ยินดีต้อนรับทุกคนค่ะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
Cairo, Egypt Part 1







ไคโร อียิปต์ ไม่ไปไม่ได้จริงๆนะ (ตอนแรกจ้ะ)

ต้องขอออกตัวก่อนนะคะ ว่า Trip นี้ เขียนใน blog ความตั้งใจหลัก คือ เพื่อให้ พ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนๆ ที่อยู่เมืองไทยของผู้เขียนได้อ่าน เนื่องจากตอนนี้มาทำงานอยู่ที่ Houston เพื่อให้ป๊ากะแม่ น้องๆ ครอบครัวและเพื่อนสนิท หายคิดถึงข้าพเจ้า ก็เลยเขียนเล่าแบบสบายๆ ก็เลยอาจจะไม่ได้มีสาระทางประวัติศาสตร์ให้เพื่อนๆ ใน blog ได้อ้างอิงเพื่อไปเที่ยวซักเท่าไหร่นะคะ สำหรับผู้ที่สนใจ เราเจอ website ดีๆ ขอแนะนำ //www.touregypt.net ได้ความรู้มากๆ แต่อ่านไปไม่ทัน ใครมีโอกาส ก็อ่านศึกษาไปก่อนเลยจะสนุกกว่านี้อีกจ้ะ




Trip นี้ ต้องบอกว่าลุ้นมากๆ เหนื่อยมากๆ ตั้งแต่เคยเดินทางมาเลย ออกเดินทาง 29 พย. 2552 จาก Houston ไป Frankfurt แล้วก็ต่อไป ไคโร จะเป็นวันที่ 30 พย. ตอนเย็น 6 โมงครึ่ง แต่เราไปไม่ทัน check-in ที่ Houston เคานท์เตอร์ปิดเร็วมาก วิ่งหาทางเปลี่ยนเครื่องซะแฮกเลย

พอมาถึงอียิปต์ ให้ตายเถอะ งานเปา ที่ทำงานเค้า filing ไม่เสร็จ เทๆ ใส่กระเป๋ามาให้ 2 คนไม่ได้หลับทั้งคืนนั่งทำต่อกัน เยอะสะใจ แต่สุดท้าย 8 โมงเช้า เราก็ทำเสร็จเอาไปส่งลูกค้า แล้วเราก็เตรียมเที่ยวเลย ให้มันสะใจไปเลย

วันที่เปาบอกว่าจะต้องไปอียิปต์ไปส่งงาน เราก็รีบบอกเลยว่าขอตามไปด้วย อยากเห็นปิรามิดมากกกกกกก แล้วก็ไปซื้อหนังสือท่องเที่ยวกะเปิด net อ่าน ว่าจะไปไหนดีบ้าง เพราะมีเวลา สั้นมาก แค่ 3 วัน เพื่อจะเที่ยวไคโร แต่งานก็ยุ่งมาก เลยไม่ทันได้อ่านศึกษาครบเลย เปามา confirm ว่าไปแน่ก็วันพุธแล้ว จะเดินทางวันอาทิตย์ เราก็ต้องหาตั๋วอีก เสียดายเหมือนกัน ที่เตรียมตัวมาไม่พร้อม

แต่โชคดีมากที่ตอนเช้ามาหลังจากส่งงานที่ทำงาน agent เปา แนะนำคนขับรถ กะแนะนำที่เที่ยวให้ ก็เลยหลังเปาส่งงาน เราก็กลับไปเปลี่ยนชุดเตรียมเที่ยว แล้วก็มาเจอคนขับรถพาเที่ยวกัน เสียดายที่ลุงคนขับพาเราเที่ยว พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยไม่ได้ชวนลุงคุยถามอะไรเลย ถนนหนทางที่นี่คนขับรถน่ากลัวมาก ที่สุดของที่สุดตั้งแต่เคยเห็น ที่นี่ถ้าถนน 2 เลน ก็จะแซงกันเลนกลาง แบบว่าบางคันก็ถอดกระจกข้างทิ้งกันไปเลย เวลาเบียดกันจะได้ไม่ต้องระวังกระจกมันจะหลุดหายไป เพราะยังไงก็ไม่ได้ดูกันก่อนปาดอยู่แล้ว ตอนช่วงแรกนั่งกันเกร็งลุ้นลุงมาก ลุงปาดสะใจไปเลยแซงออกไปทีหักเกือบ 90 องศา ไม่มีทางม้าลาย ไม่มีไฟจราจร คนเดินข้ามตลอดทาง รถหาทางหลบเอง เห็นคนนี่วิ่งใส่เลยไม่ให้คนเดินข้าม ไม่ทันก็เบรคกันหน้าคว่ำ เปาว่าสาหัสกว่าเวียดนามกะอินเดียอีก รถลุงเป็นรถ Daewoo ถือว่าใหม่กว่าคันอื่น เพราะนี่ถ้าเอารถคันคู่ใจป๊ามา ต้องถือว่ารถป๊าใหม่เป็นรถใหม่ไปเลยในไคโร โฮะๆ

