**เนื้อหาในนี้คงไม่สามารถใช้อ้างอิงอะไรได้นะคะ เพราะเขียนจากฟีล ค่อนข้างกาวค่ะ **

------------------------------------------------------------

This time... Lucky in game, Lucky in love

(นิยายแปลจีน ชาย-ชาย 2 เล่มจบ)

::

ผู้แต่ง เยวี่ยซย่าเตี๋ยอิ่ง

ผู้แปล ซิ่วจิ่น

สำนักพิมพ์ everY

::

ไม่อยากอ่านรอบสองเลยค่ะ กลัวจะตกหลุมรักพี่มู่ซ้ำรักพี่มู่ซ้อน 

รักแล้วรักอีก รักวนไปค่ะ~~

รักภาพปกพอ ๆ กับที่รักพี่มู่ #กราบท่าน Eno

::

มี 10 ให้ 10 มี 100 ให้ 100 ค่ะ!

วายดีงามประจำปี 2016 จากพี่สาวที่แนะนำ อา เห็นปกนี่รีบสอยเลยค่ะ *หลง ลูบคลำโปสการ์ด* ชายหนุ่มสองคนหันหลังให้กัน ก้มหน้านิดหน่อย เหมือนต่างเดินไปคนละทาง ถือว่าปกตอบโจทย์มากค่ะ บอกอะไรได้มากมาย เกี่ยวกับการทำงาน ใช่ ชายที่ใส่ชุดดำมีฐานะ ใช่ ทั้งสองคนดูจะไม่มีทางมาเจอกันได้ ใช่ค่ะ.. ถ้าเป็นชาติที่แล้วนะ 5555555

เรื่องนี้เล่นประเด็นเกี่ยวกับภพชาติ กล่าวถึงชีวิตซวยบัดซบของลู่เฉิงหยูตั้งแต่เกิดจนตาย ชีวิตที่ลำบากน่ะไม่ท้อ แต่จะท้อเพราะความซวยนี่ล่ะ ชีวิตของลู่เฉิงหยูไม่เคยมีโชค ทำอะไรก็ติดขัด อุปสรรคขัดขวางไปซะหมด จนต้องเปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ ปากกัดตีนถีบไปวัน ๆ สุดท้ายชีวิตก็จบไป เป็นศพอยู่ข้างถนนบนกองอุปสรรคมันนั่นล่ะ -*-

ลู่เฉิงหยูตายไปแบบไม่รู้อะไร ตัวเองตายเพราะอะไรก็ยังไม่รู้ ตายทั้งที่ยังสู้ชีวิตอยู่แท้ ๆ จุดเริ่มต้นของความซวยของเขาอยู่ที่ไหน จากเด็กจบใหม่ไฟแรงอนาคตไกล ทำไมถึงมีจุดจบตรงนี้ได้ ทั้งหมดนี้เริ่มจากที่เขาสะบัดรักของเพื่อนสนิทรึเปล่า?...

ลู่เฉิงหยูตายไปแล้วย้อนกลับมาเกิดใหม่ ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ คือฮีตายไปแล้ว แต่ก็ฟื้นขึ้นมาย้อนกลับไปตอนที่ตัวเองอายุ 22 ที่เพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ เขาจำทุกอย่างในชาติที่แล้วของเขาได้ (ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าจะใช้คำว่า 'ชาติที่แล้ว' ได้รึเปล่านะคะ ในนิยายใช้คำนี้ ซึ่งทำให้เรางงพอควร เพราะตอนนี้ฮีก็กลับมาเกิดในชาติเดิมนั่นล่ะ เพื่อนเดิม สังคมเดิม แค่เลือกทางในชีวิตไม่เหมือนเดิม เหมือนฟื้นขึ้นมาเพื่อแก้ตัวใหม่ แล้วจะเรียกว่าชาติที่แล้วได้ยังไง?? เอาเป็นว่าชาติที่แล้วก็คือชาติที่ฮีตายแล้วกันนะคะ) ดังนั้นการกลับมาในครั้งนี้ มือซ้ายกำเทพแห่งโชคลาภ มือขวากำประสบการณ์ชีวิต...

