนี้...ใครๆ ก็เล่นได้
บอดี้บาลานซ์ เป็นคลาสที่เหมาะกับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ที่ร่างกายเป็นปกติ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องออกแรง หรือมีการกระแทก แม้แต่คุณผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ก็มีคลาสพิเศษที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับคนตั้งครรภ์โดยเฉพาะ สำหรับคุณผู้ชายน่าจะได้ประโยชน์มากในแง่การช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ ฝึกเสถียรภาพของร่างกาย และความแข็งแรง ส่วนคุณผู้หญิงนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว ก็จะได้ประโยชน์ในเรื่องความผ่อนคลาย ฝึกสมาธิ ทำให้ใจเย็น อยู่กับปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยได้มากกับการจัดการเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้เข้าที่เข้าทาง

ทุกวันนี้ คลาสบอดี้บาลานซ์ยังคงมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อสร้างสีสันให้กับการออกกำลังกายในยุคสมัยของการตลาดแบบสร้างตราสินค้ากำลังครองโลก เป็นทางเลือกให้กับเราๆ ท่านๆ ได้สนุกเพลิดเพลินกับการออกกำลังกายมากกว่าเก่า ไม่ใช่เพื่อใครอื่น แต่ก็เพื่อสุขภาพของเราทุกคนนั่นเองแหละค่ะ



Create Date : 04 มิถุนายน 2552
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 11:59:14 น. 3 comments
Counter : 4865 Pageviews.

 
รักนะ จุ๊บๆ
รักเธอเสมอมา

รักนะหอยสังข์ จุ๊บๆๆ


โดย: สาระแนจัง IP: 222.123.54.176 วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:9:12:36 น.  

 
ขอบคุณค่ะ กะลังฝึกเล่นที่ฟิตเนสอยู่พอดีเลย


โดย: เกียว IP: 58.8.91.58 วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:16:58 น.  

 
อยากทราบชื่อเพลงที่นำมาประกอบการเล่นโยคะ รบกวนด้วยค่ะ เพราะเคยไปเล่นที่สุด FF เพราะใจมาก แต่คนสอนไม่ยอมบอกว่าเป็นเพลงอะไร มันจะเป็นเพลงบรรเลงออกแนวอินเดียค่ะ


โดย: พัต IP: 27.55.167.252 วันที่: 20 ธันวาคม 2555 เวลา:21:20:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aPpLeCiDeRja
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add aPpLeCiDeRja's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.