Harbin หนาวกว่าอยู่ตู้เย็น
ฮาร์บิ้น หนาวสะใจ -18องศา ถึง -28 องศา ต้องลองไปดูเก๋ น้อง และ ปะป๋า ตั้งใจไปCount down ที่เซี่ยงไฮ้-ฮาร์บิ้นกัน ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดีจนกระทั่งเฮียไปส่งถึงสนามบินตามเวลาปกติที่ควรจะเป็น มันเริ่มต้นก็ไม่มีวันลืมแล้ว การที่สายการบินดีเลย์ก่อนขึ้นเครื่อง เคยเจอมาอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันโหดดีเราดีเลย์เกิน 2 ชั่วโมงจนได้คูปองทานอาหารฟรีในairport มันก็ปกติน่ะนะ จากนั้นเราก็ได้เดินทางสมใจแต่ระหว่างบิน ความกดอากาศในเครื่องต่ำมาก เครื่องบินก็บินต่ำกว่าที่ควรจะเป็น สังเกตจากหูเราจะอื้อตลอดเวลาและตกหลุมอากาศบ่อยมากๆ เครื่องบินไปได้ 1 ใน 3 ของเส้นทาง กลับต้องวนเครื่องกลับสุวรรณภูมิอีกครั้ง กำหนดเครื่องออก เที่ยงคืน ดีเลย์ออกได้ตอน ตี 2 เครื่องบินกลับมาอีกครั้งตอนตี4กว่าๆ จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น1.กลุ่มฝรั่งเรียกร้องมากที่สุด จนบางครั้งเกินไปเหมือนเธอพลาดปุ๊บชั้นต้องได้ทุกอย่างจนบางครั้งมันไม่เกี่ยวกับการบินเลย2.กลุ่มชาวจีนเริ่มรวมตัวกันแบบมิได้นัดหมาย แล้วก่อม็อบประท้วงเลย มีแกนนำม็อบด้วยนะเก๋อึ้งมากเลย3.กลุ่มคนไทยแตกตื่นน้อยสุดรอฟังอย่างเดียว และถามว่าคุณStaff จะแก้ปัญหาอย่างไร คนไทยเสนอความคิดเห็นและช่วยหาทางออกด้วย4.กลุ่มกระต่ายตื่นตูมคละสัณชาติมีหลายรูปแบบ เป็นลม,เครียดความดันขึ้น ,ร้องไห้ไม่เดินทางแล้ว กลุ่มพวกนี้ Staff ส่งพบแพทย์รพ.สมิติเวช และเปิดโรงแรมให้พักก่อน5.พวกต้องบินด่วนเพราะต้องต่อไฟล์ทอันนี้เหนื่อยแทน เพราะต้องแข่งกับเวลาท้ายสุดเมื่อแก้ปัญหาพวกต่อไฟล์ท กับป่วยได้ ที่เหลือก็ได้ทานฟรีอีกรอบเพื่อฆ่าเวลา เก๋คุยกับเจ้าหน้าที่เลยทราบว่า เครื่องมีปัญหาจากสิงค์โปรมาแล้วเลยดีเลย์รอบแรกและซ่อมมาได้ พอมาบินต่อที่ไทยระบบควบคุมความกดอากาศในเครื่องมีปัญหาจึงไม่สามารถบินสูงได้หาก เมื่อเช็คเครื่องแล้วหากLandingช้ากว่านี้ประมาณ 10 นาทีหน้ากากก็จะตกลงมาให้ใช้งานในที่สุดสายการบินเช่าเหมาลำ ไปส่งเซี่ยงไฮ้ ตอน 11 โมงเช้า เที่ยวเซี่ยงไฮ้ก่อน 1 วัน และจึงบินไปฮาร์บิ้น เสียดายลืมถ่ายรูปมาให้ดูตอนเที่ยวอยู่เซี่ยงไฮ้ 0-ลบ3 องศา เก๋ก็ว่าหนาวแล้ว แต่พอบินถึงฮาร์บิ้นตอน2 