Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
เฉพาะแฟนชิงชัง (ตอนที่ 49 อนุโมทนาบุญกับแม่พระด้วยนะครับ)

วันนี้ดูชิงชังไม่ปะติดปะต่อเท่าไร เพราะสัญญาณดาวเทียมใหญ่ยักษ์บนหลังคามันไม่เวิร์ค ทำให้การร้องไห้สะดุดหยุดชะงักซะงั้น เลยต้องโทรหาคุณเฟื่องให้ช่วยลำดับเรื่องราวบางช่วงบางตอนให้หน่อย

วันนี้ต้องขึ้นต้นด้วยเสียงปืนปริศนาเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว หลังจากที่ไต่ถามเข้ามากันวุ่นวายว่าใครเป็นคนยิง ยงชัยจะตายไหม อาทิตย์ล่ะโดนยิงหรือเปล่า?
ปิงจะช่วยลูกได้ไหม แล้วจะตายตอนนี้ไหม?

สุดท้ายเสียงปืนที่ทุกคนรอคอยก็เฉลยออกอย่างที่ได้ดูกันไปแล้ว คือเป็นสัญชัยกับปิงที่แย่งปืนกันจนลั่นขึ้นฟ้า ส่วนภาพของยงชัยที่ถือปืนนั้นก็เป็นคนละช่วงวินาที ต้องบอกแบบนี้แต่การตัดต่อที่กระชับฉับไว ทำให้คนดูเกิดอาการไขว้เขว และมีคำถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังได้ยินเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นนับว่าได้ผลทีเดียวกับตัวอย่างของตอนต่อไป สำหรับเราแล้วเชื่อว่าทุกคนที่ดูชิงชัง หลังละครจบจะยังไม่เปลี่ยนช่องไปไหน จนกว่าจะได้ดูตัวอย่างของวันพรุ่งนี้ แล้วก็จะมาถกกันว่ามันจะเป็นยังไงบ้างหนอ ? จริงไหมคะพวกเราชาวชิงชัง

สำหรับวันนี้น้ำตากระจายกับหลาย ๆ ฉาก เริ่มตั้งแต่ตอนที่ปิงวิ่งเอาตัวเข้าบังอาทิตย์แล้วล้มอยู่ในอ้อมกอดของไอ้หนูระหว่างวินาทีที่วิ่งเอาตัวเข้าบังกระสุนให้ลูกนั้น คนเป็นพ่อคิดเพียงอย่างเดียวคือ ขอให้ลูกปลอดภัย
แม้ตัวจะตายก็ยอมแลกชีวิตให้ เราจึงได้เห็นว่าปิงหลับตาลงอย่างมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของลูก

อาทิตย์เองก็ตกใจไม่น้อย หรือแทบไม่เชื่อกับความคิดของตนตรงที่ว่า
ปิงเป็นใคร ทำไมถึงต้องทุ่มเทชีวิตทำความดีให้เขามากขนาดนี้
แต่คำถามของอาทิตย์ไม่ต้องรอคำตอบนาน เมื่อแม่อิ่มตัดสินใจพาเข้าไปหาพ่อในห้อง แล้วความจริงที่เก็บงำไว้เกือบยี่สิบปีก็ถูกเปิดเผย
ให้ลูกได้รู้จักพ่อบังเกิดเกล้า ความรัก ความอบอุ่นที่อาทิตย์รอมานานนั้น
บัดนี้มันได้รับการเยียวยาไม่ให้เขาต้องเป็นลูกไม่มีพ่ออีกต่อไป

สำหรับอารีย์ วันนี้เธอกลับมาเพื่อสะสางเรื่องราวในอดีตให้จบ หลังจากที่เธอหนีความจริง มาอยู่กับคำโกหกพกลม และอยู่กับความลับที่คิดว่ามันมีอยู่ในโลกนี้ แต่เมื่อถึงเวลาอารีย์ก็ต้องยอมรับว่าความลับไม่มีในโลก อดีตถูกเปิดเผยและขุดคุ้ยด้วยตัวของมันเอง สุดท้ายสามัญสำนึกในด้านดีก็สามารถดึงอารีย์กลับมาในทางที่ถูกที่ควร คำสัญญาที่รับปากกับอดีตสามี ทำให้ปิงนอนตาหลับ

ความจริงเรื่องระหว่างปิงและอารีย์นั้น ต้องบอกว่าปิงนั้นเป็นคนดี ดีเกินกว่าที่อารีย์จะคู่ควร อารีย์เหมือน ลิงได้แหวน ไก่ได้พลอย เธอไม่เคยเห็นค่าของอัญมณีในมือ ต่อเมื่อเธอปล่อยให้มันหลุดลอย เมื่อนั้นเธอจึงเห็นว่านั่นคือเพชรแท้ คำขอโทษ และขออโหสิกรรมจึงออกจากปากอารีย์ได้อย่างไม่ยากเย็นอีกต่อไป เหมือนกับฉากที่เธอกราบขออโหสิกรรมกับพระลูกชาย
อาทิตย์เองก็ปลื้มปิติกับคนเป็นแม่ไม่ใช่น้อย ต่อนี้ไปเขาจะเชิดหน้ามองผู้คน มองโลกได้อย่างภูมิใจว่าเขามีพ่อแม่พร้อมสมบูรณ์แล้ว

