ค่ำคืนเดียวดาย เมามายใต้จันทร์เสี้ยว
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
นาคามรกต (ตอน 2 พระธัมมะรงค์นาคา) บทที่ 6



บทที่ 6



“งานอะไรของแก”


“ ดาราสาวคนหนึ่งน่ะซิ เขาเปิดตัวหมอดูคู่ขา เอ๊ย คู่บารมีของเขา นัยว่า เพราะมีหมอดูคนนี้ล่ะ การงาน ความรัก และการเงิน รุ่งจนฉุดไม่อยู่ทีเดียว”


“หมอดู หรือหมอทำเสน่ห์ กันแน่” ศจีสงสัย


“เออ จะหมอไหน ก็ ไปกันเถอะ เผื่อว่า จะได้ดูเนื้อคู่ให้ฉันด้วยไง หรือ แกเอง จะได้รู้จักไว้ ถ้ามันแม่นจริง จะได้ดอดไปให้ดูเสียหน่อย” รัตนา กล่าวชักจูงเพื่อนอย่างศจี รู้ใจกันดีว่า หมอดูถ้าแม่นละก็ อยู่ไกลแค่ไหน พวกเธอก็จะดั้นด้นไปหา แล้วนี่ มีการนัดหมาย ขนาดนี้ น่าสนใจไม่น้อยหรอก


“ สักครู่ ฉันเชฟงานก่อน วันนี้ ฟรี ไม่ต้องรอพี่ทศด้วย”


“งั้นไปกันเลย”

ดาราสาวผู้โด่งดัง ด้วยข่าวอื้อฉาว กำลังนั่งแถลงข่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน พร้อมกับร่างชายสูงวัยผมสีดอกเลาที่ดัดเกรียนติดศีรษะ แต่ถึงแม้ว่าลักษณะของชายชราผู้นั้นจะมีผมสีดอกเลา สวมชุดขาวทั้งชุด ตัดเย็บอย่างดี หากแต่แววตาก็เป็นประกายเจิดจ้า แลมองสบตามาถึงสองสาวที่นั่งฟังการแถลงข่าวด้วยรอยยิ้มนิดๆ ทำเอาหนึ่งในสองนั้นขนลุก



“ คุณลุงท่านนี้ ท่านชื่อหมอศาสตรา เป็นหมอดูประจำตัวเม เมเชื่อในศาสตร์ทางโหราศาสตร์ เมผิดด้วยหรือคะ คนเรามันก็เอาไปพูดกัน หาว่า เมทำเสน่ห์เล่ห์กล เมก็ต้องมาเปิดตัวคุณลุง ทั้งที่ท่านเองก็ไม่ชอบที่จะเปิดเผยตัว ท่านอยู่ของท่านเงียบ ๆ เวลาเมมีปัญหาก็ปรึกษาท่าน เหมือนกับหมอดูทั่วไป


เมปฏิเสธเลยว่า เมไม่ได้ทำเสน่ห์เล่ห์กลใด ๆ ที่ทำให้ พี่หมอ ต้องเลิกกับภรรยา” ดาราสาวเว้นจังหวะนิดหนึ่ง และมองสบตาบรรดาสื่อมวลชนที่ตั้งใจรอฟังคำแถลงข่าวของดาราสาว



“พี่หมอ มีปัญหากับภรรยาเรื่องใด เมื่อใด เมไม่ทราบ แต่ที่เมคบกับพี่หมอ เมคบในฐานะพี่ชาย”


“แล้วความสัมพันธ์จะพัฒนาต่อไปไหมคะ”


“อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคต”

“แล้วหมอดูที่คุณเม นับถือ นี่ละคะ ท่านว่ายังไง”
ดาราสาว ยิ้มนิดหนึ่ง พลางหันไมค์ไปทางชายสูงวัย


“ลองถามท่านดูนะคะ”
หมอดู ผู้โด่งดังชั่วข้ามคืน ยิ้มให้กับดาราสาว ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นกังวาน


