ห่างหายไปพอสมควรค่ะ แต่ยังคิดถึงเพื่อนๆ BlogGang อยู่เช่นเดิม...ปากหวานซะ ตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่สวีเดน...อากาศจะเริ่มเย็นลงไปทุกที บรื๊ววว ไม่อยากออกไปไหนเลยค่ะ ลมแรง มีฝนตก...แดดออกบ้าง แต่ก็ไม่เลวร้ายจนเกินไปค่ะ เพราะมีกิจกรรมยามว่างที่หลายๆ คนรอคอย และทำให้ไม่อยากอยู่บ้าน... นอกจากเก็บผลไม้ป่ากันไปบ้างแล้วในหน้าร้อน (อาชีพเสริม...เก็บได้มากขายก็ได้เงินค่ะ) ก็คงไม่พ้นกิจกรรม"เก็บเห็ดป่า"ค่ะ อิอิ ดูน่าขำสำหรับบ้านเรา แต่ที่สวีเดนจะรู้สึกสนุกมากกว่า...ถ้าเก็บเป็นค่ะ แล้วสถานที่ที่ไปเก็บเห็ดป่านี่...บอกกันไม่ได้เชียว แหล่งทำมาหากินค่ะ
ในช่วงที่หยุดพัก Blog จขบ.ก็เลยได้เห็ดมาเป็นของฝาก เก็บมาจากป่าหลังบ้านพักร้อน เอามาทำพายในเมนูนี้ เพิ่มสีเขียวอีกนิดด้วยแอสปารากัส ทานกับกุ้งน้ำจืดที่เรียกกันว่า เครย์ฟิช (Crayfish: Sw. Kräfta)
ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นฤดูกาลจับและรับประทานเครย์ฟิช ซึ่งเรามักจะทำพายหน้าผักมาทานคู่กัน ปีที่แล้วทำพายแยกหน้าเห็ด และหน้าแอสปารากัสคนละถาด เนื่องจากสมาชิกร่วมโต๊ะบางคนไม่ทานชอบทานเห็ด ก็เลยจัดให้...เอาใจกันสุดๆ คราวนี้เราทำทานกันสองคนตายาย... ด้วยความง่ายของชีวิตเรา เลยรวมของชอบ (เห็ดและแอสปารากัส) เอามาไว้ด้วยกันในถาดเดียว...อย่างที่เห็นนี้ล่ะค่ะ
ต้องขอเว้นขั้นตอนการเตรียมเครย์ฟิช เพราะได้ซื้อแบบแช่แข็งมา...อิอิ เป็นวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุด ไม่ต้องออกเรือไปตกเอง แถมไม่โหดร้ายทนดูเค้าถูกหย่อนลงน้ำร้อนอย่างเป็นๆ ซึ่งกรรมวิธีเตรียมเครย์ฟิชจากตัวเป็นๆ สดๆ ค่อนข้างจะยุ่งยาก (แต่ถ้าทำเป็นแล้วจะง่าย) จึงควรศึกษาเทคนิควิธีการเตรียม...หาอ่านหรือดูจากวิดีโอบนเวบไซด์ต่างๆ เพื่อสุขอนามัยในการรับประทานค่ะ
ที่เห็นในภาพข้างบน...เครย์ฟิชหลังจากเอาออกมาจากตู้แช่แข็ง ทิ้งให้ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่จะนำมารับประทานควรเตรียมน้ำดองใหม่ (Sw. ny lag) เพื่อใช้แช่เครย์ฟิช (เหมือนน้ำสำหรับดองทั่วไป มีส่วนผสมของน้ำ เกลือ น้ำตาล เบียร์ และที่ขาดไม่ได้ ดอกและก้านของผักชีลาวหรือดิลล์;Sw.krondill) เพื่อให้เนื้อกุ้งได้ดูดซับน้ำดองอีก 1 คืน...ชุ่มฉ่ำชุ่มฉ่ำ... และขั้นตอนสุดท้ายเทน้ำดองออก ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำก็พร้อมรับประทานค่ะ
