ช่วงพักเที่ยงเดือนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าไปถามพี่โอ๊คเกี่ยวกับความเป็นมาของ Dropshoppingthai พี่เขาเลยเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มของ Dropshoppingthai เริ่มแรกพี่จะตั้งชื่อว่า Dropshippingthai แต่ด้วยความผิดพลาดเรื่องการสะกดคำเลยกลายมาเป็น Dropshoppingthai ไปตลอดกาล(ไอตรงคำว่าไปตอลดกาลผมเติมเองนะ 555+) พี่เขายังเล่าต่อไปอีกว่า Dropshoppingthai ของเราเป็นระบบ Dropship ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ขายสินค้าไม่ต้องสั่งซื้อสินค้ามาสต๊อกเองและส่งเอง พูดง่ายๆเราทำแทนให้หมดนะแหละครับ ได้ยินครั้งแรกผมงงแต่ต้องเก็บอาการไว้ให้ดูเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆ 555+ แล้วผมเชื่อเลยว่าใครที่ไม่มีความรู้เรื่องการขายของออนไลน์ก็ต้องงงแบบผมแน่นอน คือระบบมันเป็นแบบนี้ Dropshoppingthai เราทำสต๊อกสินค้าและจัดส่งสินค้าแทนลูกค้าเขาเรียกกันว่า Dropship โดยที่ลูกค้าของเราไม่ต้องไปลงทุนสต๊อกสินค้าและไม่ต้องจัดส่งสินค้าใดๆเลย เราทำแทนให้ ลูกค้าของเราเพียงแค่สมัครสมาชิกตัวแทนจำหน่ายสินค้าของเราแล้วนำรูปและข้อมูลของสินค้าที่ร้านเราสต๊อกอยู่ไปบวกกำไรเพิ่มแล้วไปขายตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ พอลูกค้าขายสินค้าได้เราก็จะทำการจัดส่งสินค้าให้ทั่วประเทศ ซึ่งแน่นอนคำถามที่เกิดขึ้นในหัวผมในตอนนั้น เสียค่าสมัครมั๊ย? แต่เผอิญคิดดังไปหน่อยพี่โอ๊คได้ยินเลยตอบผมทันทีว่า สมัครฟรีครับ เข้าไปสมัครหน้าเว็บได้เลย ไม่ต้องเสียค่าสมัครใดๆ เออเริ่มน่าสนใจ แล้วพักเที่ยงของวันนั้นก็จบลง โดยที่ผมได้เรียนรู้ระบบงานเพิ่มมากขึ้น พักเที่ยงวันถัดมา พี่โอ๊คครับ ผม แล้ว Dropshoppingthai ของเราได้กำไรยังไงอ่ะครับ? ซึ่งตอนนั้นผมทำงานได้เกือบเดือนแล้วแต่เพิ่งมาถามตอนนี้นี่นะ พี่เขาจะด่ามั๊ยเนี๊ย!! พี่เขาก็ตอบกลับมาว่า ก็ราคาสินค้าในหน้าเว็บของเรานั่นแหละ เราได้บวกกำไรจากราคาต้นทุนของสินค้าแล้วกลายเป็นราคาขายส่ง พอลูกค้าขายสินค้าที่เราสต๊อกได้แล้วลูกค้าก็เอาส่วนที่บวกกำไรไป ส่วนเรารับราคาขายส่งที่เราบวกกำไรไว้แล้วครับ ผม แล้วเรามีสมาชิกทั้งหมดประมาณกี่คนแล้วอ่ะครับ พี่โอ๊ค ประมาณ 20,000 กว่าๆครับ เออก็เยอะเน๊าะ แล้วพี่โอ๊คก็ได้เล่าต่อไปอีกโดยที่ผมไม่ได้ถาม 555+ รู้มั๊ยทำไมพี่ถึงตัดสินใจทำธุรกิจนี้ ผมจะไปรู้ได้ไง! ไม่รู้ครับ พี่โอ๊ค พี่เคยคุยกับเพื่อนได้ยินเรื่องคนตกงานเพราะเขาตั้งครรภ์ หรือ คนที่ตกงานแต่ยังมีภาระต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างซึ่งพี่ไม่รู้สึกไม่โอเคเลย พี่เลยมาตัดสินใจทำธุรกิจนี้เพื่อช่วยคนที่ต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ แม้มันจะยังเป็นงานหลักไม่ได้แต่ก็ยังพอช่วยพวกเขาได้บ้าง เวลาเราจะช่วยใครสักคนให้ได้กินปลาเราจะสอนพวกเขายังไงละ? ผม สอนวิธีตกปลาครับ ตอบแบบฉลาดๆ 555+ พี่โอ๊ค ช่ายยยย เราต้องสอนให้พวกเขารู้วิธีการหาปลา แล้วเราก็มีหน้าที่ส่งคันเบ็ดตกปลากับเหยื่อให้พวกเขา โดยที่เราขอแค่ปลาตัวเดียวจากทั้งหมดที่เขาหามาได้ พักเที่ยงวันนั้นจบลงด้วยความรู้สึกดีๆที่ว่างานที่ทำเราทำอยู่แม้จะดูเล็กน้อย แต่ก็คอยช่วยคนที่ลำบากกว่าเราอีกเยอะเลยในสังคม พักเที่ยงที่เดิมเวลาเดิมเพิ่มเติมคืออีกสองวันถัดมา ผมก็ไปนั่งคุยกับพี่โอ๊คเกี่ยวกับการทำงานคลังสินค้าของผม เข้าใจผมม่ะ มือใหม่เลยแพ็คแบบไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ พี่โอ๊คเลยเปิดขึ้นมาเลยว่า รู้มั๊ย ว่าการส่งสินค้าคือหัวใจของเรา ลองนึกภาพเราเป็นลูกค้าที่รอรับสินค้าดูว่าถ้าเขาเปิดกล่องออกมาแล้วสินค้าที่พวเขาตั้งหน้าตั้งตารอ 3-7 วัน เปิดออกมาแล้วพังเลย ซึ่งพี่ไม่โอเคเลยกับความรู้สึกนั้น แล้วรู้ไหมว่าสโลแกนของ Dropshoppingthai คืออะไร เนื่องจากผมฟังพี่เขาอธิบายเพลินมาก เพลินจนเหม่อเลยทีเดียวพอได้ยินคำถามปุ๊บ ไม่รู้ครับ ปั๊ป
ผมนี่สงสารพี่โอ๊คจริงที่มีลูกน้องเกรียนแบบนี้ พี่โอ๊คเลยพูดต่อว่า สโลแกนของเราคือ หนึ่งออเดอร์ หนึ่งความรู้สึก พี่อยากให้พวกเราทำงานด้วยความใส่ใจ ไม่ใช่ทำเพราะว่ามันเป็นงานหรือว่าทำให้ผ่านพ้นไป คิดถึงความรู้สึกของลูกค้าไว้เยอะๆนะ มีคำถามอะไรอีกมั๊ย? ผม ไม่มีแล้วครับผม สโลแกนที่ได้ยินทำให้ผมตื่นเลยทีเดียว แล้วพักเที่ยงของวันนั้นก็จบลงด้วยอารมณ์ฮึกเหิมที่อยากตั้งใจทำงานเพื่อลูกค้าของเราอย่างสม่ำเสมอ ช่วงพักเที่ยงในไม่กี่วันทำให้ผมรู้จัก Dropshoppingthai มากขึ้น ทั้งความเป็นมาสุดเฮฮาตั้งแต่การตั้งชื่อและวิสัยทัศน์ในการทำงานที่นอกเหนือจากคุณภาพในการทำงานแล้วยังเพิ่มเติมความเอาใจใส่ ใจเขาใจเราลงไปด้วย Dropshoppingthai ทุกขั้นตอนการทำงานผมกล้าพูดเลยนะว่าพวกเราตั้งใจกันจริงๆ และพวกเราไม่ได้สนใจอยากเป็นที่หนึ่งในใจใครใดๆทั้งสิน แต่สิ่งที่เราอยากจะเป็นและอยากให้ทุกคนเป็นคือเพื่อน เพื่อนที่เติบโตขึ้นไปพร้อมๆกันกับเรา คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมอ พวกเรารู้นะว่าทุกๆคนเหนื่อย ให้เพื่อนคนนี้ช่วยคุณได้ไหม? <<เรามาเป็นเพื่อนกันนะ>>