BlogGang.com : : F_nakhon : ปลื้มนะเนี่ย

ปลื้มนะเนี่ย

ละครช่วยชีวิต “ช่อง5” เรตติ้งเพิ่มแต่รายได้หด เผยปี 53 ลดโฆษณาแฝง

ต้องถือว่าปีนี้เป็นสถานีม้ามืดที่มาแรงแซงทางโค้ง มีผู้คนกล่าวถึงกันมาก สำหรับสถานีวิทยุกองทัพบก หรือ ททบ5. ที่วันก่อนได้มีการจัดแถลงข่าวเปิดผังรายการใหม่ในปี 2553 ซึ่งผู้อำนวยการสถานี “พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์” ก็ยังคงสานต่อนโยบายกองทัพบก 4 ประการคือ เทิดทูนพระมหากษัตริย์ ป้องกันยาเสพติด รักษาสิ่งแวดล้อม และช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งยังรณรงค์เรื่องของการใช้ภาษาไทยและสุขอนามัย โดยรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ช้อนกลาง

โดยทางผอ.สถานีได้กล่าวขอบคุณผู้ชมที่ให้การสนับสนุนสถานีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งผังรายการปี 53นั้นมีการเปลี่ยนแปลงเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นแค่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการเท่านั้น ส่วนผู้จัดฯยังเน้นใช้บริการเจ้าเดิมอยู่

“สำหรับรายการของทางททบ.5 ในปี 2553 นั้น เราคงจะยึดมั่นในพระราชบัญญัติ เป็นสถานที่สาธารณะเพื่อความมั่นคง ก็จะใช้อัตราส่วน 70:30 ในอัตราส่วน 70 นั้นก็จะเป็นข่าวและสาระความรู้ สำหรับ 30 ก็จะเป็นเรื่องของความบันเทิง ในเรื่องของข่าวช่อง 5 ก็จะพยายามเน้นในเรื่องของรายงานข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง ประกอบกับในเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เราได้พัฒนาขึ้นในเรื่องของวิดีโอวอลล์ และเทคนิคเวอร์ชวล สตูดิโอ จาก นอกจากนั้นเรายังมีเรื่องของห้องข่าวที่สามารถเก็บข้อมูล และสามารถดึงข้อมูลมาได้อย่างรวดเร็ว”

“สำหรับเรื่องของรายการ เราจะเน้นในเรื่องของคุณธรรมและจริยธรรม ปีหน้าเราจะเพิ่มช่วงเวลา 18.00-19.00 น.เน้นรายการที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณธรรม และประวัติศาสตร์ เพื่อให้เยาวชนและคนทั่วไปได้ทราบว่า บรรพบุรุษของเรา หรือพระมหากษัตริย์ของเรานั้น ท่านได้เสียสละมาอย่างไรบ้างจนถึงสมัยที่เราอยู่ในปัจจุบัน นอกนั้นพวกละครและโชว์ต่างๆก็ยังคงเดิม”

“ที่จะแตกต่างออกไปอีกนิด คือปีหน้าผู้ประกาศของเราจะต้องมีการพูดอักขระภาษาไทยให้ชัดเจน ซึ่งตรงนี้เราจะเชิญผู้ที่มีความรู้มาสอนให้ผู้ประกาศของเรา และอาจจะเปิดอบรมให้ผู้จัดรายการเข้ามาร่วมอบรมด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง และเยาวชนหรือผู้รับชมรายการของเรา ก็จะได้รับทราบหรือเข้าใจการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์เรื่องของการใช้ช้อนกลาง รณรงค์การใช้เลขไทย ต่อไปตัวเลขต่างๆที่จะปรากฏในช่อง 5 ก็จะใช้เป็นเลขไทย การเขียนภาษาไทยต้องมีหัว ก็เป็นสิ่งที่เราจะเน้นในปีต่อไป”

แจงทุ่มงบประมาณเกือบ 2000 ล้านบาท สร้างตึกใหม่ พร้อมเทคโนโลยีทำให้การรายงานข่าวรวดเร็วและทันสมัยขึ้น ทั้งยังแย้มรายได้ปีที่ผ่านมาหด แต่ไม่ถือว่าขาดทุน ยันยังไม่คิดผลิตรายการเองเหมือนสถานีอื่น

