แง่คิด/ ข้อควร...ทราบก่อนซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต....
แง่คิด/ ข้อควร...ทราบก่อนซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต....

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้เอาประกันภัยทั้งที่ถือกรมธรรม์อยู่แล้วและยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะชื้อกรมธรรม์กับตัวแทนท่านใดดี ควรที่จะทราบไว้ ส่วนตัวแทนหากยังไม่ทราบก็โปรดได้ทราบไว้ ว่าท่านควรปฏิบัติอย่างไรกับลูกค้าของท่าน

เพราะการทำประกันชีวิตกับตัวแทนท่านใดนั้น

“หมายความว่าท่านได้มอบความไว้วางใจให้ตัวแทนขายประกันท่านนั้นเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของท่าน ซึ่งจะนานเท่าใดก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบกรมธรรม์ที่ท่านซื้อ”

ตัวแทนประกันชีวิตที่ดี ควรมีลักษณะ ดังต่อไปนี้

1. ต้องเป็นคนต่อเวลา

2.บุคลิกลักษณะและการแต่งกายดี

3.พูดจามีสัมมาคารวะ

4.การเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการประกันชีวิต

5.ช่วยพิจารณาชี้แนะโดยสุจริต

6.ตอบข้อข้องใจ หรืออธิบายประโยชน์ของการประกันชีวิตได้

มาขยายความกัน นะครับ....

-ตรงต่อเวลา หมายถึงตรงต่อเวลาเมื่อนัดหมายต่าง ๆ ครับคนตรงต่อเวลาย่อมน่าเชื่อถือ

-บุคลิก ซึ่งรวมถึงการแต่งกาย ความสะอาดเรียบร้อย ครับ เข้าตำรา “แต่งกายดีมีชัยไปกว่าครึ่ง”

-พูดจาดีมีสัมมาคารวะ ซึ่งบอกได้ว่าเป็นคนน่าคบหา สมาคมด้วยหรือไม่

-การเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการประกันชีวิต บ่งบอกถึงประสบการณ์ของเขาว่ามีความเชี่ยวชาญและเข้าใจเงื่อนไขกรมธรรม์เป็นอย่างดี

-ช่วยพิจารณาชี้แนะโดยสุจริต มิได้มุ่งเร่งรัดที่จะขาย ประเภทนี้ พวกเสนอแต่ผลประโยชน์ด้านเดี่ยว มีแต่ด้านได้อย่างเดี่ยว ด้านเสียหมักไม่พูดถึง

-ตอบข้อข้องใจ หรืออธิบายประโยชน์ของการประกันชีวิตได้ ตัวแทนจะต้องแสดงข้อเปรียบเทียบได้ว่า กรมธรรม์แบบใดเหมาะสมกับลูกค้า ไม่ใช่ประเภทนำเสนอกรมธรรม์ที่ตัวเองได้ค่าคอมฯ สูงอย่างเดี่ยวโดยไม่คิดคำนึงถึงลูกค้า ว่ามีความสามารถในการชำระเบี้ยหรือไม่



เมื่อได้ตัวแทนแล้วคราวนี้มาดูกันว่าแล้วกรมธรรม์ประเภทไหนละถึงจะเหมาะสมกับเรา

รูปแบบของกรมธรรม์มีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม เช่น

-เราต้องการความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

-ต้องการความคุ้มครองกรณีทุพพลภาพ

-ต้องการความคุ้มครองกรณีที่มีชีวิตยืนยาว....เป็นต้น

ในครั้งนี้ขอกล่าวถึง ว่าหากเราต้องการกรมธรรม์แบบคุ้มครองกรณีที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ตัวแทนขายประกันจะต้องแนะนำในเรื่องเหล่านี้ได้

-ตัวแทนจะต้องรู้เรื่อง “ค่าเสียหายทางเศรษฐกิจของมนุษย์ ว่ามีความสำคัญอย่างไร”

-ตัวแทนจะต้องบอกกล่าวเรื่อง “ว่าความคุ้มครองเมื่อเสียชีวิตก่อนวันอันควรมีอะไรบ้าง”

ค่าเสียหายทางเศรษฐกิจของมนุษย์ นั้น....ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประกันชีวิตกล่าวไว้ว่า

“ค่าเสียหายทางเศรษฐกิจของคนนั้นวัดเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่อาจคำนวณเป็นมูลค่าการใช้งานได้ โดยถือเอามูลค่าปัจจุบันของรายได้ในอนาคต การคำนวณคำนวณ มูลค่าการใช้งานมี 3 ขั้นตอนคือ

1. คำนวณรายต่อปีโดยเฉลี่ยจากอายุปัจจุบันถึงอายุเกษียณการงาน

2. หักค่าภาษีต่าง ๆ เบี้ยประกันภัย และค่าใช้จ่ายของตนจากขั้นที่ 1 เงินที่เหลือคือเงินที่จัดสรรเพื่อการอื่น

3.ใช้อัตราดอกเบี้ยที่สมควรเป็นตัวหามูลค่าปัจจุบันของเงินที่จัดสรรเพื่อการอื่นตลอดระยะเวลาที่ทำงาน



“ความคุ้มครองเมื่อเสียชีวิตก่อนวันอันควร”

ตัวแทนจะต้องบอกได้ว่า กรมธรรม์ที่จะตัดสินใจซื้อจะต้องคุ้มครอง

ครอบคลุมถึงเรื่องต่อไปนี้

1. ค่าใช้จ่าวาระสุดท้ายของชีวิต

2.ค่าใช้จ่ายประจำของครอบครัว

3.หนี้สิ้นจำนองที่ผ่อนชำระ

4.การศึกษาของบุตรที่ต้องเหล่าเรียนต่อไป


ตัวแทนขายจะต้องคำนวณออกมาได้และอธิบายให้เราฟังได้ว่าหากเราเสียชีวิตลงก่อนวัยอันสมควร ผู้ที่อยู่ข้างหลัง จักได้ประโยชน์จากการทำประกันชีวิตของเรา

ไม่เช่นนั้นแล้วการประกันชีวิตของท่านจะมีความหมายอันใด



ในคราวต่อไปผมจะเขียนถึงตัวแทนขายประกันชีวิต คราวนี้ขอสั้น ๆ ครับ

จากหนังสือ 26 ปี กรมการประกันภัยกล่าวไว้ว่า

นักขายประกันชีวิตกำลังเดินมาถึงทางแยกของวิชาชีพ จะหยุดตรงจุดเดิม ทำงานด้วยวิธีการเดิม หรือจะข้ามทางแยกนั้นไป ด้วยการเปลี่ยนกรอบความคิดจากนักขายสินค้า มาเป็นที่ปรึกษาการเงิน แล้วทำงานด้วยวิธีการใหม่ กลยุทธ์ใหม่เพื่อที่จะแข่งขันในตลาดได้.



ขอขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านที่ให้วิชาความรู้



Create Date : 16 พฤษภาคม 2554
Last Update : 16 พฤษภาคม 2554 18:22:29 น.
Counter : 703 Pageviews.

1 comments
  
ได้เวลานอนแล้ว อย่าลืมนอนนะครับ ดูแลสุขภาพด้วย News
โดย: bbandp วันที่: 30 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:03:47 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ลูกแมวหน้าโรงหนังลุง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



พฤษภาคม 2554

1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31