“ดวงของคุณเม เป็นดวงมหาเสน่ห์ เข้าใกล้ใครแล้ว ใครก็อดรักไม่ได้”


“เสน่ห์นี้ ต้องทำด้วยหรือเปล่า” เสียงสื่อมวลชนสอดแทรกขึ้นมา”



“แล้วคุณคิดว่าอย่างไรล่ะ คุณเมเธอโด่งดังก่อนที่จะมาหาผมให้ดูฤกษ์พานาทีนะคุณ” ชายสูงวัยตอบโต้ทันควัน


“สรุปว่า คุณเมมีเสน่ห์เอง”


“ครับ ดวงคุณเมตอนนี้ จะต้องพบรัก พบเนื้อคู่ มีเกณฑ์ให้รักให้ชอบ มีบริวารเข้าหา มีงานพุ่งชน ต้องสับรางให้ดี”



“เนื้อคู่นี่ใช่ คุณหมอที่เป็นข่าวหรือเปล่า”


“มีหลายคนครับ คุณหมอก็เป็นหนึ่งในนั้น”


ดาราสาว หันไปยิ้มกับหมอดูคู่กาย แล้วหันเหไปเรื่องอื่นที่เป็นงานแถลงในเรื่องการแสดงของเธอต่อ ส่วนหมอดูนั้น ก็ยังคงนั่งอยู่ข้างเคียง หลังจากนั้นชั่วครู่ ก็มีการถ่ายรูปกันหลังจบการแถลงข่าว หมอดูกิตติมศักดิ์ จึงได้เตร็ดเตร่มายังบริเวณสื่อมวลชนที่ออกันอยู่ ราวกับรู้ว่า มีคนสนใจที่จะให้ดูดวงพื้นฐาน....... ฟรี



“ผมก็สัมผัสได้บางอย่างนะครับ ตามกระแสที่พุ่งเข้าหาจิตผม แต่ถ้าจะให้ละเอียดก็ต้องไปว่ากันด้วยเรื่องดวงดาว ตามฤกษ์ยามที่เกิด” หมอดูกล่าวเสียงนุ่ม เมื่อสื่อมวลชน ลองให้ดูดวงให้ เพื่อเสริมกับข่าวว่า แม่นจริงหรอไม่



หลายต่อหลายคน ยืนยันว่า หมอดูคนนี้ทักถูกต้อง พากันเลื่อมใสศรัทธา ขณะที่ศจียืนอยู่วงนอก เหยียดยิ้มกับความงมงาย ทั้งดารา และสื่อมวลชน



“คุณกำลังจะเสียของรัก เพราะเจ้าของเขามาทวงคืน” เสียงทักลอยลมมาไม่ไกล ศจีหันกลับไปตามเสียงก็พบกับแววตาทักทายยิ้มเล็กๆ ของหมอดูคนนั้นที่ส่งมาถึงเธอโดยตรง


เป็นไปได้อย่างไร ที่หมอดูคนนั้นจะพูดกับเธอ เขาอยู่ท่ามกลางสื่อมวลชนที่รุมล้อมขอให้ดูดวง หากแต่เสียงที่ได้ยินนั้น เหมือนคุยกับเธอ และเมื่อศจีสงสัย หมอดูกลับพยักหน้าให้เธอมั่นใจว่า เสียงที่เธอได้ยินคือ เสียงของเขา ถูกต้องแล้ว


“ศจี เป็นไร ยืนหน้านิ่วเชียว” รัตนาเดินเข้ามาสะกิดเมื่อพบเพื่อนสาวยืนอยู่ลำพังด้วยสีหน้าไม่ดีนัก


ศจีละสายตาจาก หมอดูนั่น หันกลับมามองเพื่อนสาว



“ เปล่า ไม่มีอะไร ฉันอยากได้เบอร์โทร.ของหมอดูคนนี้ แกมีไหม”