ชอบประโยคนี้จังค่ะ 

ปกติไม่ค่อยโปรยปกหลังนะคะ แต่บรรทัดล่างของปกหลังดีจริม ๆ เพราะจำเรื่องราวในชาติที่แล้วได้ ทั้งสถานการณ์ของตัวเอง เหตุการณ์ของประเทศ อารมณ์เหมือนมีตาทิพย์ทำนายอนาคต นำหน้าไป 1 ก้าว สิ่งเหล่านี้ฮีได้จากประสบการณ์ชีวิต(จากชาติที่ตาย)ในมือขวาค่ะ ผสมกับหยิบจับอะไรก็ดวงดี ซื้อล็อตเตอรี่ยังถูกรางวัลที่ 1 อ่ะเอาอะไร กลายเป็นเศรษฐีน้อย อายุน้อยร้อยล้านมาก (เพิ่งคืนชีพมาใหม่ ๆ ยังไม่ได้งานทำด้วยซ้ำ) นี่เป็นโชคในมือขวาค่ะ ดังนั้นชีวิตใหม่(ในชาติเดิม)ของลู่เฉิงหยูก็ดี ดี๊ ดี ในระดับที่พุ่งสุดฉุดไม่อยู่เลยค่ะ!

/ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าต่อไปจะอวยพี่มู่มาก รักมาก ดังนั้นจุดด้อย จุดเลือน ความไร้เหตุผลของเรื่องจะถูกเบลอไปหมด เพราะเราจะตาบอดในความรักพี่มู่นะคะ โอเค้ ถถถถถถถถถถถ

การกลับมาของลู่เฉิงหยูในครั้งนี้มีจุดประสงค์ 2 เรื่องค่ะ เรื่องแรกคือแก้แค้นคนที่ทำชีวิตเขาพังในชาติที่ตายไปนั่นล่ะ ผู้ชายคนนั้นเกี่ยวพันกับบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ระดับประเทศชื่อว่าบริษัทหัวติ่ง มีตระกูลเอี๋ยนเป็นเจ้าของ ขณะที่ลู่เฉิงหยูคืนชีพนั้น บ.หัวติ่งกำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบากเพราะเป็นช่วงผลัดเปลี่ยนอำนาจ แต่เดิมบริษัทก็มีปัญหาคอร์รัปชันกันภายในอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเปลี่ยนเจ้าของเลยค่ะ ราคาหุ้นก็ดิ่ง นักลงทุนก็เทขาย มีแต่ลู่เฉิงหยูของเราคนเดียวที่รู้ว่าในอนาคต บ.หัวติ่งจะกลับมามั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน (สโลแกนคุ้น ๆ? คุ่ก คุ่ก คุ่ก) ได้เพราะทายาทคนนั้นเก่งชิบเป๋ง เขาเลยทุ่มเงิน(จากการถูกหวย)มาซื้อหุ้นของ บ.หัวติ่งเก็บไว้เล่น ๆ 3% เยอะนะคะ จุดประสงค์ของลู่เฉิงหยูคือต้องการตัดเส้นทางการเงินของศัตรูคนนั้น ในอนาคตหากศัตรูคนนั้นเข้ามามีบทบาทในฝ่ายบริหารของ บ.หัวติ่ง ลู่เฉิงหยูก็ยังมีหุ้นนี้ไว้งัดข้อค่ะ

พอจะมองเห็นภาพแนวทางชีวิต(ใหม่)ของลู่เฉินหยูแล้วใช่มั้ยคะ ^^ ในเรื่องฮีก็จะดำเนินชีวิตสไตล์นี้ละค่ะ มีข้อมูลในมือนี่นาจะกลัวอะไร ตายไปแล้วก็จำได้อีกว่าต่อไปสถานการณ์ในประเทศจะไปแนวไหน เหมือนรู้ทุกอย่างล่วงหน้านั่นล่ะค่ะ  ดังนั้นจะทำ จะเก็ง จะลงทุนอะไร ก็สบายล้าวว

มาที่พี่มู่ค่ะ พี่มู่หรือเอี๋ยนมู่ สกุลเอี๋ยนฝ่ายพ่อเป็นยักษ์ใหญ่ธุรกิจ เจ้าของบริษัทหัวติ่ง ชื่อมู่มาจากฝั่งแม่เป็นตระกูลนักการเมือง พี่มู่ของเราจึงเป็นทายาทไฮโซระดับพันล้านหลานนักการเมือง แบ็คอัพแข็งแกร่งสามชั้นเสริมเหล็กไหลไฮโปรไฟล์ขนาดนี้ น้องน้ำตาจิไหล