สุดท้ายสำหรับวันนี้ ขอยกให้กับความรักที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นแม่อย่างนางทองคำ รวมถึงแม่ทุกคนในโลกนี้ ไม่มีความรักใดจะเทียบเท่า และเสมอเหมือนกับความรักของพ่อแม่ ไม่มีความดีใจไหนจะเท่าที่คนเป็นแม่เห็นพี่น้องรักใคร่ปรองดองกลมเกลียวกัน ไม่มีความสุขใดไหนเท่าที่แม่เห็นลูกยิ้มแย้มแจ่มใส และอยู่เคียงกันไม่ว่ายามทุกข์หรือสุขก็ตาม นางทองคำจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยออกมาว่าหากตาย นางก็ตายตาหลับ

อยากบอกว่าชีวิตคนเรามันสั้น หากวันนี้คุณยังไม่ได้บอกรักแม่กับพ่อ ก็จงทำเสีย ก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้น และหากทำมากกว่าคำบอกรัก ด้วยการทำให้ท่านรู้ว่าเราเป็นคนดี แค่นี้พ่อกับแม่ก็เป็นสุขแล้วค่ะ

ด้วยความปรารถนาดี และในนามของความรัก

โมริสา



คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นหลังดูละครจบ ใครจะเห็นอย่างข้าพเจ้าหรือไม่ ไม่ใช่ความผิด ขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็ไม่ผิดเช่นกันที่จะมีความเห็นเช่นดังที่กล่าวมาแล้ว

โปรดใช้วิจารณญาณ


โดย: โมริสา IP: 125.24.77.109 26 ตุลาคม 2552 22:59:55 น.
********************

ชอบ ชิงชัง วันนี้จัง ใครเห็นอะไรบ้างเอ่ย?...

บทตอนบวช ค่า...

คนสร้างยอมเสียเวลา ยอมเสียเงินเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมในการบวช เริ่มจากแห่นาคที่มีรายละเอียดครบ การรับผ้าไตรจากแม่ การครองผ้าจากพระพี่เลี้ยง การรอรับพระบวชใหม่ เหล่านี้ควรสอดแทรกเข้าไปในละครเพื่อสืบทอดวัฒนธรรม เหมือนหนังเกาหลีที่แทรกวัฒนธรรมการกินอาหาร เข้าไปจนคนดูทั่วโลกรู้จักและอยากกินอาหารเกาหลีนั่นแหละค่า....
สรุบ "ชิงชัง" วันนี้อิ่มอุ่นจังเลยพ่อคุณ



โดย: ป้านางน้อย IP: 222.123.50.192 26 ตุลาคม 2552 22:40:30 น.

............................................................

ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ เบื้องหลังละครฮอต 'ชิงชัง'

การที่ละครสักเรื่องหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้นั้น บทละครเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งทีเดียวที่จะทำให้ตัวเรื่องน่าสนใจ และน่าติดตามไปจนจบเรื่อง

และเบื้องหลังความสำเร็จของละครของบริษัท เอ็กแซ็กท์ หลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น สงครามนางฟ้า ทะเลริษยา บ่วงรัก แก้วลืมคอน เลือดขัตติยา หัวใจช็อกโกแลต หีบหลอนซ่อนวิญญาณ แก้วล้อมเพชร ฯลฯ และล่าสุดกับ ชิงชัง ที่กำลังได้รับความนิยมสูงในขณะนี้นั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของ ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ สคริปต์ ไดเรกเตอร์ (Script Director) คนนี้ทั้งสิ้น

ก่อนที่จะเข้ามาทำงานกับเอ็กแซ็กท์ ศิริลักษณ์ มีประสบการณ์การทำงานมาอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การบริหารงานสื่อสารในเอเยนซีโฆษณา บริหารการตลาดผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และงานสร้างสรรค์ รายการโทรทัศน์และสื่อส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กของบริษัทในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ก่อนจะผันตัวเองมาทำหน้าที่สคริปต์ ไดเรกเตอร์ให้กับเอ็กแซ็กท์เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา

โดยภาระหน้าที่ของสคริปต์ ไดเรกเตอร์อย่างเธอนั้นก็คือการทำหน้าที่คัดเลือกบทประพันธ์ ควบคุมบทละครโทรทัศน์ให้กับละครทั้งหมดนั่นเอง

“การทำงานก็คือ การเลือกเรื่องที่นักเขียนนอกส่งมาให้ การเข้าไปดูในเว็บไซต์ อย่างเรื่องสงครามนางฟ้านี่ก็ได้มาจากเว็บไซต์ หรืออ่านจากหนังสือนิยายตามตลาดว่าเรื่องแบบไหนที่จะเหมาะกับการซื้อลิขสิทธิ์มาทำเป็นละคร บางคนก็ส่งเรื่องมาแค่ 2 แผ่น แต่ถ้าเนื้อเรื่องโดนเราก็ตัดสินใจซื้อมาทำละคร ซึ่งเราเปิดกว้างรับทุกรูปแบบ ไม่จำเป็นจะต้องมาจากนักเขียนที่มีผลงานตีพิมพ์เป็นเล่ม แต่ถ้าเราเห็นว่าทำงานได้เราก็รับหมดค่ะ”

