Bloggang.com : QAF~Princess : What is GAL ?

What is GAL ?

GAL(Gya-Ru)
แกล(เกีย-รุ)

แปลตรงตัวหมายความว่าเด็กผู้หญิง เช่นเดียวกับคำว่าGirls
แต่สำหรับชาวญี่ปุ่น(โดยเฉพาะวัยรุ่น) คำๆนี้หมายถึง เด็กผู้หญิงที่มีลักษณะการแต่งตัว,ดำรงชีวิต ไปในทิศทางเดียวกันโดยมีไอคอน(Icons)เป็นศาสดาหรือต้นแบบในการชี้นำและก่อให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ โดยที่ไอคอนนั้นอาจจะเป็นดารา,นักร้อง,ผู้มีชื่อเสียง ตลอดจนสไตลิสต์ในนิตยสาร มีจุดกำเนิดอยู่ในช่วงประมาณปี1996(Amuro’s Boom)และมีถิ่นฐานรกรากมาจากบริเวณสี่แยกชิบุยะ ใจกลางกรุงโตเกียว

ซึ่งความหมายสำหรับGALในปัจจุบันก็มีการบิดเบือนผิดเพี้ยนไปบ้างตามการสื่อสารหรือวัฒนธรรมดั้งเดิมของแต่ละชุมชนที่รับเอาอิทธิพลของGALเข้าไป อาทิ เช่น เห็นเด็กผู้หญิงใส่เดนิมมินิ เขียนขอบตาหรือมีดังโงะสักลูกอยู่บนหัวก็เหมารวมว่าเป็นGALซึ่งในความเป็นจริงแล้วไลฟ์สไตล์ของเธออาจจะไม่ใช่ก็ได้....
จนมีคำพูดๆหนึ่งที่บรรณาธิการนิตยสารEggเคยลงไว้ในหน้าEditor’s TalkจนเกิดกระแสGAL’S Returnในปี2003หลังจากผ่านยุคซบเซาว่า

“แต่งตัวแต่งหน้าเป็นGAL.... แต่หัวใจไม่ใช่GALมีให้เห็นจนเกลื่อนเซนเตอร์ไก ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอะไรแบบนี้นะ”

สรุปว่าจริงๆแล้วGALมันคืออะไรกันล่ะ?
ลองมองดูว่าตัวของคุณตรงกับคุณสมบัติข้อไหนบ้างก่อนที่จะเรียกตัวเองว่าGAL

1. GALเป็นสัตว์สังคม.... ถ้าคุณชอบอยู่ตัวคนเดียว เดินชอปปิ้งซื้อเสื้อผ้าคนเดียว ทำตัวแปลกแยกไม่เหมือนเพื่อนในกลุ่ม หรือไม่ชอบเวลาที่เพื่อนสนิทซื้อเสื้อผ้าของใช้เหมือนๆกับคุณหรือเลียนแบบคุณ ข้อนี้ไม่ผ่าน

2. มีไอคอนเป็นของตัวเอง หนักแน่นและจริงจังตามแต่ศาสดาของคุณจะพาแจวเรือไป.... ถ้าเกิดคุณเป็นพวกไหลไปตามกระแส ช่วงนี้ฮิตสไตล์โบฮีเมียนก็แห่ไปโบฮีเมียนกับเขาเต็มตัว ช่วงไหนฮิตสไตล์นีโอพังค์ก็ขอพังค์ไปกับเขาด้วย แสดงว่าคุณสอบตกคุณสมบัติข้อนี้
**GALสามารถอินไปกับกระแสสังคมได้ อาทิเช่น ช่วงนี้ฮิตโบฮีเมียนก็เอามงคลมาคาดหัวนิดๆหน่อยๆพอเป็นกระสัย แต่ห้ามหลุดออกจากคอนเสปท์ของตัวเอง.... มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นการ “กบฏ” ถ้าคุณอยู่ในCircleหรือสังกัดชมรมGALมีสิทธิ์โดนไล่ออกได้**

