สิงหาคม 2559

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
#1 สิงคโปร์ จ้าวสิงโตพ่นน้ำ




#1 สิงคโปร์

สถานที่ท่องเที่ยว : สิงคโปร์

วันที่ 21-23/03/2015


สิงคโปร์เป็นประเทศแรกที่เราได้มีโอกาสไป 

“ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก” 


โอกาสแรกที่ได้ไปเหยียบสิงคโปร์เพราะบริษัทที่เราทำงานอยู่จัดให้ไปประจำปี 

การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางตั้งแต่ปี 2558 แต่เราเอามาเขียนเพราะอะไร? คืออย่างเก็บเป็นความทรงจำด้วยและอยากแบ่งปันสิ่งที่พบเจอให้กับใครอีกหลายๆ คน

– ครั้งนี้ไปด้วยความตื่นเต้น ท้าทาย ดีใจทุกอารมณ์ที่บ่งบอกถึงคำว่า “ครั้งแรก” และเชื่อว่าอีกหลายๆ คนก็ยังหาโอกาสแรกกับการก้าวไปกันอยู่ 555 อยากแนะนำประเทศนี้ค่ะ เพราะเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง และสะอาด ใกล้ประเทศเรา เดินทางสะดวกสบายมาก เดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถึงแม้ค่าครองชีพของประเทศสิงคโปร์จะสูงกว่าเรา แต่ก็มีหลายๆ อย่างที่สะดวกสบายกว่ามาก ขอแนะนำให้เป็นประเทศแรกของใครหลายๆ คน

การเดินทางพร้อมกับบริษัทครั้งนี้เป็นการไปทริปกับคนเป็นจำนวนมาก (แบ่งเป็น 2 รอบๆ ละ 50 คน โดยประมาณ) และไปกับทัวร์ ***จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าตัวเราเองไม่ชอบการไปกับทัวร์ กับคนเยอะๆ เลย!!!!

พอรู้วันไปที่แน่ชัด เราก็ไปทำพาสปอร์ตก่อนเลยคะ การทำพาสปอร์ตใช้เวลาสั้นมาก รวดเร็วทันใจถึงแม้คิวจะเยอะแต่การบริการรวดเร็วจริงๆ ต้องขอยกนิ้วโป้งเลย เสร็จสรรพ รับพาสปอร์ตทางไปรษณีย์ส่งเอกสารให้ทัวร์ตามที่ขอมา เราเตรียมตัวเดินทางกันเลย Goooooo

(บล็อกนี้จะไม่มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายนะค่ะ เนื่องจากทางบริษัทออกให้หมดทุกอย่าง เราเตรียมเงินไปช็อปปปอย่างเดียวเลย)

.........................................................................................

Ready Goooo...

วันที่ 1 - วันที่ 21 มีนาคม 2558

เครื่องพร้อมขับคะ เราไป 3 วัน 2 คืน การเดินทางเราออกเดินทางกันโคตรเช้าเลยเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 6.00 น. (นอนหลับไปนิดเดียว ด้วยความตื่นเต้น) ครั้งนี้เราไปแบบราชินีเลย เดินทางกับสายการบินไทยคะ นุ่มมว๊าก และบริการดีจริงๆคะ

การเดินทางใช้เวลาประมาณ 2ชม. เดินทาง 8.00-10.00 (11.00 เวลาสิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1ชม.) แต่เครื่องดีเลย์ทำให้ไปถึงสายหน่อย บวกกับโดนกักตัว 1 คน เนื่องจากพกบุหรี่เกินกำหนดที่เขากำหนดไว้สำหรับเข้าประเทศสิงคโปร์เลยเลทไปเยอะเลย (ณ จุดนี้แนะนำว่าอ่านกฏการนำของเข้าประเทศของเขาให้ดี)

เพิ่มเติม สำหรับใครที่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกช่องขาออกหลังจากรับกระเป๋าจะมี 2 ช่อง ช่องเขียวกับช่องแดง แนะนำว่าถ้ามั่นใจว่าในกระเป๋าไม่มีของต้องห้ามผ่านช่องเขียวไปเลยคะไม่ต้องไปสแกนกระเป๋าที่ช่องแดง เพราะถ้าหากถูกจับได้ว่าในกระเป๋าของเพื่อนๆ มีของต้องห้าม ของต้องสำแดง จะถูกปรับหูฉีกเลยคะ ทางที่ดีอะไรเขาไม่ให้เอาเข้าประเทศเขาก็อย่าพกไปคะ รวมถึงประเทศอื่นๆ ด้วยคะ

และเนื่องจากเหตุข้างต้นบางคนในทริปเราถูกกักตัวที่ช่องแดง เพราะสเล่อไปสแกนกระเป๋านั้นทำให้เวลาก็ล่วงเลยมาเที่ยงกว่า

และแล้วการเดินทางก็เริ่มต้นขึ้นการเดินทางตลอดทริปเราใช้รถบัสตลอดคะ มีไกด์คนท้องถิ่นอธิบายทุกสิ่งอย่างแม้แต่เรื่องเล็กๆ ให้เราฟัง เป็นความรู้มาก เพราะหลายๆ เรื่องที่ไกด์บอกเราไม่เคยอ่านเจอหรือรู้มาก่อนเลย) พอขึ้นรถปั๊บก็ชมเมืองก่อนเลยไกด์ที่เป็นชาวสิงคโปร์แต่พูดไทยได้เขาก็จะอธิบายสิ่งต่างๆ 2 ข้างทางให้เราฟังคะ

เมืองเขาสะอาดมากคะเจอขยะบ้างก็จริง แต่ไม่เจอในถนนสายหลักเลย ส่วนใหญ่จะเป็นตามซอกซอยเล็กๆ และห้องน้ำบางทีก็ไม่ได้สะอ๊าดดดขนานนั้น เพราะที่สิงคโปร์จะมีคนแขกและคนจีนเยอะมาก เพื่อนๆ ก็คงทราบถึงนิสัยดี

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง และเวลาที่ล่วงเลยอาหารกลางวันมาสักพัก(ใหญ่) ทำให้เราหิวมากๆๆๆๆ ไกด์พาเราไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่งก่อนที่เราจะเดินทางกันต่ออาหารมื้อนี้คล้ายๆ อาหารจีน แต่มีเมนูที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนสิงคโปร์ “ข้าวมันไก่สิงคโปร์” นั่นเอง เรากินอาหารกันคล้ายๆ โต๊ะจีน พนักงานบริการก็เหมือนคนจีนร้านอาหารถือว่าโอเค แต่ห้องน้ำใช้ไม่ได้เลย สกปรกมาก... ต้องทำใจหน่อยนะถ้าใครต้องเขาร้านอาหารจีนที่นี่ --^

เพิ่มเติม บนโต๊ะอาหารเขาจะไม่มีกระดาษเช็ดชู่ให้นะคะจะมีแต่ผ้าเย็นให้แค่พื้นเดียว เวลากินถ้าใช้มือกินพวกไก่หรือกระดูกหมู มือเปรอะคือเปรอะไปคะ แล้วค่อยใช้ผ้าเย็น(แผ่นเดียว)ที่เขาให้มาแต่แรกเช็ดมือเช็ดปากตอนสุดท้าย ใครจะเตรียมไปเพิ่มก็เตรียมคะ ที่นี่เขาจะประหยัดทิชชู่มากๆเลย

หลังจากอิ่มหน่ำสำราญกับอาหารกับมือเละเทะกลิ่นติดถึงเย็นเลยคะ ถึงแม้จะล้างสบู่แล้วก็เถอะ บ่นนนๆๆ

----เริ่มเที่ยว

สถานที่แรกที่ไกด์พาเราไปคือ Suntec city 



เป็นกลุ่มตึกสูงๆ ที่มีตึกหนึ่งที่ชั้นใต้ดินมีน้ำพุเล็กๆ อยู่ อันนี้เขาเรียก Fountain ofWealth (น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง)

