เพิ่งนัดกินข้าวเย็นกับเพื่อนๆสมัยอยู่ ซานฟราน ทำให้หวนคิดถึงช่วงเวลาดีๆที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ประกอบกับมีเพื่อนๆถามที่เที่ยวในซานฟรานพอดีเลย มันจึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขียนบล๊อกนี้ขึ้นมา เผื่อใครๆที่สนใจจะไปเที่ยวที่นั่นบ้าง ก็แปลกเหมือนกันนะที่ที่ไม่ได้อยู่ซานฟรานมาปีกว่าๆแล้ว เพื่อนก็ยังเรียกเราว่า "เบิร์ดซานฟราน" แต่ตอนสมัยอยู่นิวยอร์ค เพื่อนๆก้เรียกเราว่า"เบิร์ดนิวยอร์คไง" ซึ่งก็คือคนๆเดียวกันอ่ะแหละ 555
จริงๆก่อนที่จะย้ายมาที่ซานฟราน ก็ได้มีโอกาสมาเที่ยวบ้าง ซึ่งไม่เคยคิดเลยว่าต้องย้ายมาอยู่เป็นเรื่องเป็นราว จนกระทั่งสอบติดที่ Academy of art university แบบว่าติสต์แตกไง เมืองนี้จึงเหมาะสุดแล้วสำหรับคนล้นๆเยอะแบบเราเนี๊ย
ไม่รู้จะเริ่มเมาท์จากตรงไหนก่อนดี เพราะข้อมูลเต็มหัวไปหมด เกรงว่าเขียนไปเขียนมา ตัวเองจะงงเอง 555 เอาเป็นว่าเริ่มเที่ยวจากใน downtown แล้วถึงกระดึ๊บๆออกมานอกๆเมืองละกันเน๊าะ
San francisco เป็นเมืองสวยติดอันดับโลกที่ใครๆก็ใฝ่ฝันจะได้ไปเที่ยวที่นั่น ซึ่งก็ไม่ผิดหวังค่ะ โชคดีจริงๆที่ตัดสินใจไปเรียนที่นั่น เพราะบ้านเมืองอากาศดี เอื้อต่อการศึกษาศิลปะสุดๆค่ะ เอาเป็นว่าถ้าใครมาเที่ยวที่นี่แล้วจะไม่ผิดหวัง (เสียอย่างเดียว Homeless เยอะไปหน่อย เหมือนในหนังเรื่อง Persude of the happiness เป๊ะเลย)
ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ มี San Francisco Bay โอบล้อม อากาศจึงเย็น ลมแรง และฝนตกเสมอๆ ช่วง summer คือช่วงที่กระดี๊กระด๊ามากที่สุดเพราะได้รับแดดแรงๆบ้าง เพราะฉะนั้นถ้าใครจะมาเที่ยวต้องเชคอากาศดีๆและติดเสื้อกันหนาวมาด้วย เพราะ 1 วันมีถึง 4 ฤดูค่ะ
สถานที่เที่ยวในซานฟราน และพื้นที่ใกล้เคียง ถ้าเที่ยวแบบมีเวลาจำกัดก็เลือกเอาที่สนใจจริงๆนะคะ แต่ถ้ามีเวลาเวิ้นเว้อเยอะหน่อยก็คงจัดไปทุกที่ค่ะ ส่วนใหญ่เวลาที่เพื่อนๆกะเบิ๊ดมาเยี่ยม ก็จะบอกให้เช่ารถเลยค่ะ สะดวก ไม่เสียเวลา และไปได้หลายที่มากกว่า
เอาเป็นว่ากะเบิ๊ดเมาท์ที่เที่ยวตามที่ชอบ ใครอยากไปที่ไหนก็เลือกเอาตามเหมาะสมเลยละกันนะคะ
1. ที่แรกนี่ถือว่าเป็นใจกลางของ Downtown เค้าเลยก็คือ Union Square เป็นสวนหย่อมเล็กๆที่มีพื้นที่นั่งเล่น ร้านกาแฟชิลๆโดยรอบ ส่วนพื้นที่ตรงกลางบ้างก็ใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ขายของ show และช่วง winter เป็นพื้นที่สำหรับเล่น ice skate กลางแจ้ง แถมมีต้นคริสต์มาสสูงๆๆๆๆๆๆ อยู่ใจกลาง park ตั้งตระหง่านแข่งกับเสาเทพี union square ค่ะ ส่วนรอบๆนอกของ park แบ่งเป็น 4 มุม แต่ละมุมมีหัวใจเบ้อเริ่ม ซึ่งเพ้นท์ลายแตกต่างกันไปเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของที่นี่ที่เดียวเชียวค่ะ