“แหม ของอย่างนี้ ไม่มีได้ยังไง แกติดใจอะไรวะ” รัตนาพลิกสมุดพกที่ช็อตโน้ตไว้ แล้วเขียนเบอร์โทร.ที่จดมา ใส่กระดาษอีกแผ่นแล้วฉีกให้เพื่อน



“เอานี่ เผื่อมีอะไรก็โทร.หาเขาได้ หมอดูพวกนี้ อาศัยเกาะดาราดัง แต่มันก็ไม่แม่นไปซะทุกคนหรอก 10 คน มันดูตรงสักครึ่งหนึ่ง ครึ่งนั้นเป็นคนดัง มันก็กลายเป็นหมอดูแม่น ๆ แล้ว” รัตนากล่าวอย่างไม่สนใจ


“รวมถึงลุงคนนี้ด้วยเหรอ”



“ลุงคนนี้ มีข่าวว่าแก ทำเสน่ห์ด้วยน่ะซิ หมอเขมรน่ะ ยังไงก็ถูกมองในแง่นี้ ทั้งที่ความจริง แกทำหรือไม่ทำก็ไม่รู้ล่ะ แต่เรื่องจริง คือ ยัยเมนี่ งานเข้าแบบไม่น่าเชื่อ แถมดาราหนุ่มก็ขยันขายขนมจีบ แต่คุณหมอไฮโซนี่สิ นี่เจ้าหล่อนหมายมั่นปั้นมือ อยากจะไปเทียบกับภรรยาของเขา แล้วก็ไม่รู้ทำอีท่าไหน เขาจะหย่ากันในไม่ช้านี้”



“เลยเป็นที่มาว่า ดาราสาวทำเสน่ห์”


“ใช่ เพราะแต่ก่อนเจ้าหล่อนก็ใช่ว่าจะดังนะ ไม่ใช่นางเอก เป็นแค่นางรอง นางร้าย”


“แกว่า หมอดูนั่นทำเสน่ห์ หรือเปล่าวะ”


“มันจะทำไม่ทำ ฉันก็เขียนให้คนอ่านรู้สึกแหละว่า มีการทำเสน่ห์”


“แกจะบิดเบือนข่าว”


“เปล่าแค่เขียนไม่เคลียร์ การทำเสน่ห์ มีหลายแบบนะแก ยัยนี่อาจไปทำศัลยกรรมให้สวยขึ้น ออกกำลังกายให้รูปร่างดูขึ้น แต่งหน้าแต่งตัว ก็เหมือนเพิ่มเสน่ห์ขึ้น และสุดท้ายที่อาจจะทำให้คนเข้าใจและพร้อมจะเชื่อคือ ทำเสน่ห์โดยพึ่งไสยศาสตร์”



“แหม แกนี่ ขายเอาข่าวจริงๆ “ ศจีทุบเพื่อนเบา ๆ ไม่ได้ห้ามปราม


“ข่าวบันเทิง มันวงการมายาว่ะ อย่าเชื่อ ในสิ่งที่เห็น แม้แต่ข่าวก็เถอะ”



“ ฉันเห็นอย่างนี้แล้ว สงสารแฟนคลับว่ะ”



ศจีกับรัตนา หัวเราะให้กัน ก่อนจะเดินทางกลับออฟฟิศ กลางค่ำกลางคืน ออฟฟิศก็เปิดอยู่เสมอ สำนักข่าวไม่เคยปิดไฟ เพราะข่าวเกิดขึ้นทุกเวลาและนาที


กว่าศจีจะได้กลับบ้านก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ความเหนื่อยกับการตะลอนข่าว ทำให้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะยกหูถามทศวาร แต่อย่างน้อยเธอก็ได้รับการติดต่อจากเขาแล้วว่า เขาอยู่ต่างจังหวัดกับลูกค้า


ทศวารเคลียร์งานที่อยู่ตรงหน้าเสร็จในช่วงเวลาใกล้ค่ำ เขาหลอกล่อศจีว่าเขามีงานด่วนต้องไปต่างจังหวัด อาจจะรู้สึกผิดบ้าง แต่เขาก็อยากจะทำตามหัวใจของตัวเอง