ส่วนเรื่องที่ดูเข้าท่า เข้าตาจนน่าจะนำมาทำเป็นละครนั้น ศิริลักษณ์ บอกว่า จะวัดจากความสนุกของเนื้อเรื่อง ต้องเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจได้ง่ายหรือเรียกสั้นๆ ว่า แมส (Mass) นั่นเอง เพราะละครหลังข่าวต้องทำให้ผู้ชมวงกว้างดู เนื้อเรื่องจึงไม่ควรซับซ้อนหรือเฉพาะกลุ่มจนเกินไป

“คนเขามักจะบอกว่าละครมักจะวนเวียนอยู่ที่เรื่องของรัก โลภ โกรธ หลง การแย่งความรัก แย่งผู้ชาย มรดก (ยิ้ม) แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงวนอยู่แต่ตรงนั้น ก็เพราะมันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าคุณจะจบดอกเตอร์ หรือคุณจะเป็นสาวโรงงาน ถ้ามีคนมาแย่งคนรักคุณจะรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร ทุกคนเข้าใจได้ว่าปัญหาของตัวละครคืออะไร เป็นอารมณ์ที่คนวงกว้างเข้าใจได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องพิเศษแล้วละเอียดอ่อนมากๆ บางทีอ่านสนุกแต่เราจะไม่ทำ บางเรื่องอ่านแล้วเราจะบอกกับเจ้าของพล็อตเลยว่าอันนี้เหมาะกับหนัง เพราะแก่ไป แคบไป ไม่แมส”

นอกจากหน้าที่ในการคัดเลือกพล็อต คัดเลือกบทประพันธ์ มาสร้างเป็นละครแล้ว ในบางครั้งศิริลักษณ์เองก็ต้องลงมือสร้างพล็อตเรื่องขึ้นมาเองด้วย เนื่องมาจากในบางครั้งไม่สามารถหาบทประพันธ์มาตอบโจทย์ที่มีได้ หรืออาจจะหาได้แต่ไม่ตอบโจทย์กับนักแสดงที่มีในสังกัดก็ต้องพล็อตเรื่องขึ้นมาเอง หรือในบางครั้งที่คนเขียนบทงานเยอะ เธอก็ต้องหันมาเขียนบทละครเองด้วย อย่างเรื่องชิงชัง ที่กำลังเรียกเรตติ้งอยู่ทางช่อง 5 ในขณะนี้

ในฐานะที่คลุกคลีกับการเขียนบทละครมาหลายปี อุปสรรคสำคัญในการถอดบทประพันธ์ให้กลายมาเป็นบทละครนั้น ศิริลักษณ์ บอกว่า ในมุมมองของเจ้าของบทประพันธ์นั้นก็อยากจะให้บทละครออกมาเหมือนที่บทประพันธ์เขียนเอาไว้ ในขณะที่การทำงานของคนเขียนบทละครนั้นก็ต้องการอิสรภาพในการสร้างสรรค์ และการตีความใหม่ เพราะฉะนั้นการทำงานจึงค่อนข้างยากลำบากอยู่เหมือนกัน

“ดิฉันค่อนข้างจะให้อิสระกับคนเขียนบทละครในการตีความ แต่คุณต้องมั่นใจว่าไม่ทิ้งแก่นที่เป็นสาระ หรือคุณค่าของนิยาย ซึ่งบางทีคนที่มือไม่ถึง หรือวุฒิภาวะไม่พอ ก็ทำตกหล่น หรือเอามาได้ไม่หมด เอามาได้แต่โครงเรื่อง หรืออ่านไม่ขาด แล้วทำให้บทประพันธ์ดีๆ สูญเสียคุณค่าไป ยิ่งเป็นบทประพันธ์ที่ได้รับความนิยม คนเขียนบทยิ่งต้องถามตัวเองเยอะๆ ว่าที่หนังสือเล่มนั้นได้รับความนิยมเพราะอะไร แล้วเราเก็บเนื้อหา แก่นของเรื่องมาได้หรือยัง แต่การที่เราแก้ไข หรือปรับเปลี่ยนไม่เหมือนบทประพันธ์เราจะบอกเจ้าของหนังสืออยู่เสมอว่าไม่ได้แปลว่าบทมีปัญหานะ แต่เป็นคนละศาสตร์กันระหว่างหนังสือกับละครโทรทัศน์

อย่างเรื่องชิงชัง จริงๆ แล้วในหนังสือนิยายเขาไม่ได้เล่าแบบนี้ แตกต่างจากในละครเยอะมาก เราจะดูว่าแก่นเขาดีนะ ให้คนดูได้แง่คิดในเรื่องของความรัก เข้าใจ ให้อภัยกัน และควบคุมกิเลสของตัวเองให้ได้ ซึ่งเป็นแก่นที่ดีมาของเรื่องนี้ แต่เขาจะเล่าเรื่องของพี่สาวที่เป็นนางเอกของเรื่องคนเดียว แต่พอมาถึงเรา เรารู้สึกว่าเราอยากจะเล่าชีวิตของผู้หญิง 4 คนที่เป็นพี่น้องกัน ไม่ได้อยากจะเล่าเรื่องของพี่สาวคนเดียว แต่เราก็เก็บแก่น และสาระสำคัญของเรื่องเอาไว้ เพียงแต่วิธีการเล่าเท่านั้นที่เปลี่ยนไป”