ความดีงามของพี่มู่คือฮีจะมีเกราะเยือกแข็งป้องกันตัวค่ะ แผ่รังสีความรวยและลักษณะของชนชั้นสูงทุกก้าวย่าง รสนิยมสูงส่ง หลังตรง ฝีเท้าหนักแน่น ดำเนินชีวิตตรงเป๊ะ แต่เป็นเลือดกรู๊ป AB อ่านแล้ว ห๊ะ นี่เอบีอ่อ? 555555555555 ค่อนข้างต่างจากที่จินตนาการ AB ไว้ เลยเดาเล่น ๆ ว่าสงสัยลู่เฉิงหยูจะเป็น A แล้วก็จริงค่ะ 555555

ความน่ารักของเรื่อง เรายกให้บทสุดขั้วของพระนายค่ะ ทั้งสองคนต้องทำงานด้วยกันจึงมีสถานการณ์น่ารัก ๆ อยู่บ่อย ๆ ค่ะ อย่างที่บอกว่านิสัยของพี่มู่และลู่เฉิงหยูต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งโปรยยิ้มทั่ว คนหนึ่งเย็นยะเยือก แต่กลับเข้ากันได้แบบไม่น่าเชื่อ เพราะความเคารพซึ่งกันและกัน ลู่เฉิงหยูจะใส่หน้ากากยังไง ก็จะไม่มีทางหักหลังพี่มู่ ส่วนพี่มู่ สำหรับคนไหนที่เขาเล็งเห็นศักยภาพ ก็ควรค่าแก่การให้ความไว้ใจ ตรงนี้เราให้คะแนนเต็ม 100 พี่มู่เลยค่ะ คนระดับพี่มู่ให้เกียรติลู่เฉิงหยูได้ขนาดนี้ คือเรารักแกเลยอ่ะ สองคนนี้จะไม่ได้สวีทจี๋จ๋านะคะ เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่มาแล้วตาร้อน หน้าร้อน อยากกินหนังสือ 5555555 พี่มู่ของเราตกหลุมรักก่อนด้วยซ้ำ และสกิลการแสดงออกของพี่แกก็ช่างน้อง ๆ เหล็กไหล ดังนั้นเราก็คิดไม่ออกเหมือนกันค่ะว่าจะลงเอยกันอิท่าไหน 

การเคารพ ให้เกียรติกันและกันของพี่มู่เลยค่ะ ชนะใจ ถ้าพี่มู่ปฏิบัติต่อลู่เฉิงหยูแบบมีมาด ไม่ใช้ใจแลกใจ แล้วจะได้ใจกลับมาเหรอคะ ตรงนี้ต้องขอชมการเลี้ยงดูทางบ้านมู่ฝั่งแม่ของพี่มู่เลยค่ะ พี่มู่ไม่ใช่คนรวยที่กดคนจน อาจมีคนที่เขาโนสนโนแคร์บ้าง แต่ไม่ใช่การเหยียดแน่ ๆ  (มีคำหนึ่งที่บรรยายในหนังสือคือเอี๋ยนมู่คนนี้ไม่ต้องข่มขู่อะไรใครค่ะ เพราะแค่พูดแบบปกติธรรมดาคนอื่นก็กลัวล้าว ฮา ชมใช่มั้ย น้องจะร้อง)  ต้องนึกภาพด้วยว่าลู่เฉิงหยูไม่ได้ดีเด่กว่าอะไร แต่สำหรับคนคนที่ไม่ได้ขาด เติมให้ไปแค่ไหนก็มีแต่ล้นออกค่ะ เพื่อนรอบข้างของพี่มู่จึงได้แต่สงสารและเวทนาจับใจ โถ พี่มู่ ริจะรักทั้งที นอกจากจะเป็นผู้ชายด้วยกันแล้ว ยังจะเด็ดดอกฟ้าอีก อะไรจะน่าสงสารขนาดนั้นนะ (ดอกหญ้าอย่างน้องให้ซบใจค่ะพี่)

จะเล่าว่าสกิลการไล่ผี(?)ของพี่มู่นี่ไม่ใช่ธรรมดานะคะ เวลามีใครเข้ามาเกาะแกะลู่เฉิงหยู พี่มู่ก็จะแผ่รังสีข้ารวย ข้าเจ๋ง ข้าใหญ่ 5555555 คือไม่ได้ยกตัวข่มให้ลู่เฉิงหยูรู้สึกแย่นะคะ แต่ผีนี่กระเจิงเลยค่ะแบบรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ พี่มู่น่ารักมากก อมกกก