เชื่อกันว่าถ้าใครมาสัมผัสน้ำพุแห่งนี้ครบ 7 ครั้ง จะมั่งคั่งสมชื่อน้ำพุคะ วิธีการสัมผัสน้ำพุคือ เดินรอบน้ำพุไปทางซ้าย (ถ้าหันหน้าเข้าน้ำพุนะ) 3 รอบ ใครอยากสมหวัง มั่งคั่ง คงต้องไปกันรอบหรือไม่ก็อยู่ 7 วัน เดินมันทุกวันเล่อออ ส่วนในช่วงเย็นๆ จะมีการแสดงแสงสีของน้ำพุคะ จากภาพข้างบน คือ ภาพวงกลมสีน้ำตาลอันนั้น ซึ่งตอนกลางคืนจะมีการแสดงสีเสียงน้ำพุ เราสามารถชมได้ ถ้าอยากดูก็ต้องไปประมาณทุ่ม 2 ทุ่ม เพราะเขาจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเขาไปเดินวนรอบน้ำพุแล้วถ้าจะดูเราดูกันบนชั้น 1 ด้านนอกตัวตึกคะ

มาสิงคโปร์ก็ต้องไปหาสัญลักษณ์ของประเทศสิคะ เดินทางมาถึง Merlion สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ 


นำเสนอรูปดื่มน้ำจากปากสิงโตค่ะ 5555

รูปปั้นนี้มี 3 จุดด้วยกันคะ อยู่ฝั่งสิงคโปร์ 2 ตัว ใกล้ๆ กัน ส่วนอีกตัวอยู่ฝั่ง Sentosa สิงโตพ่นน้ำที่มีลำตัวคล้ายเกร็ดปลาพ่นน้ำซะชุ่มช่ำกันไปหมดคะ รวมทั้งเราเองด้วย ผมนี้เฮอะ ไม่รู้จะทรงไหนดี ทริปนี้เรามีโอกาสเยี่ยมเจ้าสิงโตพ่นน้ำแค่ฝั่งสิงคโปร์คะ

วิวรอบๆ บริเวณสิงโตค่ะ



เสร็จจากไปเยี่ยมสิงโตพ่นน้ำเวลาที่ไกด์ให้อยู่ที่ตรงนี้ชั่วโมงนึงก็เยอะมาก เพราะร้อนมาก!!!!!

จะมีร้านขนมอยู่ใต้สะพานใกล้ๆ ด้วย



ที่เที่ยวสุดท้ายของวันนี้ก่อนที่เราจะไปที่โรงแรมกันคือ วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) ที่อยู่แถวๆ china town



วัดพระเขี้ยวแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม รวมถึงเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาพุทธด้วย ถูกสร้างขึ้นปี พ.ศ.2548 เป็นสถาปัตยกรรมแบบราชวงศ์ถัง วัดแห่งนี้มีพระบรมสารีริกธาตุที่เป็นพระทนต์ของพระพุทธเจ้า

การจุดธูปเพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะจุดไว้ด้านนอกเท่านั้น



วัดนี้มีหลายชั้นจะไปชั้นไหนสามารถกดลิฟต์ขึ้นไปได้ ถ้านุ่งสั้นเขาจะมีผ้าถุงให้นุ่ง 



ชั้นบนจะเป็นเหมือนสวน


และก็มีระฆังไฮเทคด้วย


ในวัดจะมีชั้นที่เป็นประวัติต่างๆ ของเก่าต่างๆ ให้ชมคะ








เที่ยววัดเสร็จก็เดินไชน่าทาวน์ต่อคะ Food street เปิดช่วงเย็นๆ ช่วงที่ไปก็ประมาณ 3-4 โมงเย็นเขาก็เริ่มๆ จัดร้านกันแล้ว เนื่องจากเราจะไม่ได้มาไชน่าทาวน์อีกเลยรีบซื้อของฝากก่อนเลย ของถูกมากคะ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นของธรรมดาๆ พวกพวงกุญแจกระเป๋า ของที่ออกแนวจีนๆ แต่มีจ้าวสิงโตเป็นสัญลักษณ์บนของที่ระลึกเป็นอันจบ เดินเลือกของหาของไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเลยได้พวงกุญแจกับที่ติดตู้เย็นเป็นที่ระลึกคะ