2. นั่งรถไฟโบราญ Cable car ล่าสุดที่ใช้บริการราคา $5 (ปี2012) แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเท่าไร ถ้าขึ้นต้องไปรอต้นสายเลยค่ะ คือ ที่ถนน Market street & Powell street (อ่านว่าพาวว์ นะคะ ถ้าพูดว่าโพเวล ฝรั่งเค้าจะทำหน้างงๆ) หาไม่ยากค่ะ อยู่ตรงกลางระหว่าง Forever 21 กับร้าน Gap นักท่องเที่ยวต่อแถวยาวเหยียดดดดดด เป็นหางงูเลย แนะนำว่าเช่ารถก็ไม่ต้องเสียตังค์ฟรี แค่เนียนๆขึ้นไปถ่ายรูปตอนมันจอดอยู่ก็พอแล้วค่ะ555
3. China town
อยู่ไม่ไกลจาก downtown กะเบิ๊ดไปบ่อยเวลาซื้อของกินแนวเอเชียๆ ที่นี่ดูรวมๆสะอาดกว่าที่นิวยอร์ค อาจจะเป็นเพราะเล็กกว่าและยึ๊กยือๆบนเขามั๊ง เกี่ยวมั้ย555 ซุ้มประตูทางเข้า China town เป็นประตู Classic เก่าๆซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของพี่จีนเค้าอ่ะค่ะ เดินดูวัฒนธรรมเค้าที่สะดุดตาที่สุดคงจะเป็น Bank of america ตัวอาคารจีน เสามีมังกรเลื้อย และประตูก็จีนจ๋าดีค่ะ มะรู้จะอธิบายอย่างไร ในสมัยอดีตเคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นในซานฟราน ทำให้บริเวณนี้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้วทำให้ไฟไหม้ซึ่งมีอาคารบ้านเรือนเสียหายเป็นจำนวนมาก
อ้อ! ซานฟราน เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเสี่ยงของแผ่นดินไหวมากที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ดังนั้นทำให้คนออกแบบสร้างตึก อาคาร บ้านช่องจึงออกแบบเพื่อรองรับผลกระทบจากแผ่นดินไหวให้ได้มากที่สุด ที่เห็นอย่างชัดเจนเลยก็คือ ตึกบริเวณ Financial district เป็นรูปสามเหลี่ยมซึ่งตัวฐานมีล้อ (ไม่รู้แบบไหน เค้าบอกมาอีกที และก็อ่านรายละเอียดจากใน google) เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ตึกนี้จะไม่ถล่ม แต่จะลื่นไหลไปตามแรงสั่นสะเทือน เก๋มั้ยหล่ะ :)
4. The Grace Cathedral Church
อยู่ระแวกเดียวกันกับ China town เลยค่ะ ระหว่าง Taylor & California street เป็นโบสถ์คริสต์เก่า ขนาดใหญ่ เปิดให้เข้าชมตลอด แต่ไม่แน่ใจเวลาปิดนะคะ ลองๆเชคดู เผอิญว่าไปหลายรอบ แล้วที่โชคดีที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่เค้ากำลังประกอบพิธีกรรมอยู่ ฟังเสียงเพลงประสานเสียงแล้วไพเราะดีค่ะ
5. Lombard street
กะเบิ๊ดและเพื่อนๆเรียกกันว่า ถนน ลำบาก สตรีท 555 เพราะเป็นถนนซิกแซก ปราบเซียน อยู่ระหว่าง Hyde กับ Leavenworth มันเก๋ตรงที่ เป็นซอย 1ซอยไม่ยาวมาก แต่ความชันเกือบๆ 90 องศา คนออกแบบถนนนี้ ก็เลยต้องใช้วิธีทำถนนให้ซิกแซกไปมาเพื่อลดอัดตราความเร็ว และอุบัติเหตุ มั้งนะ (เหตุผลนี้อิงความน่าจะเป็นค่ะ) ใครที่ชอบลองขับรถ ขอท้าให้มาลองขับถนนนี้แล้วจะประทับใจค่ะ ถ้ามาช่วง summer จะดีมากเพราะต้นไม้บานสะพรั่ง สีสวยงามทีเดียว นักท่องเที่ยวก็แยะตลอดเวลา สงสารก็แต่คนที่มีบ้าน อาศัยอยู่ที่นี่เพราะต้องเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งเดินขึ้นลงบ้าง ขับขึ้นลงบ้าง อยู่ไม่ขาดสาย
6. First Swensen's Ice cream