การที่ละครสักเรื่องหนึ่งจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ศิริลักษณ์ มองว่า บทละครมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากว่าละครบางเรื่องถึงจะใช้ดาราที่มีชื่อเสียงมาแสดง แต่ถ้าบทละครไม่ดีก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จได้ ในขณะเดียวกันถ้าได้นักแสดงใหม่ที่มีฝีไม้ลายมือในระดับหนึ่ง แต่บทดี บทสนุก ละครก็มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จ ยิ่งถ้าได้นักแสดงดัง บทละครดี ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่

ส่วนใครที่สนใจในศาสตร์การเขียนบทละคร และอยากจะยึดเป็นอาชีพ ศิริลักษณ์ แนะนำว่า

“การเขียนบทละครเป็นงานขนาดใหญ่ คนที่จะเข้ามาทำตรงนี้ได้ต้องอยากทำจริงๆ เพราะเด็กบางคนมาแล้วหลุดร่วงไประหว่างทางคืออยากหน่อยๆ ได้เขียนบทละครก็ดีเหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันก็อยากทำอย่างอื่นด้วย เพราะบทละครเป็นสิ่งที่กินเวลา และทำงานหนัก ถ้าทำต้องทำทั้งตัว เอาให้รู้ไปเลยว่าทำได้หรือไม่ได้ แต่ส่วนมากที่มักจะไปสำเร็จ เพราะทำเป็นงานอดิเรก เพราะเป็นงานที่เรียกร้อง เวลาได้งานไปต้องมีคนอีกหลายคนที่รอเรา และบางทีมีเงื่อนไขทางการผลิต ซึ่งทั้งหมดเป็นโจทย์ของคนเขียนบท

และคนที่จะมาทำงานตรงนี้ได้ต้องเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ชอบคิดเรื่อง ชอบเล่าเรื่อง อ่านหนังสือแตก เก็บรายละเอียดของแก่นของนิยายเรื่องนั้นๆ ที่อยากจะนำเสนอต่อนักอ่านคืออะไร ไม่จำเป็นว่าต้องจบนิเทศศาสตร์ เพียงแต่ว่าคุณจะต้องอ่านหนังสือแตก เพราะเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถทางภาษาเยอะ ต้องอ่านแตก เขียนแตก เก็บรายละเอียด ข้อคิด ความสนุกของเรื่องได้ดี ซึ่งถ้าใครทำได้ก็จะเป็นอาชีพที่ดีทีเดียว” ศิริลักษณ์ ทิ้งท้าย

credit by posttoday.com

ที่มา...//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8474614/A8474614.html

---------------------------------------------------------------

วันนี้มีโอกาสอัพบล็อกที่ร้านเน็ตในเวลาตีห้ากว่าๆ (เริ่มทำงานแข่งกับเวลาแบบคนกรุงเทพฯ มากทม.ตั้งแต่วันพฤหัสบดี วันนี้ยังไม่ได้กลับเลยครับ)

เหตุผลเพราะเมื่อวาน พอดูชิงชังที่ร้านเน็ตจบก็ปวดหัวจนต้องกินยาพารา เพราะว่าตอนที่ดูตอนที่ 49 นั่งน้ำตาไหลพรากแบบมินิฮาร์ฟมาราธอนเลยพ๊มมมมมมมมมมมม มันตื้น มันตัน มันแน่นในหัวอก..มันต้องไหล

เป็นใครเป็นกันบ้างครับ..

บอกไว้ก็ได้นะ เหลืออีกแค่ 2 กระทู้เท่านั้น ผมก็หมดโอกาสได้อัพบล็อกตามบทละครแล้วครับ...

วันนี้ได้เห็นหน้าคนเขียนบท เลยเอามาฝาก ตามลิ้งข้างบนเข้าไปเลยนะครับ..

ชิงชัง เป็น ปรากฏการณ์ที่ผมเองก็คาดไม่ถึงว่ามันจะโด่งดังถึงเพียงนี้ ผมเข้ากทม.มาก็เพื่อ เซ็นหนังสือนวนิยายชิงชังในงานหนังสือกับบู๊ธ ณ บ้านวรรณกรรม ซึ่งแน่นอนว่า ผมมายืนอยู่สองวันกว่า ๆ (วันเสาร์ หนังสือมาจากสนพ.ตอนบ่ายโมง กอรปกับผมติดมิตติ้งนักเขียน กับไปถ่ายเอ็มวี เอ้ย ไปสัมภาษณ์หน้ากล้องของเว็บนิยายดอทคอม ก็เลยไม่ได้ยืนอยู่ที่บู๊ธเต็มเวลา) สองวันกว่า ๆ นั้น ผมเห็นเลยว่า คนรู้จักชิงชังมากน้อยแค่ไหน เดินผ่าน บู๊ธ ณบ้าน ลูกสาว ลูกชายตัวจ้อยสะกิดให้แม่ดูหนังสือชิงชัง เด็กวัยรุ่น ก็ชี้ชวนกันดูหน้าปกสวย ๆ และ มีเร่เข้ามาจับพลิกไปพลิกมาด้วยดวงตาเต้นระริกทีเดียว แต่ว่าแหละ คอละครไม่ใช่คอนิยาย แต่ว่าแค่นี้ ผมก็มั่นใจได้ว่าชิงชังดังจริง ๆ ...