3. หาคอนเสปท์ของตัวเองให้เจอ GALที่ดีต้องมีความเป็นตัวของตัวเองและศรัทธาในเสื้อผ้าทุกชุด เมคอัพทุกชิ้นที่ตนเองซื้อมา

4. GALทุกคนต้องแต่งหน้าเป็นและรู้ว่าอะไรเหมาะกับตัวเอง ถึงจะแต่งไม่เก่งก็ต้องพยายาม.... ความสวยไม่ใช่สิ่งที่ได้มาภายในวันเดียว ทุกอย่างต้องอาศัยเวลา การที่บอกว่าแฟนไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้าจัดไม่ใช่ข้ออ้าง ถ้าต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยการทำตามความต้องการของผู้ชายถือว่าไม่มีความเคารพในสิทธิขั้นพื้นฐานของตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวGALยอมรับไม่ได้

(GALชิบุยะมักคบกับผู้ชายสไตล์Gyaruoแกลลุโอะ – แกลผู้ชาย เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะไม่มีใครจะเข้าใจGALดีเท่ากับGALด้วยกันเอง.... ผู้ชายโอตาคุไทป์ถือเป็นสิ่งต้องห้ามและควรออกห่างให้ไกล)

5. เคารพตัวเองและรักพวกพ้องยิ่งชีพ.... โดยเฉพาะท่านศาสดาหรือตัวแม่ของคุณๆทั้งหลาย

ทั้งนี้ทั้งนั้น การเป็นGALก็ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวที่ชี้ชัดลงไปว่าต้องทำอะไรหรือไม่ทำอะไรถึงเรียกว่าGAL แต่5ข้อหลักข้างต้นนั้นอ้างอิงมาจากพฤติกรรมส่วนใหญ่ของGALชิบุยะที่นิตยสารEggเคยลงเอาไว้ แต่ก็ทำให้มองภาพรวมออกว่าสิ่งมีชีวิตประเภทGALนั้นคืออะไรกันแน่
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น....
GALคือสิ่งที่คุณต้องBorn to be มีความศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง
การTry to beต่อให้คุณพยายามเลียนแบบหรืออยากที่จะเป็นมากแค่ไหน แต่ถ้าจิตใจคุณไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่อยู่วันยังค่ำ

ประเภทของGAL

อันที่จริงแล้วประเภทของGALแตกออกไปอีกหลายแขนงแล้วแต่ใครจะคิดค้นขึ้นมา แต่GALจำพวกหลักๆที่มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นจริงๆนั้นพอจะแยกออกเป็นประเภทต่างๆได้ดังนี้

GAL Surf(GALชบา, GALชายทะเล)
จุดเด่น – ผมสีทอง ส้มหรือโทนน้ำตาลสว่าง,ผิวสีแทน,เมคอัพไม่มากแต่เน้นรองพื้นกับมาสคาร่าหนาๆ,หมวกแก๊ป,แต่งตัวเหมือนกำลังจะไปเที่ยวทะเลตลอดเวลา เช่น วันพีซลายดอกชบา กางเกงขาสั้น เสื้อเชิ้ตลายตารางหลวมๆ(บางครั้งอาจจะสับสนเอากังกุโระมาปะปนกับGALประเภทนี้)
ไอคอน – โมริ อิซึมิ(นางแบบ)
แบรนด์ - Cocolulu,Alba Rosa,Blue moon blue,Rose Fan Fan

GAL Egoistจุดเด่น – ผมสีน้ำตาลหรือดำสนิท เน้นทำไฮไลท์และต่อผม,แต่งตัวเซ็กซี่ เมคอัพครบเครื่อง เน้นแต่งดวงตาให้ดูเฉี่ยวและเป็นผู้ใหญ่
ไอคอน – โคดะ คุมิ,เบนิ อาราชิโระ,โทโกะ นัตสึโกะ(นางแบบCawaii),ไอคาวะ มิคุ(นางแบบPopteen)
แบรนด์ – Cecil Mcbee,Egoist,Swordfish,Lip Service,Moussy