ลุงก็แวะกินให้เราซื้อพิซซ่ากินก่อนจะได้มีแรงไปเดินปิรามิดกัน มองแล้วไม่มีอะไรอย่างอื่นกินได้ด้วย ขนมปังแบบอียิปต์ที่หาบขายกันก็ท่าจะเคี้ยวไม่ไหว แล้วมันคงอบอวลไปด้วยควัน บวกฝุ่น กะทรายข้างถนนของที่นี่มากเกินไป

ที่แรกที่เราจะไปก็คือ Pyramids of Giza ตอนแรกที่เห็น รู้สึกผิดจากที่คาดหวังไว้เยอะ เพราะมันใกล้เมืองมาก แล้วก็ถูกตึกบัง มันดูไม่ได้เวิ้งว้างแบบที่ดูรูปมาจากหนังสือเลย ก็จ่ายค่าเข้า area 60 LE. (Egyptian pounds) และค่าเข้าไปใน the Great Pyramid of Khufu อีก 100 LE. ซึ่งเปิดขายบัตร แล้วก็ให้เข้าได้ตอนบ่ายโมงตรง เราไป 5 นาทีบ่ายโมง เค้าไม่ยอมขายตั๋ว บอกให้รอ แต่มีน้องผู้หญิงข้างๆ เปาทักสวัสดีภาษาอาราบิคไป เค้าก็ทักทายคุยกันนิดหน่อย ปรากฎว่าเค้าเป็นไกด์ นำนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้า เค้าพูดขอให้ขายตั๋ว แล้วก็เผื่อเรา 2 คนด้วย น่ารักมากๆ เลย เราเลยได้เข้าไปในปิรามิด คนแรกๆ เลย






เราก็เดินเข้าไปข้างใน ก็เหมือนที่อ่านเจอมาว่าจะเจอพวกขอมาเป็นไกด์เรา ก็เจอจริงๆ อยู่ดีๆ ก็เดินมาเลย พาเราไปทางเข้าปิรามิด เราก็งงๆ แต่เข้าก่อนเดี๋ยวค่อยคิดอีกที ข้างในตอนช่วงแรกก็เหมือนถ้ำทั่วไป เดินทางราบเข้าไปช่วงสั้นๆ หลังจากนั้น โอ๊ย แทบเป็นลม เป็นทางขึ้นเตี้ยๆ ทำจากไม้กระดาน มีเหล็กว่าแนวขวาง ตามก้าวไว้ไม่ให้ลื่น ยังดีที่มีราวจับ 2 ฝั่ง เพดานสูงกว่าเอวหน่อย ต้องก้มกันตลอด แล้วก็เดินทีละคน ทางชันประมาณ 45 องศา ไม่แน่ใจว่าขนาดไหน แต่ต้องเดินเอาหัวกะตัวไปข้างหน้า ไม่งั้น หงายหลัง ก็ชันเหมือนกันนะ ขึ้นไปยาวเลย แล้วเราก็เห็นทางราบ ก็นึกว่าถึงแล้ว ที่ไหนได้ เป็นแค่ที่ยืนพัก ยังต้องขึ้นไปอีกไกลมาก มองไม่เห็นว่ามันไปสุดถึงไหนเลย เพราะมันสูงมากๆ เปาถามว่าไหวมั้ย เพราะเรากลัวความสูง ถ้าไม่ไหวก็กลับออกไปตอนนี้ เค้าเองก็ยังว่าเหนื่อยมากเลย เราก็บอกอ่านมาไม่เจอใครเล่าว่าข้างในนี้เป็นยังไงเลย อยากรู้เองก็อยาก เราก็ชั่งใจ กลัวก็กลัว แต่นี่ครั้งนึงในชีวิตเลยที่เค้ามาในปิรามิด แล้วก็เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แบบว่าสมกับที่อยากมามากๆ แล้วจะมาหยุดแค่นี้ ไปต่อดี ไม่ไปต่อดี โอ๊ย ไม่ได้ๆ ต้องอย่ามาปอดแหกตอนนี้ กว่าจะได้มา เราบอกเลย ว่าเราว่าขึ้นน่ะไหวอยู่มองแต่เท้าตัวเองไป แต่ขาลง ค่อยว่ากันอีกที เราอาจจะต้องนั่งถัดตัวลงมา ก็เลยกลั้นใจ ขึ้นกันต่อไป และแล้ว ในที่สุดเราก็ถึงห้องข้างบน