และก็มีหลาย ๆ ท่านที่เข้ามาซื้อ ขอถ่ายรูป ซักถามถึงแรงบันดาลใจ ซักถามอายุ ซักถามถึงผลงานชิ้นอื่น ๆ ของผม ...คนที่เคยซื้อชิงชังไปนานแล้วก็บอกว่า นิยายสนุกกว่า ...ซึ่งตรงนี้ผมก็ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจไว้ด้วยนะครับ ..ตัวลอยเลยทีเดียว.........

มีอยู่หนึ่งคู่มากันสองคน หญิงชาย ผู้ชายบอกว่า พี่รู้ไหม ชิงชังเนี่ยเป็นหนังสือนิยายเล่มแรกของเธอเลยนะ....

อีกครอบครัว คุณแม่ มากับคุณลูกเด็กแนว(สวนสุนันทา) คุณแม่บอกว่า ชิงชังเป็นละครเรื่องแรกที่ลูกชายเขายอมดู ลูกชายเขาก็บอกว่า พี่ที่สวนสุนันทาดูกันทั้งห้องครับ...มาขอผมถ่ายรูปไปอวดเพื่อนหน่อย..

บางคนก็ โทรกลับไปหาเพื่อนด้วย นี่เธอ หนังสือชิงชังมีด้วยนะเอาไหม..คนเขียนหน้าตาหล่อด้วยนะ ..(ไม่น่าเกี่ยวกับหนังสือเนอะ)..

ฯลฯ
สรุปว่าช่วงสามวันเป็นสามวันที่ผมมีความสุขมาก ตัวลอยเชียว ...

อีกนิด เมื่อคืนวันอาทิตย์ ผมแวะร้านเน็ตเช็คเมล์ ในร้านเน็ต ผมก็ได้ยินเสียงเพลง รักเจ้าเอย ลอยลมมาจากโต๊ะใดโต๊ะหนึ่ง ผมก็ยืนมองหา แต่ไม่เห็นว่าดังจากเครื่องไหน (ร้านใหญ่) ผมก็คิดว่าคงบังเอิญเปิดเพลงฟังมั้ง แต่ว่า มันก็ตามมาด้วยเพลงผิดเพราะรัก จบสองเพลง เพลงเสียงดัง ๆอย่างไม่เกรงใจโต๊ะข้าง ๆ ก็เงียบหายไป...

สงสัยคงจะคิดถึงละครชิงชังเป็นอย่างมากกกกกกกกกกก........

และเมื่อวาน ผมก็พักอยู่ที่ห้องเพื่อน เพื่อน ๆ ไปทำงานกัน ผมบอกกับเขาว่า ผมไม่ไปไหนหรอกจะรอดูชิงชัง กลัวกลับมาไม่ทัน พอเย็น ๆ ผมก็เปิดโทรทัศน์จอใหญ่มะเอ็บของมันดู ปรากฏว่า กรี๊ดดดดดดดดดดด ตายแล้วช่องห้าไม่แจ่มมมมมมมมมมมมมม โอ้ยยยยยยยย ทำไงดีเนี่ย พลาดตอนสำคัญแน่ ๆ เลย หมุนหนวดกุ้งไปมา รมย์เริ่มเสียแล้วววววววววววววววว หาวิธีแก้ปัญหา ตรูจะไปบ้านใครดีละนี่...เอ๊ะ หรือจะดูในเน็ตได้ (คือไม่เคยดูทีวีออนไลน์ไง) ก็เลยเช็คดู เข้า กูเกิ้ล พิมพ์คำว่า ดูทีวี โอ้วววววว เจอ //www.dootv.com ก็เลยได้เห็นว่าช่องห้าในเน็ตแจ่มแต่ไม่แจ้ง เพราะจอมันเล็กและแตกด้วย ก็เลยตัดสินใจ พาตัวเองมาร้านเน็ตในเวลา 20.20 น. เอาหูฟังครอบหู ดูไป น้ำตาก็ไหลไปเรื่อย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..แถมมีบางช่วงสัญญาณดีเลย์ด้วย..ก็เลย ไหลแบบลุ้น ๆ อิอิ..

สรุปว่า ผมก็เพิ่งได้มีโอกาสเช็คเรตติ้งอีกทางครับ..ระหว่างที่ดูก็จะมียอดคนออนไลน์รวม แล้วก็แยกออกเป็นช่องเห็น ๆ เลยครับ..

มีรูปเป็นหลักฐานด้วยนะ แต่ว่า เครื่องเขาตัดแต่งภาพไม่ได้..

สรุปว่า ช่อง 5 ช่วงชิงชังออนแอร์ ทิ้งห่าง อันดับที่2 และ 3 (ที่คุณก็รู้ว่าเขาคือใคร) มากกว่าหนึ่งช่วงตัวววววววววววววววววววว โอ้วววววววว สุดยอดเลยครับ...


