!!!!ทำไมผมเข้าข้างตัวร้ายในเรื่อง "อินทรีแดง" นะ !!!

พึ่งพาตัวเองหนีน้ำท่วมที่หอพักในโคราช ทนอยู่เป็นอาทิตย์เพราะยังมีน้ำมีไฟฟ้าใช้ แต่ความหวังก็หมดสิ้น เมื่อน้ำประปาที่หอ อยู่ๆ ก็หยุดไหลเอาดื้อๆ จำต้องพาตัวเองระหกระเหินหาที่พักที่น้ำท่วมไม่ถึงและมีประปาใช้ มีอินเตอร์เน็ตให้อัพเดทข่าวสารบ้านเมือง(เฟสบุ๊ค) กับเขาบ้าง

หลัง พาตัวเองออกมาได้ก็เลยพาตัวเองไปเดินห้างให้สบายใจแต่ไม่รู้จะทำไร เลยเดินผ่านแถวๆ หน้าโรงหนังอีจีวี เดอะมอลล์ โคราช ดูโปรแกรมก็มีแต่หนังไทย กับหนังฝรั่งพากย์ไทยทั้งนั้น(น่าจะมีซาวน์แทร็คบ้างนะ วันละรอบก็ยังดี สงสารสามีชาวต่างชาติแถวนั้น) สรุปเลยดูหนังไทยไปเลยดีกว่า..

เข้า เรื่องหนังที่ดูดีกว่าครับ ไม่ขอวิจารณ์เกี่ยวกับความเป็นภาพยนตร์มากเท่าไหร่นะครับเพราะ เราก็แค่คนดูหนังคนหนึ่งไม่ได้เป็นนักวิภาควิจารณ์ คือว่าตัวร้ายในเรื่องนี้ก็ค่อนข้างจะมีหลายตัว แต่สำหรับผม ผมดันไปเห็นตัวร้ายตัวหนึ่งที่ออกจะขัดกับความรู้สึกของผมอยู่ตัวหนึ่ง

ซึ่ง ในเรื่องเขาเหมือนกับว่าจะยัดเยียดให้เป็นตัวร้ายที่ร้ายกาจมากกว่า องค์กรตุลาการ เอ๊ยยย... องค์กรมาตุลี !!! (เสียวแว๊บเลย) ซะอีกนะครับ เห็น

เปิดเนื้อเรื่องมา ก็ยัดให้ตัวนี้ล่ะเป็นตัวร้ายที่ร้ายสุดๆ หลายคนในประเทศนี้เห็นว่ามันร้ายกาจ ไม่น่าให้ประเทศนี้เมืองนี้มีขึ้นมาเลย เป็นตัวร้ายที่น่ารังเกียจยิ่งนัก ถึงขั้นเข่นฆ่ากัน เพื่อให้มีหรือไม่มีไอ้เจ้าตัวร้ายตัวนี้ให้ตายกันไปข้างนึง

ตัวร้ายที่ว่านี้เป็นใครล่ะ มันคือ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ นี่เอง

ที่ผมรู้สึกว่าเข้าข้างตัวร้ายตัวนี้เพราะอะไรหรือ ครับ เป็นเพราะว่าบางทีผู้สร้างหรือผู้เขียนบทอาจจะยังไม่ทราบข้อมูลในเชิงลึก ด้านโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ก็เป็นได้นะครับ

เลยทำให้เหมาคิดเอา ว่าการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์นี้มีแต่ผลเสียเพียงอย่างเดียว แล้วก็ยัดเยียดให้เป็นตัวร้ายที่ทำให้เนื้อหาของหนังดำเนินไป

กลุ่ม ผู้ที่สนับสนุนการสร้างก็จะเป็นตัวร้ายที่น่าเกลียด เห็นแต่ผลประโยชน์บ่อนทำลายประเทศชาติ และความเป็นอยู่ของประชาชน โห...อะไรมันจะขนาดนั้น

!!!!...สงสัยต้องถึงขั้นเผาตำรา ฆ่ากาลิเลโอ ปลดรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์กันเลยทีเดียว เพราะเขาเหล่านั้นคือตัวร้าย…!!!!


มองในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์บ้างนะครับว่าปัจจุบันประเทศไทยเราใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งใดเป็นสำคัญ

เอา แบบคร่าวๆที่ผมพอจะทราบนะครับ เราใช้ไฟฟ้าจากเขื่อนพลังน้ำ ประมาณ 2-3% ของพลังงานไฟฟ้าที่เราใช้ในปัจจุบันนี้ เราซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ประมาณเท่าๆ กับที่เขื่อนพลังน้ำภายในประเทศจะผลิตให้ได้ ส่วนที่เหลืออีกหลายเปอร์เซ็นมาจากพลังงานจากการเผาไหม้ หลักการของพลังงานจากการเผาไหม้


อธิบายง่ายๆ ก็คือ เอาอะไรก็ได้มาต้มน้ำให้เดือด แล้วให้ไอน้ำไหลไปหมุนกังหัน ซึ่งกังหันดังกล่าวต่อเข้ากับขดลวดและแม่เหล็ก เมื่อแกนกังหันหมุน ก็จะทำให้เกิดไฟฟ้า แล้วนำมาจ่ายให้กับเราๆ ท่านๆ ที่เล่นพันทิป ที่สร้างหนัง ได้ใช้กัน รวมไปถึงไฟฟ้าตามที่ต่างๆในประเทศนี้ให้ใช้กันนะครับ


แล้วกลับ มามองที่ว่าเขาเอาอะไรไปต้มให้น้ำมันเดือด หรือน้ำขนาดไหนที่พอจะเดือดแล้วหมุนกางหันได้ ตอบแบบง่ายๆ ก็คือทำให้ประเทศเราเป็นประเทศผู้นำเข้าวัตถุดิบเพื่อมาใช้ผลิตไฟฟ้า เป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้นะครับ


แล้วเขาเอาอะไรมาผลิตล่ะ คำตอบแบบง่ายๆ ตามเคย ก็น้ำมันครับ รวมไปถึงแก๊สธรรมชาติที่ประเทศเราผลิตได้ก็ไม่เพียงพอ


ราๆ ท่านๆ อาจจะยังไม่รู้จักมันดีพอหรือเปล่า? กับคำว่า นิวเคลียร์ ถ้าย้อนกลับไป เราอาจจะคุ้นกับคำว่า ปรมาณู มากกว่า เช่น ระเบิดปรมาณู ที่ฮิโรชิมา


ปรมาณู ในภาษาไทย หรือที่เรียกอีกอย่างว่า อะตอม นั่นเอง


ซึ่งถ้าเราเคยเรียนวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ มัธยมต้น คุณครูก็จะบอกว่า สสารในโลกนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะ นักเรียน!!!


ซึ่ง อะตอมเป็นหน่วยย่อยที่เล็กที่สุด ประกอบไปด้วย อีเล็กที่ขายของที่ตลาด เย้ยยย... อิเล็กตรอน ที่วิ่งวนอยู่รอบๆ ไม่หยุดนิ่ง แล้วตรงกลางมันก็คือ นิวเคลียส ซึ่งไอ้นิวเคลียสที่ว่านี่นะ ก็จะประกอบไปด้วย โปรตอนและนิวตรอน


แล้วเสียงกริ่งก็ดังขึ้นเหมือนหนังฝรั่ง คุณครูก็เลยสั่งการบ้านและจบคลาส เราก็เลยรู้กันแค่นี้


แล้วไอ้พลังงานนิวเคลียร์นี่มันเกี่ยวอะไรกับอะตอม หว่า ? ชื่อมันก็ไม่น่าคบละ แล้วยังมีพวกอะไรนะ สารกัมมันตรังสีอีก ชื่อน่ากลัวชะมัด แล้วเรารู้หรือป่าวว่าในประเทศเรานี่มีพวกสารกัมมันตรังสีอยู่ด้วยนะ สงสัยเป็นพวกผู้ร้ายในหนังลักลอบนำเข้ามา...