GAL Princessจุดเด่น – ผมสีทองหรือน้ำตาลอ่อนเท่านั้น,ผมทรงปอมปาดอลล์หรือทำอะไรสักอย่างให้ดูฟู เป็นกระบังเหมือนตุ๊กตา,ไม่เน้นการทาอายแชโดว์สีแต่ต้องกรีดอายไลเนอร์น้ำและติดขนตาปลอม,ใส่เครื่องประดับผม เช่นที่คาดผมเป็นประกายหรือดอกไม้ปลอม มงกุฎ
ไอคอน – ฮามาซากิ อายูมิ,มาสุวากะ ซึบาสะ
แบรนด์ – Liz lisa,Rose Fan Fan,Valentine’s high

B-GAL
จุดเด่น – แต่งตัวเหมือนสาวฮิปฮอปทั่วไป แต่ปฏิบัติตัวตามวิถีGAL
ไอคอน – อามุโระ นามิเอะ,Elli Rose(นางแบบVivi),บียอนเซ่
แบรนด์ –Swordfish,Lip Service,Moussy

Ganguro&Yamambaจุดเด่น – รองพื้นดำมืด,เขียนตาโตกว่าปกติสิบเท่า,ใส่วิกผมสีประหลาด,ทาปากทาตาด้วยสีขาวหรือสีที่คนปกติทั่วไปเขาไม่ใช้กัน
ไอคอน - ?????
แบรนด์ - ไม่ปรากฏแน่ชัด แต่ข้อมูลบอกว่าส่วนมากนิยมAlba rosa

ยุคสมัยของGAL

ปี1996 – ยุคAmuro’s Boomและการวางแผงฉบับปฐมฤกษ์ของนิตยสารCawaii

เป็นปีที่วงการแฟชั่นญี่ปุ่นจะต้องจดจำไปอีกนานเมื่อการปรากฏตัวของนักร้องสาวค่ายAvex Traxคนหนึ่งสร้างปรากฏการณ์ให้กับสาวๆญี่ปุ่นทั่วประเทศ ถึงแม้ว่าอามุโระ นามิเอะจะเป็นหนึ่งในนักร้องเด็กปั้นของโคมุโระ เท็ตสึยะเจ้าพ่อวงการเพลงป๊อปแดนซ์ในยุคนั้น
แต่สิ่งที่อามุโระแตกต่างไปจากคนอื่นก็คือความเป็นตัวของตัวเอง ทั้งในเรื่องเสื้อผ้าการแต่งตัว(ในช่วงนั้นมีเสียงค่อนขอดเกี่ยวกับนักร้องเด็กปั้นของโคมุโระอยู่มาก เพราะทุกๆคนที่ออกมามักจะคล้ายๆกันจนดูเกร่อ)และแนวเพลงที่เป็นแรงกระตุ้นให้เพลงแนวยูโรบีทและอาร์แอนด์บีได้รับความนิยม ซึ่งในภายหลังได้พัฒนาเป็นการเต้นในแนวParaParaหรือปาระปาระ....
จุดเริ่มต้นของGALในสมัยนั้นก็คือ การย้อมเป็นสีน้ำตาลประกายทองหรือแดงนิดๆ กันคิ้วโก่ง ทำผิวสีแทนและใส่รองเท้าบูทส้นตึก กระโปรงหนังมินิเลียนแบบอามุโระ

ปี1997 – กำเนิดแฟชั่นGALสไตล์เซริฟ์และกังกุโระ และการเข้ามาของร้านCocolulu,Alba Rosaที่GALทุกคนต้องมีไอเท็มไว้ในครอบครอง