6 โมงเย็นก็ได้เวลาอาหารค่ำ เราไปห้องอาหารเพื่อพบเพื่อนร่วมงานที่มารอบแรก (เรามารอบสองคะทั้งสองรอบห่างกันแค่ 1 วัน) และดินเนอร์อาหารจีน(ที่ไม่อร่อย) ไม่ถูกปากกับอาหารจีนจริงๆ ใช้เวลาให้การมาจอยกันถึงสองทุ่ม อยากบอกว่าตอนเนี่ยเหนื่อยโคตรรรร

ถึงเวลาพักแล้วคร้าาาาเดินทางสู่โรงแรมย่านไฮโซ orchard 


เข้าโรงแรมก็ดึกแล้ว เหนื่อยโคตร แต่แบบโรงแรม 4 ดาวคะ ที่ได้เข้าพักในครั้งนี้ โอ้วววอารมณ์แบบก็สวยดีนะ แต่เหมือนกับ 5 ดาวบ้านเราเลย โรงแรมที่พักอยู่ย่านคนมีกะตังค์ 555 ห้อมล้อมไปด้วยห้างฯ ห้างฯ ห้างฯ มองไปทางไหนก็เจอแต่ห้างฯ เราถึงโรงแรมก็สองทุ่มครึ่งแล้ว เพื่อนๆ ใครอยากช็อปก็ช็อปคะ แต่ขาที่เดินมาทั้งวันบอกว่าขอนอน เราเลยเลือกที่จะนอนดีฟ่า zzzZZZZ


แช่น้ำร้อนแล้วไปนอนซะ



วันที่ 2 - วันที่ 22 มีนาคม 2015

...........เช้าวันต่อมา...........

ตื่นเช้าก็เตรียมตัวไป Sentosa ไป UniversalStudio !!!!

Morning call 7 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเราก็มาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร บรรยากาศห้องอาหารของโรงแรมค่ะ



เชื่อไหมเราไม่ได้ตื่นเต้นในการ Univerasl เลย เราลงมาเป็นคนแรก เพื่อมารอคนอื่นๆๆๆๆ รอที่ล็อบบี้จนขี้เกียจจึงไปถ่ายรูปบรรยากาศโรงแรมมาให้ดู รอบๆ สระว่ายน้ำ




8 โมงล้อหมุน

ข้ามไปฝั่งเกาะเซ็นโตซ่า

ถึงแล้วววว Sentosa ถึงแล้วววว Universal Studiooooo


อลังการคะ น่าเที่ยวมว๊ากก ถ่ายรูปซะเต็มที่เลย แต่ก่อนที่จะได้เข้าไป UniversalStudio เราไปโลกใต้น้ำกันก่อน 


S.E.A. Aquarium 




เดินดูปลาๆๆ



โดมกระจกบานยักษ์ 





สวยคะ เหมือนอยู่ใต้ทะเลกับปลากระเบนเลย อิอิอิอิ



ดูเจ้าปลากระเบนตัวนี้สิ เราคิดว่าเป็นปลากระเบนจีนนะ 

ปลาดาว


แมงกระพรุนๆ เราชอบมาก






รูปใต้น้ำเยอะมากๆ เราเป็นชอบพวกสัตว์ทะเล บล็อกนี้เลยเน้นๆ ที่พวกกุ้ง หอย ปู ปลา 

ปูค่ะ



อุโมงค์ตรงทางออก



พอเดินขาลากในโลกใต้น้ำ เราก็เดินในส่วนที่เป็นการแสดง Gallery ต่อไป

อันนี้เจ้ายีราฟคู่


คล้ายๆ จะบอกเกี่ยวกับเรื่องราวผ่านทางการจำลองสถานการณ์


เข้าโซน Universal ค่ะ บรรยากาศโดยรอบจะมีมุมถ่ายรูปมากมาย 




แต่เราเล่นแต่เครื่องเล่นอลังการที่ UniversalStudio ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเล่นเลย กลัวเล่นได้นิดเดียว