อ้อ อีกนิดนึงค่ะ ที่สวีเดนจะทานเครย์ฟิชแบบเย็นๆ ค่ะ ไม่ใช่ต้มสุกทานร้อนๆ ดังนั้นน้ำดองจึงต้องทิ้งให้เย็นลงก่อนที่จะแช่เครย์ฟิชลงไปค่ะ
พาย (Pie) ทีทำมื้อนี้จัดเป็นพายประเภทอาหารคาว คนที่นี่เรียกว่า Sw.paj แต่อย่างครัวฝรั่งเศษ (French cuisine) น่าจะเรียก an open pie:พายเปิดหน้า/หน้าเปิด?...เช่นนี้ว่า Quiche (Sw.matpaj)
สามารถคิดต่อยอดทำส่วนผสมบรรจุไส้/หน้าพายต่างๆ ได้ตามความชอบค่ะ อาจทำเป็นพายเนื้อกับมันฝรั่ง ไก่ ปลาแซลม่อน พายเบคอน/แฮม พายชีสแบบกรีกก็ได้ อาจมีผักอย่างผักโขม แครอท บลอกเคอลี่ หัวหอมเพิ่มเข้าไปด้วย...เพื่อสุขภาพ หรือจะให้เป็นพายแบบเจไปเลยก็ไม่แปลก ...สุดแล้วแต่การสร้างสรรค์ความอร่อยค่ะ
การทำแป้งพาย (Pie shell: Sw. Pajskal)
เตรียม
2 dl แป้งสาลี 75 g. เนยเค็ม 1/2 ชต. น้ำเย็น
วิธีทำ
1. นำส่วนผสมทั้งหมดนวดจนเข้ากันดี แล้วนำไปพักในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
2. ในระหว่างนี้เตรียมเตาอบไฟบน-ล่างที่ 220oC
3. หลังจากนั้นเอาแป้งออกมาคลึง (แรกๆ แป้งจะแข็งให้นวดสักพักก็จะอ่อนตัวค่ะ) แผ่ให้ความหนาของแป้งเสมอกันทั่วถาดอบทนความร้อน (ขนาด ศก. 24 cm.) ยกขอบขึ้นโดยรอบถาดอาจใช้ไม้คลึงแป้งให้เป็นแผ่นแล้วนำมาวางในถาดอบจะได้ความหนาเรียบเสมอกัน แต่เราชอบแบบไม่พิถีพิถันดูบ้านๆ โฮมเมดดีค่ะ
4. ใช้ส้อมจิ้มที่ก้นถาดให้เป็นรูโดยทั่ว (พอประมาณ) เพื่อจะแป้งได้ไม่ยกตัวขณะอบ กดส้อมแต่งขอบแป้งพายโดยรอบนำไปอบในชั้นกลาง 7 นาที
หลังอบเสร็จดังรูป ก็พร้อมสำหรับใส่ไส้พายแล้วล่ะค่ะ
การทำไส้พาย (Filling: Sw. fyllning)
เตรียม
1/2 dl เมล็ดสน (pine nuts: Sw.pinjenötter) ใช้แค่เพิ่มรสและตกแต่ง ไม่มีก็ไม่ต้องใส่จ๊า 200 g หน่อไม้ฝรั่ง (asparagus: Sw. sparris)...สดหรือแช่แข็งก็ได้ 100 g เห็ดตามชอบ (ในที่นี้ใช้เห็ด chanterelle: SW.kantarell) 2 ฟอง ไข่ไก่ 2 dl ครีม (3036% fat, Whipping cream: Sw.vispgrädde) 75 g เนยแข็งประเภท Hard Cheese ขูดหยาบ (ในที่นี้ใช้ Västerbottenost-ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นค่ะ) เกลือ-พริกไทย
วิธีทำ
1. คั่วเมล็ดสน (ถ้ามี) ในกระทะไม่ใช้น้ำมัน ความร้อนปานกลางจนสุกได้สีเกรียมๆ สวยๆ แล้วพักไว้ ใช้โรยหน้าพายก่อนเสริฟท์
2. หน่อไม้ฝรั่ง (แบบสดให้นำไปลวกพอสุกกรอบทิ้งให้สะเด็ดน้ำ) ในที่นี้ใช้แบบแช่แข็งอาจทิ้งไว้ในตู้เย็นให้น้ำแข็งละลายหรือใช้ไมโครเวพก็เร็วดีค่ะ หั่นส่วนยอดให้เป็นท่อนพอคำ ส่วนก้านที่ไล่ลงมาจะแข็งก็หั่นเป็นแว่นๆ