สรุปว่าผมชอบฉากไหน...คงเป็นฉาก 4 แม่ลูกกอดกันร้องไห้ก่อนจบ มันมีอะไรมากมายที่ให้คิด...มากมายจริง ๆ ดีใจกับทุกคน ดีใจกับแม่ทองคำ..(อยากจะหาคำพูดของแม่ทองคำมาลง แต่ว่า เวลาไม่พอแล้วจ้า))) ที่จะได้สมหวังคือนอนตายตาหลับอย่างแน่นอน............

ฉากรองลงมาก็อย่างที่ป้านางน้อยว่าไว้ เป็นภาพงานบวชที่แม้จะยืด แต่ว่าก็อิ่มนะครับ งานบวชจริง ๆ นานกว่านี้...

มีแม่ประเคนใดผ้าไตร

ถัดมาเป็นนาคประคองผ้าเข้าหัตถบาส (หัตถบาส แปลว่า บ่วงมือ .....หัตถบาส ใช้เรียกการนั่งของพระสงฆ์ในเวลาทำสังฆกรรมเพื่อแสดงความสามัคคีความพร้อมเพรียง โดยนั่งเว้นระยะห่างกันตามพระวินัยกำหนดอยู่ในที่ประชุมโดยไม่นั่งแยกกันหรือลุกเดินไปทางโน้นทางนี้ เรียกว่า นั่งหัตถบาส .....หัตถบาส มีกำหนดระยะห่าง ๒ ศอก คืบ มีวิธีวัดดังนี้ เมื่อภิกษุนั่งพับเพียบอยู่ ให้วัดจากด้านหลังของเธอมาถึงหน้าตักของเธอจะได้ระยะ ๑ ศอก แล้ววัดจากหน้าตักของเธอออกไปข้างหน้าอีก ๑ ศอก ๑ คืบ จะรวมได้เป็น ๒ ศอก ๑ คืบ นี้คือระยะหัตถบาส) แล้วส่งให้พระอุปัชฌาย์ ซึ่ง ไม่คิดว่า จะเป็นพระอิน แต่ว่าก็เป็นไปได้นะด้วยบวชมากมากกว่า 10 ปี เป็นพระเถระแล้ว

ชอบตอนที่ถอดเสื้อนาคแล้วสวมผ้าอังสะกับมีภาพตอนออกไปนุ่งห่มผ้าที่หลังโบสถ์นั่นด้วย และที่เอาน้ำตาแตกกระจายก็คือ พอตัดไปหาปิงได้ยินเสียงแว่ว ๆ ของพรพระที่กำลังให้พรอยู่ในโบถส์...มันสุดจะกลั้นจริง ๆ...

แต่พระอาทิตย์น่าจะพูดว่า ขอบุญจากการบวชในครั้งนี้ช่วยดลบันดาลให้พ่อปลอดภัย อะไรแบบนี้มากกว่า แต่เอาเหอะ พูดอย่างไร ตามบทประพันธ์ ปิงก็ต้องตายยยยยยยยยยยยยยยยยย อยู่ดี (ทำไม ผมโหดร้ายจังก็ไม่รู้นะ หน้าตาก็ดูใจดีจะตายยยยยยย)...

เอาเป็นว่า แม้ถึงตอนนี้ผมก็ยัง ปวดหัว แน่นในหัวอกอยู่ดี ดังนั้น พรุ่งนี้ ผมกลับถึงบ้านแล้ว(วันนี้) คงจะมีภาพมีภาษาของเสียง มาลงตรงนี้ให้เต็มอิ่ม ยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ ผมขอเก็บกระเป๋าเดินทางกลับนครสวรรค์ก่อนนะครับ..

จุ๊ ฟ ๆ





Create Date : 27 ตุลาคม 2552
Last Update : 27 ตุลาคม 2552 6:46:38 น. 15 comments
Counter : 1787 Pageviews.

 



ตอนที่อารีย์จูบปิง แบบร้องซะไม่น้อยเลยครับ...

มีใครเป็นบ้างไหม?


โดย: F_nakhon วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:7:01:51 น.  

 
เป็นเหมือนกันค่ะ....เมื่อวาน ต่อมน้ำตาแตกหลายก๊อกเลย

ชอบชิงชังมากค่ะ...ตามอ่านที่นี่มาตลอดแต่ไม่เคยเม้นท์


โดย: NuHring วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:10:16:57 น.  

 
ลุ้นมาก โดยเฉพาะตอนที่ยิงกัน

แต่ตอนที่ประทับใจสำหรับเมื่อคืนก็ตอนที่

ตอนที่อารีย์ก้มลงกราบพระอาทิตย์

โอ้ววว...ซึ้ง


โดย: ToM... IP: 58.97.37.61 วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:11:17:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ เป็นอีกคนนะค่ะที่เป็นแฟนละครชิงชัง

ตอนนี้กำลังลุ้นค่ะเพราะวันนี้ ยอดจะได้เจอกับแม่อิ่มแล้ว

(ดูจากตัวอย่างเมื่อคืนก่อนนะค่ะ) อีกอย่างอยากรู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไง
เพราะเข้มข้นมาก เรื่องน้ำตาไม่ต้องพูดถึงเพราะซึ้งเหลือเกิน


โดย: กล้วยน้ำ วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:12:17:23 น.  