ทัวร์ครั้งนี้เราใช้บัตรเข้า Universal Studio แบบไม่ต้องต่อคิวอยากเล่นอะไรแซงเลย มาแบบรถด่วนไม่จอดตามป้าย 5555+ เล่นไปหลายอย่าง แต่ที่ปลื้มมากๆ “Transformer” จร้า กรี๊ดไปแปดหลอด กับรถไฟอีกอย่างเข้าไปห้องมืดๆ เร็วเฟ้อออกมาหัวตั้งเล่อออ มีเครื่องเล่นมากมายเลยคะ หลายแนว เพื่อนๆ สนใจทดลองก็ลองดูนะคะ เป็นไปได้เล่นให้หมดเลยคะ แต่เราเล่นไม่หมดหลอกเรา

ไปดูการแสดงกัน เป็นการแสดงผาดโผน มีเอฟเฟ็กต์เพี้ยบ ร้อนมาถึงหน้า ขนาดนั่งไกลๆๆๆ นะเนี่ย น้ำก็มาค่ะ



เสร็จจากการแสดงเราก็ไปหาข้าวกลางวันกินกัน สำหรับอาหารกลางวันเราได้เงินคนละ 10SGD เป็นค่าอาหารอยากกินไรก็ซื้อกันคะ เงินไม่พอก็ออกเอง เราเลือกกินก๋วยเตี๋ยวแกงคะเหมือนใส่กะทิในน้ำก๋วยเตี๋ยวแบบต้มยำ แต่ไม่เผ็ดเลย สรุป ไม่อร่อย เลี้ยนๆ

เสร็จแล้วเดินไปเรื่อยๆ


มาโผล่ที่ casino 


ไม่ได้เล่นนะ แต่อยากรู้ว่าข้างในมันจะเหมือนในหนังไหม เข้าไปแบบกว้างเวอร์มีทุกอย่างที่เป็นการพนัน สนใจสล็อตมากๆ เล่นไม่เป็นหรอก ไปยื่นดูป้าคนหนึ่งเล่นเฮ้ย! ป้าแกกดอยู่ปุ่มสองปุ่มเงินจร้า มาเป็นตั๋วเงินต้องไปเบิกที่แคชเชียร์ 100SGD นี่เท่าไหร่ โฮ้..ป้าทำได้ เราก็ทำได้ 555 ขั้นต่ำ 10SGD อยู่กับเพื่อนร่วมงานอีก 4 คน หารคะ คนละ 2SGD กดสล็อตกดไปกดมา ไม่รู้เมื่อไรคือได้ เมื่อไรคือเสีย สรุปก็เลยเสีย 10SGD นั่นแหละ 555 รีบออกกันเลยยย....


ใช้เวลาอยู่ที่ Sentosa จนบ่ายสองกว่าๆ ก็ออกมารอเวลานัดไกด์ ฝนเกิดตกคะ ฝนที่สิงคโปร์เหมือนฝนไล่ช้างคะ ตกแรงๆ แต่แป๊บเดียวก็หยุด อารมณ์ ณ ตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่า “เหนื่อยมาก” ร้อนและเหงื่อท่วมตัวไปหมดเลย