หลังจากที่แฟชั่นผิวสีแทนเลียนแบบอามุโระ นามิเอะกำลังบูม ก็มีเทรนด์การแต่งหน้าที่เรียกว่ากังกุโระ(Ganguro)เกิดขึ้นโดยเน้นการลงรองพื้นผิวให้กลายเป็นสีแทนจัดๆทั่วทั้งตัว เขียนไลเนอร์สีขาว ทาปากสีชมพูซีดหรือสีนู้ด ย้อมผมสีทอง ส้ม หรือน้ำตาลโทนสว่าง จนมีศัพท์เฉพาะเรียกสีผมของสาวGALสมัยนั้นว่าShibuya Blonde และสวมเสื้อผ้าสีสดๆให้ตัดกับสีผิว
โดยในช่วงนั้นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมก็คือCocoluluและAlba Rosaที่เน้นทำเสื้อผ้าสำหรับGALสไตล์เซิร์ฟหรือGALดอกชบา GALชายทะเลแล้วแต่จะเรียก โดยทุกคนจะแต่งตัวเหมือนไปเที่ยวทะเล มีดอกชบาทัดหูถึงแม้ว่าอันที่จริงแล้วจะแค่ออกไปคอนวีเนี่ยนแถวบ้านก็ตาม
แบรนด์จำพวกRoxy,Ripcurlก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน แต่ไม่เท่าโคโคและอัลบ้า

ปี1998 – Hamasaki Ayumi’s Debut และกำเนิดGAL’s circle

ราชินีอันดับหนึ่งของชาวGALปรากฏตัวเป็นครั้งแรกกับซิงเกิ้ลเดี่ยวอย่างเป็นทางกรPoker Face(Nothing from nothingไม่ถือเป็นการเดบิวท์) ซึ่งช่วงนั้นอายูมิไม่ได้เน้นแต่งตัวแบบGALจัดจ้านมากนัก แต่เธอย้อมผมเป็นสีน้ำตาลและมีผิวขาว ประกอบกับมีอิมเมจแบบตุ๊กตาจึงทำให้ค่อยๆเกิดคลื่นใต้น้ำในหมู่ชาวGALแบบดั้งเดิมที่ต้องการจะ“กบฎ”
ช่วงนี้การเต้นปาระปาระได้รับความนิยมมาก จนถึงขนาดมีวิดิโอสอนเต้นปาระปาระโดยเฉพาะออกมาหลายซีรีส์ มีการพานางแบบGALไปเปิดตัวที่ฮ่องกงซึ่งทำให้วัฒนธรรมGALเป็นที่รู้จักมากขึ้น
แทบทุกวันที่บริเวณด้านหน้า-หลังชิบุยะ109หรือบริเวณที่เรียกกันว่าเซนเตอร์ไกจะมีสาวและหนุ่มGALมารวมตัวกันเพื่อเต้นปาระปาระ มีการจัดอีเวนท์แข่งขันประกวดเต้นกันระหว่างCircleโดยจะตัดสินจากจำนวนเงินที่มีคนโยนใส่กล่องเวลาขึ้นโชว์ อารมณ์เหมือนเด็กสาวม.ปลายแถวบ้านเรายกพวกตบแย่งผู้ชายกันแต่สำหรับชาวGALชีวิตมีสาระมากกว่านั้นเยอะ..... เต้นเพื่อชัยชนะของCircle

การรวมตัวกันในแบบของCircle

ปี1999 – กำเนิดGAL Egoist และการเปิดตัวของร้านEgoist,Cecil Mcbee,Sword fish,Lip Service ยุคของชิบุยะ109มาถึงแล้ว

เมื่อด้านหน้าตึกชิบุยะ109เต็มไปด้วยบรรดาสาวGALและการประชันกันของCircle แบรนด์เสื้อใหม่ๆที่เปิดตัวเพื่อเอาใจชาวGALโดยเฉพาะจึงพากันไปตั้งรกรากอยู่ที่ตึก109ก่อนจะแตกกิ่งก้านสาขาไปยังจังหวัดอื่นๆ ในยุคนี้เป็นการถือกำเนิดของคาริสมาเทงอินหรือพนักงานขายของที่จะใช้ตัวเองเป็นหุ่นโชว์โปรโมตสินค้า ให้ลูกค้ายึดถือเป็นไอคอน
โดยการเข้ามาเป็นคาริสม่าเทงอินไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องหาคนที่มีภาพลักษณ์เหมาะกับสินค้าจริงๆและมีทักษะสูงในทุกๆด้าน(รวมถึงทักษะการใส่ส้นสูงวันละสิบชั่วโมงโดยไม่เมื่อยไม่เหนื่อย)
คาริสม่าเทงอินที่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้นได้แก่ นาคาเนะ เรโกะแห่งร้านEgoist และ โมริโมโตะ โยโกะแห่งร้านCecil Mcbee(ก่อนจะถูกแบรนด์Moussyซึ่งเปิดตัวทีหลังดึงตัวไปเป็นเมเนเจอร์)