เรื่องนี้มีจุดให้เรายิ้มทั้งเรื่องค่ะ อ่านแล้วหน้าร้อนวาวก็มี สาเหตุสำคัญคือเขินพี่มู่ เวลาคนนิ่ง ๆ เขาพยายามทำตัวน่ารักนี่ยิ่งน่ารักเข้าไปคูณ 100 เลยนะคะ /นึกภาพพี่มู่แกะเปลือกแตงโม/ แล้วลู่เฉิงหยูก็ฉลาดเกินไป รู้ทันเกินไป บางคนอาจชอบเพราะจะได้ไม่งี่เง่า บทงอนไปงอนมานี่ไม่มีค่ะ เหมือนรู้ใจกันทุกอย่าง แต่เราว่าลู่ แกก็ทำปิด ๆ ตาหน่อยก็ได้ ไม่ต้องรู้ทันพี่มู่ไปทุกเรื่องได้ไหมน่ะ ให้พี่เขารู้สึกว่าชนะบ้าง หมั่นไส้ละเกิน!

สำหรับลู่เฉิงหยู ความรักนี่ไม่อยู่ในสมองเลยค่ะ ฮีไม่เคยเอะใจเลยว่าพี่มู่รัก อาจเป็นเพราะชาติที่ตายเขาก็ไม่ได้รักใคร วัน ๆ หาแต่เงิน ต่อสู้อุปสรรคกันไป ชาตินี้เมื่อตั้งใจจะแก้ไขเส้นชีวิตก็ไม่ได้มีตาไว้แลอะไรทั้งนั้น ทุกก้าวเดินไปเพื่อขุดหลุมดักศัตรู และหาคำตอบถึงสาเหตุการตายของตัวเอง จนวันหนึ่งลู่เฉิงหยูก็ตระหนักได้ (เราเองก็ด้วยค่ะ) ว่าชีวิตเขาดีขึ้นเพราะอะไร ดีขึ้นเพราะตั้งแต่เจอพี่มู่ใช่หรือไม่ ดังนั้นคำถามจากต้นเรื่องค่ะ ชีวิตของลู่เฉิงหยูซวยเพราะอะไร จุดเริ่มต้นนี้มาจากที่หักอกเพื่อนสนิทใช่รึไม่ เราว่าไม่ใช่ แต่เพราะการที่ลู่เฉิงหยูไม่ได้เจอพี่มู่ต่างหากที่เป็นจุดเริ่มต้นของความซวยในชาติที่แล้วค่ะ

กลับไปที่ปกนิยาย... นั่นเลยค่ะ สองคนที่หันหลังเดินคนละทาง นั่นคือลู่เฉิงหยูกับพี่มู่ในชาติที่ซวยนั่นล่ะ ดังนั้นการกลับมาแก้ไขชีวิตของลู่เฉิงหยูในครั้งนี้ เรามองว่าแก้เพื่อจะได้เจอพี่มู่แล้วสิ่งดี ๆ จะตามมานั่นเองค่ะ :)

ตรงนี้เราว่าน่าสนใจ กว่าที่ลู่เฉิงหยูจะรู้ตัวก็ท้ายเล่มแล้ว เราว่าดีนะคะ ถ้าฮีรู้ใจตัวเองก่อนหน้านี้ แล้วจับพี่มู่ไว้เพราะเป็นตัวนำโชคล่ะ? ต่อให้คนแต่งมีวิธีเขียนให้ไม่คิดแบบนั้น แต่เราก็จะแอบคิดอยู่ดี (เพราะลู่เฉิงหยูนั้นที่จริงอสรพิษ!) เราว่าคนแต่งคิดมาดี