ออกจาก Sentosa เราไปรับประทานอาหารเย็นร้านหัวมุมถนนที่คนเยอะมากๆ กับอาหารที่ขึ้นชื่อของสิงคโปร์อีกอย่างหนึ่ง คือ Bukkute (เขียนถูกป่าวหว่า...แต่อ่านว่า บัคกุดเต่) คล้ายๆ ซุปกระดูกหมูที่เผ็ดร้อนไปด้วยพริกไทย ตอนนี้ร้านนี้มีในไทยด้วยนะคะ ซุปกระดูกหมูบัคกุดเต่ของเขาเผ็ดร้อนจริงๆ แต่อาหารทุกจานก็เหมือนจะติดแนวจีนๆหน่อย คือ น้ำมันเยอะมาเลยล่ะ (ไม่มีรูปนะ สว่าปามด้วยความหิว ลืม Take picture นึกได้อีกทีจานก็ไม่เหลือซากแล้ว)

เสร็จจากอาหารเย็นก็เตรียมพร้อมไปชมบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์นั่งเรือชมเมืองว่างั้น 



ในเรือนี้เขาจะมีบันทึกคำบรรยายหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วยบรรยากาศยามเย็นดูสงบมากคะ และแสงสีก็กำลังพากันออกมาโชว์ความสวยงามยามค่ำคืนซึ่งไม่มีภาพบรรยากาศมาให้ชมกันเลย แบตกล้องหมดตอนขึ้นเรือพอดีรู้สึกกล้องเราทำร้ายจิตใจเรามาก คว้าโทรศัพท์มาถ่ายแทนก็ได้ไม่กี่รูปคะ แฮะๆ ฮือๆ


ชมเมืองสองฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์เป็นโปรแกรมสุดท้ายของวันนี้เสร็จแล้วก็ไปรับประทานอาหารที่ไกด์จัดเตรียมไว้ให้ แล้วก็กลับที่พักคะจะบอกเป็นวันที่เหนื่อยมากกกกกกก ขาล้าไปหมด แต่เราก็ยังไม่หมดความพยายามคะหลังจากลงรถทัวร์ปุ๊บ ก็ขึ้นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปช็อปปิ้งกันต่อ โล้ดดดดด.... สำหรับผู้หญิงหลายๆ คน คงพลาดไม่ได้กับสินค้าแบรนด์ Charles and Keith ที่ถูกและคุ้มมากๆ เพราะลดราคาจากบ้านเราครึ่งต่อครึ่ง เราก็ช็อปกันสบายใจเลยเพราะเงินที่เตรียมมาจ่ายแค่ของส่วนตัวเท่านั้น ที่เหลือไม่ต้องเสีย ได้มาหลายใบคะอ๋อ!! อีกอย่างที่ขึ้นชื่อ“กาเล็ต ป๊อบคอร์น” เพื่อนๆ ลองชิมแบบต้นตำรับกันเลยคะ แล้วจะติดใจอร่อยกว่าป๊อบคอร์นที่โรงหนังเยอะ...

--- จบวันด้วยนอนสลบเป็นตาย---

วันสุดท้าย - วันที่ 23 มีนาคม 2015

วันนี้เราต้องเดินทางกลับกันแล้วหลังจากตื่น เก็บข้าวของเสร็จ ก็เตรียมตัวเดินทางกันต่อ ก่อนบินกลับไทยช่วงเย็นๆ

สถานที่แรกที่มาคือ Garden by the Bay 



จะบอกว่าช่วงกลางวันธรรมดามากเลยคะดูแล้วเหมือนไม้เลื่อยตามเหล็กที่รูปทรงเหมือนต้นไม้ 



แต่ยื่นอยู่ข้างบนนี่เสียวมากเพราะทางเดินมันส่ายไปส่ายมา เสียวววววว ... เป็นเหมือนทางเดินเหล็ก+สลิงค์


แต่เพื่อนๆ ใครอยากเห็นต้นไม้+ สี เสียง แสงให้ไปตอนพระอาทิตย์ตกดินค่ะ จะเป็นการแสดงแสงสีเสียงที่อลังการมาก