ปี2000 – การปรากฏตัวของกลุ่มสาวสไตล์เลดี้ ศัตรูร้ายของชาวGALและกำเนิดGALผิวขาวหรือGAL Princess

เลดี้คือผู้หญิงที่แต่งตัวเรียบหรูดูดี สวยหวานน่ารักไฮโซ(หาดูได้จากหนังสือNon-no,CanCam,Rayหรืออะไรเทือกๆนั้น)ซึ่งเป็นสิ่งที่สวนทางกับวิถีแห่งGALในยุคนั้นที่เน้นสีสันฉูดฉาดและผิวสีแทน
ในช่วงนี้ฮามาซากิ อายูมิเข้ามามีบทบาทอย่างมากกับวงการแฟชั่นญี่ปุ่น เมื่อเธอยังคงผิวขาว ย้อมผมเป็นสีทองสว่างเหมือนชาวตะวันตกแล้วม้วนด้วยไอรอนให้เป็นเกลียวแต่ใส่เสื้อผ้าแบบGALเต็มขั้น ติดขนตาปลอม เขียนอายไลเนอร์หนาๆและไม่ยอมใช้ไลน์สีขาวเด็ดขาด ซึ่งเมื่อมาผนวกกับการแต่งหน้าแต่งตัวของพวกเลดี้ในยุคนั้นจึงทำให้เกิดGALสาขาใหม่หรือที่เรียกว่าGAL Princessนั่นเอง

อายูกับสไตล์GAL Princessในยุดเริ่มต้น

ปี2001 – กำเนิดLiz lisa แบรนด์สไตล์เลดี้แต่ไม่ได้มีไว้สำหรับพวกเลดี้

ในยุคนี้ความแรงของGALลดลงจากเดิมค่อนข้างมาก แต่แบรนด์หลักๆก็ยังได้รับความนิยมอยู่ จนกระทั่งLiz lisa มาเปิดสาขาแรกที่ชิบุยะ109พร้อมๆกับกระแสGAL Princessที่ได้ฮามาซากิ อายูมิเป็นไอคอน.... ในยุคนี้หาGALที่ไม่ได้ย้อมผมทองแล้วม้วนเกลียวแบบอายูยากมาก ประกอบกับเสื้อผ้าของLiz Lisa ทำออกมาในสไตล์เจ้าหญิงสวยหวาน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันแตกออกมาอีกสามไลน์ได้แก่ Tralala de LizLisa,Liz Lisa TwinkleและLiz lisa doll
ในขณะที่พวกเลดี้ถึงจะแต่งตัวสวยหวานแต่ก็ไม่ถึงขั้นทำทรงปอมปาดอลล์หรือย้อมผมเป็นสีทองเด็ดขาด เวลาที่มาเดินตึก109ก็จะโดนสายตารังสีอำมหิตจากบรรดาGAL จึงย้ายรกรากและเสื้อผ้าสวยเรียบไฮโซของพวกหล่อนออกไปอยู่ทางฝั่งรปปงงิและไดคังยามะ สุดท้ายแล้วLiz Lisaก็กลายเป็นแบรนด์สำหรับGALที่พวกเลดี้ไม่สามารถเข้าถึง 555+
แฟชั่นกระเป๋าหลุยส์Speedyก็เริ่มมาจากช่วงนี้นั่นเอง เนื่องจากอายูถือออกรายการ สาวกชาวGALก็แห่กันไปทำงานพิเศษแล้วซื้อตาม

ปี2002 – เมื่อGALหายไปจากชิบุยะ และยามัมบะกลายเป็นของแปลก!!??