ใช่ค่ะ ไม่ผิดหรอก ไอติมสเวนเซ่นส์ สาขาแรกของโลก ก่อกำเนิดขึ้นที่นี่ ตั้งอยู่หัวมุมระหว่าง Hyde กับ Union street ไม่ไกลจาก ถนน Lombard street เลยค่ะ ตอนไปครั้งแรก กะเบิ๊ดเห็นแล้วตกใจมั่กๆ อกอีแป้นจะแตก เพราะร้านเล็กนิดเดียว เป็นแบบ Togo รีบๆสั่งแล้วก็ต้องออกจากร้านเลย เพราะไม่มีที่นั่งให้จู๋จี๋กันแบบประเทศไทยเรานะคะ เอาเป็นว่า อย่าคาดวังว่ามันต้องดูไฮโซอย่างพี่ไทยเราค่ะ
7. Ghirardelli square
เดินทางต่อ จุดมายคือ ต้องไปถึง Pier และกินไอติม ที่ดังกว่า สเวนเซ่นส์ 555 ให้ขับรถตามถนน Hyde ขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายที่ North Point st ตัดกับ Polk st จะเห็นร้านไอติม + ช็อคโกแลต กลิ่นอายคลาสสิคๆ อันเป็นผลิตภัณท์ขึ้นชื่อของซานฟรานเค้า ใครมาแล้วไม่ได้กิน ก็เสียใจด้วยนะคะ OTOP พี่เค้าดีจริงไรจริง กะเบิ๊ดมาทีไรก็สั่ง Chocolate ice cream ตลอดค่ะ ร้านมี 2 ชั้น ชั้นล่างมีโรงงานย่อมๆผลิตช็อคโกแลตโชว์กันจะๆไปเลย
8. Fisher man Warf
สัญลักษณ์ชัดเจนว่า ถ้ามาถึงแล้วต้องเห็นป้าย กลมๆใหญ่ๆ มีรูปปูสีส้ม และปูรูปปั้น ตั้งตระหง่านกลางสี่แยก อาหารทะเลสดๆอร่อยๆตรึมค่ะ ต้องลิ้มลอง Lobster ตัวยักษ์บึ้มนะคะ เนื้อแน่นๆ ซี๊ด!!!น้ำลายไหล ราคาอยู่ที่ ตัวละ $28-38 ค่ะ (แต่ตอนนี้น่าจะแพงขึ้น)
ส่วนร้านที่มี Clam chowder soup อร่อยลิ้นขั้นเทพ ก็คือร้าน Boudin ราคาไม่เกิน $10 อันนี้ขอย้ำนะคะว่าต้องลอง!!! อย่าเพิ่งเหนื่อยกินนะคะ อยากให้ได้ลิ้มลองอาหารอร่อยๆและขึ้นชื่อของที่นี่เค้า กะเบิ๊ดกับผองเพื่อนมีเคล็ดลับในการลองกินทุกอย่างโดย เข้าร้านไหนก็ซื้อเพียง 1 ชิ้น แล้วแบ่งกันกิน พอถึงร้านสุดท้าย ก็อิ่มเต็มท้องพอดีค่ะ 555
9. จากนั้น เดินลงไปเรื่อยๆ จนถึง Pier 39 ที่นี่ไม่มีใครไม่รู้จัก เป็น landmark ของเค้าเลยล่ะ เพราะมีเจ้า sea lion สิงโตทะเล นอนอาบแดดเกลือกกลิ้งเต็มไปหมดให้คุณได้ถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดเลยค่ะ pier นี้ที่เด่นดังก็เพราะมีร้านรวง และ amusement park ไซส์ มินิ ให้เด็กๆและครอบครัวมาพักผ่อนบันเทิงใจ มาเมื่อไหร่ก็อุ่นหนาฝาคั่งด้วยผู้คนจากทุกสารทิศทั่วโลกเลยค่ะ อาหารทะเลที่นี่ อ่ะ แพงแน่นอนไม่ต้องห่วง แต่ลองกินซักมื้อดูก็ดีนะคะ อาหารสดๆอร่อยๆ จำได้ว่ากะเบิ๊ด กิน ที่ร้านอยู่ชั้น 2 จำชื่อร้านไม่ได้ ราคาแพงอย่างที่คาดไว้เลยค่ะ
เดินไปจนสุดทางของ pier 39 จะมองเห็นเกาะๆเล็กๆกลางทะเล ซึ่งนั่นก็คือ Alcatraz คุกเก่าแก่สมัยโบราณสำหรับขังนักโทษ หัวโหดระดับชาติ ซึ่งปัจจุบันใช้ถ่ายหนัง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อที่หนึ่งในซานฟรานเลยค่ะ
10. Alcatraz
4. Coit tower
8. Exploratorium (palace of fine art)
9. Goldengate bridge
10. Cliffhouse
11. Windmill
12. Japanesetea garden
13. Victorianhouse ( Alamo square)
14. Haightstreet
15. Castro
16. Twinpeaks
Optional
1. Japantown
Food
1. Thaihouse express (tom yum noodle)
2. ZenYai (Nam tok noodle/ Yen ta fo)
3. Ryoko
4. YakinoQ
5. Cheesecake factory
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [
เห็นถ่ายรูปสวย เลยคิดว่าต้องได้ดูรูปวิวสวยๆ แน่ๆ เลยค่ะ