 
เมื่อคืนดูไปร้องไห้ไปค่ะ

ฉากสุดท้ายที่แม่ทองคำกอดกับลูกสาว 4 คน ทำได้ดีมาก แล้วก็ฉากบวชด้วย ใส่รายละเอียดได้ดี ละครน้อยเรื่องที่จะใส่ใจจุดนี้


โดย: YesterdayOnceMore วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:12:53:49 น.  

 
ลุ้นๆๆๆ

คืนนี้ห้ามพลาด แม่อิ่มจะได้เจอกับยอด แล้ว

ว่าไป ก็ไม่อยากจะให้จบเลยสำหนรับชิงชังเรื่องนี้


โดย: ta (tookta_tt ) วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:12:57:22 น.  

 
สัญชัยมันร้ายจริงๆเกลียดมัน(จะอินไปไหนเนี่ย) สงสารพ่อปิงสุดๆ ตายแทนลูกได้ด้วย ฮือๆ เศร้า


โดย: sakana's world วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:13:23:16 น.  

 
จะแปลกไหม
ถ้าจะบอกว่า ตอนอารีย์จูบปิงนั้น
ไม่ได้ร้องไห้ แต่อยากตบมากกว่า
เชอะ !!! ยัยลิงได้แหวน

รอดูคืนนี้ดีกว่า นังระย้า เอ๊ยแม่อิ่ม จะเอาน้ำพริก(สูตรสมุนไพรพิษ) ให้ไอ้ยอดกินมั๊ย

ปล. อ่านชิงชังจบแล้ว น้ำตาซึมเลย
เชื่อแล้วจ้าคุณเฟื่องว่า ทั้งนิยายและละครสนุกไม่แพ้กัน


โดย: ปลาทู & ปูนา (platoo_cd ) วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:13:59:45 น.  

 
แฟนชิงชังค่ะ อยู่ระหว่างทำ thesis ต้องหยุดดูชิงชังก่อนทุก
ครั้ง (ไม่อยากให้จบเลยยยยยยยยยย)


โดย: tata IP: 172.16.0.64, 61.19.236.222 วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:19:54:20 น.  

 
โอ๊ยยยยยย อยากดูตอนต่อไปใจจะขาดแล้วค่ะ


โดย: YesterdayOnceMore วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:22:03:38 น.  

 
เฮ้อ...น้ำตากระจายไปหลายรอบ
ต้องบอกว่าวันนี้ฉากใหญ่อยู่ที่พี่ยอดกับพระอิน
แม้จะมีหลากหลายองค์ประกอบรายล้อมอยู่ก็ตาม
แต่คำสารภาพผิดของหลวงพี่อินกินใจจนอึ้ง พูดไม่ออก
แต่น้ำตาไหลตลอด เพราะซึ้งกับความเป็นลูกผู้ชาย
นักเลงจริงแม้จะอยู่ในสมณะเพศ

เรื่องราวจากอดีตไหลย้อนมาสู่ปัจจุบัน
ดังสายน้ำที่ถาโถมเข้าใส่ชายผู้ไร้ความทรงจำอย่างชลาชลจนแทบหายใจไม่ทัน
แต่ความทรงจำที่เขาถวิลหานั้น ช่วยให้เขาโผล่ขึ้นจากกระแสน้ำแห่งความไม่มีตัวตน
ให้ตื่นลืมตามาพบกับความจริงที่เขาค้นหามานาน

ใครบางคนบอกเราว่า การกล่าวคำอโหสิกรรม ให้หมดเวร สิ้นกรรมแก่กันนั้น
ควรกระทำในขณะที่ผู้ขออโหสิเป็นผู้กล่าวขึ้นมาเอง เมื่อนั้นคำกล่าวนั้นจะสัมฤทธิ์ผล
ดังเช่นที่หลวงพี่อินกล่าวกับชลาชล หรือไอ้ยอดอดีตคู่ปรับตัวฉกาจ

ชอบนะ ชอบฉากในโบสถ์นี้มากเลย ชลาชลกับความสับสนในตัวเอง
ความอยากรู้เรื่องราวในอดีต ไม่ได้ทำให้เขากลัวว่าจะต้องเจอะเจอกับอะไรบ้าง
กล้าที่จะเดินหน้าเผชิญกับความจริง กล้าที่จะให้อภัย และอโหสิกรรม
ให้กับคนที่ทำให้เขากับแม่อิ่มต้องพลัดพรากจากกันร่วมยี่สิบปี
แต่ก็นะ เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ความคิดความอ่านย่อมโตขึ้นตามอายุขัย
ใจที่เคยร้อน อยากได้ใคร่ดีก็เย็นลง ไม่ว่าจะเป็นทิดอินหรือไอ้ยอดแห่งท่าน้ำอ้อย

อ้อ ชอบที่หลวงพี่อินบอกกับไอ้ยอดว่า อาตมาบวชเพราะต้องการล้างบาปที่เคยก่อไว้
และสวดมนต์ภาวนาอุทิศผลบุญกุศลให้กับไอ้ยอดที่เข้าใจมาตลอดว่าตายแล้วนั้น
เราเชื่อว่าผลบุญตรงนี้นี่เองที่ช่วยส่งให้ไอ้ยอดได้ดิบได้ดี
แม้จะเคยทำไม่ดีไว้หลาย ๆ เรื่องในอดีตก็ตาม