เลดี้ครองเมือง.... เพราะเป็นสไตล์ที่ดูเรียบร้อยและเป็นลูกคุณหนู(ไอคอนของสไตล์นี้ได้แก่ อิโต้ มิซากิ. โคยูกิ ฯลฯ)
เป็นยุคที่GALเกือบทั้งหมดเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเลดี้เพื่อที่จะเกาะกระแส แต่ก็ยังมีอยู่บ้างที่ยึดมั่นในความเป็นGALแต่ก็มักจะถูกมองเหมือนเป็นวัตถุจากต่างดาว
แบรนด์เสื้อผ้าจำพวกPinky’s Girlได้รับความนิยมมาก ในยุคนี้การเต้นปาระปาระเป็นสิ่งที่เชยล้าสมัยและไม่มีการแข่งขันระหว่างCircleอีกแล้ว

ปี2003 – กำเนิดฺB-GAL และการพยายามกลับมาของGAL’s Circleในแบบที่ต่างไปจากเดิม

ในขณะที่กระแสเพลงฮิปฮอปแบบแรปเปอร์ผิวดำกำลังอินเทรนด์ ก็ถึงเวลาที่สาวญี่ปุ่นจะกลับมาทำผิวสีแทนให้ทันต่อสากลโลกอีกครั้ง
สไตล์เลดี้เริ่มอยู่ตัว และGALส่วนมากก็หันกลับมาทำผิวแทนย้อมผมสีทองหรือน้ำตาลสว่างอีกครั้ง ในยุคนี้จะเน้นเสื้อผ้าแบรนด์อิมพอร์ทจากอเมริกาเช่น Abercrombie&Fitch,Pony,Von Dutch สไตล์ฮิปฮอปและอเมริกันแคชช่วลได้รับความนนิยมมากจนกลายเป็นกระแส เน้นการใส่เสื้อเชิ้ตลายตารางและรองเท้าบูทหนังแกะสูงครึ่งแข้ง หรือไม่ก็รองเท้าผ้าใบกีฬา อิทธิพลส่วนใหญ่มาจากอามุโระ นามิเอะ
Circleที่หายไปกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของการจับกลุ่มซ้อมเต้นฮิปฮอป แต่ไม่มีการเต้นปาระปาระอีกแล้ว....หรือถ้ามีก็น้อยมาก

ปี2004 – แต่งตัวน่ะใช่ แต่ข้างในกลับไม่เหมือน.... GALกับเลดี้ ไม่เหมือนกันสักหน่อย+Ebihara Yuri’s Boom

ยุคทองของนางแบบสาวEbihara Yuriแห่งนิตยสารCanCam ซึ่งนำเทรนด์สีผมน้ำตาลอมชมพูกับเสื้อผ้าสไตล์เลดี้ ทำให้GALส่วนใหญ่เปลี่ยนใจกลับไปหาสไตล์เลดี้อีกครั้ง
แม้แต่ช่วงปลายปี อายูก็ย้อมผมสีดำตอนปล่อยซิงเกิลBold&Delicious
เอบิฮาระ ยูริ หรือเอบิจัง(อยู่เมืองไทยคงชื่อน้องกุ้ง)
ภาพตอนเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแมคโดนัลด์ตอนโปรโมชั่นเบอร์เกอร์กุ้งราคา100เยน