แม้ว่า จะมองเห็นเค้าลางของปัญหาอยู่ข้างหน้าแต่ก็ต้องทำ บางทีอนินนาถอาจจะหาทางออกให้เขาได้ เขาไม่เชื่อว่า อนินนาถจะเป็นนางเอกหนังไทย ที่พอแฟนมีอะไรกับผู้หญิงอื่น ก็เสียสละ เธอมีเหตุผลมากกว่านั้น และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เขาเองเต็มใจ แต่ถูกล่อลวงเสียด้วยซ้ำ



รถยนต์กำลังเครื่องสูง ขับฉิวไปบนเส้นทางสายมิตรภาพ อีกไม่นานเขาก็จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว อนินนาถไม่รับโทรศัพท์ไม่เป็นไร เพราะบ้านเธอเขาก็รู้จัก ดีเสียอีก เขาจะได้ไปเซอร์ไพร์กับ “นิน” เธอจะต้องดีใจแน่ ๆ


“น้านิน ไม่อยู่ครับ” มะขาม ทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน เมื่อพบกับ ชายตัวโตที่ขอพบอนินนาถในยามวิกาล


คนงานบ้านอนินนาถจดจำ ชายหนุ่มผู้นี้ได้ จึงยินยอมให้เข้ามาในบ้าน แม้จะบอกในเบื้องต้นแล้วว่า อนินนาถไม่อยู่


คุณนายจันทร์ ของคนที่นี่ เดินออกมาจากห้องพัก ได้ยินเสียงต้อนรับจากมะขาม หลานชายตัวน้อยก็ยิ้มเอ็นดู พลางกล่าวสำทับกับชายหนุ่มที่เธอไม่ชอบหน้านักว่า



“นิน ไม่อยู่หรอกคุณ เขาเดินทางไปทำงานกับนนท์ ตั้งแต่เมื่อเช้า”


“แล้วนินจะกลับวันไหนครับ” ทศวารกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมหมดหวัง



“เขาไปทำงาน ต่างอำเภอ ไม่กลับวันนี้หรอก ว่าแต่เพิ่งรู้เหรอ ว่านินสึก” ปลายหางเสียงแกมเยาะ ไหนว่ารักนักรักหนา คนรักสึกมาเสียหลายอาทิตย์ ดันไม่รู้



ทศวารรู้สึกเหมือนตัวเองหน้าชา หากก็เป็นความจริงที่ว่า เขาละเลยอนินนาถจนไม่รับรู้ข่าวคราวของเธอเลย


“ผมเริ่มงานใหม่ ก็เลยยุ่งนิดหน่อยนะครับ เพิ่งรู้ข่าวเมื่อเช้านี้ สางงานเสร็จ ก็รีบมาเลยครับ”


“พักเสียที่นี่ก่อนก็แล้วกัน ไหนๆ ก็มาแล้ว” นางจันทร์กล่าวด้วยความเอื้อเฟื้อ แม้ไม่ชอบขี้หน้า


“ เอ่อ ไม่เป็นไรครับ แต่ว่า นินไปทำงานที่ไหนละครับ บางทีผมอาจจะตามไป”


“ไม่เหมาะมั้งคุณ ที่ก็ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว นอนเสียที่นี่ พรุ่งนี้ นินมันอาจจะกลับ แล้วค่อยคุยกัน” นางจันทร์ตัดบท นางไม่บอกเขาว่า อนินนาถไปทำงานรีสอร์ตที่ไหน อย่างไร