วันนี้สงสารแม่อิ่มมาก
เวลาเกือบยี่สิบปีที่เฝ้าคอยให้คนรักกลับ ด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ
แม้จะเตือนตัวเองอยู่ว่า สามีของเธอนั้นตายแล้ว
แต่เมื่อเจอหน้า วินาทีนั้นแม่อิ่มคิดอะไร ?
สับสน งุนงง สงสัย ใคร่รู้ว่าเขาคือใครกันแน่ ?
สำหรับเรา คิดว่าแม่อิ่มหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ (เลยขอเป็นลมดีกว่า)
เพราะความที่อยู่กับความเข้าใจมาตลอดว่าไอ้ยอดนั้นชีวิตหาไม่แล้ว
แต่นาทีที่เจอหน้า แม่อิ่มกลับบอกตัวเองว่าเขาคือไอ้ยอด
และเขายังไม่ตาย เขากลับมาหาเธอแล้ว

แต่ตอนนี้ผู้ที่จะต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเลย
นังอุ่น เมื่อความจริงเริ่มกระจ่างชัดว่าไอ้ยอดยังไม่ตาย
ความลับที่เธอเก็บเงียบไว้มาตลอดนั้น กำลังจะถูกไขขึ้น
ความลับไม่มีในโลกใบนี้ มันพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ

การกระทำในอดีตที่เธอเคยคิดว่ามันไม่ผิดนั้น
มันกลับมาหลอกหลอนให้ใจของนังอุ่นร้อนเป็นไฟ
เมื่อผู้รับกรรมที่เธอเคยก่อไว้นั้น ไม่ใช่ใครอื่น คือเลือดในอกผู้ที่เธอรักดังแก้วตาดวงใจ
และเธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลจากกระทำนั้นได้เลยหากต้องเผยความจริงให้ทุกคนได้รับรู้

"ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"
ความรักของยงชัยกับก้อยไม่ผิดไปจากคำกล่าวของพระพุทธองค์เลยแม้แต่น้อย

อยากบอกคำนี้กับยงชัย และก้อย
"อดทนไว้นะทั้งสองคน เวลาจะช่วยเยียวยาบาดแผลเหล่านั้นได้ดี"


โมริสา

ป.ล.พรุ่งนี้เตรียมผ้าผืนใหญ่ไว้ซับน้ำตาด้วยนะ

ป.ล.ที่สอง วันนี้ความเห็นอาจติด ๆ ขัด ๆ ไปบ้างต้องขออภัย
เพราะโมริสาปวดหัว ไม่ฉะบายยยยยยย


คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นหลังดูละครจบ
ใครจะเห็นอย่างข้าพเจ้าหรือไม่ ไม่ใช่ความผิด
ขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็ไม่ผิดเช่นกันที่จะมีความเห็นเช่นดังที่กล่าวมาแล้ว

โปรดใช้วิจารณญาณ





โดย: โมริสา IP: 125.24.3.180 วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:23:01:42 น.  

 
เซ็งง่ะ! ....ไม่ได้ออกไปไหนเลยต้องรอดูชิงชัง
เซ็งง่ะ! ....เวลามันน้อย
เซ็งง่ะ! ....ร้องไห้บ่อย อายนะเฮ้ย
เซ็งง่ะ! ....มันจาจบง่ะ
เซ็งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง่ะ


โดย: ป้านางน้อย IP: 112.142.10.75 วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:23:50:31 น.  

 
เมื่อก่อนดูชิงชังไปได้ 2 เบรค ฝนตก
ไอ้เราก็ทู่ซี้ดูต่อ (ปกติฝนมา จะต้องปิด TV)
เบรคที่ 3 ดูได้
พอเบรคที่ 4 เคเบิ้ลเจ้ากรรมดันสัญญาณหายซะนี่
กดไปกดมาซักนาทีกว่าๆ สัญญาณถึงมา แต่ชิงชังจบแล้ว
ยังดีหน่อยที่ได้ดูฉากของวันนี้(พุธ)


โดย: platoo_cd วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:8:48:42 น.  

 
แก้ไขข้างบนค่ะ

เมื่อวานค่ะ ไม่ใช่เมื่อก่อน

ความหมายผิดกันลิบลับเลย


โดย: platoo_cd วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:8:50:30 น.  

 
ตอนของวันนี้ก้อยคงหัวใจสลายเพราะได้ยินแม่อุ่นไม่ให้แต่งงานกับยงชัยถ้ายงชัยรู้ก็คงจะโกรธแม่อุ่นที่ไมให้แต่งงานกับก้อยทั้งสองคนคงหัวใจสลาย


โดย: ไอซ์ IP: 124.121.155.97 วันที่: 28 ตุลาคม 2552 เวลา:10:04:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

F_nakhon
Location :
นครสวรรค์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




email ถึงผู้เขียน

เฟื่องนคร : f_nakhon@hotmail.com
ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อก เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน

-------------------


Friends' blogs
[Add F_nakhon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.