การคิดมาดีของคนแต่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของเรื่องนอกจากเรื่องกุ๊กกิ๊กของพระนายค่ะ เคนแต่งใส่กิมมิคมากมายลงไปในเรื่อง เอาจริง ๆ รายละเอียดของเรื่องเยอะมากเลยนะคะ จะตัดออกบ้างก็ได้ เช่น ประเด็นการเล่น WEIBO แต่อ่านแล้วทำไมกลม กลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องแบบเนียน ๆ หรือการเล่นหนังของลู่เฉิงหยู อยู่สายธุรกิจดี ๆ ทำไมโดดไปเป็นดาราได้ (แถมคนแต่งก็ให้รายละเอียดกับบทหนังเยอะเลยค่ะ โฟกัสมากกว่าแผนธุรกิจอีก ฮา) แต่เราก็อ่านแล้วกลืนไปได้ อย่างเช่นบรรยายฉากถ่ายหนังที่ลู่เฉิงหยูต้องตกน้ำโคลน บรรยายมากจนเราคิดว่าทำไมจะขนาดนี้ อ๋อ ก็เพราะเดี๋ยวพี่มู่จะมาดูหนังด้วยไง แล้วพี่มู่ก็ต้องขมวดคิ้วเวลาเห็นเฉิงหยูดำผุดดำว่ายในน้ำโคลนดำปิ๊ดปี๋ แล้วลู่เฉิงหยูก็ต้องกระซิบปลอบพี่มู่เบา ๆ ว่า 'ไม่เป็นไรครับ เป็นแค่ฉากในหนังเอง'  ไง............ อ่อมม ฉันริษยามาก โชว์หวานแรงไปอี๊ก สกิลการใส่เนื้อหาที่ไม่จำเป็นทำให้กลายเป็นสิ่งจำเป็นได้ของคนแต่งนี่อยากกราบสามทีจริง ๆ ค่ะ

แต่การใส่อะไรมาแล้วก็ปล่อยทิ้งก็มีเหมือนกันนะคะ บอกแล้วว่ารายละเอียดเรื่องเยอะ (ตัวหนังสือเล็กมากอ่ะ เราปวดตาจริม ๆ แต่ทนได้อยู่แล้วเพื่อพี่มู่ค่ะ #รัก) การเล่น WEIBO เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากโลกความจริงของสังคมออฟฟิศ ตรงนี้เราว่าเรียล ลู่เฉิงหยูมี 2 ไอดี (คล้าย ๆ ที่เรามีสองเฟซ แค่ก ๆๆ) อันหนึ่งเอาไว้จริงจัง อันหนึ่งเอาไว้เกรียน เหมือนคนแต่งจะบอกว่าลู่เฉิงหยูใส่หน้ากากหลายหน้าทั้งชีวิตจริงและโลกออนไลน์ นิสัยหาเรื่องคนอื่นในบอร์ด เหมือนคนเก็บกด ซึ่งเราเข้าใจได้ค่ะ ด้วยสถานการณ์และคนรอบตัวฮี มีแต่งงานกับเน็ตนี่ล่ะ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายคนแต่งก็ปล่อยไอดีเกรียนค้างทั้งที่จะเอาไว้นินทาพี่มู่ก็ได้... อืมม หรือว่าอยู่ในจุดที่ไม่ต้องนินทาอะไรแล้ว? ชีวิตนี้เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบแล้ว? อ่อม ริษยาแรงไปอี๊ก อีกประเด็นคือเพื่อนของลู่เฉิงหยูค่ะ แรก ๆ มาดี หลัง ๆ หายไป (แทนที่ด้วยเพื่อนของพี่มู่ ซึ่งแพงยกแก๊ง ฟิน) คนเราพอทำงานแล้ว เพื่อนสมัยเรียนก็ต่างคนต่างแยกย้ายไป เข้าใจได้ค่ะ แต่ถ้าใส่บทเพิ่มมาก็ดีนะ (แต่ตอนที่เพื่อนมาขอให้ลู่เฉิงหยูช่วยเสนอแผนงานให้พี่มู่ ตรงนี้ทำให้เราไม่เข้าใจเลยค่ะว่าคนแต่งใส่มาเพื่ออะไร อืมม)