ขณะที่ชายหนุ่มใจร้อน อยากเจอหน้าสาวคนรัก อยากอธิบายว่า ทำไมเขาจึงไม่มาในวันที่เธอสึก และละเลยมาเสียหลายวันโดยไม่รู้ว่าเธอสึก กระทั่งเธอได้งานใหม่ เขาก็ยังไม่รู้ ถ้าจะโทษ ก็โทษตัวเองที่เปลี่ยนเบอร์โทร. เปลี่ยนงาน แต่อนินนาถไม่รู้ เพราะเขาชะล่าใจไปเอง เกือบปีที่ผ่านมา คิดว่า อนินนาถยังไม่สึก และลึกๆ เขาเองหมดหวังว่า อนินนาถคงไม่สึกเสียแล้ว


ด้านอนินนาถ หลังรับประทานอาหารเย็นร่วมกับหุ้นส่วนรีสอร์ต เธอขอตัวกลับห้องพักที่ พี่นนท์จัดเตรียมไว้ให้ ดูเป็นส่วนตัวดี เฟอร์นิเจอร์ครบครัน และอาจจะมากเกินความจำเป็น เพราะห้องพักของอนินนาถ ไม่ใช่ห้องพักที่สร้างเพื่อให้แขกเข้าพัก แต่สร้างขึ้นเพื่อให้หุ้นส่วนพัก มันจึงดูครบครัน ทั้งห้องน้ำห้องครัวเล็ก ๆ ห้องอาหารเล็ก ๆ ห้องนอนกว้างขวางที่มีระเบียงติดกับธารน้ำไหลระริน ท่ามกลางหมู่แมกไม้ที่เขียวชอุ่ม



นี่ถ้าเธอไม่ได้เข้าพัก ก็อาจจะเปิดห้องนี้ให้แขกได้พักก็น่าจะดี เพราะทิวทัศน์ของบ้านหลังนี้งดงามทีเดียว



เตียงนอนขนาด 6 ฟุตตั้งอยู่กลางห้อง ใหญ่เกินไปสำหรับการอยู่คนเดียว


อนินนาถถอดแหวนนาคาที่เพิ่งได้มาในช่วงกลางวันวางไว้ข้างโคมไฟหัวเตียง แล้วควานลงไปในกระเป๋าถือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดเครื่อง มีสัญญาณเล็กน้อย สามารถโทร.ได้ แต่เธอแค่เพียงเปิดดูว่า มีใครโทร.หาเธอบ้าง



อนินนาถไม่ได้หวังว่าใครจะโทร. เพราะเบอร์เก่านี้เพิ่งไปเปิดใช้บริการหลังจากที่เธอสึกออกมา miss call บอกว่า ตะติยะ 1 สาย และ เบอร์ใครไม่รู้ 6 สาย น่าจะเป็นเบอร์สำคัญที่เรียกเข้าเครื่องเธอถึง 6 สาย อนินนาถแอบคิดในใจว่า ทศวาร โทร.หาเธอ



“ช่างมันเถอะ ตัดขาดกันแล้ว ก็ไม่ควรเหลือเยื่อใย” อนินนาถ ตัดใจในห้วงคำนึงทันทีที่คิดถึงทศวาร เธอหยิบผ้าเช็ดตัวออกจากตู้ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ



มรกตที่ติดไว้ในตำแหน่งดวงตาของแหวนนาคา เปล่งประกายแว่บหนึ่ง ก่อนมีควันพวยพุ่งออกมารวมเป็นเงาร่างของบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่สวมรัดเกล้าสีทอง สวมภูษาสีน้ำตาลขลิบทองเปลือยท่อนบนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม มีเส้นสังวาลย์คล้องอยู่สองสายทำด้วยอัญมณีสีสด ข้อมือสวมทองพระกร ( กำไล) และต้นแขนสวมพารุหัด (เครื่องประดับรัดต้นแขน)



“พระธำมะรงค์นาคา นำพาให้เราพบนางจนได้” บุรุษแย้มยิ้มดีใจ เมื่อปรากฏร่างอยู่ท่ามกลางห้องหับที่แปลกตา สายตาของบุรุษหนุ่มเพ่งมองไปที่แหวนนาคา เลื่อนมันขึ้นมาพินิจตรงหน้า