ปี2005 - Masuwaka Tsubasa’s debut in Popteen การกลับมาอีกครั้งของOriginal GAL

การปรากฏตัวของซึบาสะจังแห่งPopteenมีส่วนอย่างมากในการกลับมาอีกครั้งของGALแบบชิบุยะดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นผมสีทองสว่าง ผิวแทน ปากสีนู้ดและไลเนอร์สีขาว
หลังจากที่ซึบาสะจังได้ปรากฏตัวในรายการวาไรตี้โชว์รายการหนึ่งช่วงปี2003ที่มีคอนเสปต์เอาGALยามัมบะมาเปลี่ยนให้เป็นเลดี้(รายการนี้จะมีไปเพื่อ!!??) พอลบรองพื้นสีแทนออกใครๆก็ต้องตะลึงไปกับหน้าตาสุดแสนจะน่ารักของเธอ แต่เมื่อพิธีกรถามว่าแล้วแบบนี้ยังจะแต่งมัมบะอีกไหม ซึบาสะจังตอบว่า “ฉันเกิดมาเพื่อเป็นGALค่ะ” เธอก็ได้รับการทาบทามจากนิตยสารEggให้มาเป็นนางแบบประจำ
จนกระทั่งทุกวันนี้ประสบความสำเร็จกับการเป็นนางแบบของนิตสารPopteen พรีเซนเตอร์ของแบรนด์Liz Lisa น้ำยาย้อมผมPaltyและออกหนังสือไดอารี่ของตัวเองซึ่งมียอดจำหน่ายสูงถึงแสนเล่มในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ในที่สุดยุคสมัยของGALก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง....

ปี2006 – Koda Kumi’s Boom และการกลับมาของวัฒนธรรมGALเต็มรูปแบบ

เมื่อดูเหมือนว่าทั้งฮามาซากิ อายูมิและซึบาสะจังจะกลายเป็นไอคอนสำหรับGAL Princess ทางฝั่งEgoistก็ไม่น้อยหน้าเมื่ออยู่ดีๆนักร้องสาวโคดะ คุมิหรือคูจังก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆหลังจากปล่อยซิงเกิลButterflyและเพลงคัฟเวอร์Cutie Honey อย่างที่รู้ๆกันว่าช่วงที่เธอมีแผนออกซิงเกิลติดต่อกันทุกสัปดาห์ โคดะ คุมิก็กลายเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของปีนั้น
แต่ที่น่ายินดีก็คือ แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับGAL Egoistก็หันกลับมายึดมั่นทำเสื้อในแนวเดิมของตัวเองหลังจากที่ปีก่อนๆจะมีแต่งสไตล์B-GALวางขายกันจนล้นตลาด

ปี2007-2008 - ยังคงเป็นยุคทองทางด้านแฟชั่นของอายูและคูจัง ข้อพิสูจน์ว่าGALไม่เคยตายและจะไม่มีวันตาย

“ฉันเกิดมาเพื่อเป็นGAL”
2003 – Masuwaka Tsubasa

ข้อมูลจากนิตยสารEgg,Popteen&Cawaii
ภาพจาก fans.com.cn&Google
เรียบเรียงโดย AlizzyKame(QAF~Princess)@Pantip.com
ขอสงวนสิทธิ์ในการนำไปเผยแพร่ที่อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เขียน
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและให้ความสนใจค่ะ
หากมีโอกาส คราวหน้าอาจจะได้ลองนำเอารีวิวหรือบทความที่เกี่ยวข้องกับGALมาลงอีก

Create Date : 17 กรกฎาคม 2551

Last Update : 21 กรกฎาคม 2551 13:27:27 น.

4 comments

Counter : 9490 Pageviews.

ตามมาเม้นให้นะคะ เขียนดีจริงๆ ไว้เอามาเล่าอีกนะ เราชอบ Gal อ่ะ แต่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก กำลังศึกษาอยู่อ่ะค่ะ Gambarimasu!!!!

โดย: กระต่ายลอยคอ

วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:03:01 น.

เริ่ดดดมากคะตามมาเชีบร์ที่บล๊อคด้วยคะ ชอบๆๆๆๆๆๆ

โดย: Angel_pink...

วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:21:04 น.

ชอบมากเลยค่ะ ได้ความรู้เกี่ยวกับGal เยอะแยะมากมาย

เราก็ได้รับอิทธิพลการแต่งหน้าแต่งตัวสไตล์วัยรุ่นญี่ปุ่น
มาเยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่อาจเอื้อมเรียกตัวเองว่าGal แต่อย่างใด

ขอบคุณมากนะคะ^___^

โดย: mesoluckie (mesoluckie

) วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:24:47 น.

อ่านที่บอร์ด แล้วตามเข้าบล็อก ^^v ชอบจัง จะตามอ่านนะคะ

โดย: Iceclover

วันที่: 24 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:09:57 น.