ทุกอย่างในโลกนี้มีสองด้านทั้งนั้นครับ


เรา ใช้ประโยชน์จากสารกัมมันตรังสีนี้เยอะแยะมากมาย แต่ชาวบ้านทั่วไปเขาไม่รู้น่ะครับ ทั้งในโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งมีการเปิดสอนในสาขาที่เรียนหรือวิจัยเรื่องนี้กันโดยตรง


เท่า ที่ผมทราบมามีครบทุกภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะกรุงเทพ มีตั้งหลายที่ หรือมีใครผ่านแถวๆ วิภาวดี-รังสิต จะเห็นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เอ๊ะ...ไม่เห็นมีใครแถวนั้นเสียชีวิตจากการระเบิดของสำนักงานนี้ ที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ก็น่าจะเหตุการณ์อื่นนะเท่าที่ทราบ ไม่เอาเราไม่พูดเรื่องการเมือง!!!


ที่เชียงใหม่ก็มี เป็นห้องปฏิบัติการวิจัยนิวตรอนความเร็วสูง มีเครื่องเร่งอนุภาคด้วยนะเธอว์ สงสัยนักศึกษาแถวนั้นคงตายกันเพียบแต่เขาปิดข่าวแน่เลย เอ๋...หรือผมตายไปแล้วหว่าเพราะเดินผ่านหน้าห้องนั้นทุกวัน


หรือ จะเป็นศูนย์มะเร็งที่มีอยู่ทั่วประเทศก็เก็บสารกัมมันตรังสีเอาไว้ สงสัยหน่วยงานเหล่านี้เป็นองค์กรก่อการร้ายสากลและลูกทุ่ง ที่ลักลอบทำภายใต้องค์กรลับ TIA (Thai Idiot Author หมายถึงตัวเจ้าของกระทู้นะครับ ไม่ใช่คนเขียนบทหนัง) คล้ายๆ CIA ของอเมริกาเขา


แล้วประเทศเรายังมีเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ ติดอันดับในเอเชียเลยนะเธอว์ ขนาดเพื่อนนักฟิสิกส์ชาวสิงคโปร์ยัง..งง+ตะลึง ว่าประเทศยากจนอย่างเรามีเครื่องนี้ที่ราคาแพงระดับใกล้เคียงกับงบประมาณ ของประเทศด้วยหรือนี่!!! เอ๊ะ...นี่ฉันจะภูมิใจดีไหม๊เนี๊ยะ T_T”


ถ้า ท่านเคยได้ยิน ศูนย์ซิงโครตรอน มีเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ ขนาดน้องๆ สนามฟุตบอลเลยล่ะครับ (จะบอกว่าประเทศตูรับบริจาคมาจากญี่ปุ่นเฟ้ยย!! แต่ไม่บอกดีกว่าเกทับมัน.. อิอิ) เปิดรับนักศึกษาปริญญาโท และปริญญาเอกเข้าเรียนและทำวิจัยโดยที่ไม่มีระดับปริญญาตรีได้เลย


สรุปดีกว่าพล่ามมาซะยาว นิวเคลียร์ หรือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มันไม่ได้น่ากลัวขนาดที่หนังเอามานำเสนอก็แค่นั้นล่ะครับ แล้วประเทศของเราก็ต้องพึ่งการนำเข้าวัตถุดิบที่เอามาผลิตไฟฟ้า


ดัง นั้นถ้าเรามองประเทศเพื่อนบ้านเราที่เขากำลังพัฒนาหรือพัฒนาแล้วเขามีความจำ เป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อลดต้นทุนในการทำเข้า แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าประชาชนเราโดยทั่วไปยังไม่ทราบหรือขาดความรู้ทางด้านนี้ ในทางที่ถูก


เราจำได้แต่ข่าวร้ายๆ ที่เคยเกิดขึ้น แต่เราจะไม่มองว่ามันมีข้อดีที่มากกว่าที่เราเคยได้ยินมาเลยหรือ...?


สรุปหนังก็สนุกตามความที่เป็นหนัง ชอบสุดก็ฉากต่อสู้กันในโรงน้ำแข็ง ระหว่าง อนันดา กับ ญารินดา เย๊ยยย.. กับตัวโกง อะไรดำๆ นี่ล่ะ

Create Date : 27 ตุลาคม 2553		2 comments
Last Update : 27 ตุลาคม 2553 10:05:08 น.
Counter : 1875 Pageviews.
Share Tweet