3. เห็ดลวกสุกหรือผัดให้แห้งเพื่อกำจัดน้ำที่มีอยู่ในตัวเห็ดออกไป (ในที่นี้ใช้เห็ด SW.kantarell ที่เก็บเอง นำมาผัดให้แห้งแล้วแช่แข็ง ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหารที่ดีที่สุดสำหรับเห็ดชนิดนี้)
4. ทำครีมชีส: ผสมไข่ ครีม และชีสขูดหยาบให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยอย่างละประมาณปลายหยิบมือ การปรับรสของพายให้พอดี ขึ้นอยู่กับอาหารที่จะรับประทานค่ะ อย่าให้เด่นเกินอาหารหลัก อย่างเมนูนี้เป็นเครย์ฟิชที่ดองมาค่อนข้างเค็ม หากพายมีรสเค็ม...อิอิ ลิ้นชากันพอดี พอๆ กับแทะเม็ดก๋วยจี๊...รึเปล่า
พายพร้อมจะอบแล้วจ๊า
เตรียมพร้อมแล้วจะได้ดังภาพ: แป้งพายที่อบแล้ว ครีมชีส หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด และเมล็ดสนคั่ว (ถ้ามี)
เทครีมชีสจากอ่างผสมลงถาดแป้งพายที่ผ่านการอบมาแล้ว (จากภาพจะเห็นว่าชีสเป็นตะกอนเหลืออยู่ ให้พยายามเกลี่ยชีสให้ทั่วถาด)
จากนั้นจึงใส่เห็ดและหน่อไม้ฝรั่ง นำเข้าเตาอบ 220oC 15 นาที หรือจนขอบแป้งและหน้าพายมีสีเกรียมกำลังดี...ขึ้นอยู่กับเตาแต่ละบ้านนะจ๊ะ
นำพายออกมาพักไว้ ...อย่าลืมโรยหน้าด้วยถั่วเมล็ดสนคั่ว (ถ้ามี) ก่อนเสริฟท์จ๊า
จัดวางบนโต๊ะ...รอรับประทาน
อ่ะอ๊าาาา นี่เลยลืมไม่ได้จ๊า เครื่องดื่มสำหรับอาหารครีมๆ มันๆ รสเค็มปะแล่มๆ ไวน์ขาว Bourgogne La Vignée Chardonnay 2009, Bouchard Père & Fils
เชิญนั่งประจำที่ได้เลยค่ะ
จานใครจานมันละคราวนี้ จะช้าอยู่ใย... พายสักชิ้น เครย์ฟิชมาประเดิมสักสองตัวก่อน ชีสอีกสองชิ้น (SW. mögelost) ทั้งคู่กลิ่นแรงดีจัง...อย่าดมค่ะ สัมผัสแค่รสก็พอ ขนมปังอีกหน่อย...ทานไหวมั๊ยเนี่ย
แกะกุ้งเลย...มือนี่แหละค่ะ เค้าบอกว่าให้จุมพิศ(ดูดน้ำดองกุ้ง)ที่ใต้ท้อง เปิดกระดองหัวออกดูดดื่มอีกรอบ "ซ๊วบบบบ" เนื้อส่วนหัวเหมือนมันกุ้ง...กัดทานได้อีก...แน๊ะ (ลองหาดูได้ที่ You Tube เวบไซด์ สุดแล้วแต่ใครจะสนุกรับประทานยังไง งานนี้ไม่มีอายนะคะ) หุหุ จะได้ไม่ไหลลงศอก...แบบดูดปูเค็มบ้านเรายังไงยังงั๊านนนนน เด็ดหัวออก ตัดหาง (ปล่อยวัด?) อย่าให้ขาดแล้วดึงจะได้ไส้ที่มีของเสียลากยาววววว ออกไป ก็จะได้เนื้อกุ้งแดงๆ อย่างที่เห็นล่ะค่ะ อร่อย...แต่ลำบากจริงๆ เฮ้อ...
ขอบคุณที่มาเยือน...พบกันใหม่มื้อหน้านะคะ ขอให้มีชีวิตสดใสในวันหยุดทุกๆ คนค่ะ
Free TextEditor
|
อ่านแล้วได้รายละเอียดมากๆ เลยค่ะ
ชีสพายหน้าเห็ดและหน่อไม้ฝรั่งน่ากินมากๆ ค่ะ ^^