อยากจะบอกว่า หอบแฮกเลย มันมืดมาก อากาศน้อยมาก เข้าใจแล้วว่าทำไมวันนึงเค้าถึงต้องจำกัดจำนวนคนเข้า เพราะอาจจะไม่มีอากาศพอได้ ห้องที่เจอเป็นห้องสี่เหลี่ยม เพดานสูงมาก อาจจะกว้างประมาณ 25 x 15 ก้าวได้ มีกล่องปูนสี่เหลี่ยมอยู่อันนึง ริมห้องฝั่งไกล แต่เข้าไปดูก็ไม่มีอะไรข้างในแล้ว มันมืดมากๆ ด้วยจริงๆ ไม่ได้พกไฟฉายมา แล้วก็อ่านมาไม่เจอ ว่ามันคืออะไร เดี๋ยวต้องไปหาต่อ (มาอ่านจาก website touregypt เจอว่าเป็น King’s Chamber) จะว่าเป็น ที่ใส่โลงศพอีกทีรึเปล่าก็อาจจะเป็นได้ เพราะมันใหญ่จริงๆ ยืนซักพักพอหายเมื่อย ก็ต้องออก เพราะอากาศน้อยไป มันเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนลงพอเห็นมองตามรูลงไปนี่นั่งเลย ขาอ่อน ทำไงดีวะ มันสูงจัง เหมือนหัวเราทิ่มลงไปแล้ว เปาก็ไปรอก่อน เห็นคนนึงหันหลังลง เค้าเลยเอาบ้าง แต่เราว่าถ้าเราหันหลังนี่คงหงายหลังกลิ้งลงไปเลย เค้าก็เลยว่าให้เรามองแต่เท้าเค้า ลงมาทีละก้าวพร้อมกัน เฮ้อ ๆๆๆ อยากจะถอนหายใจก็ไม่ได้ อากาศไม่พอให้ถอนแบบสะใจๆ พอออกมาได้ ขาสั่นนิดหน่อย แต่ก็ดีใจที่ทำได้ รอดมาได้ ก็นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านั้น แต่ก็ถือว่าเป็นครั้งนึงในชีวิตจริงๆ ที่โชคดีได้เข้าไปดูกะตาโตๆ เลย






พอออกมา มีอีกคนเข้ามาหาเรา คนขับรถเราก็เดินตามมา แต่เราไม่รู้จะบอกเค้ายังไงว่าเราไม่อยากได้ไกด์ เพราะไม่รู้จริงหรือปลอม ไม่รู้สุดท้ายคิดตังค์เราเท่าไหร่ เค้าก็มาเลย ม้า 2 ตัว บอกให้เราขึ้น จะพาไปดู Sphinx แล้วก็โน่นนี่ เราไม่ได้ แลกตังค์มาเยอะด้วย เดี๋ยวไม่มีจ่ายคนขับรถ แล้วดีที่เปากล้าพูดตรงๆ ไกด์ผีคงดูออกว่าเราขี้เกรงใจ พยายามจะพูดให้เราไปกะเค้าให้ได้ เราก็ส่ายหัวอย่างเดียว ให้เปาคุย สุดท้ายเค้าก็ไป เปาเลยบอกคนขับให้รอที่รถ เดี๋ยวเรา 2 คนไปหาเอง ก็บุ้ยใบกัน กว่าจะเข้าใจ ไกด์ก็เดินตามเราพักนึง เราก็ทำเป็นถ่ายรูปปเล่นแค่ตรงนั้น เห็นเปาว่า แล้วก็ไปหาคนอื่นต่อ เราก็เลยมาเริ่มเดินกันใหม่

เราก็เดินรอบปิรามิดใหญ่ที่เข้าไปมาแล้วก่อนเลย มันสุดยอดจริงๆ หินไม่รู้ใช้อะไรตัด เอามาจากไหนก้อนเหลี่ยมแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้เอาหินใหญ่ขนาดนี้ขึ้นไปได้ยังไง จัดเรียงได้แปลกมากด้วย ก้อนสูงเท่าๆ กัน แต่กว้างไม่เท่ากัน แต่เรียงขึ้นไปแล้วทุกฝั่งดูเท่ากัน