“ปีหน้าคิดว่าด้านเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะดีขึ้น ในปี 53 ผู้ร่วมผลิตรายการก็คงจะมีพลัง ที่จะช่วยเหลือช่อง 5 ในเรื่องของการประกอบการ ซึ่งรายได้ในปีที่แล้วก็ลดลงประมาณสักล้านกว่าๆ ลดลงมาสัก 3 เปอร์เซ็นต์ได้มั้งแต่ยังถือว่าไม่ขาดทุน เพราะเราได้อุปกรณ์มา ถือเป็นการพัฒนา ปีหน้าก็คงเป็นการปรับเปลี่ยนในเรื่องของตึก ก็ตั้งงบไว้ประมาณ 1200-1300 ล้าน เวลาในการสร้างก็คงจะสัก 3 ปีกว่า แล้วก็จะมีเรื่องเปลี่ยนระบบออกอากาศเป็นระบบดิจิตอล เพราะฉะนั้นกำไรสะสมก็คงจะจ่ายกันเป็นงวดๆไป ก็คงไม่มีปัญหา”

“มีแนวโน้มจะรับผู้จัดหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมั้ย คือตอนนี้ของเรามันเต็มแล้ว มองๆดูขณะนี้ถือว่ามีช่อง 5 เพียงช่องเดียว ที่รับผู้ผลิตรายการร่วม นอกนั้นตอนนี้เขาเริ่มที่จะผลิตกันเองแล้ว ส่วนของเรามีแนวโน้มที่จะผลิตเองเหมือนเขามั้ย ตอนนี้เรายังไม่ได้คิด แต่ต่อไปยังไม่รู้ คิดว่าคงไม่ เราอาจจะให้ผู้ประกาศข่าวที่มีประสบการณ์มาทำรายการบ้าง อย่าง บุษบายามเช้า เพราะผู้ประกาศข่าวของเราเยอะ มันก็หมุนเวียนกันไปพอที่จะให้มาเห็น”

เผยเรตติ้งละครโดยเฉพาะเรื่อง "ชิงชัง" ของค่ายเอ็กแซ็กท์ ทำฐานคนดูเพิ่มสูงที่สุดในปีที่ผ่านมา

“ละครตอนเย็นของเราในปีที่ผ่านมา ถือว่าได้รับความสนใจอย่างมาก อย่างละครเย็นหรือซิทคอมก็อยู่ในความดูแลของเอ็กแซ็กท์ ส่วนละครประวัติศาสตร์เราก็ให้ทางกันตนาเป็นคนดูแลรับผิดชอบไป ช่วงที่ผ่านมาละครทุกช่องมีการแข่งขันกันสูง ช่วงไหนที่ถูกใจประชาชนก็จะเข้ามาดูกัน ละครเองเรตติ้งก็มีทั้งขึ้นและลงแล้วแต่เรื่องไป ถ้าเรื่องไหนถูกใจมากก็เข้ามาดูกันมาก ก็จะมีกลุ่มคนดูของเขากันอยู่ อย่างเรื่อง ชิงชัง ที่เรตติ้งถล่มทลาย ทำให้ฐานผู้ชมละครของเราปีนี้เพิ่มมากขึ้น ภาพรวมคนเข้ามาดูในช่วงละคร ชิงชัง เพิ่มขึ้นมาเยอะเกือบ20-30เปอร์เซ็นต์ ตรงนั้นทำให้ช่อง 5 กลับมาเป็นที่รู้จัก จากคนที่ไม่เคยเข้ามาดูรายการในช่อง 5 เลย ก็กลับเข้ามาดูรายการของเรา ก็ถือว่าเป็นส่วนที่ขึ้นมาสูงที่สุด”

“ขณะนี้เราเองก็พยายามทำผัง ให้มันเป็นภาพรวมๆ ช่วงเช้าก็จะเป็นข่าว ซึ่งก็จะมีผู้ชมประจำอยู่กลุ่มนึง ตอนนี้ก็เริ่มๆที่จะเพิ่มขึ้น แล้วก็จะมีละครรีรันในช่วง 10.45-11.45น. ช่วงนี้ก็จะมีคนเข้ามาชมกันเยอะ เรตติ้งดีทีเดียว ทำให้ภาพของเราในสายตาผู้ชมชัดขึ้น นอกนั้นก็จะเป็นข่าว เป็นเพลงในช่วงบ่าย ซึ่งก็มีทิศทางที่ดีพอสมควร หลังจากนั้นก็จะเบาลงหน่อยไปถึง 18.00 น. โดยรวมก็ถือว่าใช้ได้ คนเข้ามาดูเพิ่มขึ้นก็ถือเป็นสิ่งที่เราพอใจ”