ตัวประกอบทุกคนมีบทบาทของตัวเอง บางคนก็แอบคิดว่าน่าจะมีบทมากกว่านี้ได้ มีบางจุดที่คิดว่าโดด คือความสัมพันธ์ของทุกคนที่มีต่อลู่เฉิงหยู โอเค แรก ๆ ญาติพี่มู่ตั้งแง่ แต่ทำไมเจอสกิลพลิกลิ้นกลับดำเป็นขาวของลู่เข้าไปก็มาเอ็นดูได้? คำตอบในเล่มบอกว่าทุกคนไม่ได้ยอมรับลู่เฉิงหยู แต่เพราะเขาเป็นคนที่พี่มู่รักไง อ่อม มั่นหน้ามากอ่ะนาย ในสายตาผู้ใหญ่คงทำนองว่าก็ไม่ได้เลวร้าย งั้นปล่อย ๆ ให้รักกันต่อก็ได้ อืม ๆๆ ทำนองนั้นน่ะค่ะ แต่เราว่าอีกสาเหตุหนึ่งคือ ถ้าพี่มู่ขาดลู่เฉิงหยู ตัวแกเองนั่นล่ะค่ะจะพัง แบบนี้ญาติพี่มู่คงไม่ยอมให้เกิดแน่ ๆ

เหตุผลของตรงนี้อยู่ที่ฉากสนามบิน เราไม่ชอบฉากนี้ เพราะมีแล้วเจ็บ พี่มู่จะเสียใจไม่ได้! เป็นมู่เป็นคนเดียวที่ไม่ควรเสียใจ จำวรั้ยย เราเสียน้ำตาตรงนี้ เราสงสารพี่มู่ เราแช่งชักหักกระดูกลู่เฉิงหยู(ทั้งที่รู้ว่าฮีไม่เป็นอะไรนั่นล่ะ ฮึ!) ตอนนั้นเรารู้สึกได้เลยค่ะว่าความรักของทั้งสองไม่เท่ากัน ไม่ยุติธรรมกับพี่มู่เลย (เราเสียใจมาก ๆ ย้ำ) และลู่เฉิงหยูก็รู้ตัวเองแล้วว่า เขา 'ให้' พี่มู่ไม่เท่ากับที่ 'รับ' มาเลยจริง ๆ ผู้ชายแบบนี้อ่ะ ผู้ชายคนนี้! ขาดไปแกก็ไม่มีใครแล้วนะลู่! ซึ่งกว่าลู่เฉิงหยูจะคิดได้ และปรับน้ำหนักพี่มู่ในหัวใจให้มากขึ้น ก็ทำเอาพี่มู่ของเราแทบใจสลาย ฮือ ดังนั้นเราว่าตรงนี้จึงเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้โทนเรื่องครึ่งหลังหวานขึ้นค่ะ

อีกอย่างที่มองผ่านไม่ได้คือบทสรุปพ่อแม่ของลู่เฉิงหยูค่ะ ตอบคำถามได้มั้ย ตอบได้ แต่ถมช่องโหว่ได้มั้ย ตอบว่าไม่ได้ค่ะ ปมที่หนักแน่นตรงนี้กลายเป็นกลวงไป เราเข้าใจการตัดสินใจของลู่นะคะที่ปล่อยเรื่องนี้และไม่ยอมรับสองตระกูล เพราะตอนเขาฟื้นมา เขาก็ไม่เคยสงสัยพ่อแม่ของตัวเองอยู่แล้ว ในหัวมีแต่เรื่องศัตรูกับเรื่องที่ตัวเองตาย พอสองประการตรงนี้คลี่คลาย ชั่งน้ำหนักดูแล้วการโดดลงไปแย่งชิงมรดกในตระกูลใหญ่ กับการนอนเป็นคุณนายให้พี่มู่ขุน แบบไหนจะดีกว่าละคะ ;D

btw ถ้าคนแต่งให้น้ำหนักกับปมสุดท้ายกว่านี้อีกจะดีกว่าค่ะ

โดยรวม ปกสวย โปสการ์ดสวย ผู้หล่อ เรื่องดี มีรายละเอียด มีกิมมิคของคนแต่ง ราคาเหมาะสม ตัวหนังสือเล็ก(น่าจะขยายขอบได้นะคะ) การแปล มีบางจุดใช้คำแปลก ๆ อ่านแล้วอาจขมวดคิ้วได้ แต่บอกแล้วว่าเราเบลอว่ารักแถบ แบบว่ารักพี่มู่ ดังนั้น เรื่องนี้สมควรสอยมาครอบครองอย่างยิ่งค่ะ!

ป.ล. ชอบประเด็น 'ลูกบ้านอื่น' กับ 'เจ้านายบริษัทอื่น' เป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่อิ๊อ๊ะจิ๊จ๊ะมาก แต่อ่านแล้วหัวใจคันยุกยิกเลยค่ะ~

.