เป็นรูปที่ถ่ายจากทางเดินข้างบนค่ะ



จบจาก Garden by the Bay ไปชมวิวมุมสูงที่ Marina Bay Sands ค่าตั๋วแพงมากถ้ามาเองเอื้อมราคาไม่ถึงแน่ แต่งานนี้ฟรีค่ะ 


ลิฟต์ขึ้นไปชั้นไหนจำไม่ได้แต่หูอื้อมาก ออกมาก็เจอวิวสวยๆ ของทั้งเกาะสิงคโปร์ 


มองออกไปเห็นทะเลเป็นบรรยากาศที่ฟินจริงๆ 



ที่เราเห็นวิวกันอยู่นี้เป็นฝั่งหัวเรือนะค่ะ เพราะฝั่งตัวเรือถึงท้ายเรือเข้าไม่ได้ สำหรับผู้ที่พักที่โรงแรมนี้เท่านั้นชมวิวอยู่ซักพัก (ตัวจะดำและ อยู่ใกล้พระอาทิตย์เกิน) 




ก็ลงมาช็อปปิ้งต่อเมื่อวานช็อปไปไม่มันส์ ได้ของยังไม่ครบ ก็จัดเพิ่มคะ ต้องกลับวันนี้อยากซื้ออะไรรีบซื้อเลย แฮะๆๆๆ บรรยากาศภายในโรงแรมค่ะ


ใกล้ได้เวลากลับบ้านเราแล้วคะ จบทริปนี้ด้วยอาหารกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ขอพูดถึง (เพราะไม่อร่อย)

ถึงสนามบินก่อนที่จะทำอะไรทุกสิ่งอย่าง ไปทำ Tax Refund กันก่อน สำหรับใครที่ไม่ทราบกฎการขอ TaxRefund นะคะ ได้อธิบายไว้ด้านล่างนี้คะ

= สำหรับสิงคโปร์ ตอนที่เราซื้อของเราต้องซื้อของในร้านให้เท่ากับ หรือเกิน 100SGD คะ แล้วแจ้งทางร้านที่เราซื้อว่าจะทำ TaxRefund เขาจะออกใบเสร็จสำหรับทำ Tax Refund ให้ จะบอกรายละเอียดด้วยว่าเราจะได้คืนเท่าไหร่ในใบเสร็จนั้น จากนั้น พอเรามาสนามบินก่อนที่จะบินออกนอกประเทศเขา ก็ไปที่จุดขอคืน Tax คะ โดยจะมีเป็นตู้อัตโนมัติให้เราหรือรับบริการจากพนักงานก็ได้ แต่ทำตู้อัตโนมัติก็ง่ายมากเลยคะเพราะมีเมนูภาษาไทยให้ด้วย พอทำเสร็จจะมีเอกสารคล้ายๆ ใบเสร็จมาให้เราเราก็ไปที่เคาน์เตอร์เพื่อขอเงินคืน โดยสามารถขอคืนเป็นเงินสด หรือโอนเข้าบัญชีได้ (แนะนำให้ขอเป็นเงินสดคะ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินและบลาๆๆๆ)

ทริปนี้สิ้นสุดโดยการเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพคะเหนื่อย สนุก ประสบการณ์ครั้งแรก คะ

ขอให้เพื่อนๆที่วางแพลนจะออกผจญภัยที่ใดก็แล้วแต่ มีความสุข สนุก และได้รับประสบการณ์ดีๆเช่นกันคะ




Create Date : 26 สิงหาคม 2559
Last Update : 14 พฤษภาคม 2560 20:15:05 น.
Counter : 1405 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

CutieFree
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Junket-Globe เป็นบล็อคที่เราสร้างขึ้น เพื่อเขียนเรื่องราวการเดินทางของเรา เพื่อนเป็นแนวทงให้เพื่อนๆ ที่อยากจะไปในสถานที่เดียวกัน
การเริ่มต้นเดินทางของเราเริ่มขึ้นแล้ว แล้วเพื่อนๆ จะรออะไรล่ะ ไปกัน Go Go
New Comments