Bloggang.com : Sakura_tree : ตอนที่ 3 เมื่อนักเรียนโข่งดันไม่สบายต้องไปหาหมอ

ตอนที่ 3 เมื่อนักเรียนโข่งดันไม่สบายต้องไปหาหมอ

ช่วงแรกๆ ที่เรามาใหม่ๆน่ะ เราเป็นอะไรที่ไม่สบายบ่อยมากๆ เพราะว่าต้องปรับเรื่องเวลาที่ห่างกับบ้านเราหก เจ็ด ชั่วโมง ไหนจะอาหารการกินจิปาถะ มาอยู่ได้สองอาทิตย์เราไม่สบายติดกันหลายวัน ไปโรงเรียนไม่ได้ต้องนอนซมอยู่บ้านอย่างเดียว ก็เลยคิดขึ้นมาได้ว่า เออเรามีประกันสุขภาพนี่หว่า ไหนขอลองไปใช้บริการหน่อย ดีกว่า เราก็ไม่รอช้า จัดแจงดูรายชื่อโรงพยาบาลที่สามารถใช้ประกันชนิดที่เราซื้อมาว่ามีไหนบ้าง ประกันที่เราซื้อมาเป็นของ AIU Insurance Company ซื้อมาจากบริษัทในญี่ปุ่นค่ะ เราก็อ่านชื่อแล้วก็มีบริการ อยู่ 3 แห่งด้วยกันในกรุงโรม คือที่ Rome American Hospital , Dr.Yoshihiko(เจ้านี้เป็นเหมือนคลินิคส่วนตัวของเค้าเองค่ะ) และสุดท้ายก็ที่ International Medical Center 84

ส่วนเราก็ไม่รอช้า ไอ้เรามาใหม่ๆพูดได้แต่อังกฤษกับญี่ปุ่น เอ้า งั้นก็เลือกไปหาหมอคนญี่ปุ่นซะเลยดีกว่าวุ้ยเรา ดิฉันก็เลยเลือกคุณหมอ โยชิฮิโกะ(ไม่ขอเอ่ยนามสกุลนะคะ เพราะว่าสงสารแกอ่ะ เอาเรื่องเค้ามาเล่า เค้าก็แก่แล้วด้วยเนอะ) เนี้ยล่ะค่ะ จัดแจงโทรฯไปนัดเวลา บอกรายละเอียดเรียบร้อยกับทางคุณหมอค่ะ ไอ้เราไปกับแฟนน่ะค่ะ สถานที่ก็วกๆวนๆ หลงทางอยู่ตั้งชั่วโมงนึงแน่ะ แฟนเราก็พาเรานั่งรถไฟไปไงค่ะ เป็นคนอิตาลีแท้ๆ ดันทำเราหลงทางซะได้ จนเราต้องโทรฯไปขอโทษคุณหมอค่ะให้รออีกหน่อยตอนนี้หลงทางอยู่กำลังจะถึงล่ะ เฮ้อจากที่ตอนแรกไข้ไม่ค่อยมีเท่าไร เดินไปเดินมา ประกอบกับอากาศเย็นด้วย เลยไข้ขึ้นกว่าเดิมอีกอ่ะ
พอเราถึงสถานที่ของคุณหมอ แฟนมีการแอบบอกว่าโห..เก่าจังเลยตึกเนี้ย ไม่อยากเชื่อว่าหมอญี่ปุ่นจะตรวจในที่แบบนี้

คุณหมอก็อายุราวๆ หกสิบน่าจะได้แล้วค่ะ ขณะตรวจเราก็คุยกับแกไปด้วย แกบอกว่ามาอยู่ที่อิตาลีได้ราวๆ สามสิบปีที่แล้วค่ะ ก่อนเราเกิดอีกอ่ะ โหย..นานนน มากๆๆ เมื่อคุณหมอตรวจเสร็จก็บอกว่าอาจจะเกี่ยวกับอาหารการกินที่เปลี่ยนไป แล้วก็เรื่องการปรับสภาพอะไรพวกเนี้ยค่ะ คุณหมอก็เลยเช็คประกันสุขภาพของเรา แล้วก็ เขียนใบสั่งยา มาให้ ค่ารักษาไม่เสียค่ะ ฟรีค่ะ เรียบร้อยแล้วก็เลยขอคุณหมอกลับค่ะ เราก็เดินลงมาซื้อยาในร้านฝั่งตรงข้ามที่คุณหมอสั่งไว้ พอเรากับแฟนยื่นใบสั่งยาให้เภสัชฯ คนอิตาเลี่ยนประจำร้านดูนะคะ เค้าตกใจค่ะ บอกว่า นี้ยาสำหรับรักษาอาการเจ็บคอรุ่นนี้ ที่อิตาลีเค้าเลิกจัดทำได้ 5-6 ปีแล้วนะคะคุณ