“เล็กลง” ยามเมื่อช่างทองถ่ายแบบ แหวนวงนี้ มีพิธีกรรมบวงสรวงไปถึงเจ้าของแหวน ก่อนจะหลอมแหวนและทำขึ้นมาใหม่ตามแบบเดิม ความกร่อนกลายที่สลายไปตามกาลเวลาทำให้ทองเก่าเหลืออยู่เพียงเท่านี้ ยังดีที่นางยังใส่ได้ โชคชะตาลิขิตแล้ว



“นิลกาฬ เรากลับมาปกป้องเจ้าแล้ว แต่จักทำเช่นใด เจ้าจึงจักระลึกถึงเราได้” บุรุษผู้สง่างามถอนหายใจเงียบงัน ทรุดนั่งลงข้างเตียง มองพระธำมะรงค์นาคาที่ลอยอยู่ตรงหน้าอย่างเหม่อลอย



เสียงเปิดประตูห้องน้ำ เป็นสัญญาณให้บุรุษแปลกหน้าสลายร่าง แหวนนาคาจึงกลิ้งอยู่บนที่นอนที่ขาวสะอาด อนินนาถสวมเสื้อคลุมออกมาจากห้องน้ำหน้าตาและผมที่เปียกลู่มีน้ำหยดพราว เดินหาเสื้อผ้าที่ถูกนำขึ้นแขวนไว้ในตู้ ฮัมเพลงอยู่ในลำคอด้วยความสุขใจ ทำให้บุรุษผู้แฝงร่างอยู่ในห้องนี้อดยิ้มไม่ได้ นางมีความสุขดีจริง



เหมือนกระแสบางอย่างทำให้เธอรู้สึกราวว่าไม่ได้อยู่คนเดียว อาการเหลียวหาใครในห้องจึงสร้างความขบขันให้กับบุรุษอารมณ์ดีนักหนา
“ใครหัวเราะอยู่” เสียงเข้มเขียวดังขึ้น บุรุษผู้นั้นเลิกคิ้วสงสัย นางรับรู้ได้ จึงเงียบไว้ ไตร่ตรอง



อนินนาถ เหลียวมองมาทางแหวนนาคา พบกลิ้งอยู่บนที่นอน จึงเอื้อมมือหยิบขึ้นมา เธอแน่ใจว่า เธอวางมันไว้ที่โคมไฟหัวเตียง เหตุใด ตอนนี้จึงกลิ้งอยู่กลางที่นอน ใครเข้ามา ประตูล็อค หน้าต่างล็อค ประตูระเบียงล็อค .....



“ใครอยู่ในห้องนี้ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” เสียงอนินนาถสั่นเครือ แต่ต้องรู้ให้ได้ว่า ภายในห้องนี้มีใครอยู่ แม้กลัว แต่เธอก็จะสู้ ข่มความกลัวไว้ภายใน



บุรุษอารมณ์ดียิ้มแย้ม ไม่ปรากฏร่าง แต่ฉวยสูดดมแก้มของผู้หวาดกลัวเป็นรางวัลก่อนหายไป









Create Date : 07 พฤษภาคม 2553
Last Update : 7 พฤษภาคม 2553 22:53:16 น. 2 comments
Counter : 600 Pageviews.

 
เนื้อหาเริ่มสนุกขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
อนินเนื้อหอมเจรง ๆ


โดย: คุณย่า วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:47:40 น.  

 
ยังไม่มีตอนใหม่หรือคะ


โดย: beautystone วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:2:23:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กระจ้อน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แล้ววันหนึ่ง....

เราจะมาพบกัน



เรื่องจริงที่ยังสงสัย บอกได้ชาตินี้เท่านั้น คลิ๊กที่นี่ค่ะ






อัปสรามนตรา คลิ๊กที่นี่ค่ะ


บล็อกที่แล้ว

"อะไรกันนักหนา"




Friends' blogs
[Add กระจ้อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.