แต่วันนี้รู้สึกไม่ดีเลย ไม่ดีเอามากๆซะด้วย
ซึ่งชั้นก็ไม่อยากพูด ไม่อยากนึกถึงมันอีกแล้ว
แต่เอาเป็นว่าเรื่องนี้มันทำร้ายจิตใจน้อยๆของชั้นเอามากๆ
ทำให้เกิดอาการ...หดหู่...จิตตก...เศร้าซึม...สมองเน่า...และอื่นๆอีกมากมาย
ด้วยความสติแตกบวกกับอาการที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นประกอบกัน...
ทำให้วันนี้กูเป็นบ้า
เสียสติจนถึงขั้นที่ว่า ปล่อยให้อารมณ์นั้นมันมาทำลาย "โครงการออมเงินวันละนิด จิตแจ่มจ้า" พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี ทั้งๆที่ชั้นสู้อุตส่าห์ตั้งนโยบาย ลด ละ เลิก ช็อปจำกัดสิ่งของเครื่องใช้
...สู้ปฏิบัติอย่างอดออมและอดทน ข่มกิเลสของตัวเองด้วยแรงทั้งหมดที่มี...
ซึ่งชั้นภูมิใจมาก ~~
และหวังว่าชั้นจะทำได้สำเร็จจนติดอยู่ในกมลสันดานในที่สุด
แต่แล้ว หากแต่เหตุการณ์กลับเป็นเช่นนั้นไม่
เพียงวันเดียวเท่านั้น ที่ชั้นประสบพบกับวิกฤตทางอารมณ์
ถาโถมเข้ามาจนตั้งตัวไม่อยู่ สติหลุดปลิวว่อนร่อนเร่ระเหระเหิน
พระเจ้าช่วยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เพียงเวลา 3 ชั่วโมง กูเสียเงินไปห้าพัน
กับสิ่งของไร้สาระ ปากกงปากกาบ้าบอและขนมขบเคี้ยวทั้งหลาย
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดด
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดดดดดด
anyway...
อย่างไรเสีย...เราก็ต้องยอมรับอยู่อย่างว่า
มันก็ทำให้เรารู้สึกดีไม่น้อยเช่นกันนะ อย่าทำเป็นเล่นไปเชียว
ไอ้อาการdepressionเนี่ยมันลดลงจริงๆ หลังจากที่เราได้ไปเดินจับจ่ายซื้อของ
แม้ว่าวิธีแก้ปัญหาชั้นมันจะดูเป็นผู้หญิงในโลกทุนนิยมมากๆๆๆก็ตามทีเถอะ
แต่อย่างน้อย มันก็เป็นการปลอบใจตัวเองทางหนึ่ง
ให้เกิดความรู้สึกที่ว่า
"กูเองก็ยังมีความสำคัญอยู่นะ"
ก็ในเมื่อเราไม่ได้รับความรักจากคนอื่น แต่ก็ให้ความรักตัวเองได้ว่ะ แมร่งงงง
การจับจ่ายซื้อของตามสไตล์Shoppingบำบัด อย่างที่เพื่อนสาวชื่นชอบกัน
จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ทำให้สาวๆในสังคมสมัยใหม่
ในสมัยที่ความรักมันหายากเต็มที ซึ่งเราได้นำมาใช้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเองได้อีกทาง
ถึงแม้ชั้นไม่อยากจะเห็นด้วยกะมันเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจมันขึ้นบ้างแล้วหละ
ป.ล.1
อย่าถือเป็นจริงเป็นจังมากนะกะอีอันข้างบน เนื่องด้วยคิดอ่านเอง
มิได้ถือเป็นบทความที่มีคุณค่าทางวิชาการแต่อย่างใด