ด้านหัวหน้าฝ่ายรายการ “พ.อ. เศรษฐศิริ ตรีศักดิ์ศรี” เผยปีนี้เตรียมมาตรการคุมเข้มผู้ประกอบการ ในเรื่องของการโฆษณาแฝง รวมถึงการโฆษณาเหล้าเบียร์ ซึ่งทางสถานีได้กระทำตามกฎหมายอย่างถูกต้อง

“เรื่องโฆษณาแฝงเป็นส่วนที่เราจะต้องมาขอร้องผู้ผลิตรายการ เพราะเราเองก็ถูกหนังสือพิมพ์ต่อว่า เรื่องของรายการที่มีโฆษณาแฝงอยู่มาก ซึ่งทุกช่องมันมี แต่เราพยายามที่จะลดลงให้ได้มากที่สุด เรียกว่าเราขอความร่วมมือจากทางผู้ประกอบการดีกว่า เราก็จะมีมาตรการเตือนก่อน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเรียกผู้จัดทุกรายเข้ามาคุยกันแล้ว เขาเองก็โอเคยอมรับตรงจุดนี้ได้ เราไม่ได้บอกว่าให้มันหมดไปเสียเลยทีเดียว เพราะเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ขอให้เขาลดลงโดยที่ไม่ไปกินในเนื้อรายการ ไม่ใช่ว่าในเบรกนึง คุณพูดแต่สินค้าของคุณมันก็ไม่ใช่ คุณต้องเอาสาระมาสอดแทรกบ้าง คือเราไม่ได้หวังว่าคุณจะต้องเอาออกหมด เพราะเข้าใจดีว่าเขาก็ต้องอาศัยในช่วงตรงนี้บ้าง”

“แต่ถ้าคุณยังไม่เชื่อ เราอาจจะคิดเป็นค่าโฆษณากับคุณไป เขาก็คงต้องยอมถอยบ้าง ซึ่งตรงนี้เราจะมีการเฝ้าดูอยู่ตลอด ตอนนี้ก็เริ่มที่จะทำกันแล้ว อย่างเราเป็นสถานีทหารก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้วิธีฟันๆเขา เราต้องมีการคุยกัน คือมันต้องเกิดจากใจเขาด้วย เพราะโฆษณาแฝงส่วนใหญ่มันทำให้เกิดความรำคาญกับผู้ชม มันเป็นการเอาเปรียบกัน”

“อีกเรื่องนึงคือโฆษณาแอลกอฮอล์ ช่อง 5 ของเราตอนนี้ในเรื่องของโลโก้ บรรจุภัณฑ์นี่เราไม่มี เพราะมันผิดระเบียบ เราก็อนุโลมให้แค่คุณใส่ชื่อบริษัทเท่านั้น ดังนั้นถ้าคณะกรรมการควบคุมจะมาเล่นสื่อ เพราะตอนนี้เขาเล่นปฏิทิน เล่นคัทเอาท์กันแล้ว ถ้าเขาจะเล่นเราก็สบาย เพราะถือว่าทำมาตลอด เท่าที่ทราบนอกจากช่องเราแล้ว ก็จะมีช่อง 3 ที่ทำแบบนี้เช่นกัน แต่ช่องอื่นเขาอ้างถึงกฎหมาย แต่เราไม่ได้บอกถึงกฎหมาย เรามองในเรื่องของจริยธรรม ซึ่งตรงนี้เราทำแล้วก็รู้สึกสบายใจ ซึ่งจริงๆเขาก็เลี่ยงที่จะไปโฆษณาน้ำดื่มได้ ถ้าบริษัทคุณมีน้ำดื่มก็โฆษณาน้ำดื่ม โฆษณาโซดาไปสิ ถ้าเขาปรับตัวแบบนี้ได้มันก็ไม่มีปัญหา”

//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000159102

Create Date : 28 ธันวาคม 2552

Last Update : 28 ธันวาคม 2552 20:49:10 น.

0 comments

Counter : 641 Pageviews.