สังเกตจากคนที่ปีน จะเห็นเลยว่าหินแต่ละก้อนใหญ่มากๆ คนกลายเป็นมดเลย จริงๆ เค้าห้ามปีน ก็จะมีตำรวจเดินมาเป่านกหวีดไล่ลงเรื่อยๆ




เราก็เดินๆๆ ต่อไป ตามหาพี่ Sphinx เห็นอยู่ไกลลิบๆ เพราะเราเดินอ้อมหนีไกด์ผีมาอีกฝั่ง ดีนะที่กินพิซซ่ามาก่อน ไม่งั้นหมดแรงแน่ ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเล่นไปด้วย ทรายที่นี่ไม่ละเอียดเท่าไหร่ แล้วก็เดินหลบขี้อูฐกะขี้ม้ากันไปตลอดทาง ก็เจอบริเวณ The valley temple ก่อน แล้วในที่สุดก็เจอ Sphinx สวยมากจริงๆ แต่ก็คนทำได้แหละ เราว่าตำแหน่งที่วาง Sphinx ดีมากๆ มองแล้วจะเห็น 3 ปิรามิดใหญ่ด้านหลังด้วย ก็ถ่ายรูปกัน






แล้วก็เดินเล่นนิดหน่อยก่อนจะกลับไปหาคนขับรถ ลุงคนขับรถก็พาไปดู ปิรามิดอันเล็กซึ่งอยู่ด้านไกลกว่านี้ เราก็ถ่ายรูปกันนิดหน่อย แล้วก็กลับออกมากัน

ลุงบอกว่าไป Khan el Khalili (ฟังลุงเรียกประมาณว่า คานอิลคาลิลี่)นะ เราก็บอกว่า yesๆ แต่ไปดูมัสยิดก่อนนะ ที่อยู่ตรงข้ามกันน่ะ ลุงก็พาไป เรา 2 คนหลับเป็นตายบนรถเลย ไม่ว่าแตรจะบีบกันดังอะไรจะเกิดบนถนน หลับแล้วไม่รู้แล้ว ก็มาลงรถลุงที่หน้า Mosque of Al-Azhar ก็ต้องถอดรองเท้า แล้วเราก็เอาหมวกเสื้อหนาวคลุมหัวเข้าไป เพราะที่นี่บังคับให้ผู้หญิงคลุมผมเข้าไปทุกคน









เป็น Mosque ที่สวยงาม และสงบเงียบมาก ทุกคนที่เข้ามาต่างก็เงียบ เราก็เลยถ่ายรูปกันเงียบๆ ไม่ได้เข้าไปในห้องบริเวณที่เป็นที่สำหรับละหมาด ได้แต่มองเข้าไป เพราะไม่อยากจะรบกวนคนที่กำลังละหมาดอยู่ ถึงจะเข้าได้ แต่เราว่าคงไม่เหมาะสม ก็เดินออกมาลงทางข้ามถนนใต้ดิน ไปโผล่หน้า Mosques Hussein มองเข้าไปแล้วคนกำลังละหมาดเยอะมาก ก็ถ่ายรูปด้านนอกอย่างเดียว



มาอ่านเจอทีหลังว่าเค้าก็ไม่ให้เราเข้าไปด้วย ให้แต่คนมุสลิมเข้าได้เท่านั้น ก็เดินไปในตลาด Khan el Khalili ต่อเลย







แหมๆ นึกว่าเดินคลองถม บ้านหม้อ คนพูดภาษาจีน ไต้หวัน กะญี่ปุ่นใส่เราใหญ่ หน้าเรา 2 คนมันส่อความเป็นเจ็กมากก็งี้แหละ เราเจอผ้าพันคอสวยถูกใจ คนขายบอกว่าผืนละ 28 US$ คนที่ทำงานเปาบอกมาว่าให้ต่อครึ่งนึงเลยเวลามาที่นี่ เราก็ต่อไปมากันซักพัก เราดูไว้ 3 ผืน มีเลขในใจที่ว่าสมเหตุสมผลที่ 35$ เราบอกว่าเอา 3 ผืน 30 US$ ได้มั้ย เค้าก็บอกว่าขอกำไรบ้าง ขอ 40 เราเลยบอกว่า ครึ่งทาง 35 ละกัน ก็เลยได้มา เป็นผ้าแคชเมียร์แท้แน่นอน เพราะตอนเราถามว่าเราจะดูยังไงว่าแคชเมียร์แท้ คนขายจุดไฟโชว์ให้ดูเลยว่าไม่ไหม้ เราก็ไม่รู้หรอกว่าลองกันแบบนี้ แต่เราชอบมันจริงๆ แล้วก็บอกให้เรามาซื้ออีกจะลดให้อีก ฮะๆ เค้าก็คงยังกำไรเยอะแหละ แต่เราก็ถือว่าได้มาในราคาที่เราพอใจ ก็โอเคแล้ว แล้วเปาเคยซื้อจากที่ดูไบมาให้ ตั้ง 800 บาทได้แพงกว่านี้ แต่เราก็ดันเอาเข้าเครื่องซักผ้า ออกมาหด เสียหมดเลยทั้งผืน เสียดายมาก