อึ้งค่ะ เรากับแฟนมองหน้ากัน.. พูดไม่ออก อ้าว แล้วยังงี้จะทำยังไงล่ะเนี้ย โถ คุณหมอนะคุณหมอ ยาเค้าเลิกทำแล้วดันสั่งยา มาให้หนูเนี้ย แฟนเราก็เลยบอกเภสัชฯ ไปว่าเรารับใบสั่งยามาจากหมอญี่ปุ่น ซึ่งเค้าก็แก่มากแล้วด้วย คงไม่ทราบว่ายาเค้าเลิกทำไปแล้ว จะทำยังไงต่อไปได้ เภสัชฯคนนั้นก็ใจดีค่ะ เค้าเลยแน่ะนำยาตัวอื่นที่ใช้ได้ผลเหมือนกัน มาให้ค่ะ เรากับแฟนจ่ายค่าเสียหาย ไปราวๆ 14 ยูโร สำหรับยาทั้งหมดที่ได้มาค่ะ พอเดินออกมาจากร้านยาเท่านั้นล่ะ แฟนเราขำ แบบฮา มากๆ บอกดูซิ ไหนบอกว่าหมอญี่ปุ่นตรวจดีไง? เห็นไหมเนี้ย เล่นพูดซะ จนเราเซ็งเลย จากตอนนั้นเรากับแฟนก็เลยคิดๆ กันว่าถ้า เราไม่สบายอีกรอบ คงจะไปที่ Rome American Hospital ดีกว่า เพราะแฟนบอกว่าที่นั้นเป็นโรงพยาบาลอเมริกัน ที่ค่ารักษาแพงมากเหมือนกัน แต่น่าจะได้รับบริการที่ดีกว่าคุณหมอที่เราไปหาเนี้ยแน่ๆ ค่ะ ส่วนโรงพยาบาลของอิตาลีแท้ๆ อย่าไปพูดถึง เพราะว่าขนาดคนอิตาเลี่ยนแท้ๆ เองไปโรงพยาบาล แค่เป็นหวัด หรือ เป็นแผลเล็กๆ น้อยก็เหอะ บางคนนั่งรอในโรงพยาบาล กันเป็นวันๆ เลยนะคะ

ว่าแล้วก็ขอเล่าให้ฟังอีกหน่อย เมื่ออาทิตย์ก่อน แฟนเราไปทำงานแล้วเกิดแผลที่นิ้วก้อย มือบวมมากๆ ก็เลยชวนเราไปหาหมอเป็นเพื่อน เพราะว่าพวกอิตาลีรักษาฟรีเป็นสวัสดิการของประเทศอยู่แล้ว ขอโทษนะคะ วันนั้นโชคดีมากๆ แฟนเข้าไปแค่ชั่วโมงเดียวก็ออกมา เพราะว่าเค้านึกว่าแฟนเราเป็นพวกอิตาลีที่เกิดอเมริกา เพราะว่าในใบไอดีอิตาลีเขียนว่า ที่อยู่ นิวยอร์คค่ะ เผอิญแฟนเราทำงานอยู่ที่นั้นมาก่อนค่ะ หมอเลยลัดคิวให้เสร็จไวๆ เห็นแฟนบอกว่านั่งคุยกับผู้หญิงที่มานั่งอยู่ก่อนแล้ว บอกว่า เนี้ยวันนี้ฉันนั่งรอหมอ มาเก้าชั่วโมงแล้วยังไม่ได้ตรวจเลย ปาดดดด อะไรจะขนาดนั้นน้อ

Create Date : 14 เมษายน 2552

Last Update : 14 เมษายน 2552 5:54:28 น.

0 comments

Counter : 559 Pageviews.