ทุ่ม ก็ไปทานข้าวกันก่อนเข้าโรงแรม หนาวมากจนจมูกเล็บแตกทันที เพื่อนๆอาจคิดว่าไม่เตรียมตัวพกHand cream ไปขอบอกว่าทาตลอดเลยตั้งแต่อยู่เซี่ยงไฮ้แล้ว ลองสัมผัสแบบชิวชิวแล้วช่วง 2 - 4 ทุ่ม เข้าโรงแรมพักผ่อนก่อนไม่ไหวแล้ว เช้าพรุ่งนี้ค่อยลุยใหม่ แต่เช้าเพราะว่าจะไปสกีรีสอร์ทกัน ที่ฮาร์บิ้นเนี่ยอากาศเย็นมาก @ไม่ต้องการเครื่องพ่นหิมะเทียมแบบเกาหลี หิมะไม่ละลาย ชุดเลยเปื้อนน้อยมาก ไม่ต้องยืมชุดสกีก็ได้ คนที่เล่นไม่เป็นช่วงปิดเทอมมีนักเรียนกีฬามารับจ้างสอนด้วยถ้าไม่เป็น แต่เก๋ลุยเองเลยเดี๋ยวเป็นเองน่ะเวลาเล่นสกีไม่ต้องกลัวหนาวหรอกขอบอก เพราะว่าเล่นเพลิน อ้อไม่ต้องกลัวเจ็บด้วย ลืมเองแหละ งานเทศกาลน้ำแข็งที่ฮาร์บิ้นนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 ที่ด้วยกัน 1 . สวนเจ้าหลิน เป็นสวนสาธารณะ เปิดให้เข้าชมฟรี ตอนกลางคืนจะสวยเพราะในน้ำแข็งจะติดไฟด้วย เป็นงานที่เล็กที่สุด เพราะสถานที่แคบ แต่อยู่ในเมือง บริษัททัวร์บางที่พาเข้าชมที่นี่แล้วบอกที่นี่และงานน้ำแข็งฮาร์บิ้นที่นี่ตอนแรกคิดว่าหนาวแล้ว อุตส่าห์กินสุกี้เนื้อแกะของฮาร์บิ้นแล้ว ที่เค้าเรียกว่า เชาว์เก้าแล้วอบอุ่นร่างกายก่อนเดินสวนแล้วนะเป็นไงค่ะ เคยเห็นตุ๊กตาหิมะคู่มั้ยเอ่ย 55555เวลาที่อากาศหนาวมากๆ มันจะกินแบตเตอรี่มากๆเลย กล้องเนี่ยแบตเตอรี่หมดเร็วมาก โดยส่วนใหญ่จะทนอุณหภูมิได้ มากสุด -10 องศา เท่านั้น ตอนก่อนพระอาทิตย์ตกดินสบายค่ะ แต่พอมืดอุณหภูมิลดต่ำกว่า -20 องศาอีกวิธีแก้เฉพาะหน้าคือให้ความอบอุ่นกับแบตเตอรี่ก่อน ฮึฮึเหน็บในเสื้อก็อุ่นเดี๋ยวแบตก็ขึ้นมาบ้าง อ้อกล้องจะรวนบ่อยนะค่ะ ยิ่งดิจิตัล ด้วยแล้วแพ้ความชื้นจ้าอีกวิธีก็คือเอาแผ่นทำความร้อนที่ใช้แปะเสื้อผ้าให้อบอุ่นใส่ไว้ในกระเป๋ากล้องก็ได้ สำหรับแผ่นทำความร้อนที่ขายในไทยก็ยี่ห้อ1. ThermalPad ที่แปะบรรเทาปวดประจำเดือนนั่นแหละ ใช้แล้วอุ่นดีเวลาหนาว ซื้อได้ร้านขายยา อย่าง Facino 2.ซื้อของญี่ปุ่นกธได้ในไดโซ จะมีขายเป็นแพ็คเลย 69 บ. มี 10 ชิ้น ก็อุ่นดี อยู่ในสวนเจ้าหลินประมาณ 2 ชั่วโมง กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็ เที่ยงคืนเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า จะไปดูว่ายน้ำทะเลสาปว่ายทาน - 40 องศาคะ