พอเดินซื้อเสร็จ ออกมานั่งกินชากัน ร้านชาก็ตะโกนแต่ Taiwan come come เราก็ส่ายหัวบอกไม่ใช่ ๆ บอก Thailand ก็ไม่รู้จัก เปาเลยบอก Bangkok เค้าถึงจะรู้จัก เจอแบบนี้มา 2-3 ครั้งแล้ว คนจำ Thailand ไม่ได้ แต่รู้จักแต่ Bangkok, Phuket อะไรกันเนี่ย เราต้องโปรโมทการท่องเที่ยวใหม่แล้วมั้ง กลับมาต่อที่ ชาใส่นมที่นี่ หอมอร่อยมาก นมที่นี่หอมมันข้น ใส่ชา กาแฟแล้วอร่อยจริงๆ เดี๋ยวต้องซื้อชากลับไปด้วยซะหน่อย ถ้าแบกวัวนมได้จะเอาไปด้วยเลย กินแล้วก็โทรเรียกลุงมารับ





ให้ดูรูป Mosque of Al-Azhar ถ่ายจากฝั่งตรงข้าม ระหว่างรอลุง สวยงามมาก


ที่นี่นึกจะจอดก็จอดเลย เราก็รีบกระโดดขึ้นรถลุงกัน แล้วก็หลับบนรถต่อ ด้วยความเหนื่อยมาก ถึงโรงแรมประมาณ 6 โมงกว่าๆ มลภาวะบนถนนที่นี่สุดยอดแล้ว เสื้อผ้าเต็มไปด้วยควันรถ ฝุ่น ทราย หน้าผมไม่ต้องพูดถึง อาบน้ำสระผมอย่างแรง ก็ว่าจะนั่งกันแป๊บนึงรอผมแห้ง แล้วลงไปกินข้าวเย็น แต่ปรากฏว่าหลับสนิทไปเลย สลบเหมือดหลังจากไม่ได้นอนเลยเป็นวันๆ ตื่นมาตอนใกล้เที่ยงคืน เพราะท้องมันร้อง ก็สั่งอาหารขึ้นมากินบนห้อง เราสั่งกุ้งทอดกะหมี่กรอบ กินกะน้ำจิ้มคล้ายๆ น้ำจิ้มไก่บ้านเรา อร่อยดี แล้วเปาก็สั่งไก่ย่างมา เป็นแบบ charcoal grill แห้งๆ ไหม้กลิ่นถ่านมาหน่อย หอมดี พอท้องอิ่ม ไม่ต้องพูดถึง ก็สลบไปอีกรอบ









Create Date : 11 ธันวาคม 2552
Last Update : 11 ธันวาคม 2552 12:06:18 น. 2 comments
Counter : 622 Pageviews.

 
ขอบคุณที่พาเที่ยวอียิปต์
อยากไปแต่ยังใจไม่ถึง
สวัสดีครับ


โดย: Nordcapp (nordcapp ) วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:16:52:06 น.  

 
เกาะล้อๆ


โดย: j a r n i k วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:19:14:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

JellyJiJi
Location :
Houston, Texas United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบกิน ชอบนอน ชอบรดน้ำต้นไม้ อยากเก็บตังค์ทำสวนสวยๆ กับท่องเที่ยวที่แปลกๆ อยากถ่ายรูปเก่งๆ แต่ก็ไม่เริ่มหัดซะที เพราะขี้เกียจเกิ้น เอาเป็นพอดูได้ละกันนะคะ
ตอนนี้มาอยู่ไกลบ้าน ทำแต่อาหารกินเอง เลยทำกินเป็นงานอดิเรกอีก
Friends' blogs
[Add JellyJiJi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.